23 ตุลาคม 2549 03:40 น.
สุมิตา
เช้าวันเสาร์ 9.00 น.
บ้านตาล&สายน้ำ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...คุณตาล ฝันดีมั้ยคะ
เสียงหวานๆดังออกมาจากมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น ในขณะที่ตาลกำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟ
เอายิ้มน้อยเมื่อได้ยินเสียงนั้น ขนาดเสียงยังน่ารักเลย สงสัยตัวจริงสวยชัวร์ เขาคิดในใจ
คุณกำลังชมฉันหรือคะ ปากหวานจังนะคะ น้ำขัดขึ้น
คุณรู้ได้ไง??? รู้ได้ไงวะอุตส่าห์คิดในใจแล้วเชียว เฮ้อแย่จัง
สายน้ำหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้า งงสุดขีด ของเขาแล้วเธอก็พูดต่อ
ฉันไม่ใช่คนนี่คะ....คุณนี่ตลกจัง
เอาเข้าไป หัวเราะผมเข้าไป ผมอายเหมือนกันนะ
เขาแอบค้อนให้กับคำพูดของหญิงสาวนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา
หลังจากทานอาหารเช้าที่ดูไม่อิ่มเอาซะเลยเสร็จ ตาลก็ส่งเสียงเรียกน้ำให้มาคุยกับเขา
(อย่างจริงจัง) ตามที่เขาคิดไว้เมื่อคืนเสียที อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าระหว่าง เขา และ เธอ จะต้องทำอย่างไรต่อไป
น้ำครับ รบกวนคุณมาคุยกับผมสักนิดได้ไหมครับ
ได้สิคะ ว่ามาเลยคะ ฉันก็นั่งตรงหน้าคุณนี่ล่ะคะ บรรยากาศระหว่างเขาและเธอครั้งนี้ดูจริงจังกว่าทุกครั้งที่เคยคุยกัน แล้วตาลก็เป็นผู้เริ่มต้นบทสนทนา
ผมอยากจะขอน้ำบางอย่าง ได้มั้ย น้ำทำได้แน่ผมเชื่ออย่างนั้น
ค่ะ อะไร?
ข้อแรก.....อย่าอ่านใจผมนะครับ ได้มั้ย!! เขาขอร้องเธอเรียกว่าวิงวอนเลยก็คงไม่ผิด เพราะจากสีหน้าของเขามันบ่งบอกอย่างนั้น
ได้สิคะ......ฉันก็ไม่อยากจะอ่านใจใครนักหรอก โดยเฉพาะกับตาล เธอหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพาดพิงถึงเขา หากแต่เขาไม่เห็น และไม่แน่ว่าจะมีโอกาสเห็นหรือไม่
ข้อสอง.....ผมอยากรู้เรื่องของคุณมากกว่านี้ เพื่อหาทางช่วยคุณไง โอเคนะครับ
อันนี้ไม่มีปัญหาค่ะ....คือเรื่องมันมีอยู่ว่า.....
ก่อนที่เธอจะเริ่มเล่าเรื่องของเธอเขาก็แทรกขึ้นมาก่อน (อีกแล้ว)
ยังไม่ต้องใจร้อนครับ....วันนี้เราไปเที่ยวกัน ไปนะ เขาเอ่ยชวนและเดินไปคว้ากุญแจรถ
ไปไหนคะ.....คุณเนี่ยนะจะพาฉันไป
ไปบริษัทผมครับ วันนี้ผมต้องเคลียร์งาน แต่อยากให้คุณออกไปดูข้างนอกบ้าง ไปนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้.....แน่นอน ตาลกล่าวด้วยเสียงหนักแน่นราวกับมาภายใจเขามั่นใจว่าสามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ
ตาลเดินนำยังที่จอดรถและขับรถออกไปจากที่พัก ใครๆที่ผ่านไปผ่านมาคงคิดว่าเขามาเพียงคนเดียว หากมีแต่เขาเท่านั้นที่รับรู้ว่าเขาพาใครคนหนึ่งมาด้วย วันนี้สายน้ำมีโอกาสได้ออกมาโลกภายนอกหลังจากต้องอยู่แต่ภายในห้องพักมานาน วันนี้เธอเลือกสวมชุดวันพีชสีชมพูอ่อน
(น่าจะเรียกว่าเสกเอามากกว่า) ทั้งที่ใครต่อใครจะไม่เห็นเธอแต่เธออยากแต่งตัวให้สวยที่สุดเมื่อมากับตาล ทั้งที่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นเธอได้เลยว่าเธอสวยแค่ไหน มีแต่เธอฝ่ายเดียวเท่านั้นที่เห็นเขา เห็นการกระทำ และชีวิตประจำวันของเขาแทบจะ 24 ชั่วโมง น้ำรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูกที่เธอเหมือนได้มีชีวิตอีกครั้งถึงแม้ว่าจะไม่ 100% อย่างน้อยชายที่อยู่กับเธอตอนนี้ก็ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นเพียง วิญญาณ ที่ไม่มีที่จะไป
ข้างนอกสวยจังเลย..ที่ได้มาเห็นอีก เธอมองไปรอบๆวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพที่เธอคุ้นเคยแต่ยามนี้เธอรู้สึก รักมันมากกว่าเมื่อก่อนราวกับว่ามันมีค่ามากมาย
