5 ตุลาคม 2554 11:39 น.

อธรรมครอบงำโลก

สุนทรวิทย์

โดยวิสัย  มัตตัญญู  รู้ดีชั่ว
			ย่อมหลาบกลัว  ต่อกรรม  การทำผิด
			รู้แยกแยะ  วิถี  ทางชีวิต
			รู้จักคิด  รู้จักเฟ้น  เป็นสามัญ

				        จากปางบรรพ์  สืบมา  ถึงครานี้
			สิ่งว่าดี  เมื่อเดิม  เริ่มพลิกผัน
			เรื่องธรรมะ  อธรรม  หมดสำคัญ
			สังคมหัน  หลังให้  ไม่นำพา

				         คนเล็งหา  ประโยชน์  มุ่งโภชย์ผล
			ทำกุศล  เพียงหวัง  แค่บังหน้า
			อธรรมเหิม  ครอบงำ  ย่ำโลกา
			มนุษยชาติ  ปรารถนา  แต่อามิส

				         คนมีเงิน  เขื่องโข  โอ่อำนาจ
			มวลชนขาด  จริย  วิปริต
			ใครมือยาว  สาวได้  สาวสุดฤทธิ์
			มิรู้มิตร  รู้ศัตรู  กูอย่างเดียว

				        ชักไม่เชื่อ  มีพระใด  ไหนศักดิ์สิทธิ์
			โลกวิกฤต  อย่างไร  ท่านไม่เกี่ยว
			ต่างเงียบกริบ  เอาตัวรอด  จอดนิ่งเชียว
			มิแลเหลียว  เอ็นดู  ผู้คนเลย				
4 ตุลาคม 2554 16:21 น.

หาเหาใส่หัว

สุนทรวิทย์

คนหาเหา  ใส่หัว  ให้ตัวทุกข์
					มีทุกยุค  ทุกสมัย  ไม่เคยหมด
					ถึงเดือดร้อน  สิ้นท่า  พิลาลส
					ก็ยังอด  มิได้  ในสันดาน
						
              ปัญหาเขา  เราไม่เกี่ยว  กลับเที่ยวแส่
					สาระแน  ปราดเปรื่อง  เรื่องชาวบ้าน
					ได้สอดรู้  สอดเห็น  เป็นชื่นบาน
					คอยจุ้นจ้าน  เสนอหน้า  อยู่อาจิณ
						
              เขาเรียกพวก  ชอบแกว่งเท้า  เข้าหาเสี้ยน
					ช่างพากเพียร  อุตริ  มิจบสิ้น
					ข่าวคราวใด  เล็ก,ใหญ่  ให้ได้ยิน
					ต้องตามกลิ่น  ซอกแซก  แปลกพิกล
						
              สังคมชัง  รังเกียจ  มิตรเดียดฉันท์
					ถูกแดกดัน  อย่างไร  ล้วนไม่สน
					ถือดังเรื่อง  สนุก  สุขกมล
					ใครจะก่น  ใครจะด่า  ข้าไม่ฟัง
						
              คนเช่นนี้  มีทั่วไป  ดูไม่ยาก
					เพียงปริปาก  ก็สำรอก  บอกภูมิหลัง
					ส่ออาการ  ทางจิต  เกินปิดบัง
					น่าชิงชัง  สังเวช  สมเพชจริง				
4 ตุลาคม 2554 16:14 น.

หายอยากพลันหายทุกข์

สุนทรวิทย์

คนไร้โรค  ไร้ภัย  ใจย่อมสุข
				หากยังทุกข์  นั่นเพราะ  ตัวเสาะหา
				ความอยากมี  อยากได้  ในอัตตา
				มิลดรา-วาศอก  เรื่องนอกกาย
					
           ทุกข์,สุขผลิ  จากใจ  ใช่สินทรัพย์
				ลองระงับ  แรงอยาก  อันมากหลาย
				พิษกลัดกลุ้ม  รุ่มร้อน  คงผ่อนคลาย
				โรคกระหาย  เนื้อแท้  เกิดแต่ตน
					
           มนุษย์มี  ปรารถนา  ชั่วอายุ
				ปล่อยวัตถุ  ครอบงำ  ทำสับสน
				จิตสำนึก  รังเกียจ  เหยียดความจน
				คอยแบ่งชน  แบ่งชั้น  กันอาจิณ
					
            ชาติหนึ่งอยู่  มินาน  ก็ผ่านพ้น
				ไยกังวล  หวั่นไหว  ไม่จบสิ้น
				แรกเกิดมา  เปลือยเปล่า  เท่ากรวดดิน
				แค่มีกิน  สักมื้อ  คือกำไร
					
            หมั่นชะล้าง  ความอยาก  แม้ยากยิ่ง
				ขจัดสิ่ง  อัปลักษณ์  ปวงหยักไย่
				รู้จักอิ่ม  รู้จักพอ  ก็สุขใจ
				อยากฉันใด  ทุกข์ฉันนั้น  นั่นแหละคน				
4 ตุลาคม 2554 16:01 น.

