28 กันยายน 2553 20:41 น.
สุนทรีย์รส
ผึ้งหนุ่มหลงทาง หารวงรังไม่พบ
บินวนสี่ตลบ ก้อพบผึ้งสาว
ผึ้งหนุ่มกับผึ้งสาว บินตั้งแต่เช้าจบพลบ
ยังไม่เจอคาคบ ต่างฝ่ายต่างสบตา
ค่ำแล้วฟ้าแจ่ม พระจันทร์แย้มยั่วฟ้า
สายลมหยอกดาริกา แล้วยังมีหมาหยอกไก่
ผึ้งหนุ่มผึ้งสาว แม้เหน็บหนาวแค่ไหน
ครั้นเห็นจันทร์อำไพ ก็ดีใจเหลือคณา
เห็นพระจันทร์เป็นรังผึ้ง จันทร์สวยซึ้งหนักหนา
ทั้งสองจ้องตา มุ่งหน้าหาพระจันทร์
ยิ่งบินขึ้นไปสูง ยิ่งหนาวพุงยิ่งหวาดหวั่น
ยิ่งดวงใจ ยิ่งหมายจันทร์ รวงผึ้งนั้นยิ่งห่างไกล
บินไปถึงยอดเมฆ ปีกกะเผลกบินไม่ไหว
ผึ้งสาวเหนื่อยแทบสิ้นใจ จึงสลบไสลกลายเป็นลม
ผึ้งหนุ่มรู้ซึ้ง เอาขี้ผึ้งให้หล่อนดม
ผึ้งสาวฟื้นรื่นรมย์ กอดผึ้งหนุ่มกลมกลางเมฆา
ผึ้งสาวกระหายน้ำ ผึ้งหนุ่มเสาะตามหา
แล้วก้อพบหยดน้ำสีฟ้า อยู่กลางเมฆาก้อนนั้น
ทั้งสองดื่มน้ำ ท่างกลางเมฆฝัน
สองผึ้งกลางแสงจันทร์ สองวันกับหนึ่งคืน
ไออุ่นเกิดขึ้นเงียบเงียบ กลางความเย็นเยียบชุ่มชื้น
ก่อตัวเป็นรักเต็มกลืน ความผูกพันธ์เกิดขึ้นเต็มใจ
ผึ้งหนุ่มกอดผึ้งสาว เกาะเมฆขาวหลับไหล
ฝันถึงรวงรังอันแสนไกล สุดท้ายขาดใจตายใต้แสงจันทร์
ตั้งแต่นั้นเปนต้นมา น้ำสีฟ้าหยาดหยดนั้น
ถูกขานว่าน้ำผึ้งพระจันทร์ เพื่อรับขวัญความรัก
27 กันยายน 2553 23:11 น.
สุนทรีย์รส
ในอ้อมกอด ของความเหงา แห่งคืนเงียบ
กับสายลม เย็นเยียบ และอ่อนไหว
คงมีเพียง คำถามเดียว ในหัวใจ
รักดีดี มีอยู่ไหม หรือไม่มี
***************************************************
รักดีดี ยังมี อยู่อีกไหม
อาจมีใคร คนหนึ่ง ตั้งคำถาม
ในวันที่ ความรัก แล้งนิยาม
ในวันที่ ความงาม เริ่มบางเบา
รักดีดี ยังมี อยู่อีกหรือ
ใครกันหนอ จะจับมือ ให้คลายเเหงา
ใครกันหนอ จะโอบกอด ให้นานยาว
ใครกันเล่า จะเดินทาง ผ่านเข้ามา
ขอเพียงเชื่อ เชื่อว่ารัก มีอยู่จริง
แล้วทุกสิ่ง จะคลี่คลาย เหมือนกับว่า
รักดีดี อยู่ใกล้ใกล้ แค่ปลายตา
ไม่ต้องรีบ ไขว่คว้า ก็จะเจอ
9 ธันวาคม 2552 19:54 น.
