14 กันยายน 2554 12:55 น.
สุนทรวิทย์
ฉันหัวล้าน ม่อต้อ คอสามนิ้ว
ขี้ริ้ว ผิวดำ ซ้ำตาตี่
พุงโร ง่องแง่ง แรงไม่มี
จู้จี้ ขี้บ่น ผู้คนเอือม
ภาพรวม โครงเค้า ก็เข้าท่า
หน้าตา เหมือนเด็ก เพียงเซ็กเสื่อม
ใจสิ ริจะ ชะโงกเงื้อม
อาจเอื้อม หมายอิง หญิงสะคราญ
ลืมกล่าว ให้หมด เรื่องรถหรู
มีอยู่ เหลือเฟือ เผื่อโดยสาร
เงินสด เล็กน้อย ห้าร้อยล้าน
กับบ้าน พร้อมที่ สี่สิบแปลง
หญิงใด มีใจ ใคร่คบหา
ยามพบ สบตา อย่าแขยง
รูปชั่ว ตัวดำ นั้นจำแลง
รูปจริง งามแกร่ง แฝงอยู่ใน
ถอดรูป เมื่อใด ได้ร้องจ๊าก
ซู้ดปาก โหยหา น้ำตาไหล
สุนทรวิทย์ นี่หนอ หล่อเหนือใคร
ชวนให้ ใหลหลง ปลงอนิจจัง
13 กันยายน 2554 13:33 น.
สุนทรวิทย์
สามเกลอจบ มัธยมปลาย ก่อนย้ายแยก
ปรึกษาแลก แนวคิด ผลิตฝัน
ต่างวางแผน อนาคต กำหนดกัน
หวังบุกบั่น เติบใหญ่ ในเส้นทาง
คนหนึ่งใจ จดจ่อ มุ่งพ่อค้า
ใคร่ทำมา-หากิน ดิ้นรนสร้าง
คนสองอยาก ปรากฏ ยศขุนนาง
เป็นตำรวจ แบบอย่าง สางคดี
คนสามมุ-ทะลุ แถมดุร้าย
จิตกระหาย คุมบ่อน,ซ่อง ครองพื้นที่
อวดนักเลง เก่งกล้า ชอบราวี
เรื่องท้าตี ท้าต่อย ไม่ถอยใคร
สามสหาย วัยห่าม เดินสามแพร่ง
ก้าวสำแดง ตามวิถี ที่ฝักใฝ่
บางคราวรุ่ง บางคราวอับ สลับไป
ค่อยค่อยไต่ ค่อยค่อยเต้า เข้ารูปรอย
ยี่สิบปี ผ่านพ้น เห็นผลลัพธ์
หนึ่งรวยทรัพย์ เทียมเศรษฐี มีใช้สอย
หนึ่งประดับ ยศนายพัน ขั้นเลิศลอย
หนึ่งต่ำต้อย เกะกะ อันธพาล
เลือกสิ่งใด ได้สิ่งนั้น สามัญแท้
เริ่มตั้งแต่ ความคิด จิตพื้นฐาน
ดีหรือชั่ว พัวพัน โดยสันดาน
พฤติการณ์ แบ่งชั้น อันดับคน
13 กันยายน 2554 13:22 น.
สุนทรวิทย์
คุณสมบัติ อิสตรี
อันพึงมี เป็นศรีศักดิ์
หนึ่งนั้น ธัญลักษณ์
ควรพร้อมพรัก ประจักษ์ตา
สองดี ที่จิตใจ
พิสุทธิ์ใส ไร้มารษา
สามสะสวย ด้วยปัญญา
เปี่ยมวิจา-ร-ณ-ญาณ
งามสี่ วจีกรรม
วาจาน้ำ-คำอ่อนหวาน
งามห้า สมาจาร
รู้แก่นสาร การครองเรือน
หกซื่อสัตย์ ภัสดา
เทิดบูชา กว่าใดเหมือน
ใส่ใจ ไม่ลบเลือน
คอยปลอบ,เตือน เอื้อนห่วงใย
เจ็ดเสน่ห์-ปลายจวัก
งานเบา,หนัก มิผลักไส
แปดหรือ คือดับไฟ
สิ่งหมกไหม้ ในกมล
เก้าประหยัด มัธยัสถ์
ไล่ขจัด ความขัดสน
สิบเท่าทัน เชิงชั้นคน
เมินเวทมนตร์ กลมายา
ทศ-กัลยาณี
ยอดเทวี ศรีสง่า
ชายใด ได้เธอมา
คู่ชีวา ถือว่าบุญ
13 กันยายน 2554 13:04 น.
สุนทรวิทย์
จักรวาล เวิ้งว้าง กว้างไพศาล
โลกปาน เม็ดทราย บนชายหาด
มนุษย์ ดุจฝุ่น จุลชาติ
มิอาจ คาดเคียง แม้เพียงคิด
แต่ใจ มนุษย์ สุดลึกล้ำ
ซุกงำ ความหวัง ทั้งดวงจิต
รวนเร เฉไฉ ได้รอบทิศ
วิปริต ติดตัว ชั่วอายุ
ใจคน มิเคย ทนเฉยนิ่ง
เก็บสิ่ง ชื่นชม ถมบรรจุ
ไม่ยอม เอมอิ่ม ยิ้มบรรลุ
ปะทุ พร่ำเพรื่อ ดังเชื้อไฟ
ใจคน พิกล ปนเร้นลับ
ซ้อนซับ ยุ่งยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ซ่อนพลัง พรั่งพรู อยู่ภายใน
เคลื่อนไหว เร็วรวด เกินยวดยาน
ใจคน ถึงแม้ แค่กำปั้น
แต่มัน แฝงฤทธิ์ ผิดสัณฐาน
เปรียบความ วิศิษฏ์ พิสดาร
จักรวาล เหนือหยั่ง ยังแพ้ใจ
13 กันยายน 2554 13:00 น.
สุนทรวิทย์
วันเวลา มิอาจซื้อ ยื้อคืนได้
เมื่อผ่านไป คือไปลับ ไม่กลับหลัง
เกินกว่าการ ยึดติด คิดประทัง
เป็นไปดั่ง ธรรมชาติ ประสาธน์มา
อายุคน นับปี ทวีเพิ่ม
อย่ามัวเคลิ้ม หลงแล แต่ตัณหา
บุญกุศล จงสร้าง ไว้บ้างนา
ก่อนเวลา ภาวะ จะเคลื่อนคลาย
อดีตดู ประหนึ่ง พึ่งล่วงพ้น
เร็วเสียจน รู้สึก นึกใจหาย
วันวานยัง เป็นเด็ก เล็กเอียงอาย
วันนี้กลาย เป็นผู้เฒ่า เก่าชรา
เผลอเดี๋ยวเดียว โคจร ค่อนชีวิต
หวนพินิจ เท็จจริง ยิ่งกังขา
นี่หรือ คือวิถี ทางชีวา
เพียงพริบตา ก็ตะบึง ถึงบั้นปลาย
ชาติหนึ่งปาน ชั่วแล่น แสนสั้นนัก
มิทันจัก ครันครบ จบมุ่งหมาย
สังขารพาน เงอะงะ เตรียมมลาย
คนใกล้วาย ยามแก่ ได้แต่ปลง