6 เมษายน 2552 12:56 น.
สุญญะกาศ
ทั่วเวหานภาหยุดสุดสว่าง
เพียงแผ่กางดารานิจจาเอ๋ย
ยิบระยับประดับส่องล่องรำเพย
คล้ายลอยเกยทวนเมฆท่านเสกมา
เวลาถอยคอยชีวิตถูกลิดปลด
แต่งามงดค่าล้ำค่ำนี้หนา
ไม่อยากเอ่ยคำนั้นกลั้นวาจา
ไม่กล่าวลานวลน้องพี่ต้องไป
ขอเพียงแลนวลปรางนางสีอ่อน
อรชรแก้มช้ำน้ำเนตรสาย
ผสมแสงไต้ส่องผ่องประกาย
ใจแทบหายดั่งพรายเพชรเกล็ดเจ้างาม
ไม่สามารถดึงเพชรเด็ดไปด้วย
น้ำตารวยรินรดหมดคำถาม
ใกล้เวลาพาพรากหามากยาม
พี่ขอตามอนงค์นาถทุกชาติไป.....
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1503.html
5 เมษายน 2552 16:04 น.
สุญญะกาศ
ดำเนินเรียงเคียงสุรีย์รังสีฉาย
ดวงเนตรปรายเลยบาตรยาตรวิถี
สงบเย็นเห็นเปี่ยมเจียมอินทรีย์
สติมีเดินย่างทางเมตตา
ไร้วี่แววแคล้วจิตคิดผยอง
ไร้เงินทองกองอำนาจวาสนา
ไร้แห่งเหตุผูกติดปลิดเวทนา
ไร้มายาไร้กิเลสซึ่งเภทภัย
ยลประจักษ์ภักติกราบราบระดับ
หาผู้จับทับล้มประนมได้
ด้วยกราบนั้นอันประพฤติยึดจากใจ
พิสุทธิ์ในฤทัยเที่ยงเลี่ยงอุบาย
ในความแปลกแยกต่างระหว่างสอง
กราบเงินทองเศรษฐีมีสหาย
แต่ฟากหนึ่งกราบแท้แน่ใจกาย
ตั้งถวายงามสง่าศรัทธาเอย