22 มีนาคม 2548 15:19 น.
สุชาดา โมรา
คุณวิ่งเร็วมากเลยเป็นนักวิ่งหรือเปล่าครับ
เปล่าค่ะแต่จ่าคะช่วยปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ฉันไม่เอาความค่ะแค่นี้ก็เจ็บตัวจนแทบจะแย่อยู่แล้ว
กัญญาพูดขึ้นพร้อมกับหันมายิ้มให้คุณภูริทันที
ผู้หญิงหรือควายกันแน่เนี่ยแรงดีเหลือเกิน
อะไรนะ!!!!
คุณภูริพูดขึ้นเบา ๆ กัญญาได้ยินไม่ถนัดจึงหันไปถามเขาแต่เขากลับตอบว่าเปล่าเพราะกลัวว่ากัญญาจะหันมาตบปากเขาด้วยกระเป๋าสีแดงใบนั้น
ถามจริง ๆ เถอะทำไมคุณถึงหวงกระเป๋าใบนี้นักหนาหรือว่ามันเป็นกุ๊ดชี่หนังแรดจริง ๆ
จะบ้าเหรอมีที่ไหนกุ๊ดชี่หนังแรดคุณนี่ท่าจะบ๊องนะฉันพูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ นี่มันกระเป๋าที่คุณพ่อซื้อให้ฉันก่อนที่ท่านจะเสีย ตอนนั้นฉันจำได้ว่าคุณพ่อนำไปให้ที่ปารีสเชียวนะเพราะมันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้ฉันระลึกถึงท่าน
คุณภูริเห็นกัญญาแสดงสีหน้าเศร้า ๆ เขาจึงเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อไม่ให้เธอร้องไห้อีกเพราะตาของเธอเริ่มแดงเสียแล้ว
นี่คุณบอกว่าพ่อเสียใช่ไหมทำไมไม่เอาไปซ่อมล่ะ
บ้าคนนะไม่ใช่รถยนต์จะได้ซ่อมได้
คุณไม่เคยได้ยินเพลงของพี่เบริ์ดเหรอซ่อมได้.มีอะไรหนักเบาเราซ่อมให้
คุณภูริร้องออกมาเป็นเพลงทำให้กัญญายิ้มแล้วก็เอามือยื่นออกไปตบไหล่คุณภูริเบา ๆ ด้วยท่าทางขวยเขิน
นี่แม้แต่ใจคุณผมก็ยินดีรับซ่อมนะครับ
งั้นก็ช่วยซ่อมให้หน่อยละกันนะ
จริงอะเปล่าที่คุณบอกว่าจะให้ผมซ่อมให้น่ะ ผมจะดามให้กลับมาประสานกันเหมือนเดิมเลย
คุณภูริพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าเบิกบานใจ กัญญายิ้มแล้วก็ก้มลงไปหยิบอะไรในกระเป๋าสักอย่าออกมา
นี่ไงซ่อมได้ไม่ใช่เหรอ ช่วยซ่อมให้ด้วยละกันนะ
กัญญาหยิบตลับบุหงาซึ่งทำมาจากเซรามิครูปหัวใจสีแดงออกมายื่นให้คุณภูริเธอยิ้มแล้วก็ทำท่าเยาะเย้ยคุณภูริเพราะเธอรู้ดีว่าคุณภูริซ่อมให้ไม่ได้ เธอเพียงแต่จะเบรคคุณภูริเล่น ๆ ก็เท่านั้น
โหเล่นงี้เลยนะแม่ตัวแสบนี่กระเป๋าคนหรือกระเป๋าโดเรม่อนเนี่ยยังมีอีกไหมเนี่ย
คุณภูริพูดขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อ จากนั้นก็ขับรถมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าทันที
นี่คุณมาทำไมที่นี่.ไหนคุณบอกว่าจะไปส่งฉันที่บ้านเลยไงล่ะ
ผมเปลี่ยนใจแล้วตามมาเถอะห้ามถามนะ
คุณภูริจูงมือกัญญาเดินเข้าไปในห้าง เขาเดินหาของอะไรบางอย่างแต่กัญญาก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรเพราะเขาสั่งไม่ให้เธอพูดอะไรกัญญาปล่อยให้คุณภูริจูงมือเธอโดยที่ไม่ขัดขืนทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนค่อนข้างจะหวงเนื้อหวงตัวมาก แต่กับคุณภูริเธอกลับให้เขาจับมือเธอไว้แน่นโดยที่ไม่โวยวายอะไร และยิ่งกว่านั้นเธอเองก็กำมือเขาแน่นเช่นกันสายตาของเธอดูมีความสุขมากทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยมีความสุขแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน
