22 มีนาคม 2548 15:43 น.
สุชาดา โมรา
กระไรกันเจ้ามิรู้รึ เจ้าคุณพลเทพบิดาของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีอย่างไรเล่า
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีหรือเจ้าคะ!!!!
เธอถามอย่างงง ๆ เพราะชื่อนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เธอนั่งอยู่ครู่หนึ่งนางในคนหนึ่งก็วิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับห่อผ้าสัมภาระ
อีไม!!!! มึงนี่นะ อยู่ในรั้วในวังมาตั้งนมนานยังไม่รู้จักวางกิริยามารยาทอีก มันน่าส่งไปอยู่ล้างขี้ช้างดีไหมล่ะ
คุณท้าวรัญจวนพูดด้วยความโมโห เธอจ้องมองบ่าวคนนั้นแล้วก็ทำหน้าเครียด เมื่อบ่าวคนนั้นทำหน้าเสียคุณท้าวรัญจวนก็หัวเราะพร้อมทั้งเอามือปิดปากทันที สร้างความขบขันให้กับนางในทุกคน เพราะทุกคนเห็นท่าหวาดกลัวของบ่าวคนนั้นเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว
บ่าวเอาข้าวของมาให้เจ้าค่ะแม่หญิงคนเรือรออยู่นะเจ้าคะ
น้ำผึ้งแก้วกราบคุณท้าวรัญจวนแล้วก็คลานออกจากตำหนักด้วยความระมัดระวัง เธอเดินออกมายังท่าน้ำของชาวฝรั่งเพราะที่นี่มีอยู่ท่าเดียว เธอมองเห็นเรือสำเภาน้อยใหญ่ที่จอดอยู่ รวมทั้งเรือของชาวฝรั่งทำให้เธอยิ้มไม่หุบปากทีเดียว
แม่หญิงคะสำรวมกิริยาด้วยเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วหุบปากทันที เธอเดินมายังเรือที่จอดรอรับอยู่ เธอทำท่าเหมือนจะลงเรือแต่ก็กวักมือเรียกเรือจ้างที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นทันที เรือลำนั้นพายมาเทียบท่า น้ำผึ้งแก้วลงเรือแล้วก็หันไปยิ้มให้กับคนเรือของเจ้าคุณพลเทพและไมบ่าวรับใช้ของคุณประยูรบุตรีของเจ้าคุณพลเทพที่อยู่ในวังมาก่อนหน้าหล่อนทันที
ไปบ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ราชนฤบาล อยู่ตรงคุ้งด้านหน้า
คนเรือพายเรือตรงไปยังท่าน้ำหน้าบ้านทันที ส่วนคนเรือของเจ้าคุณพลเทพก็พายเรือตามมาอย่างเร่งด่วน ไม่บ่าวของคุณประยูรตะโกนโหวกเหวกให้เรือลำที่น้ำผึ้งแก้วนั่งมาจอด แต่คนเรือไม่หยุดจอดเลยสักนิด น้ำผึ้งแก้วขึ้นจากเรือพร้อมทั้งหยิบอัดมาจ่าย หล่อนเดินตรงมายังเรือนของเจ้าคุณพ่อพร้อมทั้งหยิบข้าวของที่อยู่ในห่อผ้าออกมาดู
ในนี้มีอะไรนะหล่อนนึก หล่อนเห็นเพลงยาวที่มีคนเขียนมาให้หล่อนถึงสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล อีกฉบับเป็นของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี หล่อนหยิบเพลงยาวของคุณหลวงบดินทร์ขึ้นมาอ่านก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็เก็บไว้ใต้หมอน ส่วนของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีนั้นหล่อนหยิบไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่แล้วให้บ่าวที่ชื่อปลิกนำไปส่งให้กับคุณช้อยบุตรสาวบ้านคุณท้าวกรองทองทันที เพราะหล่อนรู้ว่าแม่หญิงช้อยมีใจให้กับคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี
นี่เราทำอะไรของเราอยู่นะ รู้สึกฝืนตัวเองไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเรากำลังทำเรื่องที่ผิดมาก ๆ แต่เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้ เรารู้ได้อย่างไรว่าคุณช้อยชอบคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ น้ำผึ้งนึก
น้ำผึ้งแก้วนั่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งบ่าวก็มาเรียกให้ไปเรือนเจ้าคุณย่า
แม่หญิงเจ้าคะคุณท่านเรือนใหญ่ให้หาเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง หล่อนข้ามสะพานซึ่งเชื่อมกับบันไดบ้านไปยังเรือนของเจ้าคุณย่าที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก เมื่อมาถึงระเบียงกลางหล่อนเดินอย่างพญาหงส์และค่อย ๆ คลานเข่ามาหาเจ้าคุณย่าอย่างระมัดระวังกิริยาจากนั้นก็กราบเจ้าคุณย่าและหันมาไหว้เจ้าคุณพลเทพและคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทันที
งามเหลือเกินแม่..
