30 ตุลาคม 2554 10:13 น.
สุนทรวิทย์
น้ำมา ปลากินมด
ยามน้ำลด มดกินปลา
มธุรส พจนา
มีคุณค่า น่ารับฟัง
เตือนใจ คนใหญ่โต
พวกยโส อวดโอหัง
เอะอะ ใช้พลัง
มิยับยั้ง หัดชั่งใจ
ระเริง เหลิงอำนาจ
ชอบเกรี้ยวกราด ทำบาตรใหญ่
สิ้นยศ หมดวันใด
มิตรไยไพ ตัดไมตรี
ทีใคร ก็ทีมัน
พร้อมฟาดฟัน หยันเสียดสี
ศัตรู หมู่ไพรี
หันย่ำยี รุมบีฑา
อยากได้ ชัยชนะ
ใช้ธรรมะ จะดีกว่า
ยืนหยัด สร้างศรัทธา
เสริมศักดา บารมี
ให้เขา รักเคารพ
จึงสงบ ประสบศรี
พ้นทุกข์ สุขทวี
เพราะความดี ที่ค้ำจุน
29 ตุลาคม 2554 11:33 น.
สุนทรวิทย์
สมัยก่อน ตอนนั้น พ่อหมั้นแม่
มีทองแค่ กระพี้ สามสี่บาท
เสียงชาวบ้าน นินทา กล่าวปรามาส
สบประมาท เย้ยเยาะ เพราะพ่อจน
แต่พ่อ,แม่ คงผูกพัน ถึงวันนี้
หลายสิบปี ผ่านไป หายขัดสน
เกิดลูกหลาน แตกหน่อ ก็หลายคน
ด้วยอดทน อุตสาหะ ตลอดมา
แม้พ่อ,แม่ มิมั่งคั่ง ดังญาติมิตร
อย่าน้อยจิต กังวล จนหนักหนา
ขอเพียงลูก มุ่งมั่น ใช้ปัญญา
ย่อมก้าวหน้า กว่าพ่อ,แม่ เป็นแน่นอน
สิ่งสำคัญ พ่อ,แม่ มอบแก่ลูก
คือฝังปลูก คุณธรรม คำสั่งสอน
หวังให้ลูก วัฒนา สถาพร
แทนทุนรอน ยั่งยืน เหนืออื่นใด
ลูกจงหมั่น มานะ สุจริต
ภารกิจ บีบคั้น อย่าหวั่นไหว
ทำงานอย่าง เต็มกำลัง โดยตั้งใจ
ได้เท่าไหน สุขใจเรา เท่านั้นพอ
29 ตุลาคม 2554 11:24 น.
สุนทรวิทย์
เมื่อนงคราญ เปลี่ยนใจ ไปมีอื่น
ฉันระรื่น ชื่นใจ หาใดเหมือน
เก่าไม่ไป ไฉน ใหม่จะเยือน
ใช่กลบเกลื่อน บาดแผล แต่พูดจริง
เริ่มประคบ-ประหงม บ่มรักใหม่
มิยอมให้ ขุ่นเคือง เรื่องทุกสิ่ง
เร่งพะเน้า-พะนอ ขอแอบอิง
มิประวิง เวลา สักนาที
บทเรียนเก่า ตอกย้ำ จนคร่ำหวอด
การอิดออด มากไป มิใช่ที่
ต้องปากว่า มือถึง จึงจะดี
มัวร่ำรี้-ร่ำไร ไม่ทันกิน
ในสามวัน เจ็ดวัน ฉันจะรีบ
รวบรัดจีบ เหนี่ยวโน้ม ใจโฉมฉิน
หากอนงค์ มิพร้อม มิยอมยิน
จำตัดสิน-ใจปล้ำ จับทำเมีย
มิยอมปล่อย โอกาส เกรงพลาดซ้ำ
ขืนงึมงำ เก็บอาการ งานจะเสีย
เกิดปัญหา ใดใด ไว้ค่อยเคลียร์
คงไกล่เกลี่ย กันได้ ไม่ยากเย็น
29 ตุลาคม 2554 10:54 น.