นี่ไงเจอแล้ว
คุณภูริร้องดังขึ้นและเดินเข้าไปในร้านขายของชำร่วยที่อยู่บนห้างชั้นที่สองเขาหยิบกล่องบุหงารูปหัวใจสีแดงของกัญญาออกมาจากกระเป๋าแล้วก็ให้เจ้าของร้านไปหามาให้ทันที
นี่ไงผมจะซื้อให้คุณใหม่เลยผมรู้นะที่มันแตกเพราะคนร้ายคนนั้นใช่ไหมล่ะตอนที่คุณกระโดดไปตะคุบเจ้าหมอนั่นน่ะ
คุณภูริยิ้มกัญญารู้สึกเขินอายจึงเดินไปดูของอย่างอื่นภายในร้าน.คุณภูริจ่ายเงินค่าบุหงาชิ้นนั้นเสร็จก็เดินมาหาเธอทันที
ถ้าคุณอยากได้ผมจะให้คุณตลอดชีวิตเลยผมจะแต่งห้องของเราให้โรแมนติคที่สุดคุณชอบไหมล่ะ
คุณภูริพูดขึ้นพร้อมกับเอามือโอบเอวกัญญาไว้ ทำให้เธอรู้สึกเขินเป็นอย่างมาก แต่ส่วนหนึ่งภายในตัวเธอนั้นบอกให้เธอแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เธอจึงเอาข้อศอกกระแทกไปที่ท้องของเขาทันทีและเดินออกจากร้านไปคุณภูริแสดงอาการเจ็บปวดแล้วก็หันมามองผู้คนที่อยู่ในร้านและก็ยิ้ม ๆ เขาวิ่งตามเธอออกมาและคว้ามือเธอทันที
ทานไอศกรีมไหม
กัญญาพยักหน้า คุณภูริพาเธอเข้าไปนั่งในร้านไอศกรีมจากนั้นเขาก็สั่งไอศกรีมและบอกให้เธอรออยู่ที่โต๊ะก่อนเขาวิ่งออกไปครู่หนึ่งก็กลับมาทั้งคู่ทานไปศกรีมถ้วยเดียวกัน เขานั่งทานไปคุยไปด้วยท่าทางที่มีความสุขที่สุดราวกับคู่รัก เมื่อทานเสร็จคุณภูริก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้นจากนั้นก็จับข้อเท้าของกัญญาเอาไว้แน่น
นี่คุณทำอะไรน่ะ
เขาไม่สนใจใครต่อใครที่มองมาที่เขาคุณภูริสวมสร้อยข้อเท้าให้กับกัญญาแล้วก็ลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม
เขาบอกกันว่าถ้าผู้ชายคนไหนเอาสร้อยข้อเท้ามาสวมให้ผู้หญิงที่เขารักคน ๆ นั้นจะจำรอยเท้าของเธอได้ชาติหน้าจะได้ตามรอยเท้าของเธอมาถูกและเกิดมาเป็นคู่กันอีก
ฉันไม่ใช่คนรักของคุณสักหน่อย
กัญญาพูดด้วยท่าทางขวยเขินจากนั้นก็เดินออกไปนอกร้านทันที ท่ามกลางผู้คนที่มองมาทางเธอด้วยท่าทางที่อิจฉาเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู ได้ยินเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าอิจฉาคู่นั้นจังโรแมนติคดีเนาะคุณภูริจ่ายเงินค่าไอศกรีมจากนั้นก็วิ่งตามเธอออกไป
แฟนงอนน่ะครับผมก็เลยง้อ
เขาหันกลับมาบอกคนอื่น ๆ ที่นั่งอิจฉาเธอด้วยท่าทางปลื้มอกปลื้มใจทำให้ทุกคนปรบมือให้เขากันใหญ่
ขอให้ง้อสำเร็จนะ
ผู้คนในร้านต่างพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
..11..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
22 มีนาคม 2548 15:14 น.