ตายตอนจบ

สุนทรวิทย์

แฟนว่าฉัน โป้ปด กล่าวมดเท็จ
		ตะโกนเอ็ด-ตะโร จับโกหก
		โกรธเฉียวฉุน  วุ่นวาย  อยู่หลายยก
		เฝ้าวิตก  กังวล  บ่นประชด

					     พร่ำเป็นตุ-เป็นตะ ซะลั่นบ้าน
				แต่หลักฐาน ใดใด ไม่ปรากฏ
				โทษฉันว่า ปัดสวะ ทรยศ
				ฉันจึงอด มิได้ ใคร่ชี้แจง

			      หญิงที่ฉัน บังเอิญ  เดินไปด้วย
		เธอชื่อหมวย แฟนเก่า ของเจ้าแหวง
		อีกคนที่ ทักฉัน นั่นน้องแดง
		เมียไอ้แสง ลูกตามี ที่เป็นครู

					      ทั้งสมศรี ลำดวน ล้วนเป็นเพื่อน
				น้องดวงเดือน  ก็แค่ แม่ค้าหมู
				ส่วนเบอร์โทร นี่ของใคร ฉันไม่รู้
				เลิกขี้ตู่  หาเรื่อง ให้เคืองกัน
	
			        ฉันซื่อตรง เสมอ เธอก็เห็น
		หยุดลำเค็ญ เข้มงวด ตามกวดขัน
		ฉันมิเคย เป็นอื่น พร้อมยืนยัน
		ขอจอมขวัญ มั่นใจ ได้ครันครบ

					     กว่าจะปลอบ กันได้ ใจแทบขาด
				ดันมาพลาด ง่ายง่าย ตายตอนจบ
				กิ๊กน่ะสิ โผล่หน้า มาขอพบ
				เลยโดนตบ เสียเช็ด เข็ดแล้วเรา				
3 ตุลาคม 2554 15:19 น.

อนารยะสมัย

สุนทรวิทย์

คนยุคนี้  ทำไม  จิตใจต่ำ
			        ชอบก่อกรรม  ทำเข็ญ  เห็นแก่ได้
			    มิเกรงกลัว  อานุภาพ  บาปเวรใด
			มุ่งฝักใฝ่  ในฐานะ  ประโยชน์ตน
									
               เขาซื้อขาย  ได้แม้  แต่ทารก
							 ในหัวอก-หัวใจ  ไร้กุศล
						อำมหิต  ผิดมนุษย์  สุดวิกล
				ชีวิตคน  กลับเห็น  เช่นผักปลา
		
	            	ไอ้พวกค้า  ยาเสพติด  จิตอุบาทว์
			        ทำลายชาติ  แทบล่ม-จมผวา
			    เยาวชน  หลงผิด  เพราะฤทธิ์ยา
			สังคมล้า  อ่อนแอ  แพ้พิษภัย
									
              มิจฉาชีพ  กำเริบ-เสิบสานหนัก
						  วนในปลัก  กิเลส  เปรตวิสัย
				 ทั้งปล้นชิง  เข่นฆ่า  ชีวาลัย
		ไม่ปรานี-ปราศรัย  ใจทมิฬ
	
          			การทำร้าย  เด็ก,สตรี  มีดาษดื่น
			        บ้างข่มขืน  ป่าเถื่อน  เหมือนยุคหิน
			    คุณความดี  ด้อยค่า  กว่ากรวด,ดิน
			ดูดั่งสิ้น  อารยะ  แห่งพระธรรม
									
             หรือว่ายุค  อนารยะ  จะมาถึง
						   ใจคนจึง  หยาบช้า  บ้าระห่ำ
			    คนดีถูก  ข่มเหง  ทุกข์เครงครำ
			ใครเหยียบย่ำ  อย่างไร  ได้แต่ทน
		
            		กราบวิงวอน  พระสยาม-เทวาธิราช
			        โปรดบำราศ  ผองภัย  ให้เห็นผล
			    ช่วยกำราบ  ปราบต้นตอ  ทรชน
			พาไทยพ้น  วิกฤต  สัมฤทธิ์เทอญ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์