13 พฤศจิกายน 2554 10:31 น.
สุนทรวิทย์
หากมีทาส ขอเลี้ยง เพียงทาสรัก
ฉันจะกัก ขังนาง อย่างแสนเข็ญ
อยู่ในห้อง กรงใจ ไว้เช้าเย็น
เคี่ยวเข็ญเป็น ทาสรัก ผู้ภักดี
เฆี่ยนด้วยแส้ สวาท บาดแผลลึก
ตราบสำนึก ผูกพัน ฉันเต็มที่
ใช้อาทร แทนอาวุธ ยุดอินทรีย์
กว่ายอมพลี ปรนนิบัติ เลิกตัดรอน
นำเมตตา ลบทิฐิ ศิโรราบ
ทุ่มรักปราบ น้ำใจ ให้โอนอ่อน
ประทับจูบ เหนี่ยวรั้ง จิตบังอร
ซ้ำแทรกซอน ด้วยกล มนตร์วาจา
สองแขนกอด ดังโซ่ เส้นโตใหญ่
ผูกล่ามใส่ ติดตรึง ขึงข้อขา
แม้นขัดเคือง ตีรวน ชวนโกรธา
ลงโทษา ด้วยอกอุ่น ให้คุ้นเคย
แล้วประหาร โดยทัณฑ์ ขั้นอุกฤษฏ์
จับขวัญจิต วิวาห์ หน้าตาเฉย
ตำหนักทาส เปิดประตู รอคู่เชย
กล่าวเปิดเผย ประกาศ รับทาสรัก
12 พฤศจิกายน 2554 11:27 น.
สุนทรวิทย์
แร้งขนดำ หัวล้าน ชาญเวหน
ดูพิกล อัปลักษณ์ ไร้ศักดิ์ศรี
ปากงองุ้ม ตึตัง ทั้งอินทรีย์
มิเห็นมี ตรงไหน ให้ชื่นชม
ทึ้งซากสัตว์ เน่าเหม็น เป็นอาหาร
สาบสังขาร มลทิน กลิ่นหมักหมม
วิหคอื่น เบือนหน้า สิ้นสมาคม
อนิยม หยามเหยียด นึกเกลียดชัง
ส่วนหงส์หยก ลวดลาย หลายสีสัน
ช่างขยัน แต่งองค์ ในกรงขัง
บรรจงไซ้ ปีกหาง สำอางจัง
ยืดอกตั้ง สำรวย อวดสวยงาม
กายวิลาส โสภี มีสง่า
ส่งภาษา เพลิดเพลิน เดินงุ่มง่าม
ยืนเคลียคลอ ออเซาะคู่ อยู่ทุกยาม
ผสมความ เริงร่า ยิ่งน่ารัก
หงส์หยกหนึ่ง หลุดมา เกาะค่าคบ
บังเอิญพบ เห็นแร้ง แสร้งแหลมหลัก
แร้งเอ๋ยกิน อะไร ใคร่ถามทัก
ขี้ริ้วนัก น่าสมเพช เพราะเหตุใด
แร้งเฒ่าตอบ ทันควัน ฉันชิมซาก
ไม่ยุ่งยาก แม้ปักษิน ก็กินได้
รอคอยเจ้า ตกอับ ดับลงไซร้
จะเข้าใจ ไปเอง อย่าเร่งร้อน
หงส์หยกเคย อิ่มพี มีคนเลี้ยง
สุดเอาเยี่ยง หากิน บินเร่ร่อน
เพียงสองวัน ก็มลาย วายม้วยมรณ์
เลี้ยงอุทร ประเคน เป็นเหยื่อแร้ง
เปรียบรูปโฉม โนมพรรณ นั้นเปลือกนอก
ใช่บ่งบอก นิยาม ความเข้มแข็ง
อันหน้าตา สวย,หล่อ พอดัดแปลง
แต่มิแจ้ง สำแดงค่า ปัญญาคน
12 พฤศจิกายน 2554 10:50 น.