สุชาดา โมรา
คุณมีใครเป็นเจ้าของหัวใจหรือยังผมไม่น่าถามเลยนะเพราะเมื่อคืนผมเพิ่งเห็นคุณรับแหวนหมั่นเอง
เอ่อไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคือเขาแหย่ฉันเล่นน่ะค่ะ ไม่มีอะไร เมื่อคืนเป็นแค่นาฬิกาข้อมือเท่านั้นค่ะ
คุณนิวถึงกับยิ้มที่มุมปากทีเดียวเขาเอื้อมมือไปจับมือของกัญญาไว้ แต่เธอสลัดมือออกเพราะเธอเห็นว่าไม่สมควรที่จะมาจับมือถือแขนกัน อีกอย่างคุณนิวก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องเขย ถ้าหากตัวเองจะมาจับมือถือแขนกันมันก็คงจะน่าเกลียดเพราะแค่นี้ข่าวเสียที่ออกไปก็มากพออยู่แล้ว เนื่องจากใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณนิวเป็นแฟนเก่าของเธอ และหลังจากที่ยายพลอยลูกพี่ลูกน้องของเธอซึ่งเป็นภรรยาของเขาได้เสียไปแล้ว คุณนิวก็ยังหันกลับมาคบกัญญาอยู่จนกระทั่งคุณแม่อิ่มกลัวว่าภาพพจน์จะเสียจึงส่งให้ไปเรียนปริญญาโทใบที่สองที่ปารีส
เอ่อไร่กุหลาบเป็นอย่างไรบ้างคะทำไมเมื่อวานนี้ถึงได้ไปสั่งกุหลาบมาจากไร่อื่นด้วย
คือผมกำลังเจอปัญหาเรื่องเพลี้ยและแมลงมันทำลายไร่เสียวอดวายไปหมดผมก็เลยต้องไปซื้อดอกกุหลาบมาจากไร่อื่นเพื่อให้พอกับความต้องการของคุณ
แล้วอย่างนี้จะได้กำไรสักเท่าไรเชียว
ก็นิดหน่อยแต่ก็ไม่เสียลูกค้า.คุณว่าจริงไหม
อืม
กัญญายืนนึกอยู่ครู่หนึ่งจนไม่ได้ยินที่คุณนิวพูดเธอคิดแต่เรื่องของอนาคตและการวางแผนเรื่องธุรกิจ เธอกลัวว่าจะประสบปัญหาแบบที่คุณนิวเป็น
เป็นอะไรหรือเปล่าครับ
ปะเปล่าค่ะแค่คิดอะไรเพลิน ๆ เท่านั้นเองเมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรคะ
คือผมถามว่าคุณจะแต่งงานเมื่อไรเพราะนี่ก็สามสิบแล้วนะครับอายุขนาดนี้หาคนรักยากนะทำไมไม่ลองเลือกใครคบ ๆ ดูบ้างล่ะ
อย่าพูดถึงเลยผู้ชายก็ดีแต่จะมาปอกลอกผู้หญิงนั่นแหละ
ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ
จริง ๆ นะ จะมีสักกี่คนเชียวที่จริงใจกับผู้หญิงตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือพี่เขยฉันไงทำให้พี่สาวฉันต้องตรอมใจตายแล้วยังจะโกงทรัพย์สินไปกว่าครึ่งฉันรับไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้ว่าตอนนั้นฉันอายุเพียงสิบสี่ฉันก็โตพอที่จะรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นกับฉันอย่างเด็จขาดเลย
ผู้ชายไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปหรอกนะอย่าเอาผู้ชายคนเดียวมาตัดสินผู้ชายทั้งโลกสิผมว่าคุณน่าจะมองโลกในแง่ดีกว่านี้นะ
แง่ดีเหรอฉันไม่อยากจะพูดเลยแล้วคุณล่ะนิวคุณเลิกกับฉันเพราะคิดว่ายายพลอยจะมีเงินมากกว่าฉันใช่หรือเปล่า
ไม่ใช่นะคุณเข้าใจผิด ผมรักน้องสาวคุณจริง ๆ
แล้วตอนนี้เธอจากไปแล้วแต่ทำไมคุณถึงกลับมาหาฉันหมายความว่าอย่างไรคุณเห็นฉันเป็นตัวสำรองเหรอ ฉันไม่ใช่ของเล่นสำหรับใครนะ ฉันมีหัวใจ มีเลือด มีเนื้อ ฉันไม่ใช่ควายที่จะถูกเชือดเฉือนเมื่อไรก็ได้
อย่าคิดแบบนั้นสิที่ผมกลับมาหาคุณเพราะผมยังรักคุณอยู่ต่างหากล่ะ
ไปเสียเถอะค่ะฉันไม่ใช่ของเล่นของใคร ฉันไม่ใช่ตัวสำรองคนอย่างฉันมีค่าพอที่จะยืนหยัดต่อสู้คนเดียว ถ้าคุณคิดที่จะกลับมาเป็นคนเก่าของฉันละก็ฉันต้องขอบาย เชิญคุณเอาของของคุณกลับไปด้วย
ผมขอโทษนะกัญญาแต่กุหลาบพวกนั้นผมไม่ขอคืนผมให้คุณด้วยความจริงใจ
