9 กันยายน 2554 14:36 น.

ใจคนสับสนยิ่ง

สุนทรวิทย์

เหม่อมอง  เมฆินทร์  ซึ่งบินว่อน
			ฟุ้งขจร  ร่อนเร่  เขียนเวหา
			ปรากฏภาพ  อัศจรรย์  อันตื่นตา
   แปลงมายา  ซ้อนซับ  นับหมื่นพัน
			
   			สนธยา  เมฆี  งามลี้ลับ
			 มองราวกับ  มีห้วง  สรวงสวรรค์
				ซ่อนเทวี  นางฟ้า  วิลาวัณย์
			 รอให้ฉัน  เลือกเฟ้น  เป็นคู่นอน
				
        มโนภาพ  อาบใจ  ให้ฟุ้งซ่าน
			 อุปาทาน  ลามทึ้ง  ถึงอัปสร
			 เคลิบเคลิ้มตาม  ลมแล้ง  แห่งอัมพร
			 ประสาทหลอน  ลืมตัว  ไปชั่วพัก

        สายลมแรง  กวาดมา  นภาเปิด
				เมฆเตลิด  ผายผัน  พลันประจักษ์
				มิมีสิ่ง  ซ่อนเร้น  เช่นทึกทัก
				เกิดภาพลักษณ์  ด้วยอ่อนไหว  ในกมล
		
       		จิตใจคน  เรรวน  ปรวนแปรยิ่ง
			ไม่เคยนิ่ง  กลับกลาย  คล้ายลมฝน
			อยู่เหนือการ  บังคับ  ยับยั้งตน
			ยุ่งสับสน  กว่าเมฆี  ที่เลื่อนลอย				
9 กันยายน 2554 14:27 น.

แล้งสำนึก

สุนทรวิทย์

เหนือลำธาร  มุมหนึ่ง  ซึ่งเงียบหงอย
			กระท่อมน้อย  ริมน้ำ  เก่าคร่ำคร่า
			บุรุษเฒ่า  งันงก  นั่งตกปลา
			ในแววตา  แห้งแล้ง  แฝงอับจน
								
          ยามชรา  อ้างว้าง  ห่างญาติมิตร
		 	คู่ชีวิต  วางวาย  เมื่อปลายฝน
				มีลูกเต้า  หญิง,ชาย  ก็หลายคน
				กลับล่องหน  หนีหาย  ไปนานปี
		
        		แม้ขณะ  ที่มือ  ถือคันเบ็ด
			 ยังเทวษ  กังวล  บ่นอู้อี้
			 พร่ำถึงลูก  ห่วงหา  ทุกนาที
			 ป่านฉะนี้  อยู่ไหน  ไยเงียบงัน
				
       				ความเป็นพ่อ  แน่นแฟ้น  แสนพันผูก
				อยากพบลูก  พร้อมหน้า  ก่อนอาสัญ
				หัวอกหนอ  สะอื้น  ทั้งคืน,วัน
 			ชีพกระชั้น  สั้นมา  ยิ่งอาวรณ์
	
       			จวบสังขาร  ถดถอย  เกินคอยไหว
			 เขาสิ้นใจ  ลำพัง  ดังสังหรณ์
			 ขาดลูกหลาน  อยู่ด้วย  ตอนม้วยมรณ์
			 คนอาทร  ดูใจ  ล้วนไม่มี
				
      				ณ.วันนี้  ลูกเขา  คืนเหย้าครบ
					ต่อหน้าศพ  โต้เถียง  เสียงอึงมี่
					ต่างแย่งครอง  ที่นา  แทบราวี
					ความเป็นพี่  เป็นน้อง  ต้องปึ่งชา
		
         		อนิจจา  พ่อคนหนึ่ง  พึ่งดับขันธ์
			  ลูกลูกพลัน  บาดหมาง  สร้างปัญหา
			  ใช้อารมณ์  ทิฐิ  มิลดรา
			  เพื่อผืนนา  ไม่กี่บาท  อนาถจริง
					
        			สำหรับคน  อกตัญญู  ยากรู้สึก
					จิตสำนึก  มโนธรรม  นั้นต่ำยิ่ง
					กรรมสนอง  วันใด  ไร้ประวิง
					คงถูกทิ้ง  โดดเดี่ยว  เช่นเดียวกัน				
9 กันยายน 2554 14:14 น.

