28 กรกฎาคม 2548 10:30 น.
สุญญะกาศ
ผ้าพันแผลแบออกนอกใบหน้า
เห็นนภาพราวพร่างกางอีกหน
ภาพมิตรล้อมอ้อมกายคลายโศกตรม
แต่ระทมขาดที่รักทักข้างเตียง
น้องเมียงหาชลนามาเป็นสาย
หวังพี่ชายเคยรักคู่อยู่ยินเสียง
ใจแทบหายกายแทบขาดปราศสำเนียง
จนอยากเบี่ยงกาลกลับดับดวงตา
โอ้ดวงเอ๋ยคงเคยคิดตัวผิดพลาด
ไม่สามารถกางป้องน้องนั้นหนา
ด้วยเนตรน้องคล้องถึงซึ่งอุรา
ของพี่ยามาปวดรวดร้าวทรวง
น้องตามหาดวงมาลย์จนกาลผ่าน
ทุกสถานแลไปใจห่วงหวง
น้ำไหลอุ่นดรุณหลากจากสองดวง
เทพทั้งปวงแม้นยินเหตุจงเมตตา
เย็นวันหนึ่งกรายถึงซึ่งริมหาด
แสงสีชาดสาดผ่องส่องเวหา
ยลสุนัขตัวใหญ่วิ่งไปมา
ข้างกายาชายหนึ่งไซร้ที่ใจดี
แสงสว่างพลันวาบปลาบในอก
เหมือนเนื้อหยกต้องแสงพรายฉายรังสี
แล้วพลันหายสลายหลบกลบฤดี
ด้วยภาพนี้ติดตรึงตาเมื่อมายล
เสียงสั่นหวีดกรีดร้องก้องหาดเปล่า
ใจเหมือนด่าวด้วยขวากจากข้างหน
แหลกสลายกรายกล้ำช้ำกมล
สงสารคนที่ตนรักปักชีวัน
ใต้เงาแว่นดำกางพรางดวงเนตร
ด้วยต้องเหตุมืดบอดเพื่อยอดขวัญ
แล้วสละด้วยรักปักชีพพลัน
อีกละนั้นคือวันลาเพื่ออาลัย .............
23 กรกฎาคม 2548 23:22 น.
สุญญะกาศ
ฤทธิ์ สำแดงแต่งสร้าง..........โคจร
นี้ ดั่งบ่มนิวรณ์.....................แห่งจ้าว
มี อิทธิชัยสมร.....................อีกห่อน..ไข้นา
ไว้ก่นหนทางท้าว...................บ่ายเข้า..ทางธรรม
ซึ่ง พละแต่งแต้ม..................จิตนำ
การ กอปรชอบเป็นกรรม......ท่านสร้าง
สำ เร็จแห่งดวงธรรม............หาป่าว..บอกแล
รวม เล่ากล่าวคำสล้าง...........ต่อสร้าง..สุญตา
23 กรกฎาคม 2548 04:07 น.
สุญญะกาศ
บริกรรมนำตะกรุดสุดในปาก
คายคำหมากฝากน้องอย่าหมองศรี
ประเจียดคล้องสองแขนจนแน่นดี
ผ้าถุงนี้ของแม่นำแต่ชาย
หน้าผินออกเขตครามห้ามลาลับ
หมายจะสับสองท่อนก่อนถวาย
เหวยศัตรูผู้วาดกวาดมลาย
สิ้นสลายเสียงกลองรบมาสบกู
สองดาบยาวสาวจ้วงเป็นดวงเปรอะ
ซึ่งรอยเลอะเทอะเลือดกว่าเชือดหมู
ห้ามแรงคลอนอ่อนหายอายพธู
ลูกหลานกูอยู่หลังหวังรอดตาย
หาได้คิดอาฆาตมาตรดวงจิต
เพียงแค่ติดป้องเวียงเบี่ยงสลาย
หวังลูกหลานอีอ้ายไว้ก่อนตาย
กายสบายแลใจสู่ผู้จำเริญ
ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงการณา ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
22 กรกฎาคม 2548 02:12 น.
สุญญะกาศ
โชคดีหลายชายหลากฝากนางเลือก
ไม่กระเสือกกระสนจนเจ้าหมอง
เมียงรูปหนึ่งซึ่งพิลาสวาดหวังครอง
โถนวลน้องควรยั้งแลชั่งใจ
เสือผู้หญิงจริงแท้ล้วนแปลยาก
ด้วยลมปากเปรยว่อนห่อนสงสัย
แต่ลมนั้นยังห่างต่างดวงใจ
ทำตาใสแทบส่อนจนหล่อนงัน
เจ้าใฝ่ปองรักแท้แลอบอุ่น
อ่อนละมุนสุภาพมาทาบขวัญ
ดั่งพี่ชายหมายป้องพ้องเดียวกัน
เฝ้ารอวันใจดวงน้อยค่อยคลอนแคลน
สิ่งทั้งหลายเธอหมายในดวงจิต
คล้ายบ่วงติดร้อนเร่าเฝ้าหวงแหน
ผวาดั่งโดนขวากหากใครแทน
เจ็บเหลือแสนแม้นเจ้าเฝ้าแต่คอย
20 กรกฎาคม 2548 01:16 น.
สุญญะกาศ
อุกาสะท่องให้ได้ยามใกล้บวช
คือบทสวดบาลีมีคำสอน
แล้วโกนทิ้งเกศาหาอาวรณ์
เพื่อไปนอนวัดป่าห้าราตรี
ตั้งดวงจิตอธิษฐานอันหาญกล้า
สัจวาจาจำมั่นไม่หันหนี
หากแดดิ้นสิ้นแล้วแคล้วอินทรีย์
ขอยินดีพลีสละเพื่อพระธรรม
ปฏิบัติเคร่งครัดวัดใจมั่น
เนื่องเพราะวันลาเร่งเกรงถลำ
จำท้ายวัดอยู่ดายเหมือนใครทำ
เสียงตึงตังเดินข้างเห็นหางตา
เดินจงกรมป่าช้าหาแหล่งเปลี่ยว
เงาโยมเทียวแวบไปทั้งซ้ายขวา
ค่อยวางเท้าก้าวเตรียมเจียมกายา
แผ่เมตตาก้มหน้าถึงซึ่งเชิงตะกอน
ฉันมื้อเดียวเทียวขอรอใส่บาตร
แค่หมายมาตรเพียงหนำดังคำสอน
เดินเท้าเปล่าละทิ้งสิ่งนิวรณ์
ค่อยให้คลอนจากกิเลสซึ่งเภทภัย
อัศจรรย์บรมปราชญ์ฉลาดล้ำ
เป็นผู้นำวิทยาให้อาศัย
กล้าละแม้นแดนสวรรค์อันอำไพ
ยากที่ใครกล้าถึงซึ่งสุญตา