กัญญาหันหลังให้คุณนิว เธอยืนน้ำตาซึมคุณนิวมองเธอด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง เขาเดินกลับไปด้วยท่าทางหมองหม่นในจิตใจอย่างคนสิ้นคิด หาทางออกไม่ได้ ในขณะเดียวกันนั้นคุณภูริบังเอิญมาหากัญญาพอดี เขาจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดคุณนิวเดินสวนทางกับคุณภูริ เขาเดินเข้าไปตบไหล่คุณภูริเบา ๆ ราวกับจะบอกอะไรสักอย่าง เขายิ้มและก็เดินจากไป
เสียงปิดประตูรถของคุณนิวดังขึ้นกัญญาหันกลับมามองเขาด้วยสายตาสร้อยเศร้า คุณภูริเดินเขามาโอบตัวเธอเอาไว้เพื่อเป็นการปลอบใจกัญญาร้องไห้โฮเพราะเธอรู้สึกทำใจไม่ได้ คุณภูริจึงได้แต่ปลอบใจเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าเธอจะคิดฟุ้งซ่าน เนื่องจากเขารู้จากปากของหนูนาว่าเธอเป็นคนขี้ใจน้อย และแสนงอนเป็นที่สุด
วันนี้คุณมาทำอะไรคะ
คือผมว่าจะชวนคุณไปทานอาหารข้างนอกสักหน่อย
หน้าอย่างคุณน่ะนะโธ่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยหนุ่มเพลย์บอยอย่าคุณสาว ๆ เยอะจะตายไปนี่อย่าบอกนะว่าเขารู้ทาสแท้ของคุณแล้วก็เลยหนีหายกันไปหมด
นี่ผมไม่น่าปลอบใจคุณเลยรู้สึกว่าคุณจะเลิกอกหัวเร็วจังเลยนะ
ทำไมล่ะคนมันอารมณ์ดีสมองดี ก็เลยหายปวดใจเร็ว
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสมองด้วยล่ะ
ก็ก็เออช่างเถอะ
เถียงไม่ขึ้นละสิใช่มะ
กัญญาแสดงท่าทางหงุดหงิดแต่ก็แฝงไว้ด้วยความสุขเธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณภูริถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ยียวนกวนประสาทเธอมากเพียงไรแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอโกรธเขาเลย เธอกลับชอบและพอใจเสียด้วยซ้ำจนทำให้เธอรู้สึกดี ๆ ให้เขาโดยที่ไม่รู้ตัว
แล้วจะไปหรือยังล่ะ
ไปไหน
ก็ไปทานข้าวไงล่ะไป
กัญญาจูงมือคุณภูริขึ้นรถ คุณภูรินั่งยิ้ม ๆ ในรถและไม่พูดอะไรจนกัญญารู้สึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้ขำนักขำหนา
นี่คุณทำไมไม่ขับรถออกไปล่ะจะทานหรือเปล่าเดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ
คุณคิดว่าคุณจะไปทั้ง ๆ ที่ใส่ชุดแบบนี้น่ะเหรอ
ทำไมชุดฉันมันไม่สวยตรงไหนนี่ฉันตัดเย็บเองกับมือเชียวนะ
คุณภูริยิ้มและไม่พูดอะไร เขาชี้ไปที่หน้าอกของเธอทำให้กัญญาตกใจเอามือไปตบหน้าเขาทันที
ทุเรศคนผีทะเลนี่แอบมองนมฉันเหรอ
เปล่าผมแค่จะให้คุณดูว่าเสื้อคุณมันเปื้อนขี้ดินก็เท่านั้นคุณนี่ลามกเหมือนกันนะ
กัญญารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก เธอรีบปิดประตูรถและเดินเข้าบ้านทันทีทำให้คุณภูริตะโกนตามไปแบบหยอก ๆ
นมคุณน่ะผมไม่มองหรอกเสียลูกตาเปล่า ๆ แบนก็แบน
แต่ดู ๆ ไปก็อึ๋มนะเนี่ยเราพูดไปได้อย่างไรว่าเธอแบนคุณภูรินึกพร้อมกับส่ายหน้า กัญญารู้สึกฉุนมากเธอหันกลับมาแลบลิ้นใส่และวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
กัญญาแต่งตัวอย่างสาวทันสมัยและมั่นใจมาก เธอสวมเสื้อเกาะอกเอวลอยสีขาว กางเกงยีนส์สีแดงสดและสวมเสื้อสูทลูกฟูกเนื้อดีสีเลือดหมูคลุม จากนั้นก็หยิบกระเป๋าหนังสีแดงออกมาเพื่อให้แม็ทกับเสื้อผ้าที่สวมใส่เธอเลือกเสื้อผ้าอย่างไม่ลังเลเพราะเธอคิดว่าเธอจะใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมดเนื่องจากเธอเป็นสาวทันสมัยที่มั่นใจ ทำอะไรก็เลยไม่ค่อยจะแคร์สายตาของใครสักเท่าไรนักเธอเดินลงมาด้วยความมั่นใจ คุณภูริถึงกับมองตาค้างเพราะไม่คิดว่ากัญญาจะแต่งตัวได้จี๊ดจ๊าดขนาดนี้เขาวิ่งไปเปิดประตูรถให้เธอและเดินเข้ามาในรถเพื่อกอดปุ่มเปิดประทุนรถ
เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเอาหน้ารับลมเนาะ!!!!