เจ้าคุณพลเทพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งส่งสายตาเจ้าชู้ไก่แจ้กับน้ำผึ้งแก้วทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากจึงเคี้ยวหมากจับ ๆ กระแทกแรง ๆ ด้วยความโกรธ ส่วนน้ำผึ้งแก้วนั้นวางกิริยาราวกับเป็นหุ่น หล่อนนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หล่อนมองตรงไปข้างหน้านั่งตัวแข็งทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกพอใจที่หลานสาวไม่ตอบโต้สิ่งใดกับเจ้าคุณพลเทพเหมือนเมื่อคราวที่ตอบกับคุณหญิงเลี่ยมแม่ของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มีธุระอันใดหรือพ่อ
เจ้าคุณย่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เก็บอารมณ์
กระผมอยากจะมาพูดจาตามประสาคนคุ้นเคยเท่านั้นแหละขอรับ
เหตุใดจึงต้องเรียกหลานของอิฉันมาด้วยในเมื่อจะมาคุยกันตามประสาแต่เอเมื่อก่อนนี้ไม่เห็นว่าเจ้าคุณจะมาคุยบ้างเลย อิฉันว่าเจ้าคุณพูดมาตรง ๆ เลยดีกว่าไหม
กระผมขอพูดตามตรงเลยนะขอรับ กระผมอยากจะให้เด็กสองคนรู้จักกัน
อ้าวลูกเอ๊ย!รู้จักกันหรือยังเล่า
เจ้าคุณย่าหันมาถามน้ำผึ้งแก้วแล้วก็ยิ้มเยาะ
รู้จักเจ้าเจ้าค่ะเจ้าคุณย่า งั้นหลานขอตัวกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะเพราะไม่มีกิจจะคุยด้วย ก็ฝ่ายนั้นบอกให้หลานรู้จักแล้วหลานก็อยู่แค่รู้จักนี่แหละเจ้าค่ะ
เจ้าคุณย่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนน้ำผึ้งแก้วเบา ๆ ก่อนที่หล่อนจะค่อย ๆ คลานลุกหนีไปเพราะไม่อยากจะคุยกับสองพ่อลูกนั่น
เจ้าคุณพลเทพถึงกับอึ้งพูดไม่ออกทีเดียว เขานั่งเคี้ยวหมากด้วยความโกรธ
ไป!!!!กลับ!!!!!
เจ้าคุณพลเทพแสดงท่าทางโกรธราวกับยักษ์คลั่ง เขาคว้าไม้ตะพดหัวงูเห่าซึ่งทำมาจากเขากระทิงด้วยท่าทางที่หุนหันแล้วก็หันมาไหว้เจ้าคุณย่าจากนั้นก็เดินกระแทกเท้าลงจากเรือนไป
เจ้าคุณพ่อขอรับกระผมว่าอย่าเพิ่งโกรธเลยนะขอรับ หล่อนยังเด็กนักคงจะไม่รู้ประสีประสาเท่าไรนัก
ใช่หล่อนยังเด็กแต่หยิ่งยโสโอหังเหลือเกิน พ่อว่าเจ้าอย่ายุ่งกับคนบ้านนี้เลยดีกว่า เจ้าก็รู้ไม่ใช่รึว่าคนบ้านนี้เป็นพวกเจ้า ๆ นาย ๆ ไหนเลยจะมาคบกับคนอย่างเรานึกว่าตัวเองใหญ่โต สักวันหนึ่งเถอะจะได้รู้กัน!!!!
