22 ตุลาคม 2554 11:47 น.
สุนทรวิทย์
ตอนฉันมี เงินร้อย ดูน้อยนัก
พอประจักษ์ หลักพัน นั่นจิ๊บจ้อย
ครั้นมีหมื่น มีแสน กลับแหงนคอย
หน้าละห้อย จดจ่อ รอเงินล้าน
จากหนึ่งล้าน เป็นสิบ หยิบนานเข้า
เริ่มดูเบา คิดกำ-เริบเสิบสาน
หมายร้อยล้าน พันล้าน สำราญการ
ทะเยอทะยาน มิจบ มุ่งรบรา
วันวันหน้า หมองคล้ำ ดำเคร่งเครียด
กระฟัดกระเฟียด พันตู สู้ปัญหา
เดี๋ยวเรื่องนี้ เรื่องนั้น ผลัดกันมา
มันคุ้มค่า ไหมหนอ ก็แปลกใจ
เพียรถามตน ไฉน เหนื่อยไม่สิ้น
แม้ทรัพย์สิน อดุลย อสงไขย
ตายแล้วก็ หมดสิทธิ์ คิดนำไป
แค่กินใช้ ไยขันแข่ง เหมือนแย่งชิง
รู้ทั้งรู้ ซาบซึ้ง ถึงเหตุผล
กลับเตือนตน มิได้ ในสักสิ่ง
ความอยากได้ มักมาก ห้ามยากจริง
รังแต่ยิ่ง หมกมุ่น ยิ่งรุนแรง
22 ตุลาคม 2554 11:15 น.
สุนทรวิทย์
รักจริงจริง รักสุดสุด หยุดมิได้
รักหมดใจ หมดจิต พร่ำคิดถึง
รักเช้าสาย บ่ายค่ำ ย้ำคำนึง
รักประหนึ่ง จะวาย ในพิษรัก
รักทุรน ทุราย คล้ายคนบ้า
รักเข้าขั้น โคม่า อาการหนัก
รักไม่หลับ ไม่นอน ไม่ผ่อนพัก
รักสุดหัก สุดห้าม ความภักดี
บอกว่ารัก แทบคลั่ง ยังทำเงียบ
นั่งพับเพียบ อิดเอื้อน เหมือนเจอผี
บอกว่ารัก น่ะรัก ฟังสักที
เดี๋ยวตูมี โมโห โกรธานะ
รักโว้ยรัก เงี่ยหู ฟังอยู่เปล่า
รู้ว่าเมา ยังเล่นตัว ยั่วโทสะ
แม่งหูหนวก เป็นใบ้ หรือไงวะ
ตูชักจะ หงุดหงิด คิดจองเวร
หากไม่ตอบ วันนี้ มีเรื่องแน่
ตูจะแก้ ผ้าโชว์ โป๊ให้เห็น
ถ้าไม่ตอบ เสียงดัง ฟังชัดเจน
ตูจำเป็น ต้องยื้อยุด ฉุดอย่างเดียว
22 ตุลาคม 2554 10:49 น.
สุนทรวิทย์
ฉันไปซ้าย เธอไปขวา น่าประหลาด
ฉันเปรื่องปราด เธอซื่อบื้อ ดื้อตาใส
ฉันดื่มเหล้า เธอดื่มนม ต้มไวไว
ฉันตัวใหญ่ เธอตัวเล็ก เหมือนเด็กดอง
ฉันกินคาว เธอกินแจ แก้ไม่ตก
ฉันตลก เธอจริงจัง นั่งขุ่นข้อง
ฉันซื้อหวย เธอยื้อ ขอซื้อทอง
ฉันแคล่วคล่อง เธอง่อนแง่น แสนร่ำไร
ฉันพูดมาก เธอนิ่งเฉย มิเคยเหมือน
ฉันรักเพื่อน เธอรักแม่ สุดแก้ไข
ฉันเข้าผับ เธอเข้าวัด คอยขัดใจ
ฉันคบใคร เธอก็ติ มิเข้าที
ฉันชอบแมว เธอชอบหมา หาแต่เรื่อง
ฉันขุ่นเคือง เธอสะใจ คล้ายสุขศรี
ฉันกับเธอ แตกต่าง กันสิ้นดี
ต่างคนมี ทิฐิ ข้อพิรุธ
เราดุจเส้น ขนาน ประสานยาก
มีวิบาก มากมาย ไม่สิ้นสุด
สุมด้วยความ ผิดแผก แปลกมนุษย์
ฉันเป็นตุ๊ด เธอเป็นทอม สุดรอมชอม
21 ตุลาคม 2554 12:22 น.
