29 พฤศจิกายน 2554 10:53 น.

มนุษย์ดุจมาลี

สุนทรวิทย์

พฤกษา  สุมาลี				
  ทั้งกลิ่นสี  มีเสน่ห์
		จากดิน  ถิ่นพื้นเพ				
  เกิดขึ้นเก๋  เท่ชวนชม
		
        	กุหลาบ  ภาพย์สำรวย	 	
  	ดอกสลวย  สวยเหมาะสม
		 หนามแซม  อันแหลมคม		
  	หากแทงจม  ระบมไป
		
        	รองเรือง  จริงเฟื่องฟ้า
			ดาษดา  น่าหลงใหล
 		เลื้อยเลี้ยว  เกี่ยวชอนไช	
 		ชูยอดไต่  ไหวโอนเอน
	
        		โป๊ยเซียน  ควรเรียนรู้
			ว่าค้ำชู  ผู้พบเห็น
 		แดดเผา  เช้าตกเย็น	
			คงงามเด่น  เช่นสมญา

       			มะลิ  พราวพิศุทธ์	
 		ขาวผ่องผุด  เลิศบุปผา
	 	หอมกว่า  ไม้นานา	
			ล้ำเลอค่า  สถาพร

       			มะลิซ้อน  มะลิฉัตร	
 		แจ่มจรัส  ประภัสสร
	 	มะลิลา  ชวนอาทร		
 		สุคนธ์จร  มิหย่อนหยุด
	
       		มนุษย์  ดุจมาลี		
 		ความโสภี  มีสดุด
	 	หัวใจ  ใครวิมุติ                                             
   วิศรุต  จึงสุดดี				
29 พฤศจิกายน 2554 10:12 น.

รักร้างกลางสายฝน

สุนทรวิทย์

สนลู่ลม  โอนเอน  เป็นทิวโค้ง
		ใจฉันโคลง  โงนเงน  เย็นวาบหวิว
		สนไหวโบก  โยกไกว  ใบร่วงปลิว
		ใจแล่นพลิ้ว  ลิ่วลับ  ไปกับลม

			เสียงพระพาย  ไห้โหย  โชยเพลงโศก
		ยามอับโชค  โทมนัส  พิบัติถม
		ความอ้างว้าง  ร้างเปลี่ยว  เคี่ยวอารมณ์
		เจ็บระทม  จมปลัก  ในรักลวง

			เมฆกระหึ่ม  ครึ้มฟ้า  นภาหม่น
		ดวงกมล  โลดแล่น  สู่แดนสรวง
		ภาวนา  น้อมนำ  กล่าวบำบวง
		ทุกข์ท้นทรวง  จงคลาย  มลายลง

			หยาดฝนโปรย  โรยร่วง  จากห้วงหาว
		หัวอกร้าว  หนาวจิต  พิศวง
		รักสองเรา  ไฉน  ไม่ยืนยง
		แม้บรรจง  สมาน  มานานวัน

			กลางพิรุณ  ฉันยืน  สะอื้นอยู่
		เสียงซู่ซู่  กระหน่ำ  ทำลายขวัญ
		รำพึงถึง  มาณวิกา  วิลาวัณย์
		ตัดสัมพันธ์  ฉันแล้ว  หรือแก้วตา				
28 พฤศจิกายน 2554 11:28 น.

สมุฏฐานแห่งทุกข์

สุนทรวิทย์

สังขาร  ลอยฟ่อง  บนกองทุกข์
			ความสุข  สมเจต  นั่นเศษเสี้ยว
			ที่เห็น  รุ่มรวย  สวยประเปรียว
			แว็บเดียว  ก็หาย  มลายไป
						    
          ต่างคน  ทนหวัง  ทั้งชีวิต
				ขบคิด  กังวล  จนหม่นไหม้
				เคี่ยวเข็ญ  เค้นเหงื่อ  โหมเชื้อไฟ
				เพียงใคร่  ถึงฝั่ง  ดังวาดวาง
		
