11 เมษายน 2553 15:15 น.
สุรศรี
เมื่อเมฆเริ่มก่อเค้า...........มืดหม่น
อากาศร้อนระคน...................อบอ้าว
พายุฤดูฝน.............................บ้าคลั่ง
หญ้าแพรกก็แหลกร้าว...........เจ็บช้ำเพราะฝน ฯ
....................................................................
เมื่อเมฆได้ตั้งก้อน........อากาศร้อนเริ่มอบอ้าว
พายุฝนได้ตั้งเค้า...............แล้วสายฝนก็หลั่งริน
เมื่อฝีได้กลัดหนอง......จนผุพองก็แตกสิ้น
เหวอะหวะก็แหว่งวิ่น..........เป็นรอยแผลให้แก้ไข
เมื่อไฟใกล้น้ำมัน.........ก็มีอันลุกเป็นไฟ
คุโชนจนลามไหม้..............จนวอดวายเป็นถ่านดำ
เมื่อแก็สมีเต็มถัง.........ไม่ระวังกระแทกซ้ำ
ระเบิดก็เกิดกระหน่ำ..........สุดแก้ไขช่วยได้ทัน
เมื่อจุดประกายไฟ.......ก็แล้วใครที่จุดมัน
แล้วใครจะช่วยกัน............ไม่ให้ไฟมันไหม้ลามฯ
7 เมษายน 2553 06:31 น.
สุรศรี
Talking without speaking
Hearing without listening.
ประวัติศาสตร์จารึกไว้........สักวัน
ต่างฝ่ายต่างสีกัน.....................พูดได้
หวังให้สมานฉันท์..................หยุดแยก
จับเข่าคุยกันให้.......................พบได้ครึ่งทาง
ประดาบเลือดสาดถ้วม .......เวที
ต่างฝ่ายมิใยดี...........................อ่อนง้อ
ต่างฝ่ายต่างทำที่.......................ฉันบอก
ฉันไม่ทำตามข้อ......................เรียกร้องเธอเสนอ
ฉันพูดเรานั้นพูด...............ด้วยกัน
พูดสิ่งที่ใจฉัน..........................อยากได้
พูดในสิ่งเพ้อฝัน......................หวังวาด
ฟังแค่ฟังกันไว้........................ออกซ้ายทะลุขวา
ถอยหลังคนละก้าว...........ได้ไหม
ลดทิฐิในใจ.............................ออกบ้าง
คงจะไม่มีใคร.........................เสียเปรียบ
แข็งก็แข็งกระด้าง..................สุดท้ายใครเสีย ฯ
6 เมษายน 2553 17:43 น.
สุรศรี
สุขสันต์วันเกิดเจ้า.......เขียวหวาน
อายุยืนยาวนาน...........สุขล้น
สุขภาพสุขชั่วกาล..........อย่าเจ็บ
มีทรัพย์นับไม่พ้น......สุขล้นประมาณหมาย
......................................................................
...ขอให้มีสุข
ทุกเมื่อเชื่อวัน
เงินทองอนันต์
มากมาย
....มีสุขอย่าเจ็บ
เท่าเล็บอย่ากราย
ความทุกข์มลาย
สิ้นไป
...คนรักมากมี
คนดีอยู่ใกล้
คนที่เอาใจ
เคียงกัน
...การงานเรืองรุ่ง
แม้ยุ่งฝ่าฟัน
อุปสรรคขวางกั้น
สิ้นสูญ
...ครอบครัวไร้ทุกข์
มีสุขเพิ่มพูน
ยากไร้อาดูร
ไม่มี
....ขอให้นงลักษณ์
น่ารักคนดี
ชั่วนาตาปี
อยู่เย็น ฯ
.....................
ผมถือเป็นความบกพร่องของตัวเองครับที่ไม่ได้ตรวจตราดูแลเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ดี ก็ยังถือว่ายังอวยพรได้ทันเวลาครับ ขอความร่วมมือเพื่อนพ้องน้องพี่ ช่วยกันอวยพรให้น้องเขียวหวานมีความสุขในวันนี้มาก ๆ สุขสันต์วันเกิดครับ
แกงเขียวหวาน
6 เมษายน 2553 16:46 น.
สุรศรี
สุขสบายหมั้น......................เสมอมันเครือเก่า
สุรศรีกลับมาเว้า..................นำซุมเจ้าดั่งเดิม
หายหน้าไปบ่ได้เริ่ม.............เว้าอ่อยออยผญา
บ่ได้ไขวาจา.........................ต่อเติมดาเค้า
ย้อนว่าการงานสร้าง............รุงรังปานฮากไผ่
หาเวลาบ่ได้.........................หาโอกาสบ่ได้
ซุมน้องอ้ายอย่าว่ากัน........
