25 กันยายน 2554 14:23 น.

กระต่ายหมายจันทร์

สุนทรวิทย์

เดือนเพ็ญ  เด่นสกาว  พราวเจิดจ้า
				ผ่องโสภา  ชดช้อย  ยามคล้อยเคลื่อน
				ยั่วยวน  ชวนกระต่าย  มาหมายเดือน
				แล้วกลับเลือน  ลับไป  ในเมฆี
					
           เดือนอยู่สูง  เฉียดฟ้า  กว่ามุ่งหวัง
				กระต่ายยัง  งมงาย  มิหน่ายหนี
				สู้แหงนมอง  เวหา  ทุกราตรี
				ช่างภักดี  มีฝัน  อันเจาะจง
					
           นึกสมเพช  กระต่าย  คล้ายสิ้นคิด
				ชั่วชีวิต  มัวเมา  เขลาลุ่มหลง
				แต่เจ้าก็  แสนมานะ  ทระนง
				จิตมั่นคง  แน่วแน่  แม้ถูกเมิน
					
            ทบทวนดู  ตัวเรา  ยิ่งเขลากว่า
				เฝ้าบูชา  โฉมตรู  ผู้ห่างเหิน
				ทั้งที่จริง  จุดหมาย  ไกลเหลือเกิน
				แถมเผชิญ  ขวากหนาม  อีกครามครัน
					
            สำหรับคน  ตกหลุมรัก  มักไม่รู้
				ยอมปิดหู  ปิดตา  เยี่ยงอาถรรพ์
				ถึงหนทาง  รอบทิศ  ถูกปิดตัน
				คงดึงดัน  ฟันฝ่า  บ้าคลั่งไป				
25 กันยายน 2554 14:17 น.

กีฬาหรือทารุณ

สุนทรวิทย์

คนวางเบ็ด  ล่อปลา  มากินเหยื่อ
			        มัจฉาเชื่อ  อุบาย  หลงว่ายหา
			    ฮุบกลืนเบ็ด  โดยไม่-ได้ตรวจตรา
			จึงพลาดท่า  แพ้ภัย  ในทันใด
							
                 ปลาทุรน  ทุราย  ตายทุเรศ
						        ควรสมเพช  เวทนา  ก็หาไม่
						    กลับสนุก  สนาน  สำราญใจ
						ช่างกระไร  อำมหิต  จิตทารุณ
				
               อ้างกีฬา  เพื่อฆ่าสัตว์  ตัดชีวิต
			        นับเป็นมิจ-ฉาจาร  พาลสถุล
			    จมปลักใน  อจิตติ  นิรคุณ
			 เมินบาป,บุญ  ชั่ว,ดี  ที่สำแดง
							
                นักตกปลา  รายหนึ่ง  ซึ่งลูกห้า	 
         แต่เกิดมา  อัปภาคย์  ล้วนปากแหว่ง
       เหมือนรอยเบ็ด  คดเคี้ยว  เกี่ยวทิ่มแทง
					ค่อยแสยง  หลาบจำ  เมื่อกรรมทัน
				
                การจับปลา  ตามสัมมา-อาชีวะ
			        ผิดธรรมะ  นั้นก็  พอผ่อนผัน
			    ส่วนตกปลา  เพื่อสนุก  ทุกข์อนันต์
			  บาปมหันต์   วิปริต  ติดกมล
					
              		เลิกเบียดเบียน  ละเวร  หยุดเข่นฆ่า
						  นำปัญญา  ไตร่ตรอง  ผองเหตุผล
					  สร้างความดี  ชำระ  ชะล้างตน
					บุญกุศล  จึงเกิดก่อ  ต่อครอบครัว				
25 กันยายน 2554 13:21 น.

วุฒิภาวะชี้วัดคน

สุนทรวิทย์

อันวุฒิ-ภาวะ  ในมนุษย์
				มีต่ำสุด  สูงสุด  ดุจดำขาว
				หากจำแนก  เจาะจง  คงยืดยาว
				เพียงขอกล่าว  แต่ย่อ  พอเห็นนัย

					      คนใจสูง  มองอะไร  ในด้านบวก
				ไม่จ้วงจวก  อคติ  โดยวิสัย
				เห็นใครดี  ดีด้วย  ร่วมอวยชัย
				มิเป็นภัย  ต่อมิตร  เพราะจิตงาม

