13 กันยายน 2554 12:47 น.

เก่าเก่าเป็นสนิม

สุนทรวิทย์

คนบางคน  เปรียบคู่ครอง  ดังของเก่า
				ยิ่งนานเข้า  ยิ่งคร่ำเครอะ  เขลอะสนิม
				เนื้อใกล้ปาก  คุ้นเคย  เลยเบื่อชิม
				นึกกระหยิ่ม  มองเห็น  เป็นของตาย
					      
           การเย็นชา  ทะนง  โดยหลงผิด
				ทำชีวิต  สมรส  หมดความหมาย
				ที่เคยเคล้า  เคยคลอ  ก็กลับกลาย
				ดีเป็นร้าย  เปลี่ยนไป  ไม่รู้ตัว
					
           ความหมางเมิน  เหินห่าง  อย่างต่อเนื่อง
				กลายเป็นเรื่อง  ขัดแย้ง  คอยแบ่งขั้ว
				ต่างคนต่าง  ค่อนขอด  บอดมืดมัว
				พาครอบครัว  ร้าวฉาน  จนบานปลาย
					
           จวบวันที่  สัมผัส  การพลัดพราก
				ยามแยกจาก  กันไซร้  จึ่งใจหาย
				เพชรในมือ  หลุดลอย  ค่อยเสียดาย
				นั่นอาจสาย  เกินจะ  คิดประคอง
					
           ชายหญิงเมื่อ  ดำริ  ร่วมวิถี
				พึงอารี-อารอบ  ตอบสนอง
				มิมีใคร  ยอดเยี่ยม  เทียมคู่ครอง
				ควรยกย่อง  เอาใจ  ใช่ดูแคลน				
12 กันยายน 2554 13:02 น.

สุรา

สุนทรวิทย์

สุรา  เมรยะ
			ควรเลิกละ  ดังพระเทศน์
		กำจัด  ตัดกิเลส	
			ดับต้นเหตุ  ปวงเภทภัย

     			ดื่มเหล้า  เมามักเพี้ยน		
  พาวิงเวียน  เปลี่ยนนิสัย
		หุนหัน  จนบรรลัย			
  ลืมวินัย  คล้ายวิกล
		
       	น้ำเมา  เผาวิบัติ
		รู้สกัด  มิขัดสน
		ระงับ  ความอับจน		
  	เป็นกุศล  ดลทันใด
		
        	สุรา  พาพินาศ	
		ใครประมาท  ล้วนพลาดได้
		เพลี่ยงพล้ำ  จักช้ำใจ
		ยากแก้ไข  จงไตร่ตรอง
	
       		หลายคน  ทนระกำ	
  	เมรัยย่ำ  ทำมัวหมอง
		 ตกต่ำ  เพราะลำพอง
			สูญเงินทอง  พี่น้องเมิน

     			เตือนตัว  ให้กลัวเกรง
		สิ่งเส็งเคร็ง  เร่งห่างเหิน
		ทิ้งเหล้า  เคยเมาเพลิน
		ก่อนช้าเกิน  ดำเนินพลัน
	
       		ชนะใด  ไม่เท่าผล
		ชนะตน  กมลมั่น
		หยุดเหล้า  เท่าหยุดทัณฑ์
		ยืดชีวัน  นิรันตราย				
12 กันยายน 2554 12:48 น.

หยาดฝนดลให้คิด

สุนทรวิทย์

ฝนหยาด  เป็นหยาดฝน
 		เป็นหยาดชล  หล่นสู่หล้า
			คิมหันต์  พลันอำลา	
			เมื่อพรรษา  เวียนมาเยือน

     				ฟ้าครึ้ม  กระหึ่มก้อง
			เมฆคะนอง  ร้องลั่นเลื่อน
			ทิวไผ่  ไหวสะเทือน	
			แทบเขยื้อน  เคลื่อนย้ายกอ

    				พายุ  ดุฉกรรจ์
			พัดเมามัน  รันต้นอ้อ
			อ้อน้อม  ยอมลู่งอ
			มิแข็งข้อ  ก็พ้นภัย
	
    			ไม้ใหญ่  ไม่ประเมิน
			ยืนเผชิญ  เกินวิสัย
			หาญกล้า  กลับปราชัย
  	หักบรรลัย  พ่ายแรงลม

   				หยาดฝน  ดลให้คิด
			ฝนมีฤทธิ์  ประสิทธิ์สม
			หลายสิ่ง  ยิ่งอุดม	
			บ้างสิล่ม  ล้มจากไป

   				เปรียบผู้  รู้ผ่อนปรน	
 		จึ่งเป็นคน  เหนือคนได้
			พวกทิฐิ  มิยอมใคร	
			อาจวอดวาย  ด้วยไพรี

    			ผจญ  คนเกรี้ยวกราด
			ร่วมวิวาท  อาจป่นปี้
 		อดกลั้น  หันถ้อยที	
			ผูกไมตรี  ดีกว่าเอย				
12 กันยายน 2554 12:38 น.