ผมดีใจที่น้ำชอบ....ผมก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยเสียนานจนลืมหมดแล้วล่ะ
บริษัทคุณอยู่ที่ไหน....... เธอถามเมื่อเห็นเส้นทางมันมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปทุกที
สีสม....ทำไมหรอ เขาทำหน้าเหมือนมีเครื่องหมาย ? อยู่บนหน้าสักสิบอัน
ก็นี่มันจะถึงบางนาแล้วนะ สีสมอะไรของคุณคนละทิศเลย
หญิงสาวหัวเราะ ในขณะที่ตาลหน้าถอดสี ทำให้หญิงสาวเงียบลงทันทีแล้วหันไปพูดกับเขา
เอ่อฉันไม่ได้ว่าคุณนะ คุณไปเมืองนอกมาก็แบบนี้ล่ะ อย่าคิดมากสิคะ เธอปลอบใจเขา
เดี๋ยวฉันบอกทางเองค่ะ ฉันก็ทำงานแถวสีสมมาก่อน น้ำสำทับต่อ
ผมทำหน้าแตกต่อหน้าคุณอีกแล้ว แย่จัง
ไม่เป็นไรค่ะ คิดมากทำไมคะ เรื่องแค่นี้เอง เธอเอื้อมมือไปแตะที่มือเขาเบาๆ
คุณจับมือผมได้ ผมรู้สึกได้
ตาลรู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นบนมือของเขา ต้องเป็นเธอแน่ๆเขามั่นใจ
คุณทราบ....ฉันไม่เคยสัมผัสใครได้เลย นับตั้งแต่ฉันเป็นแบบนี้
เธอแสดงความดีใจอย่างชัดเจน และกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ผมเคยอ่านหนังสือเจอนะ...เขาว่ากันว่า เราจะสัมผัสความรู้ของวิญญาณได้ ต่อเมื่อคนและวิญญาณนั้นมีพลังจิตที่อยู่ในระดับเดียวกัน เราคงเป็นเนื้อคู่กันมั้งครับ
คุณนี่เริ่มเจ้าชู้นะ กับวิญญาณอย่างฉันก็ไม่เว้นเลยนะ เธอส่ายหน้าน้อยๆ
ล้อเล่น ผมว่าสักวันผมต้องได้เห็นน้ำแน่ ตาลพูดอย่างมั่นใจ
ค่ะ น้ำก็หวังว่าเป็นอย่างนั้นนะ เธอก็ยิ้มให้เขาเหมือนอย่างเคย
สุดที่รักเธอโทรมาช่วยรับหน่อย อย่าปล่อยให้คอยน้ำตาคลอด้วยใจท้อ สุดที่รักเธอโทรมาตั้งใจจะมาง้อ อย่าปล่อยให้ท้อให้เรานานอย่างนี้เลย ผิดไปแล้ว
เสียงโทรศัพท์น่ารักๆดังขึ้น ทำเอา น้ำ อึ้ง ทึ่ง งง ไม่น่าเชื่อว่าตาลผู้ชายมาดแมนตรงหน้าเธอ
จะใช้เสียงรอสายได้หวานแหว คิกขุ อาโนเนะซะจนทำเอาอดยิ้มไม่ได้
....แปลกจังผู้ชายคนนี้ดูแมนซะขนาดนั้น ใช้ของน่ารักๆแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อล่ะ แต่ก็น่ารักดีแฮะ ชักจะชอบแล้วสิเรา....... หญิงสาวแอบคิด
ว่าไงนัท....หายไปนานเลยนะ ตาลเอ่ยทันทีที่กดรับสาย
ก็งานยุ่งๆว่ะ แล้วแกล่ะทำอะไรอยู่ ปลายสายถามกลับบ้าง
กำลังจะไปที่บริษัทอ่ะ ไปเคลียร์อะไรหน่อย
อืม งั้นเดี๋ยวรอฉันด้วยนะ จะเอาโปรเจคงานไปให้ดู
ได้งั้นฉันจะรอนะ ประมาณสักบ่ายสองแล้วกัน โอเค บาย แล้วเขาก็กดวางวายไป
นัทมันโทรมาน่ะครับ มันว่าจะเข้ามาหาที่บริษัท ตาลหันไปบอกเพื่อนร่วมทาง
ค่ะ ฉันจะไม่รบกวนเวลาคุณคุยเรื่องงานหรอกค่ะ วางใจได้
ถึงรบกวนก็ยินดีครับ ผมว่าจะบอกเรื่องน้ำกับมันด้วย ดีมั้ย เขาขอความเห็น
จะดีหรือคะ เพื่อนคุณจะเชื่อเราหรอ เธอกังวลว่าจะทำให้เขาต้องลำบากเพราะเรื่องของเธออีก
ไม่รู้สิ ดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน แต่คำว่า เรา ฟังดูดีเนอะ เขาล้อ
พอพูดจบก็โดนหญิงสาวตีไปที่แขนทีหนึ่ง ทำเอาเขาเงียบไปเลย หญิงสาวจึงรีบถามว่า
เจ็บมากมั้ยคะ น้ำไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษเธอพูดเสียงอ่อย ทำเอาตาลกั้นหัวเราะไม่อยู่
ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่น อยากเห็นหน้าคุณตอนนี้จังเลย
ข่างแกล้งจังคะ จำไว้เลย เธอค้อนใส่เขา
..แกล้งกันดีนักนะตาล อย่าให้ถึงทีน้ำบ้างละกัน จะแกล้งให้หนักเลยคอยดู............
.............................................
ถึงผู้อ่านที่รัก
ขอบคุณที่แวะมาคะ ซาบซึ้งใจมากค่ะ
รบกวนทุกท่านคอมเม้นด้วยนะคะ
จะเป็นกำลังใจให้ สุมิตา มีแรง ฮึดที่จะเขียนๆ เขี่ยๆ เรื่องนี้ขึ้นมาเลยค่ะ
รักคนอ่านค่ะ
สุมิตา
23 ตุลาคม 2549 03:38 น.
สุมิตา
เช้าวันเสาร์ 9.00 น.
