27 กุมภาพันธ์ 2555 13:40 น.

สัตว์สวย ป่างาม

สุนทรวิทย์

รังสิมันตุ์  ผันเคลื่อน  เลื่อนขยับ
			ดำเนินกลับ  ลับไป  ในเวหน
			แสงสว่าง  ร้างหลบ  นภดล
			ความมัวหม่น  ย่างเท้า  เข้าครอบครอง

				พระพายหอบ  เมฆา  มาเป็นกลุ่ม
			นภาคลุ้ม  เสียงครึ้ม  กระหึ่มก้อง
			อุทพินทุ์  รินหยาด  สาดละออง
			อุทกนอง  เอ่อท้น  ชลธาร

				ปฐพี  ฉะฉ่ำ  อิ่มน้ำฝน
			พนาสณฑ์  ดาษดา  ผลาหาร
			ไม้ชุ่มชื่น  โมทนา  พรรษากาล
			กุสุมาลย์  รุกขกะ  ปกนคินทร์

				ปวงมฤค  คึกคัก  สะพรักพรั่ง
			งามคับคั่ง  ก่ายกอง  ผองปักษิน
			มัศยา  แหวกท่อง  ท้องสลิล
			เหล่าชีวิน  ปีติ  รับพิรุณ

				พนาราม  งามสวย  ด้วยส่ำสัตว์
			พฤกษาชัฏ  อาทร  ย้อนเกื้อหนุน
			สัตว์พึ่งป่า  ป่าพึ่งสัตว์  ผลัดค้ำจุน
			ต่างให้คุณ  ต่อกัน  นิรันดร์มา				
26 กุมภาพันธ์ 2555 18:56 น.

สังคมเสื่อม

สุนทรวิทย์

คนที่ดี  แสนดี  ทั้งชีวิต
					เผลอพลั้งผิด  สักครั้ง  ยังมัวหมอง
					คนชั่วร้าย  ใจหยาบ  บาปก่ายกอง
					ทำถูกต้อง  เพียงหน  คนชื่นชม

						บรรทัดฐาน  ใคร่รู้  อยู่ตรงไหน
					นำอะไร  วิเคราะห์  ความเหมาะสม
					ใช้เหตุผล  หรือว่า  ด้วยอารมณ์
					ค่านิยม  คล้อยตาม  หรือความดี

						ผู้ดีเลิศ  วิศรุต  สุจริต
					ก็มีสิทธิ์  ผิดได้  จริงไหมนี่
					ไยคนจึง  ประณาม  หยามทันที
					ด่วนบ้าจี้  ชี้ชัด  ตัดสินพลัน

						ส่วนคนเลว  ทำชั่ว  แก้ตัวเก่ง
					กลับยำเกรง  ศักดา  น่าเย้ยหยัน
					ผิดร้อยที  ดีหนึ่ง  ต่างทึ่งกัน
					อภิวันท์  ยกย่อง  สมองเบา

						สังคมเสื่อม  สับสน  จิตคนเหลว
					มองดี,เลว  บิดเบือน  เหมือนโง่เขลา
					ชนยุคใหม่  หมดกระดาก  ยากขัดเกลา
					ฉันหัวเก่า  เศร้าใจ  ตามไม่ทัน				
25 กุมภาพันธ์ 2555 12:42 น.

วัฏจักรขี้เมา

สุนทรวิทย์

แดดร่ม  ลมตก  ยกสำรับ
					หมูสับ  กับแกล้ม  แหนมพวงใหญ่
					น้ำแข็ง  สุรา  มาทันใด
					กินให้  อิ่มเอม  เปรมปรีดา

						คอเหล้า  ตั้งวง  ส่งเสียงขรม
					เกลียวกลม  ตกเย็น  เป็นพร้อมหน้า
					ลูกเมีย  ชอกช้ำ  มินำพา
					เฮฮา  บ้าคลั่ง  ดังสิ้นคิด

						เงินเดือน  ละลาย  จ่ายไม่เหลือ
					แผ่เผื่อ  เพื่อนฝูง  จูงกันผิด
					ปลาบปลื้ม  ดื่มด่ำ  อ้างน้ำมิตร
					ชีวิต  จมหล่น  สู่ก้นบึง

