19 กันยายน 2554 13:20 น.
สุนทรวิทย์
ขอเดชะ มหาราช ผู้ปราดเปรื่อง
พระนามกระเดื่อง ภูมิพล ชนประจักษ์
ประชาราษฎร์ ทั่วถ้วน ล้วนจงรัก
ด้วยตระหนัก พระเมตตา อันการุณย์
หลายสิบปี ที่พระองค์ ทรงเหนื่อยเหน็ด
ความสำเร็จ มากมาย ได้เกื้อหนุน
ประเทศชาติ ปลอดภัย ใต้ร่มบุญ
พระมหา กรุณาธิคุณ ชนคุ้นเคย
ยามพระ ประชวร ชนครวญคร่ำ
กุศลกรรม โปรดเยือน อย่าเชือนเฉย
บันดล พระหฤทัย ให้เสบย
อยู่ล่วงเลย ร้อยปี ทีฆายุ
ขอวิงวอน พรเทวา มาประสิทธิ์
สำแดงฤทธิ์ นาเนก อันเอกอุ
ด้วยผลบุญ มากมี ที่ทำนุ
ดลบรรลุ ให้สมเจต สิ้นเภทภัย
อยู่เป็นร่ม โพธิ์ทอง ของประเทศ
ปิตุเรศ มหากษัตริย์ นิรัติศัย
ผองข้าพระพุทธเจ้า ซึมซาบ กราบอวยชัย
พระพลานามัย นฤดม สมบูรณ์เทอญ
18 กันยายน 2554 12:38 น.
สุนทรวิทย์
ริมน้ำตก แห่งนี้ เมื่อปีก่อน
เธอเคยนอน ซุกไซ้ ในอกฉัน
ป้อนคำรัก หวานชื่น นับหมื่นพัน
ขอมีกัน และกัน ตราบวันวาย
ริมน้ำตก วันนี้ ณ.ที่เก่า
ฉันจับเจ่า เศร้าสร้อย คอยโฉมฉาย
นานแล้วเธอ เลิกมา ปรากฏกาย
ทุกเช้าสาย บ่ายเย็น ไม่เห็นเงา
เสียงน้ำตก ชลธาร สะท้านโสต
แอบโอยโอด รำพึง คิดถึงเขา
สนธยา ยามนี้ มีแต่เรา
นั่งเงียบเหงา หดหู่ อยู่กลางไพร
กิริยา วาที ที่ฉอเลาะ
ท่าออเซาะ ค้อนควัก แกล้งผลักไส
ยังเห็นภาพ ประหนึ่ง พึ่งผ่านไป
แล้วไฉน ยุพา มาตัดรอน
มองสายธาร คดเคี้ยว ไหลเลี้ยวลับ
ช่างเหมือนกับ น้ำใจ สายสมร
ขาดซึ่งความ แหนหวง ห่วงอาวรณ์
นึกอยากจร ก็ไป ไม่ร่ำลา
18 กันยายน 2554 12:28 น.
สุนทรวิทย์
เวลา และวารี
เหมือนชีวี ที่เคลื่อนไหว
เยือนมา แล้วคลาไคล
ไม่เคยหวน ทวนกลับคืน
สรรพสิ่ง อิงสมมุติ
เกิด,ชำรุด สุดแข็งขืน
อนิจจัง มิยั่งยืน
ฝันที่ชื่น ตื่นก็คลาย
สิ่งใด ไหนเที่ยงแท้
ล้วนผันแปร แก่สลาย
ผลิ,ก่อ เพียงรอวาย
บทสุดท้าย คล้ายคลึงกัน
ล้านล้าน ปีผ่านมา
ผองชีวา ล้วนอาสัญ
ตอนอยู่ สู้ประจัญ
ปัจจุบัน เหลืออันใด
กำเนิด เกิดตัวเปล่า
ยามตายเผา เถ้ามอดไหม้
ลาภ,ยศ หมดสิ้นไป
วอดตามไฟ ในพริบตา
ชีพยัง จงตั้งใจ
ทำดีไว้ ให้คุ้มค่า
สายธาร กาลเวลา
มิรอท่า แม้นาที
18 กันยายน 2554 12:23 น.
