6 ธันวาคม 2552 15:50 น.
สุนิพนธ์
หนุ่มสวนลำไย
วาสนา ชะตาต่ำ ระกำอก
จำเหินหก เหหัน กลับบ้านสวน
บางกอกกรุง สูงฟ้า ล้าเรรวน
บ้านเมืองป่วน แปรเปลี่ยน เวียนวุ่นวาย
สู่ถิ่นเก่า แต่เกิด กำเนิดก่อน
อดีตย้อน คอนขืน ฝืนใจหาย
แล้วเริ่มต้น ตรากตรำ กำลังกาย
ปู่ย่ายาย หมายมั่น ปั้นมือมา
กสิกร เกษตรกรรม ย่ำโคลนขุ่น
ปฏิกูล กากดิน กลิ่นซากหญ้า
ท่ามกลางแดด แผดเผา เข้าตำรา
อยู่ประสา กสิกรรม สวนลำไย
เฝ้าฟูมฟัก รักษา อาหารน้ำ
ให้ชุ่มฉ่ำ ทำสิ้น พรวนดินไถ
ต้นใบงอก ดอกเกิน จำเริญไว
วาดหวังได้ ปลดหนี้ มีเงินตรา
ถึงฤดู เก็บขาย ใจหายหด
พ่อค้ากด สดร่วง พ่วงปัญหา
ผลิตผล ล้นตลาด ขาดราคา
รินน้ำตา ตอกย้ำ ชอกช้ำใจ
น้ำไฟฟ้า ยาปุ๋ย โสหุ้ยเยอะ
หนี้สินเปรอะ เลอะเลือน สะเทือนไหว
ต้องหันหน้า หมายมุ่ง สู่กรุงไกล
รวยเมื่อไหร่ จะกลับหวน สวนลำพูน
4 ธันวาคม 2552 20:38 น.
สุนิพนธ์
เหม่อมองม่านเมฆมัวสลัวหม่น
เหมือนดั่งคนสูญสิ้นถวิลหวัง
คนเคยรักทักทายกลายเป็นชัง
จำต้องนั่งซบสะอื้นกลืนน้ำตา
ลมเหนือล่องเลยผ่านเช่นวารเก่า
ที่สองเราแรกพบเริ่มคบหา
ทุ่งบัวตองงดงามอร่ามตา
ยังซึ้งค่ายืนยงความทรงจำ
วัดพระธาตุกองมูคู่เมืองหมอก
ธูปเทียนดอกบูชาค่าเลิศล้ำ
อธิษฐานรักรื่นมิคืนคำ
น้อมจิตนำธรรมทานร่วมงานบุญ
เพลินเที่ยวชมชนเขาเผ่ากระเหรี่ยง
เดินคู่เคียงหมู่บ้านร้านใต้ถุน
หญิงคอยาวสาวงามนามละมุน
ห่วงคอหนุนสวมใส่ให้แปลกปลอม
ประทับจิตติดใจไมตรีต้อง
จนเราสอง มองหมาย กายหล่อหลอม
ประสานรัก ร่วมเรียง เคียงพะยอม
ด้วยใจพร้อม เพียงฝัน อย่างมั่นคง
บัดนี้สาวสามหมอกหลอกลวงพี่
เจ้าแอบหนีห่างหายให้ชายหลง
ลืมบัวตองกองมูคู่ดอยดง
พันกว่าโค้งน้อยกว่าในใจน้องนาง