คุณภูริพูดแล้วก็หันมายิ้มให้กัญญา จากนั้นก็เปิดเพลงเสียงดังลั่นและขับรถออกไปทันทีกัญญาหยิบแว่นตากันแดดสีชาออกมาสวม เธอนั่งเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยท่าทางที่มั่นใจรถติดไฟแดงผู้คนที่อยู่ตามละแวกนั้นหันมามองเธอและยิ้ม ๆ เธอก็หันไปยิ้มให้คุณภูริหันมามองเธออยู่หลายครั้ง กัญญาจึงแก้เขินด้วยการเปลี่ยนเพลงเป็นเพลงแนวฮิบหอบ! ที่มีจังหวะเร้าใจ และก็ก็ร้องคลอไปด้วยทำให้คุณภูริหันมามองเธอและก็ร้องเพลงบ้าง
คุณก็ชอบแนวนี้เหมือนกันเหรอผมก็ชอบนะ
ปรี๊น.ปรี๊น.ปรี๊นรถข้างหลังหลายคันบีบแตรดังลั่นเพราะคุณภูริมัวหันไปมองกัญญาและร้องเพลง จึงทำให้ไม่เห็นว่าขณะนี้ไฟเขียวแล้ว ทำให้มีเจ้าของรถหลายคนโผล่หน้าออกมาตะโกนโหวกเหวก
อุ้ย!ขอโทษทีครับ
กัญญานั่งยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมาถึงที่ร้านอาหารเธอก็เปลี่ยนใจที่จะทานร้านหรู ๆ แบบนี้ เธออยากจะแก้แค้นเขาที่กล้าพูดแหย่ว่าหน้าอกเธอแบนทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็ออกจะอึ๋มขนาดนี้ เธอขอขับรถเองคุณภูริก็ยอมให้เธอขับเธอขับรถมาถึงร้านส้มตำริมทางร้านหนึ่งเธอก็จอดรถและมองหน้าคุณภูริทันที
ร้านนี้น่ะเหรอ!!!!
คุณภูริถามอย่างงง ๆ กัญญาพยักหน้าและเดินลงมาสั่งอาหารทันที แต่น่าแปลกที่คุณภูริกลับไม่มีท่าทีรังเกียจร้านอาหารแบบนี้เลยทำให้กัญญารู้สึกแปลกใจและไม่กล้าถามคุณภูริสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว ทำให้กัญญารู้สึกงงเข้าไปใหญ่
ตำไทยใส่ปูครกหนึ่งปูปลาร้าครกหนึ่งแล้วก็ซุปหน่อไม้ขอน้ำปลาร้านะครับไม่เอาตัว และก็เอาแบบจี๊ดจ๊าดแต่ไม่เผ็ดมากนะครับอ้อ!แล้วก็ไก่ย่างเอามาตัวหนึ่งครับ
คุณ
อ๋อจะถามว่าทำไมผมถึงสั่งคล่องนักใช่ไหมล่ะร้านนี้ร้านโปรดผมเลยคุณนี่รู้ใจผมชะมัด ผมคิดว่าคุณจะหัวสูงซะอีกไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนติดดินเหมือนกันนี่ตอนที่ผมอยู่แคมบิดนะผมละหิ้วหิวอยากกินมากเลยส้มตำแบบฝีมือคนไทยเนี่แต่ก็หาไม่ได้ถึงจะมีร้านอาหารคนไทยที่นั่นแต่ฝีมือก็สู้บ้านเราไม่ได้คุณว่าจริงไหมล่ะ
คุณภูริคะเอาหมูตกครกไหมคะ วันนี้มีแต่เนื้อไม่มีมันนะคะ
เจ้าของร้านตะโกนดังขึ้น คุณภูริยิ้มและก็พยักหน้าจากนั้นก็หันมามองกัญญาแบบยิ้ม ๆ ทำให้กัญญารู้สึกดีมากขึ้นเพราะเธอไม่คิดว่าคุณภูริจะเข้ากับคนรอบข้างได้ขนาดนี้
แสดงว่าคุณนี่ก็ขาประจำเลยน่ะสิ
ใช่ผมกินร้านนี้ตั้งแต่ตอนที่ผมบินกลับมาใหม่ ๆ จากนั้นก็ติดใจฝีมือเจ๊หนิงแล้วก็เลยต้องมาอุดหนุนทุกเย็นแต่วันนี้พิเศษหน่อยผมมีคุณมาทานด้วย
เอาข้าวเหนียวไหมคะ
ครับ
เจ๊หนิงเจ้าของร้านตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง คุณภูริตอบรับจากนั้นเด็กเสริฟก็นำส้มตำและหมูตกครกมาเสริฟที่โต๊ะพร้อมกับกระติ๊บข้าวเหนียวใบจิ๋วสองใบกัญญาค่อย ๆ ตักส้มตำด้วยความละเมียดละไม เมื่อเธอทานเข้าไปก็รู้สึกชอบส้มตำร้านนี้มากเพราะรสชาติอร่อยที่สุดเท่าที่เธอเคยทานเลยทีเดียว
อืมถึงว่าทำไมฝรั่งเยอะแยะถึงได้มานั่งทานร้านนี้
อร่อยละสิงั้นก็ทานเยอะ ๆ นะ
กัญญาเอาช้อนซ่อมตักข้าวเหนียวทาน เธอหันไปมองรอบ ๆ ตัวแล้วก็ยิ้ม ๆ เมื่อเงยหน้ามองคุณภูริเธอก็เห็นเขาเอามือจับข้าวเหนียวทานอย่างเอร็ดอร่อย เธอจึงทำบ้างทั้งคู่ดูเข้ากันมากทั้ง ๆ ที่เธอหน้ากันทีไรต้องมีการหยอกล้อกระทบกระเทียบกันทุกที โดยเฉพาะกัญญาจะเป็นคนเริ่มก่อนทุกครั้งทำให้คุณภูริอดใจไม่ไหวต้องแกล้งเธออยู่เรื่อย
ผมจะไปส่งคุณที่บ้านเลยนะ
ถ้าคุณไม่ไปส่งฉันแล้วคุณจะปล่อยทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวตรงนี้ก็ตามใจ
อย่านะผมทำจริงนะ
คุณภูริหยอกคุณกัญญาเล่น สายตาทั้งคู่ดูมีความสุขมาก คุณภูริเดินไปเปิดประตูรถให้กัญญาจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถชายคนหนึ่งที่จ้องมองกัญญาอยู่นานลุกขึ้นมาจากโต๊ะที่ร้านส้มตำเจ๊หนิง จากนั้นก็วิ่งมากระชากกระเป๋าใบหรูสีแดงของกัญญาทันที
ว๊าย.!!!!
