1 สิงหาคม 2553 22:17 น.
สุนิพนธ์
บทพิสูจน์ ความแกร่ง แห่งเพชรแท้
ความแน่วแน่ ที่จะไป ให้ถึงฝัน
จะย่อท้อ หวั่นไหว ทำไมกัน
คงสักวัน เส้นชัย มิไกลเกิน
ตราบใด ทะเล ยังมีคลื่น
ความราบรื่น โลดลิ่ว ยังผิวเผิน
เส้นชีวิต สูงต่ำ ให้ดำเนิน
ต้องเผชิญ เวรกรรม นำชะตา
ทิศทางลม ยากปรับ หันกลับได้
แต่เรือใบ หันรับ ปรับเข้าหา
กำหนดเป้า หมายล่อง ท่องนาวา
ปรารถนา นำไป ดั่งใจจง
เอาชนะ คนอื่น หมื่นแสนครั้ง
อาจมีพลั้ง แพ้พ่าย ให้พิศวง
ชนะใจ ชั่วโฉด เพื่อปลดปลง
คือประสงค์ สุขแท้ แก่ตัวเอง
ดุจเทียนไข ไหม้มอด ตลอดแท่ง
รุ่มร้อนแห่ง ลำเทียน เวียนข่มเหง
เหมือนเวรกรรม เผาผลาญ เข้าบรรเลง
เป็นไฟเร่ง ร้อนเผา เราทุกคน
สุขหรือทุกข์ เรารู้ อยู่ที่จิต
ถูกหรือผิด เรารู้ อยู่ที่ผล
ดีหรือชั่ว เรารู้ อยู่ที่ตน
มีหรือจน เรารู้ อยู่ที่ใจ
19 กรกฎาคม 2553 16:49 น.
สุนิพนธ์
มองดูฟ้า ยังเป็นฟ้า เหมือนครานั้น
ถึงสีสัน แตกต่าง อย่างเคยเห็น
โค้งขอบฟ้า ยังมี เหมือนที่เป็น
คืนเดือนเพ็ญ จันทร์กระจ่าง พร่างนภา
เสียงจิ้งหรีด เรไร ณ ไพรพฤกษ์
หวนรำลึก ถึงวัน เข้าพรรษา
เมฆสลัว มัวหม่น ลมฝนมา
เยือกอุรา รวดร้าว เหมือนคราวเคย
ฟ้ายังคง เปลี่ยนสี ทุกทีท่า
ดาริกา ย้ายมิหยุด สุดเฉลย
ดุจดั่งใจ นงราม แม่ทรามเชย
กระไรเลย จะคงมั่น มิผันแปร
คำออดอ้อน ออเซาะ ฉอเลาะร่ำ
ก้องลำนำ ห้วงใจ ให้เป็นแผล
ยามอ้างว้าง โดดเดี่ยว ในดวงแด
ดังโดนแหย่ ยอกเหน็บ ให้เจ็บจำ
นทีล่อง ไหลลับ มิกลับย้อน
อุทาหรณ์ เตือนตน คนถลำ
ผ่านมาแล้ว ผ่านไป สายฝนพรำ
คารมคำ คนแท้ ไม่แน่นอน
หันมองฟ้า ยังเห็น เป็นฟ้ากว้าง
แต่อ้างว้าง รอยอดีต ติดตาหลอน
สกุณา จากรัง ยังหวนคอน
แต่งามงอน เงียบหาย กับสายลม...
4 กรกฎาคม 2553 21:13 น.