เจ้าคุณพ่อจะทำอะไรหรือขอรับ
เดี๋ยวก็รู้.ไปกลับ
เจ้าคุณพลเทพลงเรืออย่างรีบร้อนจนเรือเกือบจะคว่ำ
บ๊ะ!!!! อ้ายตะไลมึงนี่ทำเรือเกือบร่ม มึงระวังตัวไว้เถอะอ้ายฉิบหายกูจะแพ่นกระบานมึงโทษฐานที่จับเรือไม่แน่น
เจ้าคุณพ่ออย่าพาลคนอื่นสิขอรับ ดูสิอ้ายมิ่งมันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว
เรือของเจ้าคุณพลเทพพายออกมาได้ครู่หนึ่งคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีก็เห็นเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาลซึ่งมีแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วนั่งอยู่ด้วย หล่อนยิ้มอย่างไม่ระวังกิริยา
เจ้าคุณพ่อขอรับ.
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีเรียกให้เจ้าคุณพลเทพดูเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มิน่าล่ะ
ทำไมหรือขอรับ
ก็แม่หญิงมีใจให้คุณหลวงบดินทร์ฯ ไงล่ะ แม่หญิงถึงได้ไม่สนใจเจ้าไป!!!! ไปได้แล้ว
ไม่ขอรับกระผมจะขอดูอีกหน่อย
จะดูให้มันเจ็บใจไปใยพ่อว่าเรามาหาทางทำยังไงแม่หญิงถึงจะได้มาเป็นของเจ้าดีกว่านะ
แต่กระผมขออยู่อีกแป๊ะเถอะขอรับ
เจ้าคุณพลเทพจึงอยู่ดูคุณหลวงบดินทร์นฤบาล สองพ่อลูกคิดแผนการที่จะให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วมาร่วมเรียงเคียงหมอนให้ได้ เขารู้สึกเจ็บแค้นที่สองย่าหลานได้กระทำให้อับอายจึงคิดอยากจะเย้ยให้สาใจเพราะถ้าหากแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วออกเรือนไปกับลูกชายของตัวเองแล้วตนเองจะแกล้งให้สาแก่ใจเลยทีเดียว
อุ๊ย!!!! น้ำเย็นนะเจ้าคะ อิฉันว่ากลับกันเถอะค่ะเพราะเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเจ้า
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลเอามือจ้วงน้ำและดีดใส่แก้มของแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วทำให้หล่อนขวยเขินและแอบอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ
พี่มีอะไรจะให้เจ้า
อะไรหรือคะ
หลับตาก่อนสิ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วหลับตาลง คุณหลวงบดินทร์นฤบาลจึงนำดอกบัวมาทัดที่ใบหูของหล่อน หล่อนจึงลืมตาขึ้นแล้วก็หยิบดอกบัวดอกนั้นออกจากหูทันที
สวยจริงเจ้าค่ะ คุณหลวงเด็ดมาจากตรงไหนหรือคะอิฉันไม่เห็นคุณหลวงเด็ดเลยเจ้าค่ะ
ก็ตอนที่เจ้ามัวหันไปดูทางอื่นอย่างไรเล่าพี่จักพาไปดูผ้าในตลาดเจ้าจักไปหรือไม่
อย่าเลยเจ้าค่ะนี่ก็มากันนานแล้วเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้นะเจ้าคะ
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเชื่อพี่เถอะเจ้า
คุณหลวงพายเรือไปเรื่อย ๆ และก็ชี้ชวนให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วดูนกดูไม้ข้างทางด้วยความสุขที่เปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจอันเข้มแข็งของทหารผู้กล้า
กลิ่นดอกไม้ใดฤๅหอมเท่ากลิ่นเจ้า พี่อยากแนบเคล้าคู่ชื่นรื่นนาสา กลิ่นอบร่ำอันอบอวนเหมือนวาจา น้องนั้นหนาน่าเชยชิด
คุณหลวงเจ้าคะอิฉันไม่อยากฟังเพลงยาวดอกเจ้าค่ะ มีอะไรก็พูดตรง ๆ เถอะอย่ามัวอ้อมค้อมเลยเห็นทีว่าจะค่ำเป็นแน่ หากแต่เอ่ยวาจาเพียงประโยคสองประโยคอิฉันก็เข้าใจแล้วละเจ้าค่ะ เพราะเดี๋ยวใครเขาจะครหาเอาได้ว่าอิฉันมาเที่ยวค่ำมืดมันไม่ดีดอกเจ้าค่ะ
คุณหลวงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มเป็นเชิงว่าแม่หญิงนั้นยังคงเป็นเด็กอยู่ดี ไม่รู้จักขวยเขินเสียเลยทั้ง ๆ ที่มีชายหนุ่มนั่งเกี้ยวขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องอีก หล่อนกลับนั่งนิ่งแล้วก็พูดด้วยสีหน้าธรรมดา ๆ จนดูแล้วรู้สึกได้ว่าหล่อนเป็นคนที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมดูแล้วรู้สึกสบายใจ