บ้านตาล&สายน้ำ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...คุณตาล ฝันดีมั้ยคะ
เสียงหวานๆดังออกมาจากมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น ในขณะที่ตาลกำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟ
เอายิ้มน้อยเมื่อได้ยินเสียงนั้น ขนาดเสียงยังน่ารักเลย สงสัยตัวจริงสวยชัวร์ เขาคิดในใจ
คุณกำลังชมฉันหรือคะ ปากหวานจังนะคะ น้ำขัดขึ้น
คุณรู้ได้ไง??? รู้ได้ไงวะอุตส่าห์คิดในใจแล้วเชียว เฮ้อแย่จัง
สายน้ำหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้า งงสุดขีด ของเขาแล้วเธอก็พูดต่อ
ฉันไม่ใช่คนนี่คะ....คุณนี่ตลกจัง
เอาเข้าไป หัวเราะผมเข้าไป ผมอายเหมือนกันนะ
เขาแอบค้อนให้กับคำพูดของหญิงสาวนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา
หลังจากทานอาหารเช้าที่ดูไม่อิ่มเอาซะเลยเสร็จ ตาลก็ส่งเสียงเรียกน้ำให้มาคุยกับเขา
(อย่างจริงจัง) ตามที่เขาคิดไว้เมื่อคืนเสียที อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าระหว่าง เขา และ เธอ จะต้องทำอย่างไรต่อไป
น้ำครับ รบกวนคุณมาคุยกับผมสักนิดได้ไหมครับ
ได้สิคะ ว่ามาเลยคะ ฉันก็นั่งตรงหน้าคุณนี่ล่ะคะ บรรยากาศระหว่างเขาและเธอครั้งนี้ดูจริงจังกว่าทุกครั้งที่เคยคุยกัน แล้วตาลก็เป็นผู้เริ่มต้นบทสนทนา
ผมอยากจะขอน้ำบางอย่าง ได้มั้ย น้ำทำได้แน่ผมเชื่ออย่างนั้น
ค่ะ อะไร?
ข้อแรก.....อย่าอ่านใจผมนะครับ ได้มั้ย!! เขาขอร้องเธอเรียกว่าวิงวอนเลยก็คงไม่ผิด เพราะจากสีหน้าของเขามันบ่งบอกอย่างนั้น
ได้สิคะ......ฉันก็ไม่อยากจะอ่านใจใครนักหรอก โดยเฉพาะกับตาล เธอหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพาดพิงถึงเขา หากแต่เขาไม่เห็น และไม่แน่ว่าจะมีโอกาสเห็นหรือไม่
ข้อสอง.....ผมอยากรู้เรื่องของคุณมากกว่านี้ เพื่อหาทางช่วยคุณไง โอเคนะครับ
อันนี้ไม่มีปัญหาค่ะ....คือเรื่องมันมีอยู่ว่า.....
ก่อนที่เธอจะเริ่มเล่าเรื่องของเธอเขาก็แทรกขึ้นมาก่อน (อีกแล้ว)
ยังไม่ต้องใจร้อนครับ....วันนี้เราไปเที่ยวกัน ไปนะ เขาเอ่ยชวนและเดินไปคว้ากุญแจรถ
ไปไหนคะ.....คุณเนี่ยนะจะพาฉันไป
ไปบริษัทผมครับ วันนี้ผมต้องเคลียร์งาน แต่อยากให้คุณออกไปดูข้างนอกบ้าง ไปนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้.....แน่นอน ตาลกล่าวด้วยเสียงหนักแน่นราวกับมาภายใจเขามั่นใจว่าสามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ
ตาลเดินนำยังที่จอดรถและขับรถออกไปจากที่พัก ใครๆที่ผ่านไปผ่านมาคงคิดว่าเขามาเพียงคนเดียว หากมีแต่เขาเท่านั้นที่รับรู้ว่าเขาพาใครคนหนึ่งมาด้วย วันนี้สายน้ำมีโอกาสได้ออกมาโลกภายนอกหลังจากต้องอยู่แต่ภายในห้องพักมานาน วันนี้เธอเลือกสวมชุดวันพีชสีชมพูอ่อน
(น่าจะเรียกว่าเสกเอามากกว่า) ทั้งที่ใครต่อใครจะไม่เห็นเธอแต่เธออยากแต่งตัวให้สวยที่สุดเมื่อมากับตาล ทั้งที่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นเธอได้เลยว่าเธอสวยแค่ไหน มีแต่เธอฝ่ายเดียวเท่านั้นที่เห็นเขา เห็นการกระทำ และชีวิตประจำวันของเขาแทบจะ 24 ชั่วโมง น้ำรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูกที่เธอเหมือนได้มีชีวิตอีกครั้งถึงแม้ว่าจะไม่ 100% อย่างน้อยชายที่อยู่กับเธอตอนนี้ก็ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นเพียง วิญญาณ ที่ไม่มีที่จะไป
ข้างนอกสวยจังเลย..ที่ได้มาเห็นอีก เธอมองไปรอบๆวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพที่เธอคุ้นเคยแต่ยามนี้เธอรู้สึก รักมันมากกว่าเมื่อก่อนราวกับว่ามันมีค่ามากมาย
ผมดีใจที่น้ำชอบ....ผมก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยเสียนานจนลืมหมดแล้วล่ะ
บริษัทคุณอยู่ที่ไหน....... เธอถามเมื่อเห็นเส้นทางมันมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปทุกที
สีสม....ทำไมหรอ เขาทำหน้าเหมือนมีเครื่องหมาย ? อยู่บนหน้าสักสิบอัน
ก็นี่มันจะถึงบางนาแล้วนะ สีสมอะไรของคุณคนละทิศเลย
หญิงสาวหัวเราะ ในขณะที่ตาลหน้าถอดสี ทำให้หญิงสาวเงียบลงทันทีแล้วหันไปพูดกับเขา