สุนทรวิทย์
สุนัข ริมทาง ข้างถนน
ขาดคน เผื่อแผ่ แลเหลียว
เห็นบ่วง สวิง วิ่งเกรียว
ขี้เยี่ยว พรวดพราด ราดนอง
สมเพช เวทนา หมาเอ๋ย
ก่อนเคย เคลียเคล้า เจ้าของ
เรียนรู้ ถ้อยคำ ช่ำชอง
ร่าเริง แคล่วคล่อง ว่องไว
พอเขา เลิกเกื้อ เบื่อรัก
ก็เปลี่ยน ใจยักษ์ ผลักไส
นำปล่อย ทิ้งร้าง ห่างไกล
ช่างไม่ เมตตา ปรานี
อดอยาก ท้องกิ่ว หิวโซ
เผโผ ตามบาท-วิถี
อนาถ บาดวิ่น อินทรีย์
ไร้ที่ พึ่งพิง กริ่งเกรง
คุ้ยกิน ขยะ ประทัง
คนยัง ตะบม ข่มเหง
ราวี เอะอะ ตะะเบ็ง
เพ่งเล็ง ขึงขัง รังควาน
มากถูก รถยนต์ ชนทับ
ม้วยดับ เอวัง สังขาร
ที่รอด ขื่นขม ซมซาน
พิการ หงอยเหงา เศร้าใจ
เทศบาล ตอกย้ำ อำมหิต
ตามปลิด ชีวิต คิดไหม
สุนัข มีทัณฑ์ อันใด
ไฉน เข่นฆ่า สามานย์
18 กันยายน 2554 12:13 น.
สุนทรวิทย์
อยากเห็น ปฐพี นี้ไร้ทุกข์
มีแต่สุข สงบ ครันครบถ้วน
พ้นจากสิ่ง ชั่วร้าย ใดรบกวน
ผู้คนล้วน เป็นมิตร จิตผูกพัน
อยากเห็น นักการเมือง เลิกเยื้องยัก
เขม้นขะมัก สุจริต คิดสร้างสรรค์
ถือประโยชน์ ชาติเน้น เป็นสำคัญ
ยอมยึดมั่น เคร่งครัด ต่อสัจจา
อยากเห็นหมอ ทั้งปวง ห่วงคนไข้
เอาใจใส่ เข้มงวด ตรวจรักษา
ใช่จดจ้อง ร้องหา แต่ค่ายา
ใครรวยจน อนาถา อย่าตัดรอน
อยากเห็นสงฆ์ คงความ งามอย่างสงฆ์
มุ่งธำรง ธรรมะ พระคำสอน
งดให้เลข เสกคาถา พยากรณ์
ให้วัดเป็น ที่ดับร้อน ตอนยุ่งใจ
อยากเห็นครู เป็นครู ผู้สูงส่ง
เจตจำนง ทุ่มเท มิเฉไฉ
ข่าวฉาวโฉ่ อัปยศ จงหมดไป
เป็นโคมไฟ ฉายแสง แห่งปัญญา
อยากเห็นบรร-ดาพ่อค้า หยุดหน้าเลือด
อย่าเฉือนเชือด ประชาชน จนหนักหนา
ทิ้งนิสัย ขี้โกง โก่งราคา
เลิกทำนา หาผล บนหลังคน
อยากเห็นเหล่า คนชั่ว กลับตัวได้
เร่งขับไล่ ความทราม ความฉ้อฉล
ยุติสิ่ง เลวร้าย ในกมล
สำนึกตน หลาบจำ ต่อกรรมเวร
อยากเห็นนี่ เห็นนั่น นั่งฝันเฟื่อง
แท้จริงเรื่อง หลายหลาก ที่อยากเห็น
มีโอกาส น้อยนัก จักได้เป็น
ตราบคนยัง เลือดเย็น เน้นร่ำรวย
สังคมเมือง อ่อนแอ แพ้ความโลภ
คนละโมบ ยิ่งงก ยิ่งฉกฉวย
ถ้าส่วนรวม ไม่ร่วมจิต คิดอำนวย
รอแต่ผู้ อื่นช่วย ก็ป่วยการ