สุนทรวิทย์
เขาเล่าว่า เป็นวจี ที่คุ้นหู
เรื่องไม่รู้ ยังอุตส่าห์ ว่าเขาเล่า
ปากต่อปาก ขยายความ ตามคาดเดา
สุดแต่เขา ปรุงแต่ง แข่งบรรยาย
การนินทา บิดพลิ้ว เล่นชิวหา
ใช้วาจา ตอกย้ำ พร่ำเช้า-สาย
จิตหนักแน่น ดุจสิงขร ก็คลอนคลาย
จะดี,ร้าย มักตัดสิน ด้วยลิ้นลม
ฟังอะไร กลั่นกรอง ตรองเสียก่อน
แล้วจึงย้อน วิเคราะห์ จนเหมาะสม
มีสติ พิจารณา เหนืออารมณ์
ใช่ชื่นชม งมงาย ในข่าวลือ
สิ่งมิเห็น กับตา อย่าพึ่งเชื่อ
พวกพร่ำเพรื่อ ชอบประณาม ห้ามยึดถือ
เรื่องใดผ่าน หลายปาก ฝากหลายมือ
ล้วนกระพือ เกินเหตุ ข้อเท็จจริง
เขาเล่าว่า อย่างไร ไม่อาจห้าม
อย่าเผลอตาม ต่อถ้อย พลอยสุงสิง
คนอยากเล่า คันปาก ยากท้วงติง
ให้อยู่นิ่ง หยุดลิ้น คงสิ้นใจ
21 ตุลาคม 2554 12:16 น.
สุนทรวิทย์
มองหมู่ดาว วาววับ ประดับฟ้า
คิดถึงหน้า นงราม ทรามสมร
ดึกป่านนี้ โฉมยง คงเข้านอน
เธอหนุนหมอน หรือหนุน อกอุ่นใคร
ลืมอดีต สิ้นแล้ว นะแก้วเอ๋ย
ชายที่เคย อิงแอบ แนบชิดใกล้
ก่อนเธอบอก ว่าหวง เท่าดวงใจ
เหตุไฉน แหนงหน่าย ง่ายดายจัง
สลัดคราบ นงคราญ สาวบ้านทุ่ง
ไปหลงกรุง เพลิดเพลิน เมินความหลัง
เหมือนวิหค ทิ้งคอน จรจากรัง
เลิกอินัง-ขังขอบ แม้ครอบครัว
เบื่อน้ำพริก ปลาเจ่า ถ้วยเก่าก่อน
อนาทร ชิงชัง ทั้งลูก,ผัว
ขาดสติ ยั้งคิด จิตเมามัว
ยอมปล่อยตัว ปล่อยใจ มิไตร่ตรอง
ไม่รับรู้ สิหนา ว่าฉันเจ็บ
ทุกข์เกินเก็บ อารมณ์ ข่มเศร้าหมอง
ยิ่งคิดยิ่ง ชอกช้ำ น้ำตานอง
อกกลัดหนอง ยามได้ยิน เสียงนินทา
ไปดีเถิด ฉันอภัย ให้เสมอ
ขอเพียงเธอ สุขสันต์ ไร้ปัญหา
พบคู่ครอง คนใหม่ ใจเมตตา
ฉันก็พลอย โมทนา สาธุการ