2 กันยายน 2554 16:30 น.
สุนทรวิทย์
คนเรามี ดี,ร้าย หลายจำพวก
เหมือนใส่หมวก สวมโขน คนละสี
บางคนมุ่ง กระทำ แต่กรรมดี
บางคนเลว อัปรีย์ ชั่วชีวิต
บ้างอ่อนหวาน พูดจา น่าสดับ
ใจคอกลับ มืดดำ อำมหิต
มีสันดาน ศัตรู เยี่ยงงูพิษ
แฝงด้วยจิต ริษยา คอยหาความ
แนวบาป,บุญ วิถี ชี้ปรากฏ
ใครโป้ปด อย่างไร ไม่อาจห้าม
แต่เท็จจริง พฤติกรรม อันต่ำทราม
จะติดตาม พันพัว ชั่วชีวิน
ไปงานศพ ครั้งใด ใคร่ครวญเถิด
ทุกคนเกิด แก่,ตาย แล้ววายสิ้น
พึงเตือนตน เตือนใจ ไว้อาจิณ
ปวงมลทิน คือภาระ ถ่วงกระมล
โลกนี้มี ดี,ร้าย รอไขว่คว้า
ปรารถนา วัตถุ หรือกุศล
เลือกสิ่งใด สุดแท้ แต่ใจตน
ปุถุชน จำแนก แตกต่างกัน
2 กันยายน 2554 16:22 น.
สุนทรวิทย์
คลื่นหลัง ประดังโหม
ไล่จู่โจม โถมคลื่นหน้า
กลืนหาย ในธารา
งามท่วงท่า ทุกนาที
นีรชาติ ประหลาดล้ำ
เล่นฟ้อนรำ ระบำรี่
สายชล ขับดนตรี
ดุจกวี ร่ายลีลา
บรรเลง เพลงอรรณพ
กล่อมพิภพ สยบเวหา
ครืนครั่น พรรณนา
สุขหรรษา เป็นอาจิณ
คลื่นฉอก ระลอกริ้ว
แล่นลิ่วลิ่ว พลิ้วตามสินธุ์
เยื้องย่าง อย่างโยธิน
เพียงยลยิน ถวิลชม
งามใด ในแหล่งหล้า
มิโศภา สง่าสม
เกลียวคลื่น ครื้นระงม
เร้าอารมณ์ อาบพรหมาณฑ์
ห้วงน้ำ อมตะ
เปรียบวร ทิพย์สถาน
ขานขับ ชั่วกัปกาล
ดั่งวิญญาณ ธารประโลม
2 กันยายน 2554 16:16 น.
สุนทรวิทย์
ตอนพบจิ๋ม ครั้งแรก ฉันแตกตื่น
ได้แต่ยืน หน้าทู่ ชูคอแข็ง
จิ๋มกลับทำ ปั้นปึ่ง กึ่งคลางแคลง
คงระแวง ฉันมาก จึงจากไป
วันนี้จิ๋ม เยี่ยมหน้า มาอีกหน
ทำพิกล จนฉัน จิตหวั่นไหว
ลืมว่าควร วิสาสะ ประการใด
มัวกุมเป้า เกาไข่ มิไหวติง
อยากพบจิ๋ม สาวเจ้า ทุกเช้าสาย
แต่จิ๋มอาย สายตา ประสาหญิง
ครั้นเห็นฉัน งุ่นง่าน ปานกระทิง
เธอก็ยิ่ง หวงตัว กลัวฉันมอง
ฉันจึงต้อง เจาะรู แอบดูจิ๋ม
หลงกระหยิ่ม ลนลาน ถึงบ้านช่อง
ยามหน้ามืด ตาลาย ขาดไตร่ตรอง
เผลอไปเจาะ เอาห้อง ของพ่อเธอ
ไม่พบจิ๋ม นวลนาง ก็ช่างเถอะ
ดันมาเจอะ ดุ้นสาก ตำปากเจ่อ
ต้องแกล้งบ่น พึมพำ ทำละเมอ
โง่บ้าเซ่อ เยี่ยงนี้ มีแต่เรา
2 กันยายน 2554 16:04 น.
