1 ตุลาคม 2554 12:11 น.
สุนทรวิทย์
คารวะ อภิวาท ปราชญ์ใหญ่น้อย
เชิญมาร้อย คำคม อารมณ์ฝัน
ประกวดเลือก มณี กวีวรรณ
อวดเชิงชั้น ฝีปาก ฝากฝีมือ
ร่วมปรุงแต่ง แสงสี ลีลาพจน์
สรรค์สร้างบท กาพย์กลอน กระฉ่อนชื่อ
กลั่นน้ำคำ อมตะ งามระบือ
ชวนสดับ นับถือ เล่าลือไป
เลิกอมภูมิ ถ่อมตน ทนเสแสร้ง
อยากสำแดง โวหาร จงขานไข
มีปัญญา เก่งกล้า สามารถใด
ลองเผยไต๋ ไม้เด็ด เคล็ดลับมา
จะสอยดาว สาวเดือน เร่งเอื้อนเอ่ย
คิดเปรียบเปรย ท้องทะเล ชี้เวหา
เชิญปลดปล่อย ถ้อยศิลป์ จินตนา
เติมชีวิต-ชีวา ภาษาใจ
เวที กวีวรรณ รอขันแข่ง
มิเคยแบ่ง แยกหมู่ ผู้เลื่อมใส
เพียงรู้ค่า อาทร กาพย์กลอนไทย
จะเป็นใคร ต่างมีสิทธิ์ คิดประลอง
อย่าคอยจน มรดก ชาติตกหาย
เราทั้งหลาย ทุกเหล่า ล้วนเจ้าของ
ควรเฟ้นหา ทายาท ปราชญ์ช่ำชอง
มาพลิกฟื้น ร้อยกรอง ให้รองเรือง
1 ตุลาคม 2554 12:06 น.
สุนทรวิทย์
กองไฟเพียง เล็กน้อย หากปล่อยไว้
อาจเผาไหม้ ไพรสณฑ์ จนหมดสิ้น
ลมปากคน นินทา อยู่อาจิณ
ใครได้ยิน บ่อยบ่อย มักคล้อยตาม
คนปากบอน ตอแหล ยากแก้ไข
พบอะไร รู้เห็น เป็นต้องพล่าม
เหตุนิดเดียว เที่ยวขยาย ให้ลุกลาม
นับเป็นความ วิปริต ติดถาวร
การติคน สามหาว กล่าวลับหลัง
ย่อมประดัง เสียงทิ่มแทง แย้งขอดค่อน
เราว่าเขา เขาว่าเรา เฝ้าต่อกร
ต่างเดือดร้อน เปื้อนเปรอะ เลอะพอกัน
ถึงมีปาก ใช่มีสิทธิ์ คิดใส่ไคล้
เรื่องเหลวไหล ไร้สาระ อย่าขยัน
ขืนจับเหา ใส่หัว ตัวจะคัน
ผูกสัมพันธ์ ดีกว่า หาศัตรู
พูดดีเป็นศรีปาก ฝากให้คิด
พูดผิดผิด คนชัง ฟังขัดหู
เขาเรียกพวก ปากพล่อย ปากหอยปู
ชอบสู่รู้ เนืองนิตย์ เพราะจิตทราม
1 ตุลาคม 2554 11:59 น.
สุนทรวิทย์
น้องเอย น้องจ๋า อย่างอนง้ำ
ใครทำ ให้น้อง-พี่หมองศรี
น้องเอ๋ย อย่าหม่น น้องคนดี
ฟังพี่ ปลอบหน่อย เลิกน้อยใจ
ตัวน้อง โสภา แสนน่ารัก
ใครจัก มีจิต คิดผลักไส
น้องงาม ผุดผ่อง มิรองใคร
ชายใด ไม่หลง คงไม่มี
ที่เขา มิกล้า มาเกี่ยวข้อง
ขอน้อง ใคร่ครวญ ให้ถ้วนถี่
เขาอาจ มีใจ ผูกไมตรี
แต่หน้าที่ พันธะ สุดละวาง
น้องงาม ขำคม สมอิตถี
อยู่ดี มีสุข ครบทุกอย่าง
หยุดทำ สลด หมดหนทาง
คนห่าง อยู่ไกล ไยผูกพัน
น้องเอย น้องจ๋า พี่มาปลอบ
เพื่อมอบ พลัง กำลังขวัญ
ฟังน้อง วิโยค โศกจำนรรจ์
พี่พลัน เจ็บแปลบ แทบสิ้นลม
30 กันยายน 2554 17:14 น.
สุนทรวิทย์
ยามดี มีข้าทาส
เปี่ยมอำนาจ วาสนา
เงินทอง เนืองนองมา
มิตรศรัทธา น่าเปรมปรีดิ์
ถึงครา ชะตาร้าย
ทรัพย์มลาย กลายเป็นหนี้
บัดดล คนเคยดี
เปลี่ยนท่าที ตีจากพลัน
น้ำใจ ในยามยาก
หาลำบาก ขวากมหันต์
คนหยาม กลับครามครัน
เหมือนเดียดฉันท์ กันอาจิณ
ก่อนเขา เฝ้าประจบ
เพราะเคารพ นบทรัพย์สิน
มิใช่ ใจยอมยิน
เมื่อทรัพย์สิ้น ย่อมผินไป
ยามใด ใครกล่าวชม
อย่าหลงลม จมสาไถย
พวกสอ-พลอเอาใจ
มักเป็นภัย กว่าให้คุณ
30 กันยายน 2554 17:05 น.
สุนทรวิทย์
ฉันคน ตกยุค รุกไม่คืบ
กระดืบ หนึบหนับ อยู่กับที่
ฟังเขา คุยเขื่อง เรื่องมั่งมี
บ้าจี้ คิดมาก อยากมีตาม
แหงนมอง ชะแง้ แลที่สูง
จิตจูง ใจคล้อย พลอยทวงถาม
เมื่อไหร่ ฐานะ จะงอกงาม
ปริ่มความ มั่งคั่ง ดังจำนง
ภูมิรู้ หางอึ่ง กึ่งล้าหลัง
ดันตั้ง เป้าหมาย ไว้สูงส่ง
งกงก หมกมุ่น จนงุนงง
เดี๋ยวทรง เดี๋ยวทรุด สะดุดพลัน
คนไร้ ปัญญา อ่อนสามารถ
มิอาจ เทียมใคร ได้แต่ฝัน
ยุคใหม่ คนใหม่ ไฟครามครัน
ส่วนฉัน มันแก่ แพ้กลไก
มองต่ำ ลงนิด เพ่งพิศหน่อย
คนด้อย กว่าเรา มีเท่าไหน
ที่ยาก ที่จน ล้นไผท
ไฉน ไม่เปรียบ ไม่เทียบเคียง
ภาวะ วุฒิ สิฟ้องชัด
ผูกมัด ฉันให้ ไม่อาจเถียง
เลิกโทษ ดิน,ฟ้า ว่าลำเอียง
เลิกเกี่ยง เลิกพ้อ ขอปล่อยวาง
เตือนตน เตือนใจ ใฝ่หน้าที่
วิถี มนุษย์ สุดแตกต่าง
ร้อยคน ผจญ ร้อยหนทาง
สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ช่างปะไร