7 ตุลาคม 2554 13:00 น.

ขันแข็งแข่งเวลา

สุนทรวิทย์

อุษา  นภาผ่อง				
   รวีส่อง  ครองเวหน
			สว่าง  จ่างมณฑล				
   ธราดล  ยลไฉไล
			
            	ผิวธาร  ปานกระจก		
  	เขียวดังหยก  ปกอำไพ
			เทือกภู  คู่พงไพร			
  	นอนทอดกาย  ก่ายสาคร
		
       	   	ลมโบก  โกรกชายเขา		
  	พัดความเศร้า  เหงาจากจร
			รุ่งแจ้ง  แสงศุภร		
 		มธุกร  บินว่อนรัง
	
    		   	ตื่นเถิด  เกิดเป็นคน	
 		ปลุกกมล  ดลความหวัง
			มานะ  เติมพลัง			
  	งานคับคั่ง  ยังรอคอย
		
    	   	อย่าให้  อายนกกา	
 		รู้นำพา  หาใช้สอย
			ชีวัน  อันเคลื่อนคล้อย	
			ย่อมลดน้อย  ถอยตามวัย

  			   	ยรรยง  ทะนงสู้			
   ชิงก้าวสู่  ประตูชัย
			สติ  เตือนวินัย			
 		หลอมฤทัย  ใฝ่ความเพียร
	
  		   	ทุกนาที  หนีผ่านไป	
 		ดุจเปลวไฟ  ไหม้ลามเทียน
			ขับเคลื่อน  เหมือนกงเกวียน	
 		หมุนวนเวียน  เปลี่ยนตามกาล
	
 		   	อยู่ร้อยปี  ใช่ดีล้น		
  	หากอับจน  ไร้ผลงาน
			แก่เฒ่า  แต่เขลาการ			
  	ไหนจะทาน  ผู้ชาญชน
		
   	   	ขันแข็ง  แข่งเวลา		
  	ก้าวนำหน้า  ภา สธน
			เลื่องชื่อ  ลือสกล		
 		สร้างมรรคผล  ต่อตนเอง				
7 ตุลาคม 2554 12:32 น.

อยากมีเมียครับอยากมีเมีย

สุนทรวิทย์

ฉันเหมือนคน  เจ็บจม  ในคมมีด
			ถูกอดีต  กรีดย้ำ  ทำเสียเข็ด
			รักหนแรก  เพลี่ยงพล้ำ  น้ำตาเล็ด
			สร้างสะเก็ด  บาดแผล  แก่ชีวิต

						    อยากลองใหม่  อีกครั้ง  ยังมิกล้า
					ห่วงพะว้า-ภวังค์  เกรงพลั้งผิด
					แอบรักใคร  ชอบใคร  ได้แต่คิด
					แล้วปกปิด  ซุกงำ  ทำเฉยเมย

				     กาลเวลา  ล่วงไป  วัยก็เพิ่ม
			หัวใจเริ่ม  เหว่ว้า  จึงกล้าเผย
			อยากมีหญิง  ร่วมเรือน  เพื่อนคู่เชย
			ไว้ก่ายเกย  กกกอด  จอดพักใจ
		
						 จึ่งสำแดง  แจ้งตาม  ความประสงค์
					มีอนงค์  อ้างว้าง  สักนางไหม
					ที่ครองโสด  พอเหลือ  เศษเยื่อใย
					ตัวฉันใคร่  สนิท  คิดร่วมทาง

				    ชายวัยทอง  ผู้นี้  มีแต่ให้
			หากรักใคร  รักจริง  ไม่ทิ้งขว้าง
			สัญญาจัก  เหลียวแล  แต่น้องนาง
			มิเหินห่าง  ร้างไกล  ให้โศกา

						สตรีใด  ยังโสด  โปรดพินิจ
					สุนทรวิทย์  จดจ่อ  เฝ้ารอหา
					พบหน้าเกิด  พันผูก  ถูกชะตา
					ขอวิวาห์  ทันที  วันนี้เลย				
7 ตุลาคม 2554 10:50 น.

นางแก้ว

สุนทรวิทย์

ฉันได้สิ่ง  ล้ำค่า  มหาศาล
   ฟ้าประทาน  ศุภางค์  นางอิตถี
			ดวงสมร  ละมุน  กุลสตรี
			ให้ฉันมี  ยอดพธู  คู่ชีวิต
				
             ชาติก่อนคง  สร้างกุศล  ผลบุญหนัก
			เทพประจักษ์  จึงอุ้มสม  พรหมลิขิต
			เสกนงคราญ  ประเสริฐ  เลิศสัมฤทธิ์
			นฤมิต  นำพา  มาเกื้อกูล
				
             ดุจมณี  แวววาว  พราวคับโลก
			ดับทุกข์โศก  สลาย  มลายสูญ
			ดั่งโคมทอง  ส่องสว่าง  ทางจรูญ
			ควรเทิดทูน  ยิ่งแล้ว  ดังแก้วตา
				
            ทรัพย์สมบัติ  ใดใด  ในพิภพ
			รวมบรรจบ  ประดัง  ยังน้อยค่า
			มิเทียมหนึ่ง  ส่วนล้าน  เปรียบกานดา
			ภริยา  สุดรัก  สุดภักดี
				
            แม้โฉมงาม  โฉมเด่น  เห็นทั่วหล้า
			ยังด้อยกว่า  วรางคณา  มารศรี
			สิ้นตะวัน  สิ้นนภา  ธาษตรี
			ไม่สิ้นความ  รักพี่  ที่มอบเธอ				
6 ตุลาคม 2554 11:42 น.

