14 พฤศจิกายน 2545 11:05 น.
สุธาวาสน์
จงกล่อมจิตให้คิดแต่กุศล
ให้ผุดพ้นอวิชชามาเหยียบย่ำ
ใช้เชือกมนต์ปรัชญามาหนุนนำ
ทั้งสามเส้นมัดย้ำไปตามกาล
เส้นหนึ่งใจไม่ให้โลภคิดอยากได้
ของของใครใครก็รักสมัครสมาน
จงยินดีที่มีอยู่อย่างเบิกบาน
แบ่งเป็นทานชำระได้ใจโลภา
เส้นที่สองสั่งใจไม่ให้โกรธ
มีแต่โทษท้นทุกข์ถึงใบหน้า
แดงจนคล้ำคล้ายยักษ์ปักอุรา
จงอภัยไม่บีฑาทั้งใจกาย
เส้นที่สามล่ามไม่ให้ใจลุ่มหลง
อย่ามองกงจักรผันเป็นบัวผาย
คิดให้ตรงคิดไปตามความแยบคาย
ลดทำลายทิฏฐิมานเป็นสัมมา
สาธุ สาธุ สาธุ
มะ อะ อุ ช่วยข่มข่วงปัญหา
ล้างมลทินถิ่นไทยให้งามตา
เป็นถิ่นที่เลิศล้ำค่า...สาธุชน
14 พฤศจิกายน 2545 10:52 น.
สุธาวาสน์
ทุกสัตว์สิ่งวิ่งวนในวัฏะ
สังสาระที่กระทำตามเหตุผล
จะสุขทุกข์พอใจใช่ตัวตน
เกิดเวียนวนกายกับใจในคนเดียว
เห็นแต่กายภายนอกบอกสัมผัส
ไม่แจ้งชัดจิตในใครแลเหลียว
มีเวทนาก่อหนุนหมุนเป็นเกลียว
ดุจน้ำเชี่ยวกรากขวางทางลำเรือ
ทั้งสุขทุกข์พอใจไม่อยากได้
ระคนไปเรียกเวทนาเหลือ
มีสัญญาจำได้ไว้จุนเจือ
มีสังขารเอื้อเฟื้อจินตนาการ
มีวิญญาณรับรู้คู่สัมผัส
แล้วร้อยรัดเป็นชีวิตจิตฟุ้งซ่าน
กายกับจิตติดกันนั้นไม่นาน
หมดอายุไขขานก็เคลื่อนคลาย
แม้กายอยู่ดูเป็นสุขสนุกนัก
ใจก็พร้อมจะหาญหักเหี้ยมสลาย
สงครามกายกับใจไม่เว้นวาย
แม้นใจหมายก็บังคับกายกระทำ
ถ้าใจมี หิริ โอตตัปปะ
คอยชำระชั่งใจไม่ถลำ
อีก ขันติ โสรัจจะ มีประจำ
ใจก็ไม่ก้าวล้ำจนเกินกาย
เป็นสงครามต่างใจในบางครั้ง
ชั่วกับดีคนละฝั่งตั้งที่หมาย
เข้าโจมตีต่อประจำคอยทำลาย
คอยท้าทายสู้รบกันกลางแปลง
ตัวเราหรือคือสนามสงครามยุทธ์
ชั่วกับดีไม่สิ้นสุดเฝ้าขันแข่ง
ผลัดกันแพ้และชนะปะทะแรง
หากใครแกร่งก็สั่งไปให้กระทำ
14 พฤศจิกายน 2545 10:31 น.
สุธาวาสน์
เกิดปัญหาอาชญากรรมถลำลึก
เกิดเป็นศึกล้างเมืองเรื่องเหลวไหล
ยาเสพติดปลิดชีพชนทั่วไป
กำแพงใจเปราะบางไร้ทางธรรม
มองการเมืองเป็นเครื่องเล่นเป็นสินค้า
หวังมุ่งหากอบกำไรใจถลำ
สิ้นอุดมการณ์ผลาญความซื่อไม่ถือกรรม
กอบไว้ก่อนใครอย่ากล้ำอย่าเกินกราย
แสนสงสารเยาวชนสับสนทิศ
ไม่รู้แยกถูกหรือผิด เสื่อมสลาย
ขาดหลักธรรมนำสนองครองใจกาย
เพราะเห็นแต่ลวดลายของสังคม
วอนผู้ใหญ่ย้อนหลังแลยั้งคิด
แยกถูกผิดให้หลานลูกถูกเหมาะสม
ชี้แนวทางย่างเดินอย่างอุดม
อย่าชื่นชมวัตถุธรรมลืมน้ำใจ
ชี้สิทธิที่ชอบธรรมนำเสนอ
ชี้หน้าที่ นี่ฉันเธอควรจะได้
ชี้ให้คิดอย่างคมขำตามกันไป
ชี้เสรีว่ามีไว้ตามกรอบกรรม
ใช่ก้าวก่ายเกินใครไม่ยั้งคิด
ใช่ของตนทำจิตให้คมขำ
ใช่จะต้องได้ทุกอย่างทุกทางทำ
วอนขอย้ำเพื่อสังคมที่ร่มเย็น
เป็นสังคมที่ล้ำค่าน่าเชื่อถือ
เป็นสังคมที่เลื่องลือสล้างเห็น
เป็นสังคมชาวพุทธผุดผ่องเพ็ญ
เป็นสังคมที่ไม่เห็นแก่ตัวเอง
เป็นสังคมแห่งความรู้ช่วยชูเชิด
เป็นสังคมที่ประเสริฐไร้ข่มเหง
เป็นสังคมบ่มวิญญาพาครื้นเครง
เป็นสังคมของคนเก่งแข่งทำดี
แม้จะเป็นสังคมอุดมการณ์
แต่ก็คงรอไม่นานจนเหลือที่
จะสร้างสรรค์ฝันไว้เป็นไรมี
ได้สักครึ่งหนึ่งเท่านี้ นะสาธุชน
14 พฤศจิกายน 2545 10:15 น.
