15 มกราคม 2555 18:13 น.
สุนทรวิทย์
รักฉันไม่ เทียมคงคา มหรรณพ
ด้อยกว่าภพ พสุธา ที่อาศัย
มิไพศาล ปานเวหา นภาลัย
มิยิ่งใหญ่ ดุจจันทรา อาภากร
รักฉันไร้ แบบแปลน แสนเรียบง่าย
มิวุ่นวาย ย้อนยอก มิหลอกหลอน
หากรักใคร รักมั่น นิรันดร
ห่วงอาทร ดื่มด่ำ ในสัมพันธ์
ปรารถนา หญิงเดียว โดยเหนียวแน่น
จะหวงแหน กานดา จวบอาสัญ
มอบความรัก ภักดี ชั่วชีวัน
สมานฉันท์ เคียงเธอ เสมอไป
ถึงคราวยาก บากสู้ เป็นคู่คิด
เอกจิต ผูกพัน มิหวั่นไหว
มิพรั่นพรึง อุปสรรค หนักเพียงใด
พลีหัวใจ อุทิศ มิปิดบัง
ยามมีสุข สุขด้วย อำนวยผล
ร่วมบันดล แผ้วถาง สร้างความหวัง
รักของผู้ เจียมตน คนจริงจัง
เพียงหนึ่งครั้ง สำหรับฉัน นั้นเกินพอ
14 มกราคม 2555 14:47 น.
สุนทรวิทย์
ใบไม้ ใบเขียวเขียว
เผลอประเดี๋ยว กลายเหี่ยวแห้ง
ธรรมชาติ วาดสำแดง
การเปลี่ยนแปลง แห่งชีวา
ชีวิต อนิจจัง
ไล่ตามหลัง คือสังขาร์
สังขาร ผ่านเวลา
ความชรา ก็มาเตือน
มองใบ-ไม้ร่วงหล่น
เปรียบซากคน นอนกล่นเกลื่อน
มรณา คราเยี่ยมเยือน
สุดอิดเอื้อน เหมือนเหมือนกัน
เป็นคน ทนล้ม,ลุก
เผชิญทุกข์ และสุขสันต์
ครรลอง ผองชีวัน
ชาติหนึ่งนั้น สั้นเหลือเกิน
เร่งสร้าง ทางกุศล
ให้ปวงชน ยลสรรเสริญ
รู้จัก หลักดำเนิน
จึงเจริญ เพลินฤทัย
ธรรมะ จงทะนุ
ก่อนบรรลุ อายุขัย
สั่งสม บ่มปัจจัย
เกิดภพไหน ย่อมได้บุญ
13 มกราคม 2555 18:24 น.
สุนทรวิทย์
บ้านสองหลัง ใกล้เคียง เรียงลดหลั่น
หลังแรกนั้น ใหญ่โต งามโก้หรู
เจ้าของนาม กระเดื่อง รวยเฟื่องฟู
เริ่มเช้าตรู่ วิ่งรอก ออกทำงาน
พ่อ,แม่,ลูก หมกมุ่น วุ่นวายทั่ว
เมียกับผัว คล้ายเป็น เส้นขนาน
ลูกติดเพื่อน เที่ยวเตร่ เกระราน
สร้างประจาน เสื่อมเสีย ละเหี่ยใจ
ทิ้งคุณปู่ ผู้เฒ่า นอนเฝ้าบ้าน
ขาดลูก,หลาน เหลียวแล แม้ป่วยไข้
จ้างพยาบาล ปรนนิบัติ จัดแจงไป
มิพบใคร เคยว่าง ต่างหาเงิน
บ้านหลังสอง ซอมซ่อ พออาศัย
คนภายใน อัชฌา น่าสรรเสริญ
รู้หน้าที่ ตำแหน่ง แบ่งดำเนิน
แลเพลิดเพลิน สมถะ เรียบสบาย
ทั้งครอบครัว ตกเย็น เห็นพร้อมหน้า
ถึงเหนื่อยล้า เจอะกัน ก็พลันหาย
กลับอบอุ่น สนทนา โอ๋ตา,ยาย
ไม่คลอนคลาย ผูกพัน กตัญญู
เมื่อผู้เฒ่า สองบ้าน พานพบปะ
วิสาสะ ไต่ถาม ความเป็นอยู่
ตาบอกอยาก มั่งมี ศรีสุขดู
ใคร่เข้าหมู่ ชนชั้น อันวิไล
ฝ่ายคุณปู่ หน้าเศร้า เล่าขึงขัง
เงินใช้สั่ง ซื้อหา สินค้าได้
แต่ความสุข แท้จริง ยิ่งห่างไกล
ปัญหาใด คุณปู่ ย่อมรู้ดี
ถามหน่อยเถิด สาธุชน คนทั้งหลาย
ถ้าจำหมาย เลือกอย่าง สองทางนี่
อยากเหมือนใคร ไหว้วาน ท่านตอบที
ส่วนฉันนี้ ขอเป็น เช่นคุณตา
13 มกราคม 2555 10:37 น.