         		คนมี  มักมาก  อยากมีเพิ่ม
			ตักเติม  อำนาจ  สร้างบาดหมาง
			คนจน  บักโกรก  เชื่อโชคลาง
			หาทาง  ยาไส้  ไปวันวัน
			
       			ร้อยแปด  อาชีพ  ล้วนรีบเร่ง
					คร่ำเคร่ง  ตะกาย  หมายสู่ฝัน
					มิตรที่  ปั้นหน้า  ยิ้มหากัน
					ฉับพลัน  อาจเปลี่ยน  เป็นเสี้ยนใจ
				
          พี่น้อง  ร่วมครรภ์  ยังขันแข่ง
			 เรื่องแบ่ง  เรื่องปัน  นั้นลืมได้
			 เก็บเกี่ยว  เหลียวแล  แต่กำไร
			 เหมือนไม่  รู้เหง้า  รู้เหล่ากอ
				
        		บ่อเกิด  แห่งทุกข์  ยุควิวัฒน์
				 สมบัติ  เทียมเท่า  พระเจ้าหนอ
					มิต้อง  โทษใคร  ให้แตกคอ
					ต้นตอ  อยู่ใน  ใจเราเอง				
28 พฤศจิกายน 2554 11:13 น.

มีใครไม่เคยผิด

สุนทรวิทย์

ผู้ใด  ไม่เคยผิด?		
  	ชั่วชีวิต  จริตมั่น
			ฉันกล้า  ท้าเดิมพัน				
   คนเช่นนั้น  สรรไม่มี
			
        	แม้พระ-อรหันต์			
   รู้อดกลั้น  บั่นถ้วนถี่
			บางครั้ง  ยังเสียที
			ผิดจารี  พ่ายสีกา
	
     			ปุถุชน  คนเดินดิน	
 		ฤๅจะสิ้น  กลิ่นตัณหา
			เวียนว่าย  ในมายา			
  	ใครเคยฝ่า  พ้นราคี
		
      		ผิดพลั้ง  ดั่งเป็นครู	
 		เร่งฟื้นฟู  กู้ศักดิ์ศรี
			ทำใหม่  ให้จงดี	
			มิหลบลี้  หนีความจริง

   				แก้ไข  ใช่แก้ตัว	
 		ไยต้องกลัว  มัวอ้อยอิ่ง
			ปัญหา  อย่าประวิง	
 			คำติติง  ยิ่งเป็นคุณ

       สำคัญ  หมั่นจดจำ	
 		ห้ามผิดซ้ำ  ทำว้าวุ่น	
   บ่อยนัก  จักอาดุร	
			มิตรเคืองขุ่น  เลิกจุนเจือ				
28 พฤศจิกายน 2554 10:59 น.

มารยาหญิง

สุนทรวิทย์

เขาว่า  มารยาหญิง			
   แสนกลอกกลิ้ง  กว่าลิง,ค่าง
			อ่อนไหว  เกินไว้วาง				
   พออยู่ห่าง  มักหมางเมิน
			
       	เตือนชาย  ผู้หมายปอง	
 		หากลำพอง  มองผิวเผิน
			โอบอุ้ม  ทุ่มเทเพลิน			
  	อาจยับเยิน  เจิ่นกลางคัน
		
       		นงราม  ยามกลับกลาย	
 		จิตสอดส่าย  คล้ายกังหัน
			เปลี่ยนไป  ได้ฉับพลัน			
  	สุดป้องกัน  ความผันแปร
		
       		ต่อหน้า  ว่าปีติ			
  	ลับหลังสิ  มิแยแส
			บิดเบือน  หน่ายเชือนแช		
  	ยากเที่ยงแท้  แม้สักครา
		
       		โฉมตรู  ดูไฉไล
			ยิ้มละไม  ไร้เดียงสา
			อย่าหมาย  โดยสายตา	
			เห็นโสภา  ก็ว่าดี

    				บุรุษ-อาชาไนย
			พึงเข้าใจ  ในอิตถี
			เลือกชู้  คู่ชีวี				
  	จงถ้วนถี่  จึ่งดีเอย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์