27 พฤศจิกายน 2554 09:50 น.
สุนทรวิทย์
ชีวิตเปรียบ ละคร แค่ตอนหนึ่ง
รวมไว้ซึ่ง สารพัน หลากปัญหา
มีรอยยิ้ม อิ่มพี ยามปรีดา
มีน้ำตา ไหลย้อย คอยหลั่งริน
มีเงินตรา ฐานะ เป็นพระเอก
สามารถเสก เรียกชิง สิ่งถวิล
มีอิจฉา ริษยา กันอาจิณ
มีเสียงหมิ่น ขอดค่อน ตอนล้มลง
มีความจน เป็นผู้ร้าย ทำลายทั่ว
น่าหวาดกลัว อำมหิต มากพิษสง
ตัวตลก นั้นคือ คนซื่อตรง
ซึ่งมั่นคง สุจริต ไร้พิษภัย
ละครจบ ชีพจบ ลบเลือนสิ้น
ทิ้งทรัพย์สิน สมบัติ อัชฌาสัย
หมดกิเลส ตัณหา ชีวาลัย
กฎโลกัย กำกับ ต่างรับรู้
ปวงวัตถุ คือซาก ฉากประกอบ
กลับชื่นชอบ ยื้อแย่ง แข่งอดสู
มาแต่ตัว ไปแต่ตัว ชั่วฤดู
สยุมภู เป็นไป ในกฎเกณฑ์
26 พฤศจิกายน 2554 13:50 น.
สุนทรวิทย์
คนมีความ เกรงใจ ใครก็รัก
สังคมมัก โจษจัน กล่าวสรรเสริญ
ถึงตกน้ำ ตกไฟ ไม่ยับเยิน
กลับจำเริญ สงบ สุขครบครัน
ความเกรงใจ บันดล ผลต่อเนื่อง
ช่วยประเทือง นำตน พ้นขับขัน
ยามขัดข้อง มีทุกข์ อุกฉกรรจ์
อาจพลิกผัน ปุบปับ กลับเป็นดี
เกรงใจเขา เขาเกรงตอบ ผลัดนอบนบ
ต่างเคารพ ต่อกัน สรรค์วิถี
การใช้ความ เกรงใจ ซื้อไมตรี
เป็นความมี น้ำใจ แบบไทยไทย
เพียงคำว่า ไม่เป็นไร เกรงใจครับ
ผู้สดับ ย่อมรู้สึก นึกเลื่อมใส
คำง่ายง่าย อย่าเกี่ยง เพียงพูดไป
ผลที่ได้ กับตน ล้นอนันต์
คนขาดความ เกรงใจ ใครก็เกลียด
เขาเปรียบตัว เสนียด น่าเหยียดหยัน
ญาติมิตรต่าง ห่างเหิน เมินสัมพันธ์
ต้องตีบตัน อับจน เพราะตนเอง
26 พฤศจิกายน 2554 13:32 น.
สุนทรวิทย์
สายสวาท ขาดแล้ว ฤาแก้วเอ๋ย
จึงเงียบเฉย ไร้ข่าว-คราวสักหน
รู้หรือไม่ ใครเขา เศร้ากมล
คิดถึงคน เฝ้ารอ ไหมหนอเออ
เคยเคียงคู่ เกลียวกลม สุขสมหวัง
ภาพความหลัง ครั้งหยอก หลอกยามเผลอ
ยิ้มหัวร่อ ต่อกัน ฉันกับเธอ
ผลัดปรนเปรอ อบอุ่น มิขุ่นใจ
แต่วันนี้ ขาดนุช สุดที่รัก
น้องลืมตัก นอนคุ้น หนุนหลับใหล
เปลี่ยนหมางเมิน เหินห่าง ลาร้างไป
ด่วนตัดใย สิ้นเยื่อ เคยเกื้อกูล
เที่ยวตามหา ขวัญตา จนล้าอ่อน
โฉมบังอร หลบกาย หายสาบสูญ
ห่วงหนักหนา โศกา แสนอาดูร
เจ็บพอกพูน ทั้งทิวา และราตรี
อยากถามเดือน ถามดาว พราวพร่างฟ้า
คนรักข้า มีทุกข์ หรือสุขศรี
พักอยู่แห่ง หนใด ในธาตรี
ฝากวจี ชอกช้ำ เพื่อย้ำเตือน
วอนสายลม ส่งข่าว ถึงสาวน้อย
ฉันยังคอย ณ.เคหา มิคลาเคลื่อน
หวังวันหนึ่ง อนงค์ คงกลับเรือน
รอน้องเยือน คืนมา ด้วยอาลัย
26 พฤศจิกายน 2554 12:25 น.
สุนทรวิทย์
อัมพรพราว ดาวพราย ฉายแวววับ
ดื่นประดับ นับล้าน ตระการสรวง
เดือนลอยเด่น เห็นเดี่ยว มาเดียวดวง
สกาวช่วง ห้วงฟ้า เหนือดารา
กี่ล้านกุล-สตรี โสภีล้ำ
น่าจดจำ ปีติ สิเนหา
ไหนจะเทียม หนึ่งนาง วรางคณา
สุชาดา ผู้เลิศ ประเสริฐครัน
ให้ดาวเดือน เลือนหาย มลายสิ้น
ธรณิน โศกา เกิดอาถรรพ์
เมฆพยศ บดบัง รังสิมันตุ์
ไม่โศกศัลย์ อนาถ เท่าขาดเธอ
นงคราญทั่ว ปฐพี ที่งามงด
มิปรากฏ นางใด ไหนเสมอ
หญิงเดียวฉัน ฝันใฝ่ หมายปรนเปรอ
คนที่เจอ แล้วหลง พลันงงงัน
ขาดทรัพย์สิน เงินทอง ของมีค่า
ไม่นำพา อาทร พอผ่อนผัน
ขาดพธู คู่เคียง เพียงหนึ่งวัน
หัวใจฉัน อ้างว้าง แทบวางวาย
25 พฤศจิกายน 2554 11:38 น.
สุนทรวิทย์
มีข่าวลือ โจษจัน กันผิดผิด
กล่าวหา สุนทรวิทย์ หมดพิษสง
กลัวเมียยิ่ง กว่าแม่ แฉตรงตรง
ฟังแล้วงง น่าขัน ฉันไม่เคย
เรื่องซักผ้า ถูบ้าน งานแก้ว่าง
ออกแรงบ้าง ดีกว่า อยู่ชาเฉย
ไยเพื่อนนำ ออกป่าว กล่าวเปรียบเปรย
เที่ยวเปิดเผย ต่อความ ลามเหมือนไฟ
เรื่องกราบเมีย เช้า,เย็น เป็นเรื่องโจ๊ก
ถูกสับโขก ทุบตี มีที่ไหน
ฉันเป็นช้าง เท้าหน้า อาชาไนย
เมียรับใช้ ไม่ห่าง อยู่ข้างเคียง
ยามฉันออก คำสั่ง ต้องนั่งรับ
ห้ามขยับ หมดสิทธิ์ คิดถกเถียง
ขืนบังอาจ สบตา เตะคาเตียง
ห้ามบ่ายเบี่ยง เกี่ยงงอน แม้ตอนใด
เรื่องของเมีย พูดไป สองไพเบี้ย
มิต้องเคลียร์ หรอกหนา ว่าใครใหญ่
แต่วาทะ พจี ที่พูดไป
โปรดจำไว้ ขอร้อง อย่าฟ้องเมีย