					     คนใจต่ำ  สันดาน  เป็นด้านลบ
				คิดเหมือนกบ  ในกะลา  น่าเหยียดหยาม
				วิปริต  ริษยา  คอยหาความ
				ดำเนินตาม  แก่นแท้  แต่ละคน

					    วุฒิภาวะ  ชี้วัด  จัดลำดับ
				ความมืดอับ  กับสว่าง  ต่างเหตุผล
				ต่างคนต่าง หนทาง  ต่างตัวตน
				แยกกุศล  ธรรมะ  กับอธรรม

					    สังคมไหน  สังคมนั้น  เป็นอันเห็น
				คนเยือกเย็น  เน้นภาวะ  อุปถัมภ์
				คนหยาบช้า  ถือภาวะ  สาระยำ
				สูงกับต่ำ  ปะปน  ทุกหนไป				
24 กันยายน 2554 13:38 น.

ระทมใต้ชมพู่

สุนทรวิทย์

ดึกดื่น  คืนไร้ดาว		
  	ฉันเหน็บหนาว  ปวดร้าวจิต
			วาบหวาม  ยามมืดมิด	
			ขาดคู่คิด  หงุดหงิดจัง

       				ใต้ร่ม  ชมพู่นี้			
  	น้องกับพี่  มีความหลัง
		 	ดูดดื่ม  ลืมหรือยัง		
 		สัมพันธ์ครั้ง  นั่งเคลียคลอ
	
       			จากไกล  ไปเหินห่าง	
 		นึกอ้างว้าง  บ้างไหมหนอ
			พี่ยัง  ตั้งตารอ			
 		พร่ำตัดพ้อ  ท้อทรวงใน
	
       			รำพึง  ถึงยอดชู้  
			โฉมพธู  เธออยู่ไหน
			ป่านนี้  คงมีใคร			
  	โลมลูบไล้  นอนใกล้เคียง
		
        		รักเอ๋ย  เคยหวานฉ่ำ	
 		ฝังจดจำ  ถ้อยน้ำเสียง
			ไฉน  กลายเอนเอียง			
  	ทำบ่ายเบี่ยง  เลี่ยงหลบไป
		
        		หลายปี  ที่ยืดเยื้อ		
  	พอมีเหลือ  เยื่อใยไหม
			ขุ่นเคือง  ด้วยเรื่องใด		
 		จึงเงียบหาย  ไร้ร่องรอย
	
     			ใต้ร่ม  ชมพู่เก่า		
 		พี่จับเจ่า  อย่างเหงาหงอย
			ทุกคืน  ทนฝืนคอย		
 		เปลี่ยวเศร้าสร้อย  แสนน้อยใจ				
24 กันยายน 2554 13:29 น.

รอ

สุนทรวิทย์

เทือกบรรพต  ทอดภู  อยู่เบื้องหน้า
สายธารา  พาดผ่าน  เกิดธารใส
วิหคบิน  เคียงคู่  สู่พงไพร
คนเหงาใจ  ยืนเดี่ยว  แสนเปลี่ยวจัง

           มองตะวัน  จนดับ  ลาลับฟ้า
ชลนา  หลั่งริน  สุดสิ้นหวัง
คนรักจร  จากไป  ไม่คืนรัง
ฉันก็ยัง  เฝ้ารอ  ทั้งท้อทรวง

           เย็นพระพาย  โลมลูบ  จูบกระทบ
เหลียวมิพบ  สามี  ที่แหนหวง
คำสัญญา  ก่อนเก่า  เขาหลอกลวง
กลายเป็นบ่วง   ชีวิต  พาจิตตรม

           รัตติกาล  คืบคลาน  ลาญหัวอก
น้ำค้างตก  ฉ่ำชื้น  ยิ่งขื่นขม
สะอื้นไห้  อ้างว้าง  กลางสายลม
ทุกข์ระทม  อ่อนล้า  ยามราตรี

           เงียบวังเวง  จืดชืด  เดือนมืดมิด
ทบทวนคิด  ถึงคืนวัน  อันสุขี
กระท่อมน้อย  ชายป่า  วนาลี
สองเรามี  ความหลัง  ครั้งผูกพัน

            หากเธอจำ  สัมพันธ์  ก่อนนั้นได้
กลับบ้านไร่  เถิดหนา  อย่าเหหัน
ลูกอยากเห็น  หน้าพ่อ  รอทุกวัน
มาปลอบขวัญ  ลูกรัก  สักครั้งเทอญ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์