20 กันยายน 2554 11:59 น.
สุนทรวิทย์
โบราณว่า คารมชาย นั้นร้ายนัก
เป็นกับดัก ผลาญพร่า คร่าความสาว
ใครหลงลม จมปลัก จักเปื้อนคาว
คงปวดร้าว ย่อยยับ พาอับจน
สุภาษิต เยี่ยงนี้ มีอยู่มาก
แต่ยังยาก เตือนใจ ให้เกิดผล
สตรีผู้ ทิฐิ มิกังวล
มักหลงตน เหยียบย่ำ คำท้วงติง
คนไม่เจอ กับกลัว มิกลัวพลาด
อวดฉลาด ยโส โง่แกมหยิ่ง
ยอมปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้เขาอิง
ครั้นถูกทิ้ง คิดได้ ก็สายเกิน
ก่อนเชื่อใคร กลั่นกรอง ตรองให้ซึ้ง
ถึงก้นบึ้ง เบื้องใน ใช่ผิวเผิน
ควรฟังหู ไว้หู รู้ประเมิน
ยามเผชิญ คำหวาน มิลานลน
อันบุรุษ สุดดี นั้นมีน้อย
ต้องค่อยค่อย คุ้ยหา อย่าสับสน
หนึ่งเดียวที่ คบได้ ไร้เล่ห์กล
เขาชื่อคน-รักกลอน สุนทรวิทย์
19 กันยายน 2554 14:09 น.
สุนทรวิทย์
แสงโสมส่อง จากฟ้า มาโลมหล้า
พสุธา แอร่ม แจ่มสนอง
ดวงดารา วับวาว พราวเรืองรอง
ถึงผุดผ่อง เปรียบกานดา หาเทียมทัด
เธอสกาว เปล่งปลั่ง บดบังแข
วิไลแท้ พริ้งเพริศ เจิดจรัส
เพิ่งพบเห็น รัญจวน ชวนประพัทธ์
ยากสลัด อารมณ์ นึกชมเชย
กามเทพ แผลงศร ปักร้อนเร่า
หลงใหลเจ้า เข้าแล้ว แก้วตาเอ๋ย
รักปฐม ครั้งแรก แปลกมิเคย
จะเอื้อนเอ่ย วาจา ประหม่าจริง
หันปรึกษา พวกพ้อง ผองรอบรู้
ล้วนแต่ผู้ ปราดเปรื่อง เรื่องราวหญิง
วานเป็นสื่อ ติดต่อ ขอพึ่งพิง
คนหนึ่งชิง อาสาช่วย ด้วยเร็วไว
ราวหนึ่งเดือน ผ่านพ้น ผลเกินคาด
เพื่อนบังอาจ ทรยศ คดเฉไฉ
สาวที่ฉัน หมายตา มันคว้าไป
ฝากปลาไว้ กับแมว แห้วเลยเรา
19 กันยายน 2554 14:04 น.
สุนทรวิทย์
ตราบขุนเขา ยืนยง ดำรงมั่น
มิไหวหวั่น แรงลม คมแดดเผา
ตราบนั้นฉัน ยังมั่นคง ต่อนงเยาว์
ไม่บรรเทา ผันแปร แม้ธุลี
ตราบอาทิตย์ คงอยู่ คู่เวหา
ท้องนภา ราตรี มีศศี
ตราบนั้น ฉันบูชา กัลยาณี
ขอภักดี ผูกพัน จวบวันวาย
ให้ทะเล ทั่วถ้วน ล้วนเหือดแห้ง
ธารทุกแห่ง แล้งขอด ตลอดสาย
แต่น้ำใจ ฉันคงเหลือ-เฟือมากมาย
มิสูญหาย ถอยถด สักหยดเชียว
มดปลวกใด สัมผัส กัดโฉมศรี
ฉันจะบี้ ให้ตาย หลายหลายเที่ยว
ผู้ใดทำ เธอหงุดหงิด แม้นิดเดียว
จักเข่นเขี้ยว เกรี้ยวโกรธ ถึงโคตรมัน
รักของใคร มัวเมา หนักเท่าไหน
ก็คงไม่ คลุ้มคลั่ง ดั่งตัวฉัน
มิเห็นหน้า จอมขวัญ วันสองวัน
ทุกข์โศกศัลย์ แดดิ้น แทบสิ้นใจ
19 กันยายน 2554 13:55 น.
สุนทรวิทย์
เอาลูก เขามาเลี้ยง
เหมือนเอาเมี่ยง เขามาอม
โวหาร เก่านานนม
ยังเฉียบคม ฟังสมจริง
น้ำคำ ถ้อยสำนวน
มิสมควร ด่วนเกรงกริ่ง
วจี ที่ติติง
อ่อนอ้างอิง สิ่งยืนยัน
นิสัย เด็กวัยรุ่น
มีละมุน และหุนหัน
ปัญหา เรื่องสามัญ
เพียงกวดขัน หมั่นอบรม
เด็กงาม ตามผู้ใหญ่
เจียระไน ได้เหมาะสม
อัปภาคย์ จากโคลนตม
สู่อุดม ก็ถมไป
ตำหนิ ติลูกเขา
ลูกตนเล่า ดีเท่าไหน
แตกต่าง กันอย่างไร
ควรชั่งใจ ไตร่ตรองดู
ลูกใคร ใช่กำหนด ว่าหมดจด ฤๅอดสู
สำคัญ กตัญญู รักเชิดชู ผู้มีคุณ
19 กันยายน 2554 13:44 น.
สุนทรวิทย์
แม่รักเจ้า เช่นเจ้านี้ ที่รักลูก
จึงพันผูก แต่เยาว์ เฝ้ารักษา
ทะนุถนอม อนุบาล ปานแก้วตา
หมั่นนำพา อาทร สอนแนะนำ
เจ้ากำพร้า สิ้นพ่อ แม่ก็สู้
รักเอ็นดู มิให้ ใครเหยียบย่ำ
ถึงจนยาก ลำบาก ทนตรากตรำ
ป้อนข้าวน้ำ ลูกน้อย คอยห่วงใย
แม่คนเดียว กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงลูกห้า
แบกปัญหา ทุกอย่าง สางแก้ไข
เร่งกระวี กระวาด แทบขาดใจ
แอบร้องไห้ บ่อยครั้ง หลังหมดแรง
บัดนี้เจ้า ต่างเรียนรู้ เป็นผู้ใหญ่
แยกย้ายไป ได้ดี มีตำแหน่ง
สร้างครอบครัว ยืนหยัด ทะมัดทะแมง
เปลี่ยนหลักแหล่ง ทิ้งแม่อยู่ เพียงผู้เดียว
เจ้ารักลูก เยี่ยงแม่นี้ ที่รักเจ้า
เหตุใดเล่า จึงลืมแม่ มิแลเหลียว
ปล่อยอ้างว้าง ตรมตรอม ผอมซูบเซียว
ตายโดดเดี่ยว ด้วยถูก ลูกละเลย
ไยร้องเรียก ระทม ฟังขมขื่น
แม่ไม่ตื่น อีกแล้ว ลูกแก้วเอ๋ย
เลิกกราบไหว้ สิ้นเปลือง เครื่องสังวย
ใช่ชดเชย แม่ฟื้น คืนกลับมา