เอ่อฉันไม่ได้ว่าคุณนะ คุณไปเมืองนอกมาก็แบบนี้ล่ะ อย่าคิดมากสิคะ เธอปลอบใจเขา
เดี๋ยวฉันบอกทางเองค่ะ ฉันก็ทำงานแถวสีสมมาก่อน น้ำสำทับต่อ
ผมทำหน้าแตกต่อหน้าคุณอีกแล้ว แย่จัง
ไม่เป็นไรค่ะ คิดมากทำไมคะ เรื่องแค่นี้เอง เธอเอื้อมมือไปแตะที่มือเขาเบาๆ
คุณจับมือผมได้ ผมรู้สึกได้
ตาลรู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นบนมือของเขา ต้องเป็นเธอแน่ๆเขามั่นใจ
คุณทราบ....ฉันไม่เคยสัมผัสใครได้เลย นับตั้งแต่ฉันเป็นแบบนี้
เธอแสดงความดีใจอย่างชัดเจน และกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ผมเคยอ่านหนังสือเจอนะ...เขาว่ากันว่า เราจะสัมผัสความรู้ของวิญญาณได้ ต่อเมื่อคนและวิญญาณนั้นมีพลังจิตที่อยู่ในระดับเดียวกัน เราคงเป็นเนื้อคู่กันมั้งครับ
คุณนี่เริ่มเจ้าชู้นะ กับวิญญาณอย่างฉันก็ไม่เว้นเลยนะ เธอส่ายหน้าน้อยๆ
ล้อเล่น ผมว่าสักวันผมต้องได้เห็นน้ำแน่ ตาลพูดอย่างมั่นใจ
ค่ะ น้ำก็หวังว่าเป็นอย่างนั้นนะ เธอก็ยิ้มให้เขาเหมือนอย่างเคย
สุดที่รักเธอโทรมาช่วยรับหน่อย อย่าปล่อยให้คอยน้ำตาคลอด้วยใจท้อ สุดที่รักเธอโทรมาตั้งใจจะมาง้อ อย่าปล่อยให้ท้อให้เรานานอย่างนี้เลย ผิดไปแล้ว
เสียงโทรศัพท์น่ารักๆดังขึ้น ทำเอา น้ำ อึ้ง ทึ่ง งง ไม่น่าเชื่อว่าตาลผู้ชายมาดแมนตรงหน้าเธอ
จะใช้เสียงรอสายได้หวานแหว คิกขุ อาโนเนะซะจนทำเอาอดยิ้มไม่ได้
....แปลกจังผู้ชายคนนี้ดูแมนซะขนาดนั้น ใช้ของน่ารักๆแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อล่ะ แต่ก็น่ารักดีแฮะ ชักจะชอบแล้วสิเรา....... หญิงสาวแอบคิด
ว่าไงนัท....หายไปนานเลยนะ ตาลเอ่ยทันทีที่กดรับสาย
ก็งานยุ่งๆว่ะ แล้วแกล่ะทำอะไรอยู่ ปลายสายถามกลับบ้าง
กำลังจะไปที่บริษัทอ่ะ ไปเคลียร์อะไรหน่อย
อืม งั้นเดี๋ยวรอฉันด้วยนะ จะเอาโปรเจคงานไปให้ดู
ได้งั้นฉันจะรอนะ ประมาณสักบ่ายสองแล้วกัน โอเค บาย แล้วเขาก็กดวางวายไป
นัทมันโทรมาน่ะครับ มันว่าจะเข้ามาหาที่บริษัท ตาลหันไปบอกเพื่อนร่วมทาง
ค่ะ ฉันจะไม่รบกวนเวลาคุณคุยเรื่องงานหรอกค่ะ วางใจได้
ถึงรบกวนก็ยินดีครับ ผมว่าจะบอกเรื่องน้ำกับมันด้วย ดีมั้ย เขาขอความเห็น
จะดีหรือคะ เพื่อนคุณจะเชื่อเราหรอ เธอกังวลว่าจะทำให้เขาต้องลำบากเพราะเรื่องของเธออีก
ไม่รู้สิ ดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน แต่คำว่า เรา ฟังดูดีเนอะ เขาล้อ
พอพูดจบก็โดนหญิงสาวตีไปที่แขนทีหนึ่ง ทำเอาเขาเงียบไปเลย หญิงสาวจึงรีบถามว่า
เจ็บมากมั้ยคะ น้ำไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษเธอพูดเสียงอ่อย ทำเอาตาลกั้นหัวเราะไม่อยู่
ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่น อยากเห็นหน้าคุณตอนนี้จังเลย
ข่างแกล้งจังคะ จำไว้เลย เธอค้อนใส่เขา
..แกล้งกันดีนักนะตาล อย่าให้ถึงทีน้ำบ้างละกัน จะแกล้งให้หนักเลยคอยดู............
.............................................
ถึงผู้อ่านที่รัก
ขอบคุณที่แวะมาคะ ซาบซึ้งใจมากค่ะ
รบกวนทุกท่านคอมเม้นด้วยนะคะ
จะเป็นกำลังใจให้ สุมิตา มีแรง ฮึดที่จะเขียนๆ เขี่ยๆ เรื่องนี้ขึ้นมาเลยค่ะ
รักคนอ่านค่ะ
สุมิตา
20 ตุลาคม 2549 10:54 น.
สุมิตา
Lady in the darkness :+: พบกันครั้งแรก:+:
เช้าวันรุ่งขึ้นตาลลุกออกจาเตียงตั้งแต่เช้าเดินตรงไปที่ระเบียงเพื่อรับอากาศริสุทธ์ หลังจากนั้นก็เข้ามาชงกาแฟนเหมือนทุกวัน มือเช้ามื้อแรกที่บ้านใหม่ของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจาก กแฟกับขนมปังปิ้ง 2 แผ่น เขาชินซะแล้วกับอะไรง่าย เขาไม่ชอบเรื่องวุ่นวายมาแต่ไหนแต่ไร เขาถือคติ กินง่าย อยู่ง่ายตลอด นั่นแหละเสน่ห์อย่างหนึ่งในบรรดาอีกหลายอย่างที่เขามีทำให้สาวๆเทียวไปเทียวมาหาเขาได้ไม่เว้นวัน เขาหยิบกาแฟและตรงไปยังโซฟาและขณะที่เขากำลังวางแก้วกาแฟบนโต๊ะข้างหน้านั้นเขาก็ได้ยินเสียงอย่างหนึ่งแว่วมาในอากาศ
.......นายอย่าวางลงไปเชียวนะ เห็นมั้ยว่าถ้านายวางโต๊ะฉันต้องเป็นคราบแน่ไปเอาที่รองมารองสิมันอยู่ในตู้นั่นแหละ....