สุนิพนธ์
พวงลำไย หย่อนคล้อย ห้อยลงต่ำ
ผิวผลฉ่ำ เหลืองลออ ล้อลมฝน
ใกล้เวลา เก็บเกี่ยว เปลี่ยวกมล
คิดถึงคน จากไกล ไม่หวนคืน
นับแต่ต้น ลำไย เริ่มไชช่อ
เธอทดท้อ เพราะจน สุดทนฝืน
เกินจะกัด ก้อนเกลือ เพื่อกล้ำกลืน
จึงเป็นอื่น แต่นั้น มิหันมอง
ทิ้งเรือกไร่ พืชผัก ที่ปักปลูก
ทิ้งความทุกข์ เศร้าระกำ ช้ำหม่นหมอง
ทิ้งอดีต ตอกย้ำ น้ำตานอง
ไปลำพอง เพลินฟ้า ดาราราย
จำใจสู้ อยู่ย่าน คนบ้านนอก
แสยงยอก เจ็บเกิน ประเมินหมาย
วันเวลา ลบเลือน ค่อยเคลื่อนคลาย
จวนจะหาย ลืมล้าง ยามห่างกัน
พอเห็นผล ลำไย ยิ่งใจเศร้า
เพราะสองเรา เคยพล่าม ถึงความฝัน
ร่วมเก็บเกี่ยว เคียงข้าง สร้างสัมพันธ์
อย่างสุขสันต์ ฝันค้าง เธอร้างลา
ถึงรักมาก เพียงใด ใจหักห้าม
มิมองข้าม สวนลำไย ใฝ่รักษา
ขาดเธอเพียง ระทม ตรมอุรา
สวนขาดข้า ลำไยสะอื้น ยืนต้นตาย
29 พฤษภาคม 2553 07:22 น.
สุนิพนธ์
เพื่อนที่ดีมีหนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
มิตรภาพซาบซึ้งตรึงอุรา
ใช่วาจาประจบคบสอพลอ
เมื่อลำบากยากเข็ญเห็นเพื่อนทุกข์
คอยปลอบปลุกเกี่ยวข้องไม่ต้องขอ
เข้าช่วยเหลือ เกื้อหนุน จุนเจือพอ
ให้เลิกท้อสิ้นหวังกำลังใจ
แนะนำสิ่งถูกควรชี้ชวนชัก
ผูกสมัครร่วมช่วยด้วยซื่อใส
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอาการใด
ความห่วงใยเช่นนั้นเหมือนกันเลย
อันเพื่อนกินหาง่ายหลายชนิด
พาหลงผิดพลาดพลั้งยังชาเฉย
หวังประโยชน์ฝ่ายเดียวมาเกี่ยวเกย
แอบเยาะเย้ยยามยากลำบากกาย
หากคบคนควรคิดพินิจหน้า
เหมือนซื้อผ้าดูเนื้อเผื่อซื้อขาย
สำเนียงส่อภาษาพาทำนาย
สกุลสายอาจดูที่กิริยา
แม้เพื่อนดีมีน้อยคอยประกบ
ดีกว่าคบเพื่อนมากหลากปัญหา
ดุจก้อนเกลือเค็มนิดหน่อยด้อยราคา
ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล
23 เมษายน 2553 21:21 น.
สุนิพนธ์
รากหญ้า
ถูกเปรียบคำ ต่ำต้อย ดูด้อยค่า
เป็นรากหญ้า ซุกดิน สิ้นความหมาย
ไร้คนเหลียว แลหา น่าละอาย
เปรียบก็คล้าย คนชั้น กรรมากร
เกิดแต่พื้น ยืนต้น โคลนตมตั้ง
หรืออยู่ยัง ทางเดิน เนินสิงขร
สรรพคุณ ควรค่า อนาทร
พึงสังวร แจ้งไว้ ได้รู้กัน
ช่วยพยุง ยึดถิ่น ดินถล่ม
ซับชื้นพรม ทั่วป่า พนาสัณฑ์
หลากชนิด สรรหา สารพัน
รากหญ้าหั่น ตากบด ซดทำยา
หญ้าคาราก ต้มสด ดื่มลดไข้
ยาแก้ไอ หญ้าน้ำหมึก เชิญปรึกษา
อัมพาต พึ่งพัก หญ้าหลักนา
กกลังกา ฆ่าพยาธิ สะอาดกาย
ละลายนิ่ว เล็ดลอด หญ้าถอดปล้อง
ยาถ่ายต้อง หญ้าปกตอ เพียงพอหาย
สมานแผล ฟูเฟื่อง หญ้าเมืองวาย
รากหญ้าไซ ขับปัสสาวะ ชะล้างดี
ยังอีกหลาก มากมาย หลายรากหญ้า
ทั่วแหล่งหล้า สากล บนวิถี
แม้เกิดเพียง พื้นดิน ถิ่นพงพี
อาจมากมี คุณค่า กว่าบางใคร