แม่คือผู้ยิ่งใหญ่

สุนทรวิทย์

นางใด  ในโลกนี้		
    ยากจะมี  ดีเท่าแม่
			 รักลูก  ผูกดวงแด		
   	จิตเที่ยงแท้  แต่เกิดมา
			
             	พระคุณ  อดุลย์ล้น
  		ท่วมภูดล  ท้นเวหา
		 	จากเยาว์  เข้าชรา
 			ทุกเวลา  ท่านอาทร
	
           			น้ำใจ  ไม่เคยหมด	
   	เหนือกำหนด  พจน์อักษร
			 เอกอุ  คุณากร 
 			สถาวร  มิคลอนคลาย
	 
           			หนึ่งหยด  รสน้ำนม
  		ค่าอุดม  สมมุ่งหมาย
		 	สร้างลูก  ปลูกหญิง,ชาย
  		สืบเชื้อสาย  กาย,ชีวา
		
            		ผูกพัน  โดยสัญชาต
  		ทุกชีวาตม์  ชาติภาษา
		 	เสี้ยวเศษ  แห่งเมตตา
 			เลิศล้ำกว่า  จาระไน
	
           			ความรัก  แม่หนักแน่น
  		สุดทดแทน  แสนยิ่งใหญ่
		 	ลูกกราบ  ซาบซึ้งใจ
 			ตลอดไป  ไม่ลืมเลือน				
9 กันยายน 2554 13:28 น.

เกิดแก่เจ็บตาย

สุนทรวิทย์

คนเราแรก  เกิดมา  เป็นทารก 
		        แม่กอดกก  ดังระไว  ไข่ในหิน
		    เฝ้าฟูมฟัก  เอ็นดู  อยู่อาจิณ
		ปัดยุงริ้น  ผูกพัน  ป้องกันภัย

       						ครั้นเติบโต  ขึ้นหน่อย  ค่อยศึกษา
					     เรียนวิชา  อบรม  บ่มนิสัย
					   จนบรรลุ  หนุ่ม,สาว  เข้ามหาฯลัย
					เติมวินัย  เตรียมพลัง  สู่สังคม
			
             จบแล้วประ  กอบอาชีพ  รีบตั้งหลัก
		        คบคนรัก  ดูใจ  ให้เหมาะสม
		     ช่วงแห่งการ  วิวาห์  หาคู่ชม
				ตามนิยม  ชื่นชอบ  สร้างครอบครัว
				
           		เปลี่ยนจากลูก  ก้าวต่อ  เป็นพ่อ,แม่
					      งานหลายแหล่  เกาะกุม  สุมท่วมหัว
					   ทั้งภาระ  หน้าที่  มีรอบตัว
					รุมพันพัว  หมกมุ่น  แสนวุ่นวาย
			
             พริบตาเดียว  คืนวัน  ก็ผันผ่าน
		        วัยถึงกาล  ชรา  น่าใจหาย
		    ญาติมิตรเริ่ม  ทยอย  ผ็อยมลาย
		 ต่างร่างกาย  งกเงิ่น  เกินประทัง
			
          			เกิด,แก่,เจ็บ  แล้วตาย  วายสังขาร
					      เช่นสายธาร  ไหลไป  ไม่กลับหลัง
					   วัฏสงสาร  ลิขิต  อนิจจัง
					มิอาจยั้ง  กติกา  ธราดล				
8 กันยายน 2554 13:20 น.

อ้อนครั้งที่ร้อย

สุนทรวิทย์

โกรธฉันเถิด  ถ้าทำให้  ใจเธอสุข
					อย่าเป็นทุกข์  เพราะฝืนใจ  อภัยฉัน
					อยากทำโทษ  ก็จง  ลงมือพลัน
					พร้อมรับทัณฑ์  ทุกข้อ  มิต่อรอง
						
          จะเชือดเนื้อ  เถือหนัง  ทั้งควักอก
					ไม่ตระหนก  ยินดี  พลีสนอง
					เมื่อหายโกรธ  โปรดหันหน้า  มาปรองดอง
					เลิกหม่นหมอง  หงุดหงิด  คิดเกลียดชัง
						
           ลิ้นกับฟัน  กระทบ  ขบกันได้
					ลองดับไฟ  คลายร้อน  นึกย้อนหลัง
					ภาพหวานชื่น  ดูดดื่ม  ลืมหรือยัง
					ความรักครั้ง  สองเรา  ผลัดเอาใจ
						
           เพลงนิทรา  ราตรี  ที่เธอชอบ
					เคยร้องปลอบ  อรไท  จำได้ไหม
					ฉันพลั้งผิด  กี่หน  กังวลไย
					หยุดร่ำไห้  ไหวหวั่น  นะขวัญตา
						
           ต่อนี้ไป  รักเดียว  เลิกเลี้ยวลด
     ละพยศ  แข็งข้อ  ก่อปัญหา
     จะเชื่อฟัง  วจี  ศรีภรรยา
     เหมือนมารดา  เลยหนอ  ขอสาบาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์