กัญญาถึงกับร้องเสียงหลงทำอะไรไม่ถูกเลย
.10..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
22 มีนาคม 2548 14:58 น.
สุชาดา โมรา
คืนนี้คุณสวยมากคุณรู้ไหม
เหรอคะ
สุขสันติ์วันเกิดนะครับ
คุณภูริคุกเข่าลง มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา สปอตไลต์ส่องมาที่ทั้งคู่ ผู้คนในงานต่างมุงดูทั้งคู่กันใหญ่
ขอแต่งงานขอแต่งงานขอแต่งงาน
แนนซี่ตะโกนดังขึ้น เธอปรบมือดังลั่นอยู่คนเดียวแล้วก็ต้งเก็บมือเพราะไม่มีใครลุ้นแบบเธอเลย ทุกคนจับจ้องไปที่ทั้งคู่ คุณภูวดลมองพี่ชายของตัวเองด้วยท่าทางที่แปลกใจเพราะไม่คิดว่าพี่ชายของตัวเองจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย
คุณภูริเปิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินออกเขาหยิบนาฬิกาข้อมือออกมาสวมให้กับกัญญาผู้คนที่จ้องมองถึงกับแตกฮือทีเดียวเพราะคิดว่าเขาจะขอแต่งงานกันแต่ก็เปล่า นักข่าวแอบเก็บภาพไปโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด
สุขสันติ์วันเกิดครับ
คุณนิวเดินเข้ามาผิดจัวหวะพอดีเขาเอากล่องของขวัญให้กับกัญญาและเดินห่างออกไป
เดี๋ยวค่ะ!!!!
คุณนิวหันมายิ้มและแสดงสีหน้าเศร้า ๆ เขาคิดว่ากัญญาตอบตกลงที่จะแต่งงานกับคุณภูริไปแล้วเขาจึงเดินออกไปทันทีโดยที่ไม่รอให้กัญญาพูดให้จบเสียก่อน
กิ๊กจับคู่กับชายหนุ่มชุดขาวคนนั้นเมื่อเขาถอดหน้ากากออกมากิ๊กถึงกับดีใจสุดขีดเลยทีเดียวเมื่อเห็นเป็นคุณธนูอดีตคนรักของเธอ เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้พร้อมกับน้ำตาซึมทันที
เกิดอะไรขึ้นเหรอกิ๊ก
ปะเปล่าค่ะกิ๊กเพียงแต่ดีใจเท่านั้นเอง
ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งเริ่มการโหวดว่าคู่ของใครเหมาะสมที่สุด พิธีกรประกาศให้แนนซี่และคุณภูวดลออกไปที่เวทีเพื่อรับรางวัลขวัญใจมหาชนแนนซี่ออกไปรับรางวัลพร้อมกับคุณภูวดล เธอแสดงความดีใจออกนอกหน้าหันไปจูบแก้มเขาทันที ดูสีหน้าของคุณภูวดลจะพอใจเสียด้วยเพราะแนนซี่ทั้งสวยและหุ่นดีขนาดนี้จึงทำให้เขาปล่อยให้แนนซี่ทำอะไรตามใจโดยที่ไม่รู้ตัวว่าแนนซี่ไม่ใช่ผู้หญิงมาตั้งแต่กำเนิด
พิธีกรประกาศให้กิ๊กและคุณธนูออกไปรับรางวัลหวานใจทั้งคู่ไม่รู้ตัวมาก่อนเลยเมื่อออกไปรับรางวัลก็ได้แต่แสยะยิ้มด้วยความงง ๆ เท่านั้นกระต่ายและคุณโอสามีของเธอออกไปรับรางวัลหวานใจเช่นกันทั้งคู่หอมแก้มกันและเดินลงจากเวทีไป
คู่สุดท้ายนะคะคือ.แถ่นแถ่นแท้น.คุณกัญญาและคุณภูริค่ะ
