1 กรกฎาคม 2554 22:11 น.

รอยรำพัน

สุญญะกาศ


  นภาพร่าง กางดาว สกาวใส  
ส่องไฉไล แทนเดือน ที่เลือนหาย
ดั่งพี่ยา ลาน้อง ต้องวางวาย        
แล้วย่างกราย สู่จิต ติดภวังค์
  
  พี่เข้ามา จูบลา นิจจาเอ๋ย            
นัยน์ตาเผย สายสบ พบความหลัง
แม้ถ้อยปัก อักษรา มาประดัง        
หาได้รั้ง เทียมพ้อง ที่น้องยล

  ภาพอดีต ตรึงฤดี ทวีอาบ              
น้องกำซาบ อุ่นไอ ในทุกหน
เรานั่งชิด ติดนั้น กันสองคน            
ยังระคน อาบซึ้ง คล้องถึงใจ 

  แล้วผวา ลุกตื่น เมื่อคืนสาง           
แจ่มศุภางค์ ดาวระยับ ขับแสงใส
เย็นยะเยือก ลมหนาว รานร้าวใจ       
เหตุไฉน เหงื่อล้น ดั่งมนตรา          

   มือเรียวน้อย ปาดไล้ ในผิวแก้ม    
คราบนั้นแซม นวลปราง ทางซ้ายขวา
กำลังเริ่ม สายใหม่ ในชลนา           
ไหลหลั่งมา ตอกย้ำ ซ้ำรอยเดิม       

 

เริ่มต้นจากที่สตรีท่านหนึ่ง ซึ่งเล่าเรื่องตนเองว่าอดีตเคย "ฆ่าคน" โดยไม่ยี่หระมาก่อน วิธีการคือปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นหลงรัก และรักมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นหล่อนก็ทิ้งไปเสีย จนบุรุษนั้นถึงแก่อัตวิบากกรรม				
25 มิถุนายน 2554 17:46 น.

ยันตร์แผ่นดิน

สุญญะกาศ

วสันตดิลกฉันท์

  ร่ายเวทมหาสรประคัลภ์         ปริกรรม์ ณ เชิงเทิน
มนตรานุภาพอริเผชิญ             มระดับ ธ จับเวียง

  ข้าแต่พระมาตุธรณี               ศิระนี้สิวางเรียง
หยาดพินทุโลหิตะก็เพียง         ปุระป้องมิต้องจุณ

  เตโชวโยฤนฤธาตุ                 ผิจะขาดนิราบุญ
ส่งเกื้อ ณ  ถิ่นถิระสกุล             รุหะพงศ์ดำรงพันธุ์

  ลูกหลานสดับอุระสถิต            นฤมิตนิรุทธ์กรรม์
บุญหนุนมหาธมะอนันต์            จุติฟ้าสุราลัย    ๚ะ๛
  
  



 ลูกตรองดีแล้ว  จึงอาจเอื้อมนำความรักและหวงแหนแผ่นดินของปู่ย่าตายาย มาแสดงเพียงเพื่อให้รู้ว่า...  บัดนี้พวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่				
16 มิถุนายน 2554 19:41 น.

งามแท้อัสดง

สุญญะกาศ


  แดดงามสีอุ่นคล้าย            อำพัน
คล้อยเคลื่อนเลื่ิอนตะวัน       ผ่องแผ้ว
ทอดกายบ่ายกิจพลัน           พักผ่อน
กำซาบภาพยลแล้ว              สุขแท้อัสดง ๚ะ๛
 





( ท่านพี่ๆน้องๆบ้านกลอน พักผ่อนกันนะครับ)				
12 มิถุนายน 2554 16:41 น.

เพียงเพราะเมตตา...

สุญญะกาศ



  โอ้..พี่ขา ช่วยที มีเรื่องบอก
หนูช้ำชอก บอกให้ เพราะไร้หวัง
มีแฟนแล้ว ไม่อาจ ประกาศดัง
การงานพัง พ่อแม่ว่า ถ้าป่าวไป

  พี่โปรดด้วย ช่วยที มีคลีนิค
ที่ไหนจิก สิ่งในท้อง ที่พองใหญ่
หนูพอมี ตังค์เก็บ เหน็บเอาไป
แต่หนูไร้ เพื่อนฝูง พาจูงเดิน

  แล้วเข้าไป ห้องหับ ที่อับชื้น
หน้ามองพื้น ก้มหลบ ใครสบเขิน
นั่งขาหยั่ง ถ่างเหน็บ เจ็บเหลือเกิน
เลือดไหลเดิน ช่วยด้วย กลัวม้วยมร


  ออกประตู นรก ปรกคลินิค
ขาชาดิก เดินช้า ยิ่งกว่าหนอน
แต่หัวใจ สะดิ้งส่าย คล้ายวานร
ตาบังอร จ้องประกาย..ชายชาตรี

  ทั้งกรี๊ดกร๊าด กรีดกราย คล้ายจะบ้า
หล่อหนักหนา สูงล่ำ นำจี๊ดจี้
ดูสินั่น พี่ขา หน้าตาดี
หนูอยากได้ คนนี้ มาเป็นแฟน

 

( เหตุการณ์ผ่านมานับสิบปี แต่ยังจำได้ดีถึงเรื่องจากเขา ป่านนี้คนที่เป็นหัวหน้าที่ทำงานคนนั้นที่สงสารพาไปคลินิคยังทำอะไรไม่ขึ้นเลยขอรับ)				
12 มิถุนายน 2554 03:59 น.

ลมรักจากบรรพกาล

สุญญะกาศ


ฝนชโลม หลั่งริน แผ่นดินขวาน             
แต่วันวาร เห็นชุก อยู่ทุกหน
แฝงลงใน แดนดิน กลิ่นเลือดปน           
ปู่ย่าล้น ข้นขลัก ปกปักไทย

ละอองฝน ปนฟ้า คราอดีต                    
สายลมกรีด ผ่านหน้า อย่าสงสัย
คือลมรัก จากห้วง ผู้ครรไล                   
ท่านเสกไว้ แก่ลูกหลาน เนิ่นนานมา
 
มือที่ไกว เปลส่าย หลายชั่วรุ่น         
ไอละมุน หลายตัก คอยรักษา
ผสมเผ่า ชาติเชื้อ เนื้อกายา                  
หลอมกันมา หารู้ ปู่ย่าใคร

แม้สุดท้าย แผ่นขวาน จะรานรัก            
ลูกขอภักดิ์ ตักอุ่น มิเฉไฉ
ลมเจ้าเอย ยังไม่เลือน เตือนหัวใจ             
ลูกหลานไทย ต่อยอดรัก สามัคคี  ๚ะ๛
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุญญะกาศ
Lovings  สุญญะกาศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุญญะกาศ
Lovings  สุญญะกาศ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุญญะกาศ
Lovings  สุญญะกาศ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุญญะกาศ