30 สิงหาคม 2554 18:18 น.
สุนทรวิทย์
จันทร์ฉาย ส่องพรายพราว
เด่นสกาว ขาวสุกใส
นภา อ่าอำไพ
แสงเรืองไร ไฉไลพลัน
เพริศแพร้ว วาวแวววับ
แทรกซึมซับ ประทับฝัน
นิศา วิลาวัณย์
เพียงบุหลัน นั้นแย้มเยือน
หนึ่งโสม ประโลมหล้า
หมื่นดารา อย่าหมายเหมือน
ดาวใด ไหนเทียมเดือน
ยามคลาเคลื่อน เตือนราตรี
ศศี มณีรัตน์
เจิดจรัส รัศมี
ชดช้อย ลอยเมฆี
รชนี นี้อำพน
คืนเพ็ญ เห็นกระจ่าง
แขศุภางค์ กลางเวหน
ทอดเงา เคล้าสายชล
ฉาบภูดล ดุจมนตรา
อินทุ งามรุจิ
ชวนปีติ สิเนหา
คู่ขวัญ อันธิกา
ดวงจันทรา ข้าชื่นชม
30 สิงหาคม 2554 17:46 น.
สุนทรวิทย์
คุณจู๋มอง คุณจิ๋ม แล้วยิ้มทัก
งานคงหนัก สิท่า หน้าจึงย่น
มีภาระ อันใด ให้กังวล
ไยต้องทน เหนื่อยอ่อน ทุกค่อนคืน
จิ๋มแลบลิ้น ออดอ้อน ก่อนตอบจู๋
ที่จิ๋มสู้ ลำบาก ใช่อยากฝืน
ด้วยเห็นจู๋ ตรากตรำ ยังกล้ำกลืน
จึงหยิบยื่น อีกแรง เพื่อแบ่งเบา
ยามเห็นจู๋ หมดกำลัง นั่งคอห้อย
จิ๋มก็พลอย หงอยเซียว แฟบเหี่ยวเฉา
ถ้าเราไม่ ก่อร่าง สร้างตัวเรา
คงต้องเศร้า หดหู่ เที่ยวกู้ยืม
น้ำใจจิ๋ม ท่วมท้น ล้นทรวงอก
จู๋ผงก หัวงึกงึก นึกปลาบปลื้ม
วาจาจิ๋ม หวานหู มิรู้ลืม
ปานได้ดื่ม ได้ด่ำ น้ำทิพย์เชียว
จิ๋มยืนผัด หอยลาย ขายโต้รุ่ง
จู๋ก็มุ่ง ขายถั่วดำ ทำถั่วเขียว
สองคนต่าง ขะมักเขม้น ตัวเป็นเกลียว
จิ๋มเลยเหี่ยว จู๋เลยหด เพราะอดนอน
30 สิงหาคม 2554 14:48 น.
สุนทรวิทย์
ตะวันทอ แสงทอง สาดส่องฟ้า
กลิ่นอุษา จรุง ยามรุ่งสาง
นคินทร ชุ่มฉ่ำ อิ่มน้ำค้าง
คคนางค์ ปลอดโปร่ง โล่งอำไพ
วิหคเหิน เริงร่า ถลาร่อน
นภจร โฉบเฉี่ยว เลี้ยวไถล
ไก่แก้วขัน คะนอง กึกก้องไพร
ฟังจับใจ กังวาน สะท้านดอย
ม่านน้ำตก พรั่งพรู เสียงซู่ซ่า
โถมดิ่งมา กระเซ็น แตกเป็นฝอย
แล้วลัดเลาะ เซาะแก่ง แบ่งซอกซอย
ไหลชดช้อย ร้อยป่า วนาลัย
บังเกิดห้วย แอ่งสระ หนองละหาน
มองลำธาร เห็นหมู่ปลา ชลาศัย
ผลุบโผล่ทัก สุริยะ อโณทัย
อภินัย ว่ายแหวก แทรกคงคา
จระเข้ ลอยปริ่ม ริมตลิ่ง
ทำแน่นิ่ง รอเหยื่อ เนื้อมังสา
แฝงแววเหี้ยม อำมหิต ติดกายา
แผ่ศักดา ครอบครอง จองสายชล
โขลงกุญชร ลุยย่ำ หักลำไผ่
กินต้นใบ ไม่ยั้ง ทั้งพืชผล
กระทิงเปลี่ยว เกี้ยวพา สาละวน
โกลาหล ฝุ่นตลบ กลบฝูงโค
งูเขียวซุ่ม พรางตน บนกิ่งไม้
เตรียมฉกใส่ กิ้งก่า ท่ายโส
กระต่ายขุด อุโมงค์ โพรงใต้โพธิ์
เงือกหัวโต จับจ้อง มองรังแตน
โน่นชะนี ลิงค่าง บ่างตัวเขื่อง
กวางย่างเยื้อง ลีลา สง่าแสน
มยุรา กรีดกราย หมายรำแพน
อย่างเมืองแมน สวรรค์ ชั้นเทวา
สัญจรทาง คดเคี้ยว ชมเหลียวหลัง
ชูสะพรั่ง อบอวล มวลบุปผา
หอมอื่นใด ไหนเยี่ยม เทียมสุมนา
ดงผกา เปรียบแม้น แดนพิมาน
ศีขริน พนันดร ซ่อนชีวิต
นฤมิต ปรุงแต่ง แหล่งอาหาร
แทนสายใย ห่วงโซ่ แต่โบราณ
ดลบันดาล ดินอุดม น้ำสมบูรณ์
ธรรมชาติ สร้างคุณค่า พนาสณฑ์
นิรมล ดำรงอยู่ มิรู้สูญ
ถึงนคเรศ เขตคาม งามจรูญ
ใช่เกื้อกูล บริสุทธิ์ ดุจพงพี
30 สิงหาคม 2554 12:52 น.