หา
เสียงปรบมือดังลั่นไปหมดทั้งคู่ตกใจมากพวกเขาค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนเวทีช้า ๆ เพราะชุดที่กัญญาใส่นั้นค่อนข้างยาวคุณภูริจึงต้องประคองเธอขึ้นไปบนเวที
รางวัลที่ได้รับคือรางวัลเทพบุตรสุดหล่อและเจ้าหญิงแสนสวยค่ะ
คุณแม่อิ่มขึ้นมามอบดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ให้กับทั้งคู่พร้อมกับมงกุฏดอกกุหลาบสีขาวให้กับทั้งคู่ คุณภูริจึงฉวยโอกาสอุ้มกัญญาขึ้นและเดินหมุนไปรอบ ๆ ตัวเองด้วยความดีใจทีเดียว
กัญญาเริ่มตัดเค้กแจกจ่ายให้กับทุกคน งานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ผ่านเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว คุณภูริตามกัญญาติดไม่ยอมให้ห่างหรือพลาดสายตาไปเลยทีเดียวจนกระทั่งเลิกงาน ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านยกเว้นแนนซี่ที่มานอนบ้านของกัญญาเพราะว่าบ้านของเธออยู่ไกลมาก
คืนนี้หนูนาเขาจะออกทีวีฉันจะรีบกลับไปดูที่ห้อง
ว้าย...ใช่...ใช่เลย...แล้วนี่ฉันลืมได้ยังไงเนี่ย...ว้า...เสียดาย
ที่นี่ก็มีทีวีนะ
ไม่ใช่จ้ะ เจ๊จ๋า แม่แนนซี่ทอดเสียงอ่อนหวานเป็นอันมาก แค่เสียดายว่าไม่ได้ตามไปคุมยายหนูนาเธอสักหน่อย เฮ้อ...บอกตามตรงนะว่าไม่รู้ว่าหนูนาเธอจะพาตัวเองไปออกทีวีในภาพแบบไหน
ทำไมต้องคุมด้วยล่ะ
ก็ยายหนูนาเป็นคนสวยนี่นาเดี๋ยวถ้าไม่ตามไปคุมละก็ตาต้นกล้าเอาพวกเราตายเลยน่ะสิ
บ้าคิดแผลง ๆ คิดได้ไงเนี่ย
นั่นคือความห่วงใยที่มีให้คนเป็นเพื่อน แนนซี่ทำท่าเป็นห่วงอย่างแท้จริงและกัญญาก็ทำความเข้าใจได้ว่าทำไมแนนซี่จึงมีอารมณ์เช่นว่านั้น
เค้าปิดเงียบนะยายกัญญา
คำว่ายายนี่ดูจะติดปากสาวแนนซี่กับพวกหล่อนทุกคน...กัญญาเองก็ไม่มีปัญหาสำหรับการถูกเรียกเช่นนี้ แต่มีคนหนึ่งซึ่งจะมีแน่นอน และเตือนแนนซี่อยู่เหมือนกันนั่นก็คือยายหนูนา เพราะยายคนนี้ชอบให้เพื่อนเรียกเธอว่าหนูนาเฉย ๆ มากกว่า
กัญญาและแนนซี่นั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น แนนซี่เห็นกัญญาเหนื่อยล้ากับงานนี้มามากเธอจึงอุ้มกัญญาไปนอนในห้องเมื่อเห็นว่าเธอกำลังหลับสบสยอยู่หน้าทีวี ส่วนตัวเธอเองนั้นก็กลับมานั่งดูทีวีต่อด้วยท่าทางใจจดใจจ่อ เพียงเพราะจะดูเพื่อนผิวสีแทนคนสวยออกทีวีสัมภาษณ์สด
แนนซี่ดูทีวีจนรายการจบ เธอรู้สึกชื่นชมในตัวของหนูนาเป็นอย่างมากแนนซี่ปิดทีวีและปิดไฟทั้งหมดในบ้านจากนั้นก็เข้าห้องนอนที่กัญญาให้เด็กในบ้านจัดเตรียมไว้
..