สุนทรีย์รส
ลำนำนี้ เขียนขึ้นที่ ห้องคนเหงา
ดวงใจเศร้า เพราะใจเรา ไร้จุดหมาย
ไร้เข็มทิศ จะดำเนิน เดินต่อไป
หมดอาลัย ไร้ความหวัง พังทลาย
เมื่อได้พบ สิ่งที่งาม ตามที่ฝัน
ก็อยากเก็บ สิ่งนั้นไว้ ไม่ให้หาย
แต่เมื่อวัน ผันเวียน เปลี่ยนแปลไป
ที่ฝันไว้ ก็กลับกลาย มลายลง
อยากจะหยุด โลกไว้ ไม่ให้หมุน
เพราะยิ่งเร็ว ยิ่งวุ่น ตามไม่ไหว
แต่ยิ่งยื้อ เหมือนยิ่งเร่ง ยิ่งเร็วไป
หยุดไม่ไหว ไร้กำลัง ลำพังกาย
อยากจะเป็น คนดี มีศักดิ์ศรี
เพราะความดี ไม่มี วันสลาย
แต่จะทำ ให้ดี ตลอดไป
ทำอย่างไร ถ้าหัวใจ มันอ่อนแอ
17 มีนาคม 2552 20:18 น.
สุนทรีย์รส
เมื่อก่อนนานมา
บนเมฆาก้อนหนึ่ง
ปุยนุ่มกลมกลึง
ล่องลอยไปถึงดาว
มีจิ้งหรีดน้อย
คอยอาศัยแนบเนา
ขี่ก้อนเมฆบางเบา
จรดเช้าจากเย็น
เมื่อแสงแดดส่อง
จิ้งหรีดต้องซ่อนเร้น
จวบจนตะวันเอน
เจ้าจึงตระเวนตะลอน
เย็นย่ำก็ฮัมเพลง
บรรเลงรำร่ำฟ้อน
กล่อมก้องเมฆก่อนนอน
กล่อมดาวจรและดาวโจร
"ฉันรักเมฆเท่าฟ้า
ฉันรักดาราเท่าโน้น
ฉันรักจันทร์ทราที่อ่อนโยน
ฉันหลงรักจนหมดใจ"
เพลงเจ้าจิ้งหรีด
กรีดซ้ำมาซ้ำไป
แต่จันทราหายินไม่
เพราะห่างไกลกันเหลือเกิน
...และแล้วคืนวันเพ็ญ
ฟ้าเห็นพระจันทร์เขิญ
เมื่อแว่วเสียงเพลงเพลิน
ขณะลมบังเอิญผ่านมา
สายลมเริ่มเอื้อนเอ่ย
"จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าขา
เพลงรักที่ลมหอบมา
เจ้าจิ้งหรีดอหังการ์เป็นผู้ร้อง"
เรื่องจิ้งหรีดรักจันทร์ฉาย
แพร่ขยายถึงเทพทั้งผอง
แม้ในใจแอบยกย่อง
แต่กฏต้องเป็นกฏ
เจ้าจิ้งหรีดอหังการ์
จึงถูกเทวดาลงโทษ
ให้อยู่บนดินโดยสันโดษ
จิ้งหรีดสลดพระจันทร์เห็นใจ
จันทร์จึงวอนลมฝากฟ้า
"ช่วยนำเพรชรจากข้าส่งให้
เจ้าจิ้งหรีดผู้ห่างไกล
ถือเป็นน้ำใจจากพระจันทร์"
...ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ณ รุ่งทิวาแห่งเช้าฝัน
จึงปรากฏหยาดเพชรเม็ดลาวัลย์
มอบกำนัลแด่จิ้งหรีดน้อย
....หยาดเพชรคือหยดน้ำค้าง
ที่พราวพร่างยอดหญ้าย้อย
จิ้งหรีดดื่มน้ำค้างพลางเหม่อลอย
...ร้องเพลงเศร้าสร้อย....ถึงพระจันทร์...
9 มีนาคม 2552 12:45 น.
สุนทรีย์รส
font color=#0000B0>
ขอให้เธอจงไป
อย่าได้สนใจว่าฉันจะทุกข์ร้อน
เมื่อสองมือไม่อาจฉุดยื้อต่อกร
สองตาก็ไม่อาจอ้อนวอน...ไม่ให้ไป...