สุนทรวิทย์
คอหวย จับเจ่า เฝ้าแทงหวย
อยากรวย อยากมี หนีเหตุผล
เชื่อผี เชื่อเปรต เชื่อเวทมนตร์
ยิ่งจน ยิ่งจม ยิ่งงมงาย
สัมมา-อาชีพ มิรีบเร่ง
นั่งเล็ง ลัคนา แทนค้าขาย
เดาสุ่ม เดาส่ง หลงทำนาย
เลขท้าย บน,ล่าง พร่ำอ้างอิง
เจ้าพ่อ เจ้าแม่ แห่แซ่ซ้อง
บ้านช่อง ของขลัง ตั้งเต็มหิ้ง
โอมเพี้ยง เสียงทาย หมายพึ่งพิง
เลขวิ่ง เลขโดด โปรดสักตัว
ถูกกิน ทั้งปี หนี้เรี่ยราด
ถูกบาท สองบาท ประกาศทั่ว
เข้าเนื้อ เข้าหนัง ยังเมามัว
ครอบครัว คะมำ เพราะน้ำมือ
เที่ยวขูด เที่ยวค้น ยลเลขเด็ด
ดอกเห็ด ปลีกล้วย ช่วยได้หรือ
บนบาน-ศาลกล่าว ราวกระบือ
นับถือ ไม่เลือก ยันเผือก,มัน
คอหวย ฝันเฟื่อง เป็นเรื่องเศร้า
ใช่เล่า กระทบ เพื่อขบขัน
เพียงแนะ คนเขลา ให้เท่าทัน
สำคัญ เขาเชื่อ หรือเบื่อฟัง
2 กันยายน 2554 14:12 น.
สุนทรวิทย์
สายัณห์ ตะวันรอน ทินกร เริ่มอ่อนแสง
เวหา คราเปลี่ยนแปลง ทั่วหนแห่ง แดงอำไพ
นที นีรจร อรชร อ้อนหลงใหล
รวงข้าว ยาวแกว่งไกว พลิ้วไสว ไผททอง
เมฆินทร์ บินขับเคลื่อน ลมว่าวเยือน เดือนสิบสอง
ทุ่งเหลือง เรียงเรืองรอง ยินเสียงร้อง เพลงก้องมา
สำเริง เซิ้งสำราญ ฤดูกาล งานหรรษา
กสิกร ฟ้อนเฮฮา เก็บเกี่ยวนา ปลื้มอานันท์
สนุก ลืมทุกข์สิ้น ลืมหนี้สิน คำหมิ่นหยัน
ควงเคียว เกี่ยวข้าวกัน เชื่อมสัมพันธ์ ปันไมตรี
หนุ่ม,สาว เล่นกราวเกรียว ขับเพลงเกี้ยว พาราสี
เหน็ดเหนื่อย เมื่อยขวบปี สุขเปรมปรีดิ์ มิกี่วัน
ชาวนาเปรียบ เทียบสันหลัง คือพลัง กำลังขวัญ
ใครหนอ จ้อจำนรรจ์ ช่างเสกสรร ปั้นเล่ห์กล
ที่แท้ พ่อ,แม่เอ๋ย กว่างอกเงย เชยพืชผล
ตราตรำ แทบจำนน สาละวน ทนดักดาน
ลำเค็ญ เช่นยาจก ช้ำหัวอก ตกลูก,หลาน
วิบาก ยากนมนาน ไร้ผู้หาญ ขานดับไฟ
เชิญเถิด เชิญร้องรำ หยุดชอกช้ำ ทำหวั่นไหว
ชีวี ที่คลาไคล บทสุดท้าย ตายเหมือนกัน