ใคร???.....สงสัยจะบ้าไปเองเรา เขาพูดกับตัวเอง แต่ก็เหมือนมีอะไรดลใจให้เขาทำตามเสียงนั้น
เขาเดินไปที่ตู้หยิบจานรองแก้วออกมาใช้ เขาก็นึกแปลกใจเหมือนกันทำไมนะเขาถึงทำตามเสียงแว่วๆนั่น รึว่าเขาจะป่วยกังวลมากไปจนสมองมีปัญหา ขืนไปเล่าให้ใครฟังเขาต้องถูกส่งไปโรงพยาบาลบ้าแน่นอน ยิ่งถ้าเล่าให้นัทฟังแล้วคงต้องเอาเรื่องนี้ล้อเค้าเจ็ดวันเจ็ดคืนแน่ เขาส่ายหัวน้อยๆไล่ความคิดไร้สาระนั้นออกไป ก่อนที่จะออกไปซื้อของใช้มาเก็บไว้ที่บ้านหลังใหม่ของเขา
...............................................................................
พี่ฟ้าให้ใครที่ไหนมาเช่าห้องน้ำเนี่ยดูสิ ห้องฉันแย่แน่ๆสาวน้อยนางหนึ่งพูดขึ้น ขณะที่เห็นชายสองคนถือกระเป๋าเข้ามาในห้อง แต่ดูไปน่ารักดีเหมือนกันนะ หล่อทั้งคู่เห็นอย่างนี้มีหวังพี่ฟ้าตกใจแย่เลย แต่มาเช่าห้องฉันถ้าทำรกนะจะแกล้งให้ดู เธอนั่งลงบนโซฟาฟังบทสนทนาของชายแปลกหน้าสองคนทำให้เธอรู้ว่า คนที่จะมาอยู่ห้องนี้ชื่อตาล ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนสนิทของเขาซึ้งเป็นผู้มาเช่าโดยที่มีนุชเพื่อนรุ่นน้องของพี่สาวเธอแนะนำมา แต่จากที่ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว น้ำก็รู้สึกสงสารเขาขึ้นมาด้วยชะตากรรมที่คล้ายๆกับเธอ ที่โดนคนรักทำร้ายคล้ายๆกันทำให้เธอมั่นใจว่า เขาคงเสียใจไม่แพ้เธอเหมือนกัน
แต่มาว่าห้องฉันแววหรอไม่ยอมจริงๆนะ หึ เธอหันไปค้อนกับคนพูด แต่เขาก็ไม่สนใจก็เพราะเขาไม่เห็นเธอ ถึงจะพยายามเรียกแค่ไหนเขาก็ไม่ได้ยินเธออยู่ดี แล้วเธอก็เผลองีบไป แล้วเธอก็ตกใจตื่นในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา
ตาตาลนั่นอยู่ไหนนะ.....รึว่าในห้องนอนฉัน ไม่นะ
แล้วเธอก็รีบเดินไปที่ประตูห้องแต่ว่ามันล็อค!!
งั้นฉันถือวิสาสะเข้าไปล่ะนะ... เธอคิดในใจและเดินผ่านประตู(อดีต)ห้องนอนของเธอ
ดีนะอย่างน้อยตานี่ก็นอนเรียบร้อยหน่อย เธออมยิ้มน้อย แต่ไม่ได้นะนี่มันเตียงสุดรักของฉัน
อย่ามานอนบนเตียงฉัน ออกไปนะนายไม่มีสิทธิ์ ออกไป.ที่นี่มันห้องของฉันนายออกไปเดี๋ยวนี้
เธอพูดเสียงดังขึ้น ก่อนที่จะหายไปอย่างเงียบๆ
........................................................................
ตาลกลับเข้ามาประมาณหกโมงเย็นแล้วก็รีบไปอาบน้ำ ก่อนที่จะมานั่งดูทีวี แต่อยู่ดีๆทีวีก็ติดๆดับๆ
พอเขาเปิดสักพักมันก็ดับ พอเขาเปิดใหม่มันก็ดับอีกเป็นอย่างนี้ร่วม 20นาที จนเขาเริ่มจะโมโหทีวีเอาซะแล้ว
เป็นอะไรนักหนาวะ เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ เขาพึมพำ
สมน้ำหน้า นี่ล่ะโทษของการมานอนเตียงสุดที่รักของฉัน หญิงสาวหัวเราะขณะที่กำลังปิดทีวีเมื่อชายหนุ่มเปิด
เสียงใคร.........ฉันได้ยินมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเสียงใครว่ะ เขามองไปรอบๆห้องหาต้นเสียงหวานๆนั้น แต่ก็ไม่พบ แน่ล่ะในห้องมีเขาคนเดียว
นายตาลนายได้ยินฉันหรอ.......ฉันอยู่นี่บนโซฟาข้างนายไง เห็นไหมดูดีๆสิ น้ำโบกไม้โบกมือให้กับชายตรงหน้า แม้รู้ว่ามันอาจจะยากที่ใครจะเห็นเธอ แต่เธอก็หวังให้ใครสักคนเห็นเธอ
เอาละผมไม่เห็นคุณหรอกนะ แต่ผมได้ยินเสียงคุณ ว่าแต่คุณเป็นใคร เขาหันหน้าไปตรงที่เธอนั่งอยู่แทบจะชนหน้าเธออยู่แล้ว เธอรีบส่งเสียงทันที
นายอย่าเข้ามาใกล้สิ มันหน้าฉันนะ เธอตวาดเขา
โทษที....แต่ผมมองไม่เห็นคุณนะ คุณน่าจะขยับไปไม่ใช่หรอ รึว่าอยากอยู่ใกล้ผม เขาอมยิ้ม
ก็ได้นายไม่ผิดฉันขอโทษ เธอลุกจากโซฟาไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม
ตอนนี้คุณอยู่ตรงไหน เขาถามหล่อน
ฉันอยู่บนโซฟาตรงข้ามคุณค่ะ เธอพูดเสียงหวานขึ้น
พูดเพราะแบบนี้น่ารักกว่าตั้งเยอะ เอ๊ะแล้วจะชมผีทำไมว่ะเนี่ย เขาคิดในใจ
เอาล่ะผมชื่อ.....เขาพูดแต่ถูกหญิงสาวแทรกขึ้นก่อน
ฉันทราบแล้วค่ะ....คุณตาล ขอบคุณ
แสดงว่าคุณแอบฟังผมไม่ดีนะคุณ
ไม่ได้อยากฟังสักหน่อย..... หล่อนแย้ง
เอาล่ะไม่เป็นไร คุณเป็นใครผมน่าจะรู้ได้แล้วนะ
ค่ะ ฉันชื่อ นีนนาราค่ะ เรียก น้ำ ก็ได้คะ ฉันเป็นเจ้าของห้องนี้ก่อนที่จะ....
