29 กุมภาพันธ์ 2555 14:40 น.
สุนทรวิทย์
ถูกโจรปล้น สิบครั้ง ยังเหลือบ้าน
บ้านเผาผลาญ หมดหลัง ยังเหลือที่
เล่นพนัน ตกต่ำ ทุกข์ย่ำยี
เหลือแต่หนี้ ตอกย้ำ ให้ช้ำใจ
ติดบุหรี่ มะเร็ง เร่งเข่นฆ่า
ติดสุรา ตับแข็ง แห้งเหี่ยวได้
ติดพันรัก ร้อนรุ่ม ดุจสุมไฟ
ติดอะไร ไม่สิ้นคิด เท่าติดยา
ใครติดยา เสพติด ชีวิตวอด
คนค่อนขอด หยามส่ง ถึงวงศา
สูญชื่อเสียง อนาคต หมดราคา
จิตเฉื่อยชา เหี่ยวห่อ รอวางวาย
รุนแรงกว่า หายนะ ทุกประเภท
พาประเทศ ถดถอย พลอยเสียหาย
สังคมเสื่อม สู่ภาวะ อันตราย
มหันตภัย พิษร้าย ทำลายคน
ทั้งผู้เสพ ผู้จำหน่าย ล้วนขายชาติ
ยามถึงฆาต กรรมทัน พลันเสือกสน
เวรสนอง ย่อยยับ ตัวอับจน
คงมืดมน ป่นปี้ ชั่วชีวิต
ปลุกสำนึก รักชาติ ศาสน์,กษัตริย์
ร่วมขจัด บรรดา ยาเสพติด
รักพ่อ,แม่ กตัญญู รู้จักคิด
อย่าใกล้ชิด เกี่ยวข้อง ทดลองเลย
29 กุมภาพันธ์ 2555 10:42 น.
สุนทรวิทย์
สกุณา บนฟ้ากว้าง
สองปีกกาง ร่างสง่า
เหาะเหิน เพลินนภา
สุขเริงร่า น่านิยม
ชีวิต อิสระ
มีทักษะ พละสม
แกร่งกล้า ท้าแดดลม
ปล่อยอารมณ์ ชมพิมาน
แหงนมอง ผองปักษิน
เจ้าโผบิน ทั่วถิ่นฐาน
เที่ยวท่อง คล่องสำราญ
คคนานต์ ดุจบ้านตน
ทบทวน หวนพินิจ
พานหงุดหงิด คิดฉงน
เราหนอ ก็เป็นคน
ไยอับจน ยลแพ้นก
อยู่เดียว เปลี่ยวกลัดกลุ้ม
มรสุม รุมหัวอก
โศกศัลย์ ป่วยงันงก
ปลงไม่ตก ระทกใจ
ชีวา แสนอาภัพ
โรคซ้อนซับ สำทับใส่
เกิดมา หาอันใด
เหมือนถูกให้ มาใช้กรรม
28 กุมภาพันธ์ 2555 12:45 น.
สุนทรวิทย์
อโณทัย เจิดจ้า นภาผ่อง
แสงเรืองรอง ถ่องจับ รับอุษา
เอ๊กอิเอ๊ก ไก่ขัน กระชั้นมา
สกุณา โผผิน บินจากรัง
เช้าวันใหม่ เริ่มต้น อีกหนหนึ่ง
อีกวันซึ่ง ดูดี มีความหวัง
ประกอบกิจ การค้า หาสตังค์
หน้าที่ยัง รออยู่ ยากดูดาย
สวมชุดเก่า ซอมซ่อ ปร๋อขึ้นรถ
ตามกำหนด เร่งรุด สู่จุดหมาย
คนอาชีพ อิสระ งานสบาย
ไร้เจ้านาย ถั่งถ้อย คอยบงการ
ผ้าเก่าเก่า ปูวาง บนทางเท้า
นั่งพับเข่า ทำท่า น่าสงสาร
ขันหนึ่งใบ จัดวาง อย่างเชี่ยวชาญ
ร้องขอทาน รำพัน ความรันทด
งานสบาย รายได้ดี มีเหลือเก็บ
ใครเสียดเหน็บ อย่างไร ไม่สลด
สะสมเงิน หยิบมือ พอซื้อรถ
จ่ายเงินสด พร้อมบ้าน สำราญจินต์
นี่แหละนัก ธุรกิจ อิสระ
มีมานะ ด้านหน้า หาทรัพย์สิน
เห็นต้อยต่ำ ย่ำแย่ แบกะดิน
เลิกงานกิน สุกี้ ทุกวี่วัน
27 กุมภาพันธ์ 2555 13:40 น.
สุนทรวิทย์
รังสิมันตุ์ ผันเคลื่อน เลื่อนขยับ
ดำเนินกลับ ลับไป ในเวหน
แสงสว่าง ร้างหลบ นภดล
ความมัวหม่น ย่างเท้า เข้าครอบครอง
พระพายหอบ เมฆา มาเป็นกลุ่ม
นภาคลุ้ม เสียงครึ้ม กระหึ่มก้อง
อุทพินทุ์ รินหยาด สาดละออง
อุทกนอง เอ่อท้น ชลธาร
ปฐพี ฉะฉ่ำ อิ่มน้ำฝน
พนาสณฑ์ ดาษดา ผลาหาร
ไม้ชุ่มชื่น โมทนา พรรษากาล
กุสุมาลย์ รุกขกะ ปกนคินทร์
ปวงมฤค คึกคัก สะพรักพรั่ง
งามคับคั่ง ก่ายกอง ผองปักษิน
มัศยา แหวกท่อง ท้องสลิล
เหล่าชีวิน ปีติ รับพิรุณ
พนาราม งามสวย ด้วยส่ำสัตว์
พฤกษาชัฏ อาทร ย้อนเกื้อหนุน
สัตว์พึ่งป่า ป่าพึ่งสัตว์ ผลัดค้ำจุน
ต่างให้คุณ ต่อกัน นิรันดร์มา
26 กุมภาพันธ์ 2555 18:56 น.
สุนทรวิทย์
คนที่ดี แสนดี ทั้งชีวิต
เผลอพลั้งผิด สักครั้ง ยังมัวหมอง
คนชั่วร้าย ใจหยาบ บาปก่ายกอง
ทำถูกต้อง เพียงหน คนชื่นชม
บรรทัดฐาน ใคร่รู้ อยู่ตรงไหน
นำอะไร วิเคราะห์ ความเหมาะสม
ใช้เหตุผล หรือว่า ด้วยอารมณ์
ค่านิยม คล้อยตาม หรือความดี
ผู้ดีเลิศ วิศรุต สุจริต
ก็มีสิทธิ์ ผิดได้ จริงไหมนี่
ไยคนจึง ประณาม หยามทันที
ด่วนบ้าจี้ ชี้ชัด ตัดสินพลัน
ส่วนคนเลว ทำชั่ว แก้ตัวเก่ง
กลับยำเกรง ศักดา น่าเย้ยหยัน
ผิดร้อยที ดีหนึ่ง ต่างทึ่งกัน
อภิวันท์ ยกย่อง สมองเบา
สังคมเสื่อม สับสน จิตคนเหลว
มองดี,เลว บิดเบือน เหมือนโง่เขลา
ชนยุคใหม่ หมดกระดาก ยากขัดเกลา
ฉันหัวเก่า เศร้าใจ ตามไม่ทัน