คิดฮอดหลายใจสิขาด..........หัวอกเพสิขาดแล่ง
คิดฮอดแฮงแท้แท้................โตข้อยกะส่างเป็น
คิดฮอดน้องกวีน้อย ฯ กลอนแสนกลหลายกว่าหมู่
คิดฮอดอยู่สู่มื้อ.....................สุริยันต์พ้อมกะผ่องกัน
น้องนางฟ้าหมู่นั้น...............ปรางทิพย์เป็นจั่งได๋
คิดฮอดคนทางไกล..............อยู่บ่นอทางนี้
เจ้าอนงค์นางหล้า................แกงเขียวหวานคิดฮอดอ้ายอยู่บ่
รึว่าตั๋วให้อ้าย......................คิดนำเจ้าอยู่ผู้เดียว
นรสิริน้องหล่า...................คนงามจั่งได๋น่อ
คิดออดอ้ายอยู่บ่น้อง..........ปิดเรียนแล้วเป็นจั่งได๋
คือสิงามนอกล้วยไม้.........ออกดอกองามเหลืองอร่ามอยู่บ้อ
คันอยากได้กล้วยไม้..........ขออ้ายบ่เป็นหยัง
ลุงปิติอยู่โคราช.................เมืองย่าโมเฮ็ดหยังอยู่
แต่งกลอนดู๋แท้แท้............ขยันล้นกว่าไผ
อ้ายกวีซีไรท์(ซีม่า)..........ไปไสนอบ่ส่งข่าว
กลอนของเราคักแท้แท้....ไผอ่านแล้วกะอยากหัว
หลานขนมผัดว่าลุงศรีมั่ว...พูดอะไรก็ไม่ชัด
บ่เข้าใจผญา.....................ผัดว่าลุงศรีมั่ว
...มื้อนี้พอส่ำนี้................มื้อลุนมาสิมาจากันใหม่
สิลาไลพี่น้อง.................เมือบ้านอ้ายก่อนเด้อ
เห็นว่าผักหมเหี้ยน.........กลางทางเจ้าอย่าฟ้าวเหยียบย่ำ
บาดมันถอดยอดขาว.....บาดมันทาวยอดดั้ว
เถิงสิขึ้นเลาะฮั้ว.............ยังสิได้นึ่งเทื่อลุน......ดอกนา ฯ
....................................................................................
สุขสบายหมั้น...เสมอมันเครือเก่า..เป็นคำพูดเปรียบเทียบว่ายังอยู่สบายดีเหมือนมันเทศเครือเดิมต้นเดิม ไม่เหี่ยวไม่เฉา
.เว้าอ่อยออยผญา.......มาพูดผญาต่อ
ดาเค้า........................ดั้งเดิม
หัวอกเพ...................ใจจะขาด ใจจะแตก
โตข้อย......................ตัวฉัน
กะส่างเป็น...............ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
ฮากไผ่.....................รากไม้ไผ่
คิดฮอดอยู่สู่มื้อ........คิดถึงอยู่ทุกวัน
พ้อมกะผ่องกัน.........คิดถึงด้วยเหมือนกัน
จั่งได๋........................เป็นอย่างไร (ถามข่าว)
ตั๋ว...........................โกหก
คือสิงามนอ..............คงจะงามดีนะ
ดู๋แท้แท้....................ขยันจริง ๆ
กะอยากหัว..............น่าหัวเราะ น่าขัน
มื้อลุน เทื่อลุน.........วันหลัง
ผักหมเหี้ยน.............ผักขมต้นเล็ก ๆ
อย่าฟ้าวเหยียบย่ำ....อย่าเหยียบย่ำ
บาดมันถอดยอดขาว.....บาดมันทาวยอดดั้ว.บางทีเมื่อมันเจริญงอกงาม
เถิงสิขึ้นเลาะฮั้ว.......แม้จะขึ้นริมรั้ว
ยังสิได้นึ่งเทื่อลุน......อาจจะได้เด็ดไปนึ่งภายหลังก็ได้
หมายถึงว่า.สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ (คนไร้วาสนาด้วยครับ) อย่าได้ดูถูกเหยียดหยามมันอาจเป็นประโยชน์ภายหลังก็ได้ใครจะไปรู้ (เหมือนราชสีกับหนูในนิทานอีสปครับ)
6 เมษายน 2553 16:39 น.