สุนทรวิทย์
ลือว่า เขาสามารถ
ดั่งทายาท ปราชญ์เมธี
อักษร กลอนกวี
รู้ถ้วนถี่ ดีเหนือใคร
เป็นสื่อ ถือปากกา
สืบคุณค่า ภาษาไทย
แต่ฉัน กลับหวั่นใจ
นึกสงสัย ในผลงาน
เขาไย ไม่พิทักษ์
ฉันทลักษณ์ หลักบุราณ
มักง่าย ไร้เชิงชาญ
ทิ้งแก่นสาร ลาญครรลอง
นี่หรือ คือแบบอย่าง
ผู้สรรค์สร้าง ทางร้อยกรอง
ผิดทิศ ผิดทำนอง
ข้อบกพร่อง ฟ้องชัดเจน
ศักดิ์ศรี กวีพจน์
มาถอยถด เสียกฎเกณฑ์
ด้วยมือ สื่อเบี่ยงเบน
เหมือนมิเห็น เป็นสำคัญ
ชะตา ภาษาศิลป์
เจียนหมดสิ้น กลิ่นสุคันธ์
มธุรส บทประพันธ์
ถูกแปรผัน บั่นไชชอน
ใครเลย เคยทักท้วง
สำนึกหวง ห่วงอาวรณ์
ชุบฟื้น-คืนกาพย์กลอน
ให้สุนทร ก่อนสูญไป
ผู้รู้ ครู,บัณฑิต
โปรดมีจิต คิดห่วงใย
กวดขัน โดยทันใด
ร่วมแก้ไข ให้ฟื้นฟู
มรดก-ชาติตกทอด
ควรต่อยอด ปลอดริปู
ช่วยกัน หมั่นค้ำชู
เพื่อคงอยู่ คู่ไผท
12 พฤศจิกายน 2554 10:27 น.
สุนทรวิทย์
ทำไม คนทำดี กลับมีทุกข์
ทำไม คนอยากสุข ดันขุกเข็ญ
ทำไม แค่เลี้ยงปาก ยังยากเย็น
ทำไม เป็นลูกหนี้ ชั่วชีวา
ทำไม เหน็ดเหนื่อยใจ มิได้พัก
ทำไม อุปสรรค มักสู่หา
ทำไม ต้องเวียนว่าย ในโรคา
ทำไม เบื่อระอา สารพัด
ทำไม ห่วงกังวล จนหงุดหงิด
ทำไม ธุรกิจ หมั่นติดขัด
ทำไม บังคับตน จนเคร่งครัด
ทำไม ความซื่อสัตย์ โดนทัดทาน
ทำไม ยิ่งอยากได้ ยิ่งไม่ได้
ทำไม ไร้สมบัติ-พัสถาน
ทำไม ถูกโยนข้าม ความต้องการ
ทำไม ความสำราญ มิผ่านมา
ทำไม หลงรักเขา เขาไม่รัก
ทำไม ช่างอกหัก บ่อยนักหนา
ทำไม ใครพบเห็น เป็นเย็นชา
ทำไม เจอะเจอหน้า หมายังเมิน
11 พฤศจิกายน 2554 11:03 น.
สุนทรวิทย์
ฉันเกิดมา พิการ สังขารเสื่อม
มิอาจเอื้อม ไขว่คว้า ความผาสุก
เศร้าระทม อับจน บนกองทุกข์
เรื่องสนุก ใดใด ไม่เคยรับ
แสนอ้างว้าง โดดเดี่ยว จิตเหี่ยวแห้ง
ขาดเรี่ยวแรง ขมขื่น แม้ตื่น,หลับ
กระไรหนอ ชีวา ช่างอาภัพ
จมอยู่กับ คืน,วัน อันเดียวดาย
เป็นยาจก อับจน คนหยามหมิ่น
ขอเขากิน เรื่อยไป ไร้จุดหมาย
ค้ำไม้เท้า เปะปะ พยุงกาย
หิวกระหาย อิดโรย โหยเมื่อยล้า
ยามนี้ฉัน เจ็บป่วย จวนม้วยมอด
นอนก่ายกอด เศษผ้า อนาถา
ขาดอาหาร ประทัง ทั้งหยูกยา
จะอำลา ดับลง แล้วตรงนี้
ลมหายใจ สุดท้าย ใกล้จบสิ้น
แว่วได้ยิน เสียงอาทร ก่อนเป็นผี
คำสังเวช เมตตา กล่าวปรานี
จากผู้ที่ มุงล้อม ห้อมวิจารณ์
เมื่อตอนอยู่ ไปไหน ถูกไสส่ง
เจียนปลดปลง ดาหน้า มาสงสาร
แค่อยากรู้ อยากเห็น เป็นสันดาน
เคยให้ทาน แก่ใคร บ้างไหมคุณ