ขันหมากมาแล้วจ้า

สุนทรวิทย์

มาละเหวย  มาละวา			
   เสียงเฮฮา  มาพลุกพล่าน
			ขันหมาก  หลากโอฬาร		
  	เยือนถึงบ้าน  แล้วกานดา
		
        		แหวนเพชร  เม็ดเท่าไข่		
  	น้องเตรียมใส่  ได้เลยหนา
			ถึงแม้  แค่ไข่ปลา		
 		ก็มีค่า  อย่าน้อยใจ
	
      			ทองแท่ง  จัดแจงพร้อม		
   มิแปลกปลอม  หลอมใหม่ใหม่
			สีลอก  ออกวันใด		
 		ยอมชดใช้  ให้แม่คุณ
	
     			เรือนหอ  รออีกนิด		
  	เลิกหงุดหงิด  คิดเฉียวฉุน
			ยานนี้  พี่กักตุน				
  	ช้อนซื้อหุ้น  หมุนไม่ทัน
		
       		ยืนยัน  แม้ฟันหลอ			
   เตี้ยม่อต้อ  ก็แข็งขัน
			หญิงใด  ได้ผูกพัน		
 		จะเพ้อฝัน  ทุกวัน,คืน
	
      			พ่อตา  หน้างอง้ำ	
  		ยืนระกำ  ช้ำขมขื่น
		 	แม่ยาย  คล้ายกล้ำกลืน		
  		แกล้งชื่นมื่น  ฝืนท่าที
		
       		พ่อตา  แม่ยายเอ๋ย	
  		อย่าชังเลย  เขยตระหนี่
		 	เขยน่ะ  ขยันดี					
    หลานคงถี่  ไม่มีขาดทุน				
6 ตุลาคม 2554 11:36 น.

กตัญญู

สุนทรวิทย์

กตัญญู  สามคำ  จำง่ายง่าย
			        แต่ความหมาย  หนักแน่น  แสนไพศาล
			    สิ่งสำคัญ  ห้ามปล่อยปละ  หกประการ
			เพื่อสร้างฐาน  สถิต  ในจิตใจ
								
              ประเสริฐสุด  แรกหรือ  คือพ่อ,แม่
						 ท่านเผื่อแผ่  การุญ  คุณยิ่งใหญ่
				 ควรบูชา  อาทร  ก่อนสิ่งใด
		จงห่วงใย  กตเวที  ยิ่งชีวัน
				
              อันสถาน  แผ่นดิน  ถิ่นกำเนิด
			        จงทูนเทิด  ธารณา  ตราบอาสัญ
			    ยามศัตรู  รุกราน  หาญป้องกัน
			พร้อมประจัญ  พิทักษ์  รักษาแดน
								
             ศาสนา  เปรียบที่พึ่ง  พึงกราบไหว้
					  ไม่ยอมให้  ใครจาบจ้วง  ด้วยหวงแหน
					เดินตามพระ  คำสอน  มิคลอนแคลน
			เชื่อแบบแผน  คติ  ธรรมวินัย
			
             	เจ้าเหนือหัว  คือกษัตริย์  ขัตติยะ
			        ทรงเป็นพระ  ประมุข  ทุกยุคสมัย
			    เป็นมิ่งขวัญ  อาณาจักร  เป็นหลักชัย
			มอบฤทัย  จงรัก  พร้อมภักดี
								
               รู้จดจำ  เคารพครู  ผู้สอนสั่ง
							รำลึกครั้ง  ท่านเมตตา  กรำหน้าที่
					 ถึงอำลา  จากไกล  ไปกี่ปี
				คงชุลี  เสมอ  มิเผลอตน
				
               อีกบรรดา  ผู้เอื้อเฟื้อ  เคยเกื้อหนุน
			        รีบแทนคุณ  นำพา  อย่าตกหล่น
			    สนองตอบ  นอบนบ  ให้ครบคน
			บุญกุศล  ย่อมสะท้อน  ย้อนกลับคืน
								
               แม้นมีหก  กตัญญู  อยู่ครันครบ
							   ถือขนบ  ปฏิบัติ  มิขัดขืน
							 ความดีจะ  บันดล  ผลยั่งยืน
					สุขราบรื่น  เมื่อยึดมั่น  กตัญญู				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์