สุนทรวิทย์
มีทองแท่ง อร่าม อยู่สามหีบ
แบ่งใส่ปี๊ป ฝังไว้ ใต้ท้องทุ่ง
ปิดเทอมชวน หลานตา มาเที่ยวกรุง
เมียทำยุ่ง วุ่นวาย ขายที่ไป
เงินสิบล้าน ซ่อนไว้ ในยุ้งฉาง
เมียก็ช่าง รื้อค้น เจอจนได้
เพื่อนเธอกล่อม เข้าบ่อน ต้อนเอาใจ
สามวันไม่ เหลือหรอ คลอน้ำตา
หมดตัวแล้ว ไม่มี ที่จะเสีย
เลิกกับเมีย เพลียท้อ ต่อปัญหา
ใครสงสาร สังเวช คิดเมตตา
ยื่นมือมา อุปการะ จะขอบคุณ
พร้อมตอบแทน ช่วยการ งานทุกสิ่ง
ไม่ประวิง นิ่งเหี่ยว ให้เฉียวฉุน
อยากปู้ยี่ ปู้ยำ ทำทารุณ
เชิญถอนทุน ให้หนำ ทำสุดแรง
แก่แต่วัย กายหนุ่ม ใจชุ่มชื่น
งานกลางคืน กลางวัน ล้วนขันแข็ง
สะกิดปุ๊บ สนองปั๊บ รับสำแดง
มิได้แกล้ง คุยเขื่อง เป็นเรื่องจริง
12 มกราคม 2555 12:40 น.
สุนทรวิทย์
กาลครั้ง หนึ่ง พึ่งพ้นผ่าน
พบนงคราญ เตร็ดเตร่ ขายเมถุน
เห็นไฉไล ไร้เดียงสา เกิดการุณย์
จึงอุดหนุน เธอไป ในทันที
กาลครั้ง สอง นอนหมองไหม้
ซมจับไข้ หนาวเหน็บ เพราะเจ็บฝี
คนซับเลือด คัดหนอง มองไม่มี
ชีช้ำ กะหล่ำปลี ฝีระบม
กาลครั้ง สาม ลามย่องแย่ง
เมียทิ่มแทง แช่งด่า ว่าสาสม
ทิ้งให้เปลี่ยว เดียวดาย นอนผายลม
กลิ่นชะอม ดมสูด บูดเหลือทน
กาลครั้ง สี่ ฝีเจียนแตก
ดิ้นร้องแรก-แหกกระเชอ เธอมิสน
เข็ดแล้วหนอ ต่อไป ไม่ซุกซน
ขอจำนน ขวัญฝ่อ เลิกตอแย
กาลครั้ง ห้า หน้าผ่องใส
หมดโรคภัย ยิ้มร่า รี่มาแถ
เจออีกแล้ว สาวรุ่น หุ่นชวนแล
ลืมบาดแผล แร่หา มิช้าเชือน