ตอนเช้าวันอันสดใส กัญญาตื่นแต่เช้าเพื่อมารดน้ำต้นไม้ โดยเฉพาะต้นกุหลาบสีขาวที่อยู่ตรงหน้าบ้าน ดอกไม้มากมายที่เหลือจากการจัดงานเมื่อคืนนี้ กัญญาให้เด็กในบ้านไปเก็บมาให้เรียบร้อย เธอให้เก็บใส่กล่องเพื่อให้มันแห้งสนิท จะได้เก็บเอาไว้ทำบุหงา
อรุณสวัสดิ์ครับคุณกัญญา
อ๋อค่ะคุณภูวดลลมอะไรหอบมาแต่เช้าคะ
ผมมาหาคุณแนนซี่ครับ
ค่ะเชิญรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ
กัญญาพาคุณภูวดลมานั่งในห้องรับแขก เธอไปเตรียมของว่างมาด้วยตัวเองจากนั้นก็ขึ้นไปตามแนนซี่ให้ลงมาข้างล่างกัญญานั่งคุยกับคุณภูวดลอยู่ครู่หนึ่งก็รู้ว่าคุณภูวดลอยากจะพาแนนซี่ไปทานอาหารข้างนอก กัญญาจึงเดินขึ้นไปบอกให้แนนซี่แต่งตัวทันที
แนนซี่เอาเสื้อผ้าออกมาวางพาดบนเตียงนอนเพื่อจะดูว่าชุดไหนเหมาะสมที่สุด
ฉันจะนุ่งกระโปรงหรือกางเกงออกไปดี...แนนซี่นึก
ชุทสูทเสื้อกะกางแกง...สีดำอันเป็นสีคลาสสิกและเป็นสีโปรดของฉัน...แต่จะเหมาะสมแค่ไหนใส่กางเกงจะดูเป็นกันเองมากไปหรือเปล่า... หล่อนก็พยายามใส่ใจเรื่องภาพที่จะออกมา...การนุ่งกางเกงอาจจะทำให้หล่อนปล่อยท่าทีตามสบายไม่สำรวม ถ้าอย่างนั้นเป็นชุดกระโปรง...หล่อนหยิบกระโปรงออกมา...กระโปรงสั้นนั้นไม่เคยนุ่งมานานมากนานเป็นสิบๆ ปี ตั้งแต่เลิกเป็นนักศึกษา
กัญญาเห็นแนนซี่ยืนบ่นกับตัวเองคนเดียวที่หน้ากระจก พร้อมทั้งหยิบชุดนั้นจับชุดนี้ให้วุ่นไปหมดกัญญาก็เก็บกระโปรงความยาวแค่เข่าไว้ในตู้ นอกจากกระโปรงยาวเริ่มจากครึ่งน่องจนตอนหลังที่หล่อนตัดกระโปรงความยาวกรอมเท้า...กับเสื้อแขนยาว...พร้อมทั้งชุดที่มีอยู่เข้าตู้จนหมดนี่หล่อนจะปกปิดตัวเองมิดชิดในเสื้อผ้าที่มองไม่เห็นสรีระของตัวเองอย่างนั้นเหรอ
จะให้ทำอย่างไรล่ะฉันไม่เคยเที่ยวกับผู้ชายหล่อ เท่ห์ สมาร์ทแบบนี้มาก่อนเลยนี่
อย่าเครียดนะแนนซี่ฉันมีทางออกให้
กัญญาหยิบเสื้อยืดกระโปรงยีนส์ที่มีจีบรอบตัวออกมายื่นให้แนนซี่ทันที
เธอว่ามันจะเหมาะเหรอ
เหมาะสิเพราะคุณภูวดลเขาแต่งตัวพื้น ๆ เอง เขาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เสื้อสีชมพูนี่คงเหมาะนะเพราะเขาใส่เสื้อสีเทาตัวอักษรสีชมพู ส่วนเธอก็ตัวอักษรสีเทา โอเคเลยเพื่อนสวยแน่นอน
แน่นะ
กัญญาพยักหน้ารับ แนนซี่สวมชุดออกมาโชว์ตัวให้กัญญาดู ท่าทางเธอไม่ค่อยจะมั่นใจเอาเสียเลย
ฉันไม่เคยแต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้มาก่อนเลยนะจ๊ะเธอจ๋า
เอาเถอะเป็นกุลสตรีซะบ้างอย่าให้เขาจับได้ละกันว่าเธอเป็นสาวแตกน่ะ
แต่มันเรียบร้อยเกินไปหรือเปล่าย๊ะเจ๊รับไม่ได้ปกติก็แต่งตัวแบบสาวมั่นวันนี้จะให้แต่งตัวแบบเด็ก ๆ มันจะดูใสซื่อบริสุทธิ์เกินไปหรือเปล่าจ๊ะ
กัญญาเห็นแนนซี่ทำท่าทางแหย ๆ ก็นึกขำ เธอยิ้มละมุนแล้วก็พาแนนซี่เดินลงมาข้างล่างคุณภูวดลมองแนนซี่ด้วยท่าทางที่พอใจ เขายิ้มและลุกขึ้นยืนรอเธออยู่ที่โซฟา
แนนซี่เดินควงแขนคุณภูวดลเดินขึ้นรถจากั่วสีดำคันหรูออกไป เธอหันกลับมายิ้มให้กัญญารถที่สวนเข้ามานั้นมีดอกกุหลาบสีขาวเต็มไปหมด กัญญารู้สึกแปลกใจมาก เมื่อมองเข้าไปในรถก็เห็นผู้ชายที่ขับมานั้นคือคุณนิวกลับยิ่งทำให้เธอแปลกใจหนักเข้าไปใหญ่ เพราะเมื่อคืนนี้เขามีท่าทีว่าเหมือนไม่อยากจะคุยกับเธอ เพราะเขาคิดว่าคุณภูริกำลังขอเธอแต่งงานอยู่
9.
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...