สุธาวาสน์
ให้ความเห็นเน้นสิ่งถูกตามเหตุผล
คิดให้พ้นทุกข์กระทำที่กล้ำใกล้
อย่าพยาบาทเบียดเบียนบีฑาใคร
รู้วาจางามไซร้สรรพมงคล
รู้ทำดีดำรงชีพสุจริต
พยายามรอนริดเรื่องสับสน
รู้รักษาแล้วสร้างเสริมเพิ่มให้ตน
เพื่อหลุดพ้นอันตรายและภัยพาล
รู้สติเตือนตัวเป็นที่ตั้ง
สติปัฏฐานถึงฝั่งพ้นสังสาร
ด้วยสมาธิมั่นไว้ในสันดาน
สิ้นฟุ้งซ่านเดินทางด้วยตั้งใจ
รู้เท่าทันนิวรณ์ที่หลอนจิต
ให้ยึดติดพึงพอล่อหลงใหล
ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง เพียงพึงใจ
รสสัมผัสชิดใกล้จงสังวร
ความอาฆาตบาดจิตคิดซึมเศร้า
อีกฟุ้งซ่านมัวเมามาหลอกหลอน
ความลังเลสงสัยไม่แน่นอน
ตัวสกัดร้าวรอนรู้ความจริง
ฝึกอบรมบ่มศีลให้พิสุทธิ์
สมาธิจะผ่องผุดพิศาลยิ่ง
ผลปัญญาสง่างามไปตามจริง
สภาวะธรรมนิ่ง คือ นิพพาน
แต่สังคมทุกวันนี้ที่สับสน
เพราะผู้คนห่างศีลที่สร้างสาน
สมาธิจึงห่างไกลไร้วิญญาณ
ตัวปัญญาถูกเผาผลาญย่อยยับลง
มานิยมบ่มฐานะด้วยวัตถุ
ไม่บรรลุ จนธรรมยุ่ยเป็นผุยผง
โลภวิ่งร่าถาโถมสังคมคง
เห็นแก่ตัวจนลืมหลงแก่นความจริง
สร้างฐานะสนองตนพ้นวิถี
สิ้นจารีตประเพณีที่งามยิ่ง
ความเอื้อเฟื้อไม่เหลือหลอพอประวิง
ให้สังคมเพริศพริ้งด้วยน้ำใจ
14 พฤศจิกายน 2545 09:47 น.
สุธาวาสน์
พุทธธรรมจะนำใจให้สะอาด
อย่าประมาทเมินจิตคิดโง่เขลา
จงละเว้นสิ่งชั่วอย่ามัวเมา
อย่าดุ่มเดาเดินด้นในโคลนตม
อันทางดีมีให้เดินจงเดินเถิด
จะก่อเกิดกายใจให้สุขสม
ค่อยล้างใจให้สะอาดปราศโสมม
โลภ โกรธ หลง จงข่มให้สิ้นไป
รู้ละอายแก่ใจไม่ทำชั่ว
รู้เกรงกลัวบาปกรรมอย่ากล้ำใกล้
รู้อดทนข่มทางที่ทุกข์ภัย
รู้จิตใจสงบเสงี่ยมรู้เทียมทัน
รู้ประมาณมองตนตามฐานะ
รู้ลดละหยิ่งผยองครองยีดมั่น
รู้ปล่อยวางตามทางธรรมเป็นสำคัญ
สิ่งใดเกิดย่อมสิ่งนั้นต้องดับไป
จงสันโดษพอในในสิ่งที่
ของตนมีอย่าทะยานฟุ้งซ่านใหญ่
ไม่กินโกงเก็บกรรมทำนอกใน
มีเท่าไรรู้เพียงพอพอประมาณ
รู้จักเหตุรู้จักผลบุคคลรู้
กาลเวลาสมควรอยู่รู้สถาน
รู้รับฟังยั้งคิดใช่ผิดพาล
รู้พากเพียรตรองการณ์สติปัญญา
รู้สงเคราะห์จุนเจือเป็นทานให้
รู้เจรจาขานไขเสน่หา
จงทำตนเป็นประโยชน์เสมอมา
ทั้งต่อหน้าและลับหลังสังเคราะห์กัน
นามบัญญัติอริยสัจเป็นสิ่งแท้
ทุกข์เกิดแก่พลัดพรากจากเหหัน
เวทนาคราไม่สมขมทั้งนั้น
ตามให้ได้ไล่ให้ทันกองทุกข์ตรม
รู้ใช้น้ำพร่ำพรมข่มต้นทุกข์
ที่เร้ารุกกายใจไร้สุขสม
มีหนทางแปดท่าฝ่าแรงลม
ให้ชื่นชมซาบซ่านนิพพานใจ