เธอสะอื้นเบาๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่เกิดกับเธอ
ไม่ต้องเล่าหรอกครับ ถ้าคุณไม่พร้อม แต่ชื่อเพราะดีนะครับ น้ำ
ฉันดีใจที่อย่างน้อย ฉันก็ยังดีใจค่ะที่ยังมีคนรู้ว่าฉันมีตัวตน เธอยิ้มหวานให้เขา
เสียดายจังที่ไม่ได้เห็นคุณ อย่างน้อยเราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้
สักวันค่ะ ขอโทษนะคะที่เมื่อวานเสียมารยาทกับคุณแล้วก็เรื่องจานรองแก้วกับทีวีเมื่อครู่ด้วย
ครับ อย่างน้อยผมก็รู้ว่าผมไม่ได้บ้า ฮ่าๆ เขาหัวเราะทำเอาเธอพลอยหัวเราะตามไปด้วย
.
ไม่กลัวฉันรึคะ เธอถามเขาในขณะที่เขากำลังง่วนกับการจัดเตรียมอาหารมื้อเย็น
กลัว? ทำไมครับ คุณคงไม่จับผมกินหรอก มันหมดสมัยแล้ว
ค่ะ...ขอบคุณ
ทั้งสองดูเข้ากันได้ดีถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นหน้ากันแต่บรรยากาศระหว่างเขาและ
เธอมันกลับมีความสุข ชายหนุ่มแอบนึกว่าถ้าเธอเป็นคนเขาคงรักเธอไปแล้วก็ได้
เพราะเธออารมณ์ดี คุยสนุก และง่ายๆ นิสัยคล้ายกับเขาหลายอย่าง และเธอก็เช่นกัน เธอพบผู้ชายหลายคนแต่แต่เธอจัดเขาไว้ในบรรดาผู้ชายที่ดีใน
ระดับต้นๆสำหรับเธอ เธอเป็นฝ่ายเห็นพฤติกรรมของเขาทุกอย่าง แต่เขาก็ให้
เกียรติเธอเสมอ เหมือนว่าเธอมีตัวตนจริงๆ ความประทับใจของเขาและเธอจึง
ค่อยๆก่อเกิดขึ้นทีละน้อย ฝนตกปรอยๆข้างนอกนั่น ดึกมากแล้วได้เวลาเขานอน
สักทีหลังจากที่นั่งเม้าท์กับเธอมาทั้งวัน
ผมไปนอนนะครับ คุณจะอยู่ในห้องนั้นมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปนอนห้องนอนอีกห้องแทน
แต่มันเล็กนะคะ อย่าดีกว่าค่ะ ฉันนอนไหนก็ได้ฉันเป็นแค่วิญญาณ เธอตอบเสียงอ่อย
เอาอีกแล้ว วิญญาณแล้วไงครับ เอาเถอะน่ะ ผมนอนได้ไปนอนแล้วนะครับ ฝันดีครับ น้ำ
ฝันดีค่ะตาล ขอบคุณค่ะสำหรับทุกอย่าง
ผมต่างหากครับต้องขอบคุณ ที่คุณยังให้ผมอยู่ที่นี่
เขายิ้มหวานก่อนที่จะหายเข้าไปในห้องของเขา
เขานั่งลงบนเตียงนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ที่รู้ว่ามีใครอีกคนร่วมห้อง ซึ่งไม่มีตัวตน
ถ้าใครมารู้เข้า เขาคงแย่แน่ พรุ่งนี้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็คุยกับน้ำให้เป็นเรื่องเป็นราวสักที แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจเธอ แต่เขาไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดว่าเขากลายเป็นโรคประสาทไปแล้วเท่านั่นเอง
20 ตุลาคม 2549 10:51 น.