สุนทรวิทย์
รักเธอ เธอหา ว่าโกหก
หัวอก ฟกช้ำ ระกำเหวย
ทำผิด คิดร้าย ก็ไม่เคย
ทรามเชย ถือโทษ โกรธเรื่องใด
ปุบปับ สลัด ตัดสะบั้น
มิทัน ตั้งหลัก โดนผลักไส
ตั้งท่า เอ่ยปาก หมายฝากใจ
ถูกไล่ ตะเพิด บอกเริดรา
เหตุผล กลใด ไม่แจ่มแจ้ง
ระแวง อุบัติ สหัสา
หรือใคร ยุแหย่ แส่นินทา
กล่าวหา ลอยลอย ดันคล้อยตาม
ข่าวว่า โฉมตรู พบคู่ใหม่
จึงได้ รังเกียจ พลันเหยียดหยาม
เกรงฉัน เป็นก้าง ขวางนงราม
สิ้นความ ดื่มด่ำ เลิกนำพา
ลาก่อน คนดี ที่เคยหลง
ขอจง สมมาด ปรารถนา
อำนวย อวยชัย ให้กานดา
ส่วนน้ำตา ชลเนตร ขอเช็ดเอง
28 ตุลาคม 2554 13:25 น.
สุนทรวิทย์
ตะวันทอ แสงทอง สาดส่องฟ้า
กลิ่นอุษา จรุง ยามรุ่งสาง
นคินทร ชุ่มฉ่ำ อิ่มน้ำค้าง
คคนางค์ ปลอดโปร่ง โล่งอำไพ
วิหคเหิน เริงร่า ถลาร่อน
นภจร โฉบเฉี่ยว เลี้ยวไถล
ไก่แก้วขัน คะนอง กึกก้องไพร
ฟังจับใจ กังวาน สะท้านดอย
ม่านน้ำตก พรั่งพรู เสียงซู่ซ่า
โถมดิ่งมา กระเซ็น แตกเป็นฝอย
แล้วลัดเลาะ เซาะแก่ง แบ่งซอกซอย
ไหลชดช้อย ร้อยป่า วนาลัย
บังเกิดห้วย แอ่งสระ หนองละหาน
มองลำธาร เห็นหมู่ปลา ชลาศัย
ผลุบโผล่ทัก สุริยะ อโณทัย
อภินัย ว่ายแหวก แทรกคงคา
จระเข้ ลอยปริ่ม ริมตลิ่ง
ทำแน่นิ่ง รอเหยื่อ เนื้อมังสา
แฝงแววเหี้ยม อำมหิต ติดกายา
แผ่ศักดา ครอบครอง จองสายชล
โขลงกุญชร ลุยย่ำ หักลำไผ่
กินต้นใบ ไม่ยั้ง ทั้งพืชผล
กระทิงเปลี่ยว เกี้ยวพา สาละวน
โกลาหล ฝุ่นตลบ กลบฝูงโค
งูเขียวซุ่ม พรางตน บนกิ่งไม้
เตรียมฉกใส่ กิ้งก่า ท่ายโส
กระต่ายขุด อุโมงค์ โพรงใต้โพธิ์
เงือกหัวโต จับจ้อง มองรังแตน
โน่นชะนี ลิงค่าง บ่างตัวเขื่อง
กวางย่างเยื้อง ลีลา สง่าแสน
มยุรา กรีดกราย หมายรำแพน
อย่างเมืองแมน สวรรค์ ชั้นเทวา
สัญจรทาง คดเคี้ยว ชมเหลียวหลัง
ชูสะพรั่ง อบอวล มวลบุปผา
หอมอื่นใด ไหนเยี่ยม เทียมสุมนา
ดงผกา เปรียบแม้น แดนพิมาน
ศีขริน พนันดร ซ่อนชีวิต
นฤมิต ปรุงแต่ง แหล่งอาหาร
แทนสายใย ห่วงโซ่ แต่โบราณ
ดลบันดาล ดินอุดม น้ำสมบูรณ์
ธรรมชาติ สร้างคุณค่า พนาสณฑ์
นิรมล ดำรงอยู่ มิรู้สูญ
ถึงนคเรศ เขตคาม งามจรูญ
ใช่เกื้อกูล บริสุทธิ์ ดุจพงพี