สุรศรี
.....สุขสบายหมั้น.................เสมอมันเครือเก่า
สุรศรีกลับมาเว้า..................นำซุมเจ้าดั่งเดิม
หายหน้าไปบ่ได้เริ่ม.............เว้าอ่อยออยผญา
บ่ได้ไขวาจา.........................ต่อเติมดาเค้า
ย้อนว่าการงานสร้าง............รุงรังปานฮากไผ่
หาเวลาบ่ได้.........................หาโอกาสบ่ได้
ซุมน้องอ้ายอย่าว่ากัน........
คิดฮอดหลายใจสิขาด..........หัวอกเพสิขาดแล่ง
คิดฮอดแฮงแท้แท้................โตข้อยกะส่างเป็น
คิดฮอดน้องกวีน้อย ฯ กลอนแสนกลหลายกว่าหมู่
คิดฮอดอยู่สู่มื้อ.....................สุริยันต์พ้อมกะผ่องกัน
น้องนางฟ้าหมู่นั้น...............ปรางทิพย์เป็นจั่งได๋
คิดฮอดคนทางไกล..............อยู่บ่นอทางนี้
เจ้าอนงค์นางหล้า................แกงเขียวหวานคิดฮอดอ้ายอยู่บ่
รึว่าตั๋วให้อ้าย......................คิดนำเจ้าอยู่ผู้เดียว
นรสิริน้องหล่า...................คนงามจั่งได๋น่อ
คิดออดอ้ายอยู่บ่น้อง..........ปิดเรียนแล้วเป็นจั่งได๋
คือสิงามนอกล้วยไม้.........ออกดอกองามเหลืองอร่ามอยู่บ้อ
คันอยากได้กล้วยไม้..........ขออ้ายบ่เป็นหยัง
ลุงปิติอยู่โคราช.................เมืองย่าโมเฮ็ดหยังอยู่
แต่งกลอนดู๋แท้แท้............ขยันล้นกว่าไผ
อ้ายกวีซีไรท์(ซีม่า)..........ไปไสนอบ่ส่งข่าว
กลอนของเราคักแท้แท้....ไผอ่านแล้วกะอยากหัว
หลานขนมผัดว่าลุงศรีมั่ว...พูดอะไรก็ไม่ชัด
บ่เข้าใจผญา.....................ผัดว่าลุงศรีมั่ว
...มื้อนี้พอส่ำนี้................มื้อลุนมาสิมาจากันใหม่
สิลาไลพี่น้อง.................เมือบ้านอ้ายก่อนเด้อ
เห็นว่าผักหมเหี้ยน.........กลางทางเจ้าอย่าฟ้าวเหยียบย่ำ
บาดมันถอดยอดขาว.....บาดมันทาวยอดดั้ว
เถิงสิขึ้นเลาะฮั้ว.............ยังสิได้นึ่งเทื่อลุน......ดอกนา ฯ
....................................................................................
สุขสบายหมั้น...เสมอมันเครือเก่า..เป็นคำพูดเปรียบเทียบว่ายังอยู่สบายดีเหมือน
มันเทศเครือเดิมต้นเดิม ไม่เหี่ยวไม่เฉา
.เว้าอ่อยออยผญา.......มาพูดผญาต่อ
ดาเค้า........................ดั้งเดิม
หัวอกเพ...................ใจจะขาด ใจจะแตก
โตข้อย......................ตัวฉัน
กะส่างเป็น...............ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
ฮากไผ่.....................รากไม้ไผ่
คิดฮอดอยู่สู่มื้อ........คิดถึงอยู่ทุกวัน
พ้อมกะผ่องกัน.........คิดถึงด้วยเหมือนกัน
จั่งได๋........................เป็นอย่างไร (ถามข่าว)
ตั๋ว...........................โกหก
คือสิงามนอ..............คงจะงามดีนะ
ดู๋แท้แท้....................ขยันจริง ๆ
กะอยากหัว..............น่าหัวเราะ น่าขัน
มื้อลุน เทื่อลุน.........วันหลัง
ผักหมเหี้ยน.............ผักขมต้นเล็ก ๆ
อย่าฟ้าวเหยียบย่ำ....อย่าเหยียบย่ำ
บาดมันถอดยอดขาว.....บาดมันทาวยอดดั้ว.บางทีเมื่อมันเจริญงอกงาม
เถิงสิขึ้นเลาะฮั้ว.......แม้จะขึ้นริมรั้ว
ยังสิได้นึ่งเทื่อลุน......อาจจะได้เด็ดไปนึ่งภายหลังก็ได้
หมายถึงว่า.สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ (คนไร้วาสนาด้วยครับ) อย่าได้ดูถูกเหยียดหยามมันอาจเป็นประโยชน์ภายหลังก็ได้ใครจะไปรู้ (เหมือนราชสีกับหนูในนิทานอีสปครับ)