สุมิตา
Come Back :+: จุดเริ่มต้น:+:
ไอ้นัท....แกอยู่ไหนว่ะ ฉันรอแกมาสองชั่วโมงแล้วนะว้อย พสธรกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ภายในสนามบิน ถ้าใครเห็นหน้าหล่อของเขาตอนนี้คงจะมีสองอารมณ์ในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่งคงจะหลงใหลกับหน้าตาหล่อเหลาถอดแบบมาจากชาวตะวันตกแต่ผิวแทนน้อยๆชวนให้น่ามองยิ่งนั้น ขัดกับดวงหน้าที่คิ้วแทบจะมัดเป็นปมอารมณ์ชุนเจ้าเพื่อนตัวดีของเขาต่างแสดงให้ใครต่อใครเห็นอย่างชัดเจน
เอออฉันก็รีบอยู่จะถึงแล้วเนี่ย....รถมันติดว้อยก็แกเล่นมาแบบฟ้าผ่าแบบนี้ใครจะไปรู้ว่ะ
งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านกาแฟในสนามบินนะขืนฉันยืนรอแกนะฉันตายแน่ คนก็เยอะ เบื่อจริงๆเมืองไทย
ครับๆคุณผู้ชาย เชิญครับ เดี๋ยวไอ้นัทคนนี้จะรีบเอาราชรสไปรับครับ ตาลตอบกลับพร้อมด้วยเสียงหัวเราะนุ่มๆ แล้ววางสายไป
แล้วมันนึกยังไงมาแบบฟ้าผาแบบนี้นะ หรือว่าเพราะแฟนแหม่มของมัน เอแต่ก็ไม่น่าจะใช่ มันหล่อจะตายหาอีกกี่คนก็ได้นี่หว่า เออไว้ค่อยถามมันแล้วกัน.....เขาปัดความคิดออกไปแล้วหันมาบึ่งไปที่สนามบินรับเจ้าเพื่อนซี้ตัวดีของเขา
.........................................................
ณ. ร้านกาแฟที่สนามบิน
ทางนี้นัท.... ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาโบกมือเรียกชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะมาจ่ายตลาดมากกว่ามาสนามบิน นัทรีบตรงมาหาเขาทันทีแล้วทรุดตัวลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
แกแต่งตัวอะไรของแกว่ะ ฮ่าๆๆ พูดไปก็ขำไปหลังจากสำรวจเพื่อนรักที่ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ
ก็แกเล่นมาซะเช้านี่หว่า ฉันลุกมารับแกดีเท่าไหร่แล้ววะ อีกอย่างถ้าฉันช้าแกฆ่าฉันพอดี นัทส่งสายตาที่แทบจะฆ่าเพื่อนได้
เอาละ ขอโทษที่รบกวนแก เขาสลดลงเล็กน้อย หลังจากที่รู้สึกว่าเขาทำตัววุ่นวายมากเกินไป
เอาน่ะ...ล้อเล่นโว้ย ฉันว่ารีบไปดีกว่าตาล ฉันอายสายตาคนแถวนี้ว่ะ เขากระซิบกระซาบกับเพื่อนรักก่อนจะเดินนำลิ่วไปที่ลานจอดรถ
.......................................................................
นี่เออว่าแต่แกดูที่พักให้ฉันรึยัง ที่ฉันโทรมาให้แกหาให้น่ะ ตาลหันกลับไปถามนัท
เอออดูให้แล้ว เดี๋ยวดูนี้ล่ะกัน เขาพูดพลางก้มไปหยิบอะไรในลิ้นชักข้างตัวรถ
ที่นี่ไงสวยมั้ยว่ะ....ถ่ายรูปมาให้แกดูด้วย ฉันไปดูที่จริงมาแล้วนะสวยดีแกคงชอบว่ะเขาสำทับต่อ
สวยดี....เข้าอยู่ได้เลยใช่มั้ย เขาหยิบรูปไปดู
ได้เลยสิ กุญแจอยู่นี่แล้ว.....ว่าแต่แกมาเมืองไทยทำไมว่ะ เขาพูดพลางโยนกุญแจพวงหนึ่งให้คนนั่งข้างๆ ตาลอึ้งไปพักหนึ่งกับคำถามที่ได้รับจากนัท และไม่นานเขาก็หันไปบอกคนถาม
เอาไว้จะเล่าให้ฟัง ยาวว่ะ ตอนนี้ฉันอยากจะนอนที่สุดเลยแก นั่งเครื่องบินมาเป็นสิบๆชั่วโมงเหนื่อยจะตาย ตาลพูดพลางเอนเบาะและเอนตัวตามเบาะไป
แหมนั่งชั้น First class ยังเหนื่อยรึไง เขาหันไปยิ้มกับอีกฝ่าย หันไปก็อดขำไม่ได้
อะไรของมันพูดอยู่ดีๆหลับไปซะงั้น เรื่องของมันเอาไว้รอมันเล่าดีกว่า เขาเลิกคิดก่อนจะหันไปขับรถมุ่งหน้าไปกลางใจเมืองกรุงเทพที่แสนจะคับคั่งไปด้วยรถราและผู้คนมากมาย ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น สองหนุ่มก็มาถึงจุดหมาย
นัทดับเครื่องก้าวลงไปเปิดท้ายรถหยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆสองไปลงมาวางไว้ แล้วอ้อมไปประตูด้านข้างคนขับ แล้วสะกิดเพื่อนเบาๆ
ตื่นได้ละ....ถึงแล้ว ลงมาช่วยกันขนของดิว่ะ เขาดึงคู่สนทนาที่กำลังงัวเงียสุดขีดมาด้วย ก่อนจะปิดประตูรถ ตาลไล่ความงัวเงียออกไปก่อนที่จะหันไปสนมจกับกระเป๋าเดินทางของตัวเอง โดยมีนัทช่วยหิ้วไปใบหนึ่ง และเดินนำหน้าไป
ทำไมแกไม่ไปนอนที่บ้านว่ะ ให้ฉันหาห้องให้ทำไมเนี่ย นัทเป็นผู้ทำลายความเงียบระหว่างที่เขาทั้งสองอยู่ในสิฟท์
ไม่อยาก.....ไม่มีอะไรหรอก ตาลตอบเสียงเรียบๆ
อืมนี่ว่าแต่....แกทิ้งงานมาป๊ากับม๊าแกไมด่าเอาหรอ
ฉันไม่ได้ทิ้งนี่...ก็แค่เอามาทำที่นี่เดี๋ยวนี้สะดวกจะตายมีอินเตอร์เน็ตซะอย่าง กลัวอะไร
ไม่ทิ้งมาดนักธุรกิจดาวรุ่งแห่งปีจริงนะแกเนี่ย ฮ่าๆ