สมน้ำหน้า

สุนทรวิทย์

มิเห็นหน้า  เธอวันใด  ถ่ายไม่ออก
			แสนช้ำชอก  ซึมเศร้า  เอาแต่ตด
			กินหมูเห็ด  เป็ดไก่  ก็ไร้รส
			คอเหี่ยวหด  หมดท่า  แทบบ้าบอ
								
           หากวันไหน  ได้พบ  ประสบพักตร์
				จะคึกคัก  กระหยิ่ม  ยิ้มหัวร่อ
				คอที่ยับ  ยู่ย่น  จนหงิกงอ
				กลับชูปร๋อ  ตั้งชัน  ขึ้นทันใด
			
          	เธอน่าหม่ำ  กว่าส้มตำ  ยำรสเด็ด
			เหนือผัดเผ็ด  แกงป่า  ต้มปลาไหล
			แม้ปลาร้า  ค้างปี  มีหนอนไช
			กินเท่าไร  ไม่ปึ๋งปั๋ง  ดังเห็นเธอ
								
           คิดทักทาย  สักครั้ง  ยังเกรงอยู่
			หวั่นโฉมตรู  ตอกหน้า  ว่าเผยอ
			จำข่มจิต  หักห้าม  ยามเจอะเจอ
			จนท้องเฟ้อ  เรอเปรี้ยว  เสียวไข่ดัน
		
         		แอบรักเธอ  มาหลายปี  มิมีเปลี่ยน
			คอยวนเวียน  เป็นเงา  เฝ้ามิ่งขวัญ
			เหมือนมดแดง  แฝงมะม่วง  หวงกีดกัน
			รสหวานมัน  อย่างไร  ไม่เคยลอง
								
           ณ.วันนี้  โฉมตรู  มีคู่แล้ว
			ฉันเลยแห้ว  ผิดหวัง  นั่งหม่นหมอง  
			สมน้ำหน้า  หนอเรา  เอาแต่มอง
			เธอท้องป่อง  ค่อยคิดได้  ไอ้กระบือ				
12 กันยายน 2554 12:12 น.

สาวโสด โปรดฟังไว้

สุนทรวิทย์

รัชนี  มีดาว  แสงพราวผ่อง
			ฉันจ้องมอง  ตรองตรึก  นึกเพ้อฝัน
			ดาราเอ๋ย  วาววับ  นับหมื่นพัน
			พ่ายแพ้จันทร์  เจิดจ้า  มาหนึ่งเดียว
							
          ดาวล้อมเดือน  กล่นเกลื่อน  เดือนยิ่งเด่น
				เสียดายเพ็ญ  ลออ  ก็ประเดี๋ยว
				บางคราวเจ้า  แหว่งเว้า  เห็นเท่าเคียว
				แถมซีดเซียว  หมดงาม  ยามฟ้ามัว
		
         		ดรุณี  ดุจจันทรา  คราข้างขึ้น
			ชายเมามึน  ยอมม้วย  ด้วยทูนหัว
			อยากฝากรัก  จอมขวัญ  มุ่งพันพัว
			เสนอตัว  หมายชิด  สนิทคราญ
							
           รีบฉกฉวย  นาที  ที่ล้ำค่า
			พิจารณา  คนดี  มีหลักฐาน
			ใช้โอกาส  เลือกคู่ครอง  ดังต้องการ
			หากเลยผ่าน  วัยสาว  จักร้าวทรวง
				
            อย่าเป็นจันทร์  ข้างแรม  ไม่แจ่มใส
			นิ่งนอนใจ  เล่นตัว  มัวแหนหวง  
			เมื่อพ้นวัย  ชายเบื่อ  เหลือภาพลวง
			มิอาจทวง  ถามสิทธิ์  คิดย้อนคืน  
							
            จงสงวน  กาย,ใจ  ให้พอเหมาะ
			รู้พิเคราะห์  เงื่อนเวลา  อย่าฝ่าฝืน
			รูป,สังขาร  กาล,วัย  ใช่ยั่งยืน
			เกรงขมขื่น  อาวรณ์  ตอนขึ้นคาน
			
           	ทั้งบุรุษ  สตรี  ควรมีคู่
			ทนโสดอยู่  ทำไม  ไร้แก่นสาร
			วิวาห์เถิด  ชีวะ  จะชื่นบาน
			รีรอนาน  แก่เข้า  เขาไม่แล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์