20 กุมภาพันธ์ 2553 08:24 น.
สุรศรี
อัศจรรย์ใจกุ้ง สิกุมกินปลาบึกใหญ่
ปลาซิวไล่สวบแข้ หนีไปลี้อยู่หลืบหิน
เอี่ยนเปิดน้ำ หนีจากบวกวังตม
มันไปแปลงฮวงฮัง อยู่เทิงปลายไม้
อัศจรรย์ใจแข้ หางยาวยาวสังบ่ได้ฮองนั่ง
บาดกระต่าย หางก้อมก้อมสังมาได้นั่งฮอง ซั่นนอ.....
..................
อัศจรรย์............แปลกใจ แปลกประหลาด น่าสงสัย
กุม...................บังคับ ข่มเหง
สวบ.................งับ
ลี้.....................หลบซ่อน หลบลี้
หลืบ.................ซอก หลืบ
เอี่ยน............ปลาไหล
บวกวังตม.............ปลักควายนอน
ฮวงฮัง..............รวงรัง
เทิง.................บน
แข้..................จระเข้
สัง................ทำไม
ฮองนั่ง............รองนั่ง
ก้อม................สั้น ๆ
.....................................
อธิบาย
แปลกใจจัง ทำไมกุ้งตัวเล็กถึงสามารถกินปลาบึกตัวใหญ่ ๆได้ ปลาซิวสามารถไล่กัดจระเข้ตัวใหญ่จนมันหนีไปซ่อนอยู่ในหลืบหิน
แปลกใจ ทำไมจระเข้ถึงนั่งหางตัวเองไม่ได้แต่กระต่ายหางสั้น ๆ กลับนั่งได้
เป็นปริศนาให้ตีความหมายเข้ากับบริบทกับเนื้เรื่องนั้น ๆ ครับ
........................
19 กุมภาพันธ์ 2553 13:20 น.
สุรศรี
เดือนสี่ค้อย
ลมวอยวอยวอยพัดวี่วี่
ฮอดเดือนสี่หนาวสะบั้น
กะสันโอ้เมื่อยมโน
เมฆตั้งเค้ามีขี้ฝ้ามาบัง
สายลมพัดใบตองตีต้อง
มองท่งนาเหลืองแห้ง
นกจิบเฟืองจับอยู่หง่า
ฮ้องส่งเสียงอยู่แจ้วแจ้ว
คะนิงซุ่โอ้อ่าวหา
เห็นงัวควายกินหญ้า
กลางท่งนาเป็นหมู่หมู่
เสียงกะแล่งดังก้องแก้ง
ดังก้องทั่วท่งนา
นกกะสายืนเทิ่ง
กลางท่งนาน้ำเขินขาด
นกกะเต็นจอบบ้อน
ปลายไม้จอบสิหลอย
มาลิโตนเจ้าของเด่
หัวอกเพคิดฮอดน้องของพี่
ฝนเดือนสี่หนาวสะบั้น
ทรวงอ้ายฮ่ำคะนิง
นั่งผิงไฟคิดฮอดน้อง
อยู่เถียงนาปั้นข้าวจี่
ทาไข่เหลืองไว้ถ่าน้อง
นางหล้าเจ้าอยู่ไส
ตั้งแต่ไปบ่เห็นหน้า
ศรีอำคาบ่พ้ออุ่น
ตั้งแต่ข้าวขึ้นเล้า
บ่เห็นเจ้าต่าวมา
ภูลังกาถามข่าวน้อง
หนองไชวานกะคิดจ่ม
บึงของหลงถามข่าวเจ้า
นางหล่าบ่ต่าวคืน
ให้เจ้าคืนมาบ้าน
บ่าวบ้านเฮาถ่าน้องอยู่
ศรีบุญชูนาถน้อง
อ้ายคองถ่าเจ้าอยู่เฮือน...นางเอย ฯ
19 กุมภาพันธ์ 2553 08:14 น.
สุรศรี
ผญาเกี้ยวครับ
คันเจ้ามักทางหน้า ให้วางหลังให้มันขาด
อย่าเป็นดั่งไม้พาดฮั้ว วางหน้าเดื่องหลัง
คิดนำส่อน คิดนำไซตามันห่าง
คันแม่นคิดต่อต้อน หลักสิค้ำกะบ่มี ฯ
.................................
อธิบาย
เจ้า..............ท่าน น้องเจ้า คุณ
มัก...............ชอบพอ รักใคร่
ทางหน้า...........แฟนคนก่อน
วางหลัง...........ก็ให้ลืมคนที่มาทีหลัง
ให้มันขาด..........ลืมเสียให้สนิท
อย่าเป็นดั่ง.........อย่าได้เป็นเหมือน...
ไม้พาดฮั้ว...........ไม้วางบนรั้ว
เดื่อง...................กระดกไปมา กระดกหน้ากระดกหลัง
ส่อน..................สวิง
ไซ.....................ไซดักปลา
ตามันห่าง..........ไซตาห่าง
ต้อน...................กับดักหรือที่วางเพื่อให้ปลามันไปติดเวลาน้ำลงทำจากไม้ไผ่สานเป็นแผ่น คล้ายกับโพงพาง ปัจจุบันทำจากตาข่ายก็ได้ เวลาดักต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อไม่ให้น้ำพัดไปได้
คิดนำ................มีใจรักใคร่ หวังพึ่ง
.....................................
