18 กันยายน 2554 11:57 น.
สุนทรวิทย์
หัวใจ ดวงหนึ่ง พึ่งชำรุด
มันเจียนหยุด เต้นหนอ หมอช่วยหน่อย
ทั้งสี่ห้อง บอบช้ำ ใช่สำออย
เฝ้ารอคอย หมอมา ช่วยปรานี
หากหมอ ดูดาย ไม่คิดช่วย
ผมคงป่วย ม้วยมรณ์ นอนเป็นผี
เป็นบาปกรรม นะหมอ อย่ารอรี
โปรดเร็วรี่ มาขับ ดับต้นตอ
เรื่องผ่าตัด วางยา อย่าได้คิด
เกิดพลั้งผิด พลาดไป ถึงตายหนอ
ส่วนยากิน ยาใส่ นั้นไม่พอ
มีแต่หมอ ผู้เดียว พอเยียวยา
เพียงเอาใจ ผมหน่อย คอยข้องแวะ
หมั่นกระแซะ ให้ชิด ติดมังสา
วิธีการ เยี่ยงนี้ ดีกว่ายา
ซ้ำง่ายกว่า ฟื้นฝอย คอยซ่อมแซม
เขาว่าหมอ คุยง่าย ไม่ยึกยัก
นวดเสร็จมัก ใจดี มีของแถม
ผมจึงสู้ อุตส่าห์ มาขอแจม
หวังได้แอ้ม สมใจ ไม่เสียที
หนึ่งสัปดาห์ ผ่านไป ตายละหว่า
ของที่หมอ แถมมา น่าบัดสี
พูดไปให้ ขายหน้า ประชาชี
มันคือฝี แมงโก้ เม็ดโตเอย
17 กันยายน 2554 14:56 น.
สุนทรวิทย์
ฉันเห็นรอย กังวล บนใบไม้
ความหวั่นไหว หงอยเหงา เหล่าต้นหญ้า
แวววิตก เหือดแห้ง แห่งธารา
คราบน้ำตา ส่ำสัตว์ เปื้อนชัดเจน
ฉันแว่วเสียง พระพาย คล้ายกำสรวล
ปฐพี โหยหวน ครวญทุกข์เข็ญ
มวลแมลง หม่นหมอง ร้องลำเค็ญ
ผสานเป็น เพลงวิโยค โศกรำพัน
สรรพสิ่ง แจ้งใน ภัยพิบัติ
โทมนัส ระคน ก่นเย้ยหยัน
สังเวชปวง มนุษย์ สุดดึงดัน
โลภโมหันธ์ ทำลาย ไม่ละลด
มุ่งล้างผลาญ เหยียบย่ำ ธรรมชาติ
ลางพินาศ นานา จึ่งปรากฏ
มลภาวะ ปกคลุม สุมรันทด
โลกเจียนหมด ทรัพยากร ยังนอนใจ
ธรณี กันแสง แฝงอาเพศ
พ่ายกิเลส จำนน คนมักใหญ่
ดิน,น้ำ,ลม สัตว์ป่า พนาไพร
ต่างร่ำไห้ จาบัลย์ ฉันได้ยิน
17 กันยายน 2554 14:39 น.
สุนทรวิทย์
กลอนดี มีสัมผัส
นอก,ในชัด มิขัดเขิน
สำนวน ชวนเพลิดเพลิน
เกริ่นครั้งใด ได้อารมณ์
คติ ชวนพิเคราะห์
ศัพท์ไพเราะ วางเหมาะสม
พลิกแพลง แฝงเงื่อนปม
แทรกคารม คมวาที
แบบแผน จำแน่นหนัก
ฉันทลักษณ์ เทียมศักดิ์ศรี
ร้อยเรียง เยี่ยงกวี
อักขรวิธี ดีครบครัน
ปรปักษ์ คือมักง่าย
พวกเบี่ยงบ่าย ไม่สร้างสรรค์
เหยียดหยาม ความสำคัญ
ละเชิงชั้น ภูมิปัญญา
กาพย์,กลอน ใกล้มรณ์ม้วย
คนฉาบฉวย ช่วยกันพร่า
วรรณศิลป์ จินตนา
เคยทรงค่า มากลับกลาย
ยุคสมัย ไม่อาทร
กาพย์,โคลง,กลอน หย่อนความหมาย
ผู้รู้ กลับดูดาย
กว่าคิดได้ คงสายเกิน
17 กันยายน 2554 14:33 น.
สุนทรวิทย์
การยิงนก ตกปลา เที่ยวล่าสัตว์
ล้วนแต่ขัด ศีลธรรม พระคำสอน
เหมือนจงใจ ประหาร ลาญม้วยมรณ์
อนาทร สิ้นคิด จิตมืดมัว
เรื่องทารุณ สัตว์น้อย,ใหญ่ ให้รับทุกข์
แล้วสนุก เฮฮา ท้าชวนหัว
นั่นแหละความ เลือดเย็น เห็นแก่ตัว
มองกงจักร ว่าดอกบัว มิกลัวเกรง
เกิดเป็นคน ค้ำจุน ด้วยบุญเก่า
ควรหรือเอา อารมณ์ พาลข่มเหง
อ้างกีฬา บังหน้า บ้าครื้นเครง
หลงผิดเอง สุดท้าย มักพ่ายกรรม
แม้มดปลวก หิ่งห้อย ตัวน้อยนิด
อสรพิษ กุมภีล์ ที่ในถ้ำ
ต่างก็หวง ชีวิต สิทธิ์ชอบธรรม
ก่อนเหยียบย่ำ ทำร้าย จงไตร่ตรอง
โปรดสงสาร เอ็นดู ผู้ร่วมโลก
บรรเทาโศก ยับยั้ง บาปทั้งผอง
ปรานีสัตว์ โอบอุ้ม ช่วยคุ้มครอง
ตามครรลอง อหิงสา เมตตาธรรม
17 กันยายน 2554 14:11 น.
สุนทรวิทย์
พี่แสนหวง แสนห่วง ดวงยิหวา
ยอดกานดา โสภี ศรีสมร
เธอเท่านั้น ปรารถนา และอาทร
โฉมบังอร นวลผ่อง เป็นยองใย
เชิญเทวี สีดา มาปรากฎ
จะงามงด เทียมอนงค์ คงมิได้
ถึงเลือกเฟ้น เทพี เวทีใด
สุดไฉไล ไหนเท่า เยาวดี
ทั้งจริต กิริยา มารยาท
เพราพิลาส สง่า เปี่ยมราศี
เต็มเพียบพร้อม เบญจ-กัลยาณี
กุลสตรี พึงใจ ฉันใฝ่ปอง
ดุจเพชรงาม เจียระไน ไว้เลอเลิศ
จึงฉายเฉิด วิลาสินี มิมีสอง
หรือนางฟ้า องค์ใด ไหนจำลอง
มาสอดส่อง ลงทัณฑ์ กลั่นแกล้งชาย
สูญนภา ธราดล ชลสมุทร
ให้ฉันหยุด เสน่หา จงอย่าหมาย
แม้ศศิ สุริยัน พลันมลาย
ก็ไม่คลาย สัมพันธ์ อันมั่นคง
นงพะงา โปรดได้ เห็นใจพี่
รับไมตรี ดังจิต คิดประสงค์
พี่สัญญา ขอย้ำ เจตจำนง
จะซื่อตรง เสมอ เธอหนึ่งเดียว