สุนทรวิทย์
ความรักเปรียบ น้ำผึ้ง กึ่งมะระ
หวานขมจะ ปะปน พาคนหลง
วันนี้สุข พรุ่งนี้ขื่น มะรืนทรง
ฉะนั้นจง สังวร ก่อนริรัก
มิมีใคร ในปฐพี นี้ดีพร้อม
หัดรอมชอม เหนียวแน่น แทนแตกหัก
นำใจเขา ใส่ใจเรา เข้าฟูมฟัก
ปัญหาหนัก จักทุเลา จนเบาบาง
อย่ารีบด่วน มอบใจ แก่ใครหมด
ควรออมอด ส่วนหนึ่ง ตรึงไว้บ้าง
เกิดเรือรัก ปุบปับ ล่มอับปาง
ยังเหลือทาง รองรับ ซับแผลใจ
การพบพาน อุปสรรค ใช่หนักหนา
เร่งเยียวยา ปรับปรุง มุ่งแก้ไข
จะสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ช่างปะไร
ดีกว่าไม่ รู้จัก รสรักเลย
อกหัก สักกี่ครั้ง ยังยิ้มได้
พอนานไป คุ้นเคย ก็เฉยเฉย
บางคู่เหมือน จนตรอก สิ้นงอกเงย
กลับลงเอย มั่นเหมาะ เพราะรักจริง
29 สิงหาคม 2554 19:35 น.
สุนทรวิทย์
แม่จ๋า หนูท้องกิ่ว แสนหิวข้าว
หนาวก็หนาว กายา ขาดผ้าห่ม
น้องงอแง ตัวร้อน นอนไข้ซม
แม่ซื้อนม อยู่ไหน ถึงไม่มา
เสียงเด็กน้อย กำพร้าพ่อ เฝ้ารอแม่
ฟังท้อแท้ กินใจ ไร้เดียงสา
ร่ำรำพัน ชวนสมเพช เวทนา
อนาถา อาศัย ใต้สะพาน
อนิจจา น้องหนู ผู้อาภัพ
รอแม่กลับ อาทร ป้อนอาหาร
มิรู้ว่า แม่ย่อยยับ ดับวายปราณ
ถูกสังหาร เชือดเถือ เมื่อค่ำคืน
เขาจับได้ ฆาตกร ชายจรจัด
มันตอบชัด รับทำร้าย หมายข่มขืน
โอ้ร่มโพธิ์ ลูกรัก พลันหักครืน
ต่อนี้คง ยิ่งขมขื่น ทุกคืนวัน
เสียงมวลชน วิจารณ์ ผ่านหน้าสื่อ
ให้เร่งมือ ลงอาญา ถึงอาสัญ
แต่มีผู้ เรียกร้อง เข้าป้องกัน
ขอลดทัณฑ์ บรรเทา เจ้าเดนตาย
ยก มนุษยธรรม นำกล่าวอ้าง
ช่วยแก้ต่าง ช่ำชอง ช่องกฎหมาย
เชิดหน้าอวด อารยะ ลืมละอาย
ความโหดร้าย มองเห็น เป็นเรื่องรอง
เหมือนส่งเสริม คนชั่ว เพื่อตัวเด่น
เมินกรรมเวร สิ้นคิด จิตบกพร่อง
ทีคนถูก ประทุษร้าย มากก่ายกอง
ไยไม่ไป ปกป้อง ลองถามใจ