20 พฤศจิกายน 2554 12:07 น.
สุนทรวิทย์
มาพบ นงพะงา หน้าจิ้มลิ้ม
เอิบอิ่ม โสภา ราศีจับ
แย้มยิ้ม ระรื่น ยืนต้อนรับ
หน้าผับ ชื่อดัง โดยบังเอิญ
สัพยอก หยอกล้อ ต่อกระซิก
กุ๊กกิ๊ก สัมผัส มิขัดเขิน
ถูกเนื้อ ต้องตัว มั่วกันเพลิน
ก่อนเดิน เกาะเกี่ยว เลี้ยวขึ้นรถ
ขับเข้า โมเต็ล อย่างเร็วจี๋
ดันไม่มี ห้องว่าง ต่างเต็มหมด
บุญมี กรรมบัง นั่งรันทด
เหลืออด สุดห้าม ความกลัดมัน
วนหา ซอยซอก ตรอกเร้นลับ
หมายดับ เชื้อกาม ยามคับขัน
ไม่พบ ที่เหมาะ พอเพาะพันธุ์
อัดอั้น เก็บกด หดหู่ใจ
ถึงใต้ ทางด่วน แสนป่วนจิต
พินิจ ตรวจตรา ว่าพอไหว
เอาละหวา ยามนี้ มิมีใคร
รีบดับไฟ บรรเลง เพลงตะลุง
พึ่งเบาะหลัง ราวี ถึงตีห้า
พอเงยหน้า ขึ้นมอง ต้องสะดุ้ง
ร้องไอ้หยา รอบกาย ล้วนไทยมุง
ชุมกว่ายุง ดูเราโชว์ โอ้.....มายก๊อด
20 พฤศจิกายน 2554 11:32 น.
สุนทรวิทย์
สิ่งหนึ่งซึ่ง มนุษย์ ยากหลุดพ้น
คือผจญ เคี่ยวขับ กับปัญหา
เวียนว่ายใน ปรมัตถ์ ปรัชญา
ตามมรรคา วิถี อันจีรัง
จักผู้ดี เลว,ไพร่ ต้องได้พบ
หมายสงบ ครบครัน นั้นอย่าหวัง
มีคนรัก ชอบพอ ก็มีชัง
สุดยับยั้ง ท้วงติง สิ่งทั้งมวล
ยามประสบ ปัญหา อย่าทิฐิ
ใช้สติ ชี้นำ แทนกำสรวล
เรื่องว่ายาก เผชิญ เกินคำนวณ
อาจผันผวน จากร้าย กลายเป็นดี
ตราบจำอยู่ กับปัญหา จงอย่าทุกข์
ถึงล้มลุก คลุกคลาน ซานป่นปี้
ให้ถือเป็น ครรลอง ของโลกีย์
สรรพชีวี ทั่วถ้วน ล้วนลำเค็ญ
ผองชีวิต มินาน ก็ผ่านพ้น
เลิกกังวล ยึดแน่น จนแสนเข็ญ
ทุกปัญหา แก้ได้ ใช่ยากเย็น
ควรมองเป็น เรื่องจ้อย แล้วปล่อยวาง
19 พฤศจิกายน 2554 13:09 น.
สุนทรวิทย์
หนูอยากเป็น หมอใหญ่ เมื่อภายหน้า
เพื่อรักษา เอ็นดู ผู้ป่วยไข้
ช่วยเหลือคน ทุกข์โศก ด้วยโรคภัย
ยึดมั่นใน เมตตา จรรยาบรรณ
วาจาน่า ยกย่อง ของเด็กน้อย
ฟังแล้วพลอย นิยม ชมสร้างสรรค์
ขอให้หนู สมหวัง ดังจำนรรจ์
ได้แบ่งปัน มุทิตา เอื้ออาทร
เขาเป็นหมอ สมใจ ในวันนี้
แต่ไม่มี ความคิด จิตเช่นก่อน
อุดมการณ์ สูญหาย คลายสังวร
สวมคราบ วณิชชากร มุ่งถอนทุน
สังคมเปลี่ยน คนเปลี่ยน ต่างเลียนแบบ
ใจคับแคบ แข่งขัน กันหัวหมุน
ปณิธาน สลาย กลายเป็นจุณ
หลงหมกมุ่น เพลิดเพลิน แต่เงินตรา
เมื่อวัตถุ ครอบงำ ชี้นำได้
คนจึงไร้ หิริ กิเลสหนา
ต่างคนต่าง ปลาบปลื้ม ลืมจรรยา
หันบูชา รูปธรรม ความร่ำรวย
19 พฤศจิกายน 2554 12:53 น.