						คืน,วัน  ผ่านไป  โดยไร้ค่า
					ชรา  ยามใด  โรคภัยถึง
					เพื่อนรัก  เพื่อนกิน  สิ้นคำนึง
					พรั่นพรึง  ทุกข์ร้อน  กายอ่อนแอ

						วัฏฏะ  ขี้เมา  เดาไม่ยาก
					ลำบาก  กินเกลือ  เมื่อยามแก่
					ลูกหลาน  ห่างเหิน  เมินเหลียวแล
					ย่ำแย่  อับจน  เพราะตนเอง

     (กลอนบทนี้เขียนตามอารมณ์กลอน
     ครับ ไม่มีเจตนากระทบใคร ใคร
     ชอบดื่ม สุราขออภัยล่วงหน้าครับ)				
24 กุมภาพันธ์ 2555 13:14 น.

ตัดพ้อ

สุนทรวิทย์

ถามหน่อย  นะกลอยใจ	
	เธอทำไม  ไร้สัจจะ
			สัญญา  ว่าพันธะ			
	ชั่วชีวะ  มิละเลย

				น้ำคำ  หล่อนกำชับ	
		เพียงปุบปับ  กลับเพิกเฉย
			ใจคอ  หนอทรามเชย			
	เหมือนมิเคย  เอ่ยความใด

				อำพราง  วางกับดัก			
หลอกให้รัก  แล้วผลักไส
			พลิกลิ้น  สิ้นเยื่อใย		
		อ้างเฉไฉ  ได้ฉับพลัน

				เห็นชาย  คล้ายเสื้อผ้า	
		เบื่อขึ้นมา  หาเรื่องหยัน
			เปลี่ยนใหม่  ไม่เว้นวัน			
	ความผูกพัน  สั้นเต็มที

				คิดไป  ให้อนาถ		
	เกิดเสียชาติ  ขาดศักดิ์ศรี
			ขายหน้า  บุพการี		
		ยังอวดดี  ทำปรีดา

				ที่ท้วง  เพราะห่วงหรอก	
	ใช่ย้อนยอก  หมายตอกหน้า
			พลั้งผิด  ติดเอดส์มา			
	อย่าโศกา  ว่าไม่เตือน				
23 กุมภาพันธ์ 2555 15:04 น.

สวะ

สุนทรวิทย์

กอสวะ  ลอยคา  หน้าบ้านไหน
				เขาเขี่ยไกล  ไสส่ง  บ่งไร้ค่า
				คอยเกะกะ  กีดขวาง  ทางนาวา
				รกนัยน์ตา  เบียดเสียด  น่าเกลียดจัง
						
	บุคคลใด  ถูกขาน  ปานสวะ
						เขาคงจะ  เจ็บแสบ  แทบคลุ้มคลั่ง
						อัปยศ  รู้สึก  นึกชิงชัง
						คิดมุ่งหวัง  แก้ลำ  เป็นธรรมดา  

					สวะเท็จ  จริงอย่างไร  ใช่เพียงพูด
				ดูพิสูจน์  ปฏิบัติ  ชัดเจนกว่า
				พวกมิทำ-มาหากิน  ชอบนินทา
				คอยกล่าวหา  ผู้อื่น  ดื่นนั่นไง

							มือไม่พาย  จับเจ่า  เท้าราน้ำ
						จิตตกต่ำ  ย่ำแย่  เกินแก้ไข
						ลักษณะ  ปากบอน  ลิ้นชอนไช
						ชอบใส่ไคล้  เบือนบิด  จริตทราม

					นี่แหละเหล่า  สวะ  ขยะแท้
				สาระแน  ทุกเรื่อง  ชำเลืองถาม
				ขยันแต่ง  เติมต่อ  ปั้นข้อความ
				จ้องประณาม  สาดโคลน  โพนทะนา

							เศษสวะ  ตฤณชาติ  อาจเป็นปุ๋ย
						ดินร่วนซุย  เป็นคุณ หนุนพฤกษา
						คนพูดพล่าม  แต่การ-งานเฉยชา
						หมดราคา  พ่ายแพ้  แม้สวะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์