คุณหลวงจับมือแม่หญิงขึ้นมาและนำแหวนที่ถอดออกจากนิ้วก้อยนั้นสวมไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของหล่อนทันที
วันนี้พี่ขอจับจองเจ้าได้หรือไม่
อิฉันมิใช่ของตลาดนะเจ้าคะที่จะจับจอง
พี่ขอจองเจ้าก่อนที่จะหาผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าพี่กลัวว่าชายใดจะมาเห็นดอกไม้งามในสวนหลวงอย่างเจ้ารักษาตัวครองรักไว้รอพี่เถอะเจ้า พี่จะเร่งให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าโดยด่วน
แม่หญิงก้มลงกราบคุณหลวงบนเรือ หล่อนน้ำตาซึมแล้วก็เงยหน้าขึ้น คุณหลวงจึงเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้หล่อน
เป็นอะไรหรือเจ้า
รีบเถอะเจ้าค่ะคุณหลวงก่อนที่จะสายเกินไป
ทำไมหรือเจ้า
วันนี้เจ้าคุณพลเทพและคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีมาที่เรือนเจ้าคุณย่าพูดคุยอะไรกันก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่เจ้าคุณย่าเรียกอิฉันกลับจากวังและให้มาหาเรื่องนี้ อิฉันสังหรใจเหลือเกินเจ้าค่ะ
คุณหลวงถึงกับทำตาโตทีเดียว เขารีบพาแม่หญิงกลับบ้านและรีบไปคุยกับเจ้าคุณย่าที่เรือนใหญ่ตามลำพังทันที น้ำผึ้งแก้วนั้นนั่งซึมอยู่ในห้องของตัวเอง หล่อนรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที
6
กระไรกันเจ้ามิรู้รึ เจ้าคุณพลเทพบิดาของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีอย่างไรเล่า
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีหรือเจ้าคะ!!!!
เธอถามอย่างงง ๆ เพราะชื่อนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เธอนั่งอยู่ครู่หนึ่งนางในคนหนึ่งก็วิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับห่อผ้าสัมภาระ
อีไม!!!! มึงนี่นะ อยู่ในรั้วในวังมาตั้งนมนานยังไม่รู้จักวางกิริยามารยาทอีก มันน่าส่งไปอยู่ล้างขี้ช้างดีไหมล่ะ
คุณท้าวรัญจวนพูดด้วยความโมโห เธอจ้องมองบ่าวคนนั้นแล้วก็ทำหน้าเครียด เมื่อบ่าวคนนั้นทำหน้าเสียคุณท้าวรัญจวนก็หัวเราะพร้อมทั้งเอามือปิดปากทันที สร้างความขบขันให้กับนางในทุกคน เพราะทุกคนเห็นท่าหวาดกลัวของบ่าวคนนั้นเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว
บ่าวเอาข้าวของมาให้เจ้าค่ะแม่หญิงคนเรือรออยู่นะเจ้าคะ
น้ำผึ้งแก้วกราบคุณท้าวรัญจวนแล้วก็คลานออกจากตำหนักด้วยความระมัดระวัง เธอเดินออกมายังท่าน้ำของชาวฝรั่งเพราะที่นี่มีอยู่ท่าเดียว เธอมองเห็นเรือสำเภาน้อยใหญ่ที่จอดอยู่ รวมทั้งเรือของชาวฝรั่งทำให้เธอยิ้มไม่หุบปากทีเดียว
แม่หญิงคะสำรวมกิริยาด้วยเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วหุบปากทันที เธอเดินมายังเรือที่จอดรอรับอยู่ เธอทำท่าเหมือนจะลงเรือแต่ก็กวักมือเรียกเรือจ้างที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นทันที เรือลำนั้นพายมาเทียบท่า น้ำผึ้งแก้วลงเรือแล้วก็หันไปยิ้มให้กับคนเรือของเจ้าคุณพลเทพและไมบ่าวรับใช้ของคุณประยูรบุตรีของเจ้าคุณพลเทพที่อยู่ในวังมาก่อนหน้าหล่อนทันที
ไปบ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ราชนฤบาล อยู่ตรงคุ้งด้านหน้า
คนเรือพายเรือตรงไปยังท่าน้ำหน้าบ้านทันที ส่วนคนเรือของเจ้าคุณพลเทพก็พายเรือตามมาอย่างเร่งด่วน ไม่บ่าวของคุณประยูรตะโกนโหวกเหวกให้เรือลำที่น้ำผึ้งแก้วนั่งมาจอด แต่คนเรือไม่หยุดจอดเลยสักนิด น้ำผึ้งแก้วขึ้นจากเรือพร้อมทั้งหยิบอัดมาจ่าย หล่อนเดินตรงมายังเรือนของเจ้าคุณพ่อพร้อมทั้งหยิบข้าวของที่อยู่ในห่อผ้าออกมาดู