อธิบายความหมาย
-ถ้าน้องยังรักชายคนก่อนอยู่ก็ขอให้ลืมพี่ผู้มาทีหลังซะ อย่าได้เป็นเหมือนไม้ที่พาดบนรั้วกระดกไปมาไม่รู้จะไปเข้าข้างไหน
- พี่นี้หวังพึ่งสวิง ก็ไม่ได้ หวังพึ่งไซตามันก็ห่าง(ปลาคงเล็ดลอดออกหมด) หวังพึ่งต้อนรึก็ไม่มีไม้ค้ำน้ำคงพัดพาไปหมด หมายถึงว่าพี่นี้หมดที่จะพึ่งพารักใคร่ใครเขาได้อีกแล้วหละ คงหมดหวังเสียแล้ว เป็นคำพูดที่เปรียบเปรยได้เฉียบคมมาก ๆ (อีกแล้ว)
18 กุมภาพันธ์ 2553 08:14 น.
สุรศรี
ผญา
เว้าซู้ต่างบ้าน คือฝากไข่ไว้นำกา
ฝากปลาไว้นำแมว บ่แม่นแนวสิเหลือค้าง
มีแต่มันสิย้ำ กลืนลงในขี้โผ่น
กินให้ท้องแตกโป้ง เสียแล้วจั่งสิเซา
เว้าซู้ต่างบ้าน ย่านแต่เพิ่นปันใจ
บ่จักไผสิมาซม บ่จักไผสิมาฮัก
ยาดเอาไปซ้อน .....
.....................
.อธิบาย
ซู้...........คนรัก แฟน (คนละความหมายกับชู้ครับ)
บ่แม่นแนว......ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ
สิหลือค้าง........ไม่เหลือ
ย้ำ............ขย้ำ. เคี้ยว
ขี้โผ่น........ท้อง พุง
เพิ่น...........ท่าน
ปันใจ........มีใจให้
ย่าน...........กลัว เกรง
ไผ.............ใคร
ซม............ชื่นชม
ฮัก............รัก
ยาด..........แย่งเอา
ซ้อน........กกกอด เชยชม
.............................
ความหมาย
การไปจีบสาวต่างถิ่น ต่างบ้านต่างเมืองก็เหมือนกับการไข่ไว้กับกา ฝากปลาไว้กับแมว กาก็คงกินไข่ แมวก็คงกินปลาไม่เหลือ
การไปจีบสาวต่างบ้าน กลัวแต่ฝ่ายสาวจะมีใจให้คนอื่น ไม่รู้ใครต่อใครจะมาจีบบ้าง กลัวคนอื่นเขาจะแย่งเอาไปกอดเท่านั้นเอง
16 กุมภาพันธ์ 2553 16:12 น.
สุรศรี
ผญา วันนี้
ตกกะเทิน ว่าได้ปล้ำ สินำฮอนเหมิดคู่หง่า
พร้าบ่บ่าน ขวานบ่เป้ จำบ้อง ข่อยบ่เซา
ตกกะเทิน ว่าได้จ้ำ สิเป็นแกงหรือป่น กะตามถ่อน
มีตั้งแต่สิคุ้ย เหมิดถ้วยจั่งสิเซา.......
อธิบาย
ตกกะเทิน....ตกลงใจ ได้ตั้งใจแล้ว
ปล้ำ.............ตัดต้นไม้
ฮอน.............ริดรอน ตัด กิ่งไม้
เหมิด...........ทั้งหมด
คู่.................ทุกอัน คู่หง่า.....ทุกกิ่ง
หง่า.............กิ่งไม้
บ่าน ...........บิ่น
จำบ้อง........ปลอกมีด พร้า ทำด้วยเหล็ก
เป้...............บิดเบี้ยว
เซา.............หยุด
จ้ำ.............การปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนพอคำจิ้มลงไปบนอาหาร
คุ้ย..........คล้ายกับจ้ำ ครับ แต่ปริมาณอาหารที่ติดมากับก้อนข้าวเหนียวนั้นปริมาณจะมากกว่า
ป่น,..แจ่ว..........อาหารอีสานชนิดหนึ่ง เช่นป่นปลา ก็หมายถึงนำปลาไปต้มให้สุกแล้วนำเนื้อมาโขลกกับน้ำพริก รับประทานกับผักครับ
กะตามถ่อน....ก็ช่างเถอะ
ข่อย.....ข้อย ฉัน ผม เป็นคำแทนตัวผู้พูดที่สุภาพครับ(ตรงข้ามกับ กู)
.................................
ความหมาย
- ตกลงใจว่าจะตัดต้นไม้แล้วก็จะตัดให้หมดทั้งกิ่งก้าน จนกว่าพร้าจะบิ่น ขวานจะบิดเบี้ยว
- ตกลงใจว่าจะกินแจ่ว กินป่นแล้ว ก็จะทานให้หมดถ้วย
หมายถึงว่า การกระทำที่ได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำ ต้องทำให้ถึงที่สุดให้จงได้ จนกว่าจะสำเร็จผล
ไม่ยอมรามือง่าย ๆ ประมาณนั้นครับ ใช้ได้ทั้งเป็นผญาเกี้ยว และบริบท หรือสถานการณ์ทั่วไปครับ