ว่าแต่ฉันดูแกสิ....ทำงานงกๆหาเมียเป็นตัวเป็นตนได้รึยังว่ะ ตาลตอกกลับทำเอานัทอึ้งไปนิดก่อนที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เป็นไงห้องสวยมั้ย....แกคงชอบนะ นัทถามตาลขณะที่ทรุดตัวลงบนโซฟาสีฟ้าที่อยู่มุมห้อง
สวยดี...แต่ทำไมมันดูแหวๆว่ะ ยังกับผู้หญิงอยู่เลย ตาลค่อยเดินสำรวจทีละห้องเรื่อยๆ
ภายในห้องชุดนี้ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น และอีกมุมหนึ่งของห้องจะมีมุมทำครัวเล็กๆ และมีห้องนอนอีกสองห้องซึ่งมีห้องน้ำในตัว และดูจากสิ่งของที่จัดอยู่แล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าจะไม่มีคนอยู่ เพราะทุกสิ่งในห้องครบครันไปเสียทุกอย่าง
แกทายถูก เจ้าของห้องคนก่อนเป็นผู้หญิง รู้สึกว่าคนที่ปล่อยให้เช่าจะเป็นพี่สาวเจ้าของห้องนะ
เห็นว่าน้องสาวไม่สบายหรือไงเนี่ยแหละ เลยมาปล่อยให้เช่า
แล้วแกไปรู้จักเค้าหรอถึงให้แกเช่า ตาลทรุดตัวลงบนโซฟาอีกด้านหนึ่ง
ป่าวหรอก....พอดียัยนุชรู้จักน่ะ มันเลยแนะนำฉันมา ที่นัทพูดถึงก็ไม่ใช่ใครอื่น นุสรา น้องสาวแท้ของณัฐดนัยนั่นเอง สองพี่น้องสนิทกับตาลเป็นอย่างดีเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก
อีกทั้งพ่อแม่ของทั้งสองตระกูลก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกันมานาน และทั้งสามคนก็ได้มีโอกาสไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยกันตั้งหลายปี ทำให้ทั้งสามสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก
เออพูดถึงยัยนุช....ตอนนี้ไปฝรั่งเศสไม่ใช่หรอ ตาลเริ่มบทสนทนาถึงน้องตัวแสบของเขา ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆแต่ตาลก็รักและตามใจนุสรามากอาจจะเป็นเพราะบ้านเขามีเขาเป็นลูกชายคนเดียวพอเจอน้องสาวที่น่ารัก ช่างเอาใจ ก็อดจะรักเอ็นดูในความไร้เดียงสาของเธอไม่ได้
อืมเพิ่งไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ไปคุยเรื่องการตลาดที่จะขยายกิจการนั่นแหละ ยัยนุชมันบ่นคิดถึงแกจะตาย เสียดายที่ไม่ได้เจอแก มันรักแกมากกว่าฉันอีกมั้งเนี่ย
ก็แหมแกดุยัยนุชจะตาย ฮ่าๆ
มันก็เลยหนีไปประจบแกไงล่ะ แล้วทั้งสองก็หัวเราะเมื่อนึกอดีตครั้งวันวาน
บทสนทาของสองหนุ่มดำเนินต่อไปสักพักใหญ่ทำให้นัทรู้เรื่องที่เขาค้างคาใจมาตลอดหลายชั่วโมงจากที่ตาลเล่าให้ฟัง ตาลมาที่นี่เพราะต้องการมาหาที่สงบๆเพื่อนหนีจากอะไรร้ายที่เขาพบที่อเมริกาเมื่อเขาพบว่าแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานานปีกลับไปคบหากับผู้ชายคนอื่น
ทั้งๆที่ตาลให้ทั้งความรักและเอาใจใส่เธอทุกอย่างแต่เธอก็ยังหนำใจเธอ เธอลงทุนที่จะเอาความลับของบริษัทไปบอกให้กับคู่ขาของหล่อนซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ทำให้บริษัทที่เขารักกว่าอะไรทั้งหมดเกือบจะขาดทุนไปหลายพันล้านบาท และนี่คือสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เขามาที่นี่
อย่าคิดมากนะ แกเนื้อหอมจะตายไปคงไม่เสียใจเพราะอะไรแค่นี้นะ นัทตบไหล่ตาลเบาๆ
ไม่หรอก ฉันแค้นมากกว่า เกือบเสียค่าโง่แล้ว ตาลพูดถึงคนรักซึ่งตอนนี้เค้าไม่เหลือเยื่อใยให้หล่อนอีกแล้ว เขาแทบอยากจะฆ่าหล่อนด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาทุ่มเททุกอย่างแต่กลับได้รับผลตอบแทนแย่ๆอย่างนี้
เอาละ ฉันไปนะ แล้วมีอะไรโทรหาแล้วกัน บ่ายนี้มีประชุมว่ะกลับไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวไม่ทัน
นัทโบกมือลาตาลแล้วเดินไปที่ประตู ไม่ต้องส่งหรอก พักเหอะฉันไปเองได้
ขอบใจมากนะนัท สำหรับทุกอย่าง
ขอบคุณทำไม เพื่อนกันนี่หว่า ไปล่ะแล้วเจอกัน แล้วนัทก็ก้าวออกจากห้องไปทิ้งตาลไว้เพียงลำพัง หลังจากนัทไปสักครู่ตาลก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้ามาทั้งวัน แล้วออกมานอนลงบนเตียงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา
.อย่ามานอนบนเตียงฉัน ออกไปนะนายไม่มีสิทธิ์ ออกไป.ที่นี่มันห้องของฉันนายออกไปเดี๋ยวนี้.....เหมือนจะมีเสียงใสๆล่อยลอยมากับสายลมเข้าสู่ห้วงนิทราของเขา หากแต่ตาลก็ไม่ได้ใส่ใจกับเสียงนั้นเลย
....ใครนะมารบกวนขนาดนอนยังจะมาในฝันอีก เขาพึมพำเบาๆแล้วเสียงนั้นก็จางหายไป