26 สิงหาคม 2554 13:47 น.
สุนทรวิทย์
มดแดง แฝงมะม่วง มันแหนหวง ห่วงโดนแย่ง
เช้า-เย็น เห็นร่วมแรง ยืนขันแข็ง ระแวงภัย
ประเมิน เกินสิทธิ ถือทิฐิ เหนือวิสัย
จับเจ่า เฝ้าอาลัย ทั้งที่ไม่-ได้ลิ้มรส
เปรียบชาย หมายกานดา เพียรสัญญา ท้าสบถ
เอาใจ ไม่ละลด กลับรันทด อดครอบครอง
สิ่งใด ใฝ่ยึดติด ขาดพินิจ ผิดเจ้าของ
ยากนัก จักสมปอง รังแต่ต้อง หมองหมางใจ
ของเขา เราเฝ้ายล ยิ่งทุรน ยิ่งหม่นไหม้
ผู้คน ก่นไยไพ แล้วไฉน ยังไยดี
ชายใด ใคร่เป็นหนึ่ง ควรรู้ซึ้ง ซึ่งอิตถี
รวบรัด ตัดวจี ฝากไมตรี แทนรีรอ
ดีกว่า มาคร่ำเคร่ง เลิกกริ่งเกรง เร่งสู่ขอ
พลาดท่า ถูกด่าทอ ค่อยไปง้อ รายต่อไป
26 สิงหาคม 2554 12:24 น.
สุนทรวิทย์
วิหคน้อย ตัวนั้น มันทักฉัน
ส่งเสียงขัน จู้ฮุกกรู เหมือนรู้จัก
เชิดอกตั้ง สง่า งามน่ารัก
เดินย้ายยัก มาใกล้ อย่างไว้ใจ
มิเคยถูก สอนสั่ง นกยังรู้
ใครศัตรู ใครมิตร ชนิดไหน
อาศัยสัญ-ชาตญาณ บันดาลไป
แยกแยะได้ แจ่มชัด อัศจรรย์
เพียงหยิบยื่น ความรัก ให้สักนิด
เมตตาจิต ต่อกัน ปันสุขสันต์
แม้สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ร้ายสากรรจ์
พลอยผูกพัน ซาบซึ้ง ถึงไมตรี
ต่างจากคน สามานย์ สันดานเถื่อน
ป้ายสีเพื่อน อคติ ทุกวิถี
ยอมดีด้วย อ่อนข้อ ก็ตามที
ไม่คิดมี ดีตอบ มอบแก่ใคร
พบเพื่อนถ่อย เร่งหลบ เลิกคบหา
เลี้ยงนกกา เพลินกว่า ไร้สาไถย
นกยังจำ คนปรานี มีเยื่อใย
มิตรจัญไร กลับบีฑา อิจฉากัน
26 สิงหาคม 2554 11:36 น.
สุนทรวิทย์
ฟ้าแลบ แปลบปลาบ วาบวูบ
ฝนจูบ โลมดิน หินผา
ธรณี พลิกฟื้น ตื่นมา
พฤกษา ผลิดอก ออกใบ
พรรษา ประเดิม เริ่มต้น
สายฝน ครืนคลั่ง หลั่งไหล
ชุมชื่น ป่าดง พงไพร
มวลไม้ เขียวสด งดงาม
กบเขียด ฟักตัว ยั้วเยี้ย
นัวเนีย แอ่งชล ล้นหลาม
เถาวัลย์ พันเกาะ เลาะลาม
เซาะตาม ไม้เคี้ยว เลี้ยวลด
พรานไพร บูชา ป่าเขา
สืบเผ่า พงศ์นำ กำหนด
หาวัน กินวัน ท่องบรรพต
ไร้ยศ ไร้ศักดิ์ หลักลอย
เก็บผัก หักฟืน คืนกลับ
ช้อนจับ ปูปลา หาหอย
ขุดมัน เผือกถั่ว หัวกลอย
อร่อย อิ่มเอม เปรมปรีดิ์
ชาวป่า ว้าเหว่ เร่ร่อน
สัญจร พนา วาสี
มิรู้ เมืองฟ้า ธานี
จรลี เที่ยวไป ในดง
25 สิงหาคม 2554 22:41 น.
สุนทรวิทย์
นั่งมอง ท้องนที ในวารี มีมัจฉา
หลากหลาย ว่ายไปมา เพลินอุรา น่าภิรมย์
นั่นเสือตอ กับหมอไทย ปลาตาใส และไส้ขม
ปลาดุก คลุกโคลนตม นึกนิยม ชมปลาไน
เห็นกริม แอบริมขอน โน่นเนื้ออ่อน,ช่อน,ปลาไหล
งามพริ้ง กระทิงไฟ ส่วนหางไหม้ ไล่กินซิว
แรด,หลด, กด,เทโพ ท่าชะโด เหมือนโซหิว
เข็มจ้อย ลอยแถวทิว บู่ขี้ริ้ว ผิวน่าชัง
นวลจันทร์ หันแคล่วคล่อง ตะเพียนทอง ท่องตามหลัง
ปลาสร้อย คอยระวัง เรียดชายฝั่ง ดั่งกังวล
กระดี่ ที่ก่อหวอด ฟองฟูฟอด กอดหญ้าขน
ปลาหมู ดูชอบกล พล่านซุกซน ก้นพื้นทราย
ปล้องอ้อย ตัวน้อยนิด กระจิริด ผิดสวาย
สง่า ต้องปลากราย อีกตองลาย คล้ายคลึงกัน
ยามยล ชลสถาน สุขสำราญ ปานเคลิ้มฝัน
มัศยา นานาพันธุ์ ดลให้ฉัน พลันอิ่มใจ
25 สิงหาคม 2554 17:17 น.
สุนทรวิทย์
อริยะ ศาสดา องค์สัมมา โลกานาถ
สอนใจ ไว้เปรื่องปราด ด้วยโอวาท อำนาจธรรม
แจ้งชัด ตรัสรู้ พลิกฟื้นฟู ผู้ใฝ่ต่ำ
ให้ซึ้ง ถึงบุญ,กรรม ไขเงื่อนงำ สิ่งค้ำชู
สรรค์สร้าง ทางพ้นทุกข์ เอื้อผาสุก ทุกเหล่าหมู่
โปรดสัตว์ มัตตัญญู เปิดประตู สู่นิพพาน
ชาวพุทธ บุตรจอมไตร ควรเข้าใจ ในแก่นสาร
น้อมรับ ดับสาธารณ์ รู้ประมาณ การอยู่,กิน
พุทธธรรม ค้ำโลกา ทรงคุณค่า กว่าทรัพย์สิน
ยืนยง คงฟ้า,ดิน ปรุงชีวิน ประทินชน
ธรรมรัตน์ จรัสแสง ส่องสำแดง ทุกแห่งหน
ศาสนา ทั่วสากล ล้วนนำคน ให้พ้นภัย