27 พฤศจิกายน 2554 11:37 น.
สุนทรวิทย์
ใครหนอ แสนประเสริฐ
สร้างเราเกิด กำเนิดมา
โอบอุ้ม คุ้มชีวา
เปี่ยมเมตตา เป็นอาจิณ
ใครหนอ เฝ้าห่วงใย
เอาใจใส่ ไม่จบสิ้น
ปัดป้อง ผองมลทิน
เหงื่อไหลริน ก็ยินดี
ใครหนอ ทุกข์แทนเรา
คราวโศกเศร้า เขาขวัญหนี
เจ็บป่วย ช่วยพัดวี
มิหลีกลี้ มีน้ำใจ
จะใคร ที่ไหนหนอ
คือแม่,พ่อ ท่านก่อให้
การุณย์ บุญเกริกไกร
ดุจเทพไท ไท้เทวัญ
สำนึก ระลึกถึง
จิตซาบซึ้ง จึ่งยึดมั่น
รักพ่อ แม่พอกัน
เท่าชีวัน ฉันพึงมี
กตัญญู บูชาไซร้
จดจำไว้ ในเกศี
พระคุณล้น ชลธี
ตัวลูกนี้ ไม่มีลืม
27 พฤศจิกายน 2554 11:07 น.
สุนทรวิทย์
กองไฟ ในยามพลบ
ควันตลบ เร่งอบไก่
เสียงเพลง เปล่งชมไช
ดังหวั่นไหว ข้างไฟฟืน
วงเหล้า เมาเหิมฮึก
อึกทึก จนดึกดื่น
สนุก ทุกค่ำคืน
ดูชื่นมื่น แสนครื้นเครง
แก้วแล้ว ชนแก้วเล่า
คนไม่เมา เขาว่าเก่ง
เอะอะ อลเวง
มิยำเยง เกรงใจใคร
สังเวช เปรตสุรา
เบาปัญญา น่าหมั่นไส้
เห็นงาน ปานขาดใจ
เห็นเหล้าไซร้ ไม่รั้งรอ
เงินเดือน เลี้ยงเพื่อนหมด
ลูกเมียอด สลดหนอ
จากเช้า เฝ้าแหงนคอ
ใจจดจ่อ ขอค่าเทอม
ครอบครัว ตัวระกำ
เพราะผู้นำ ทำเห่อเหิม
ทุกข์ยาก มากกว่าเดิม
หนี้ก็เพิ่ม เติมทวี
เลิกเมา เถิดเหล้ายา
หันกลับมา ทำหน้าที่
เป็นบิดา ผู้ปรานี
เป็นสามี ที่ดีเทอญ
27 พฤศจิกายน 2554 09:50 น.
สุนทรวิทย์
ชีวิตเปรียบ ละคร แค่ตอนหนึ่ง
รวมไว้ซึ่ง สารพัน หลากปัญหา
มีรอยยิ้ม อิ่มพี ยามปรีดา
มีน้ำตา ไหลย้อย คอยหลั่งริน
มีเงินตรา ฐานะ เป็นพระเอก
สามารถเสก เรียกชิง สิ่งถวิล
มีอิจฉา ริษยา กันอาจิณ
มีเสียงหมิ่น ขอดค่อน ตอนล้มลง
มีความจน เป็นผู้ร้าย ทำลายทั่ว
น่าหวาดกลัว อำมหิต มากพิษสง
ตัวตลก นั้นคือ คนซื่อตรง
ซึ่งมั่นคง สุจริต ไร้พิษภัย
ละครจบ ชีพจบ ลบเลือนสิ้น
ทิ้งทรัพย์สิน สมบัติ อัชฌาสัย
หมดกิเลส ตัณหา ชีวาลัย
กฎโลกัย กำกับ ต่างรับรู้
ปวงวัตถุ คือซาก ฉากประกอบ
กลับชื่นชอบ ยื้อแย่ง แข่งอดสู
มาแต่ตัว ไปแต่ตัว ชั่วฤดู
สยุมภู เป็นไป ในกฎเกณฑ์
26 พฤศจิกายน 2554 13:50 น.
สุนทรวิทย์
คนมีความ เกรงใจ ใครก็รัก
สังคมมัก โจษจัน กล่าวสรรเสริญ
ถึงตกน้ำ ตกไฟ ไม่ยับเยิน
กลับจำเริญ สงบ สุขครบครัน
ความเกรงใจ บันดล ผลต่อเนื่อง
ช่วยประเทือง นำตน พ้นขับขัน
ยามขัดข้อง มีทุกข์ อุกฉกรรจ์
อาจพลิกผัน ปุบปับ กลับเป็นดี
เกรงใจเขา เขาเกรงตอบ ผลัดนอบนบ
ต่างเคารพ ต่อกัน สรรค์วิถี
การใช้ความ เกรงใจ ซื้อไมตรี
เป็นความมี น้ำใจ แบบไทยไทย
เพียงคำว่า ไม่เป็นไร เกรงใจครับ
ผู้สดับ ย่อมรู้สึก นึกเลื่อมใส
คำง่ายง่าย อย่าเกี่ยง เพียงพูดไป
ผลที่ได้ กับตน ล้นอนันต์
คนขาดความ เกรงใจ ใครก็เกลียด
เขาเปรียบตัว เสนียด น่าเหยียดหยัน
ญาติมิตรต่าง ห่างเหิน เมินสัมพันธ์
ต้องตีบตัน อับจน เพราะตนเอง
26 พฤศจิกายน 2554 13:32 น.
สุนทรวิทย์
สายสวาท ขาดแล้ว ฤาแก้วเอ๋ย
จึงเงียบเฉย ไร้ข่าว-คราวสักหน
รู้หรือไม่ ใครเขา เศร้ากมล
คิดถึงคน เฝ้ารอ ไหมหนอเออ
เคยเคียงคู่ เกลียวกลม สุขสมหวัง
ภาพความหลัง ครั้งหยอก หลอกยามเผลอ
ยิ้มหัวร่อ ต่อกัน ฉันกับเธอ
ผลัดปรนเปรอ อบอุ่น มิขุ่นใจ
แต่วันนี้ ขาดนุช สุดที่รัก
น้องลืมตัก นอนคุ้น หนุนหลับใหล
เปลี่ยนหมางเมิน เหินห่าง ลาร้างไป
ด่วนตัดใย สิ้นเยื่อ เคยเกื้อกูล
เที่ยวตามหา ขวัญตา จนล้าอ่อน
โฉมบังอร หลบกาย หายสาบสูญ
ห่วงหนักหนา โศกา แสนอาดูร
เจ็บพอกพูน ทั้งทิวา และราตรี
อยากถามเดือน ถามดาว พราวพร่างฟ้า
คนรักข้า มีทุกข์ หรือสุขศรี
พักอยู่แห่ง หนใด ในธาตรี
ฝากวจี ชอกช้ำ เพื่อย้ำเตือน
วอนสายลม ส่งข่าว ถึงสาวน้อย
ฉันยังคอย ณ.เคหา มิคลาเคลื่อน
หวังวันหนึ่ง อนงค์ คงกลับเรือน
รอน้องเยือน คืนมา ด้วยอาลัย