ในนี้มีอะไรนะหล่อนนึก หล่อนเห็นเพลงยาวที่มีคนเขียนมาให้หล่อนถึงสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล อีกฉบับเป็นของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี หล่อนหยิบเพลงยาวของคุณหลวงบดินทร์ขึ้นมาอ่านก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็เก็บไว้ใต้หมอน ส่วนของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีนั้นหล่อนหยิบไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่แล้วให้บ่าวที่ชื่อปลิกนำไปส่งให้กับคุณช้อยบุตรสาวบ้านคุณท้าวกรองทองทันที เพราะหล่อนรู้ว่าแม่หญิงช้อยมีใจให้กับคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี
นี่เราทำอะไรของเราอยู่นะ รู้สึกฝืนตัวเองไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเรากำลังทำเรื่องที่ผิดมาก ๆ แต่เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้ เรารู้ได้อย่างไรว่าคุณช้อยชอบคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ น้ำผึ้งนึก
น้ำผึ้งแก้วนั่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งบ่าวก็มาเรียกให้ไปเรือนเจ้าคุณย่า
แม่หญิงเจ้าคะคุณท่านเรือนใหญ่ให้หาเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง หล่อนข้ามสะพานซึ่งเชื่อมกับบันไดบ้านไปยังเรือนของเจ้าคุณย่าที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก เมื่อมาถึงระเบียงกลางหล่อนเดินอย่างพญาหงส์และค่อย ๆ คลานเข่ามาหาเจ้าคุณย่าอย่างระมัดระวังกิริยาจากนั้นก็กราบเจ้าคุณย่าและหันมาไหว้เจ้าคุณพลเทพและคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทันที
งามเหลือเกินแม่..
เจ้าคุณพลเทพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งส่งสายตาเจ้าชู้ไก่แจ้กับน้ำผึ้งแก้วทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากจึงเคี้ยวหมากจับ ๆ กระแทกแรง ๆ ด้วยความโกรธ ส่วนน้ำผึ้งแก้วนั้นวางกิริยาราวกับเป็นหุ่น หล่อนนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หล่อนมองตรงไปข้างหน้านั่งตัวแข็งทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกพอใจที่หลานสาวไม่ตอบโต้สิ่งใดกับเจ้าคุณพลเทพเหมือนเมื่อคราวที่ตอบกับคุณหญิงเลี่ยมแม่ของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มีธุระอันใดหรือพ่อ
เจ้าคุณย่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เก็บอารมณ์
กระผมอยากจะมาพูดจาตามประสาคนคุ้นเคยเท่านั้นแหละขอรับ
เหตุใดจึงต้องเรียกหลานของอิฉันมาด้วยในเมื่อจะมาคุยกันตามประสาแต่เอเมื่อก่อนนี้ไม่เห็นว่าเจ้าคุณจะมาคุยบ้างเลย อิฉันว่าเจ้าคุณพูดมาตรง ๆ เลยดีกว่าไหม
กระผมขอพูดตามตรงเลยนะขอรับ กระผมอยากจะให้เด็กสองคนรู้จักกัน
อ้าวลูกเอ๊ย!รู้จักกันหรือยังเล่า
เจ้าคุณย่าหันมาถามน้ำผึ้งแก้วแล้วก็ยิ้มเยาะ
รู้จักเจ้าเจ้าค่ะเจ้าคุณย่า งั้นหลานขอตัวกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะเพราะไม่มีกิจจะคุยด้วย ก็ฝ่ายนั้นบอกให้หลานรู้จักแล้วหลานก็อยู่แค่รู้จักนี่แหละเจ้าค่ะ
เจ้าคุณย่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนน้ำผึ้งแก้วเบา ๆ ก่อนที่หล่อนจะค่อย ๆ คลานลุกหนีไปเพราะไม่อยากจะคุยกับสองพ่อลูกนั่น
เจ้าคุณพลเทพถึงกับอึ้งพูดไม่ออกทีเดียว เขานั่งเคี้ยวหมากด้วยความโกรธ
ไป!!!!กลับ!!!!!