สุนทรวิทย์
คนดี ไม่ทำชั่ว
คนชั่ว ไม่ทำดี
พังเพย เอ่ยเข้าที
ถ้อยวจี นี้ถาวร
จริงแท้ แต่เก่ากาล
คำโบราณ ขานสั่งสอน
ชมหนัง ฟังละคร
แล้วสะท้อน ย้อนดูตน
ทำดี มิมีสูญ
ยิ่งไพบูลย์ จรูญผล
ไปไหน ไม่อับจน
เพราะกุศล ดลค้ำชู
ทำชั่ว กลั้วมลทิน
คนติฉิน หมิ่นลบหลู่
อุบัติ เพิ่มศัตรู
ถึงเฟื่องฟู ใช่อยู่ทน
ดี,ชั่ว ตัวเลือกได้
เพียงแต่ใจ ไม่สับสน
วิถี ที่ผจญ
เราเป็นคน เฟ้นหนทาง
บุญ,กรรม พึงจำแนก
สองสิ่งแผก แสนแตกต่าง
ชีวัน อันบอบบาง
ตกหลุมพราง อาจวางวาย
ละทิ้ง สิ่งเสื่อมทราม
รู้จักปราม ความกระหาย
ขันติ มิงมงาย
แยกดี,ร้าย แบ่งฝ่ายกัน
ทำได้ ดั่งใจคิด
หนุนชีวิต จิตสุขสันต์
บุญป้อง สนองพลัน
แทนรางวัล ปันคนดี
19 พฤศจิกายน 2554 12:28 น.
สุนทรวิทย์
เห็นแม่ม่าย ลูกติด เป็นคิดลึก
พลันรู้สึก คึกคัก เกินหักห้าม
เลือดลมแล่น ปั่นป่วน อยากลวนลาม
พยายาม เกาะแกะ แวะทักทาย
ส่วนสาวสาว เนื้อหนั่น ฉันไม่สน
ชอบเหี่ยวย่น เหงอะหงำ ซ้ำเป็นม่าย
ที่สำคัญ นวลน้อง ต้องท้องลาย
มีผมหงอก ประปราย ได้ยิ่งดี
มีลูกติด กี่คน จะทนเลี้ยง
มิลำเอียง เบี่ยงบ่าย หมายหลบหนี
สิ่งเดียวห้าม หนักหนา คือสามี
ห้ามถ้อยที แอบฟื้น คืนสัมพันธ์
สตรีใด งดงาม ตามสเปค
หยุดทำเก๊ก หรือเห็น เป็นเรื่องขัน
โอกาสดี มาถึง อย่าดึงดัน
ติดต่อฉัน ทันใด ไม่เชือนแช
จะรุ่นย่า รุ่นยาย ล้วนไม่เกี่ยง
ถึงอมเมี่ยง กินหมาก ปากแดงแจ๋
ฉันก็พร้อม ครองคู่ หมั่นดูแล
มิผันแปร เป็นอื่น สักคืนเดียว
แต่กลางวัน ไม่แน่ อาจแหลบ้าง
ทำแก้ว่าง ปล่อยแ่ แค่ประเดี๋ยว
ขอน้องจง เปิดทาง อย่าขวางเชียว
คนมันเรี่ยว แรงมาก ยากห้ามใจ