13 กันยายน 2554 13:04 น.
สุนทรวิทย์
จักรวาล เวิ้งว้าง กว้างไพศาล
โลกปาน เม็ดทราย บนชายหาด
มนุษย์ ดุจฝุ่น จุลชาติ
มิอาจ คาดเคียง แม้เพียงคิด
แต่ใจ มนุษย์ สุดลึกล้ำ
ซุกงำ ความหวัง ทั้งดวงจิต
รวนเร เฉไฉ ได้รอบทิศ
วิปริต ติดตัว ชั่วอายุ
ใจคน มิเคย ทนเฉยนิ่ง
เก็บสิ่ง ชื่นชม ถมบรรจุ
ไม่ยอม เอมอิ่ม ยิ้มบรรลุ
ปะทุ พร่ำเพรื่อ ดังเชื้อไฟ
ใจคน พิกล ปนเร้นลับ
ซ้อนซับ ยุ่งยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ซ่อนพลัง พรั่งพรู อยู่ภายใน
เคลื่อนไหว เร็วรวด เกินยวดยาน
ใจคน ถึงแม้ แค่กำปั้น
แต่มัน แฝงฤทธิ์ ผิดสัณฐาน
เปรียบความ วิศิษฏ์ พิสดาร
จักรวาล เหนือหยั่ง ยังแพ้ใจ
13 กันยายน 2554 13:00 น.
สุนทรวิทย์
วันเวลา มิอาจซื้อ ยื้อคืนได้
เมื่อผ่านไป คือไปลับ ไม่กลับหลัง
เกินกว่าการ ยึดติด คิดประทัง
เป็นไปดั่ง ธรรมชาติ ประสาธน์มา
อายุคน นับปี ทวีเพิ่ม
อย่ามัวเคลิ้ม หลงแล แต่ตัณหา
บุญกุศล จงสร้าง ไว้บ้างนา
ก่อนเวลา ภาวะ จะเคลื่อนคลาย
อดีตดู ประหนึ่ง พึ่งล่วงพ้น
เร็วเสียจน รู้สึก นึกใจหาย
วันวานยัง เป็นเด็ก เล็กเอียงอาย
วันนี้กลาย เป็นผู้เฒ่า เก่าชรา
เผลอเดี๋ยวเดียว โคจร ค่อนชีวิต
หวนพินิจ เท็จจริง ยิ่งกังขา
นี่หรือ คือวิถี ทางชีวา
เพียงพริบตา ก็ตะบึง ถึงบั้นปลาย
ชาติหนึ่งปาน ชั่วแล่น แสนสั้นนัก
มิทันจัก ครันครบ จบมุ่งหมาย
สังขารพาน เงอะงะ เตรียมมลาย
คนใกล้วาย ยามแก่ ได้แต่ปลง
13 กันยายน 2554 12:47 น.
สุนทรวิทย์
คนบางคน เปรียบคู่ครอง ดังของเก่า
ยิ่งนานเข้า ยิ่งคร่ำเครอะ เขลอะสนิม
เนื้อใกล้ปาก คุ้นเคย เลยเบื่อชิม
นึกกระหยิ่ม มองเห็น เป็นของตาย
การเย็นชา ทะนง โดยหลงผิด
ทำชีวิต สมรส หมดความหมาย
ที่เคยเคล้า เคยคลอ ก็กลับกลาย
ดีเป็นร้าย เปลี่ยนไป ไม่รู้ตัว
ความหมางเมิน เหินห่าง อย่างต่อเนื่อง
กลายเป็นเรื่อง ขัดแย้ง คอยแบ่งขั้ว
ต่างคนต่าง ค่อนขอด บอดมืดมัว
พาครอบครัว ร้าวฉาน จนบานปลาย
จวบวันที่ สัมผัส การพลัดพราก
ยามแยกจาก กันไซร้ จึ่งใจหาย
เพชรในมือ หลุดลอย ค่อยเสียดาย
นั่นอาจสาย เกินจะ คิดประคอง
ชายหญิงเมื่อ ดำริ ร่วมวิถี
พึงอารี-อารอบ ตอบสนอง
มิมีใคร ยอดเยี่ยม เทียมคู่ครอง
ควรยกย่อง เอาใจ ใช่ดูแคลน
12 กันยายน 2554 13:02 น.
สุนทรวิทย์
สุรา เมรยะ
ควรเลิกละ ดังพระเทศน์
กำจัด ตัดกิเลส
ดับต้นเหตุ ปวงเภทภัย
ดื่มเหล้า เมามักเพี้ยน
พาวิงเวียน เปลี่ยนนิสัย
หุนหัน จนบรรลัย
ลืมวินัย คล้ายวิกล
น้ำเมา เผาวิบัติ
รู้สกัด มิขัดสน
ระงับ ความอับจน
เป็นกุศล ดลทันใด
สุรา พาพินาศ
ใครประมาท ล้วนพลาดได้
เพลี่ยงพล้ำ จักช้ำใจ
ยากแก้ไข จงไตร่ตรอง
หลายคน ทนระกำ
เมรัยย่ำ ทำมัวหมอง
ตกต่ำ เพราะลำพอง
สูญเงินทอง พี่น้องเมิน
เตือนตัว ให้กลัวเกรง
สิ่งเส็งเคร็ง เร่งห่างเหิน
ทิ้งเหล้า เคยเมาเพลิน
ก่อนช้าเกิน ดำเนินพลัน
ชนะใด ไม่เท่าผล
ชนะตน กมลมั่น
หยุดเหล้า เท่าหยุดทัณฑ์
ยืดชีวัน นิรันตราย
12 กันยายน 2554 12:48 น.
สุนทรวิทย์
ฝนหยาด เป็นหยาดฝน
เป็นหยาดชล หล่นสู่หล้า
คิมหันต์ พลันอำลา
เมื่อพรรษา เวียนมาเยือน
ฟ้าครึ้ม กระหึ่มก้อง
เมฆคะนอง ร้องลั่นเลื่อน
ทิวไผ่ ไหวสะเทือน
แทบเขยื้อน เคลื่อนย้ายกอ
พายุ ดุฉกรรจ์
พัดเมามัน รันต้นอ้อ
อ้อน้อม ยอมลู่งอ
มิแข็งข้อ ก็พ้นภัย
ไม้ใหญ่ ไม่ประเมิน
ยืนเผชิญ เกินวิสัย
หาญกล้า กลับปราชัย
หักบรรลัย พ่ายแรงลม
หยาดฝน ดลให้คิด
ฝนมีฤทธิ์ ประสิทธิ์สม
หลายสิ่ง ยิ่งอุดม
บ้างสิล่ม ล้มจากไป
เปรียบผู้ รู้ผ่อนปรน
จึ่งเป็นคน เหนือคนได้
พวกทิฐิ มิยอมใคร
อาจวอดวาย ด้วยไพรี
ผจญ คนเกรี้ยวกราด
ร่วมวิวาท อาจป่นปี้
อดกลั้น หันถ้อยที
ผูกไมตรี ดีกว่าเอย