เจ้าคุณพลเทพแสดงท่าทางโกรธราวกับยักษ์คลั่ง เขาคว้าไม้ตะพดหัวงูเห่าซึ่งทำมาจากเขากระทิงด้วยท่าทางที่หุนหันแล้วก็หันมาไหว้เจ้าคุณย่าจากนั้นก็เดินกระแทกเท้าลงจากเรือนไป
เจ้าคุณพ่อขอรับกระผมว่าอย่าเพิ่งโกรธเลยนะขอรับ หล่อนยังเด็กนักคงจะไม่รู้ประสีประสาเท่าไรนัก
ใช่หล่อนยังเด็กแต่หยิ่งยโสโอหังเหลือเกิน พ่อว่าเจ้าอย่ายุ่งกับคนบ้านนี้เลยดีกว่า เจ้าก็รู้ไม่ใช่รึว่าคนบ้านนี้เป็นพวกเจ้า ๆ นาย ๆ ไหนเลยจะมาคบกับคนอย่างเรานึกว่าตัวเองใหญ่โต สักวันหนึ่งเถอะจะได้รู้กัน!!!!
เจ้าคุณพ่อจะทำอะไรหรือขอรับ
เดี๋ยวก็รู้.ไปกลับ
เจ้าคุณพลเทพลงเรืออย่างรีบร้อนจนเรือเกือบจะคว่ำ
บ๊ะ!!!! อ้ายตะไลมึงนี่ทำเรือเกือบร่ม มึงระวังตัวไว้เถอะอ้ายฉิบหายกูจะแพ่นกระบานมึงโทษฐานที่จับเรือไม่แน่น
เจ้าคุณพ่ออย่าพาลคนอื่นสิขอรับ ดูสิอ้ายมิ่งมันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว
เรือของเจ้าคุณพลเทพพายออกมาได้ครู่หนึ่งคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีก็เห็นเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาลซึ่งมีแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วนั่งอยู่ด้วย หล่อนยิ้มอย่างไม่ระวังกิริยา
เจ้าคุณพ่อขอรับ.
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีเรียกให้เจ้าคุณพลเทพดูเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มิน่าล่ะ
ทำไมหรือขอรับ
ก็แม่หญิงมีใจให้คุณหลวงบดินทร์ฯ ไงล่ะ แม่หญิงถึงได้ไม่สนใจเจ้าไป!!!! ไปได้แล้ว
ไม่ขอรับกระผมจะขอดูอีกหน่อย
จะดูให้มันเจ็บใจไปใยพ่อว่าเรามาหาทางทำยังไงแม่หญิงถึงจะได้มาเป็นของเจ้าดีกว่านะ
แต่กระผมขออยู่อีกแป๊ะเถอะขอรับ
เจ้าคุณพลเทพจึงอยู่ดูคุณหลวงบดินทร์นฤบาล สองพ่อลูกคิดแผนการที่จะให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วมาร่วมเรียงเคียงหมอนให้ได้ เขารู้สึกเจ็บแค้นที่สองย่าหลานได้กระทำให้อับอายจึงคิดอยากจะเย้ยให้สาใจเพราะถ้าหากแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วออกเรือนไปกับลูกชายของตัวเองแล้วตนเองจะแกล้งให้สาแก่ใจเลยทีเดียว
อุ๊ย!!!! น้ำเย็นนะเจ้าคะ อิฉันว่ากลับกันเถอะค่ะเพราะเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเจ้า
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลเอามือจ้วงน้ำและดีดใส่แก้มของแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วทำให้หล่อนขวยเขินและแอบอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ
พี่มีอะไรจะให้เจ้า
อะไรหรือคะ
หลับตาก่อนสิ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วหลับตาลง คุณหลวงบดินทร์นฤบาลจึงนำดอกบัวมาทัดที่ใบหูของหล่อน หล่อนจึงลืมตาขึ้นแล้วก็หยิบดอกบัวดอกนั้นออกจากหูทันที
สวยจริงเจ้าค่ะ คุณหลวงเด็ดมาจากตรงไหนหรือคะอิฉันไม่เห็นคุณหลวงเด็ดเลยเจ้าค่ะ
ก็ตอนที่เจ้ามัวหันไปดูทางอื่นอย่างไรเล่าพี่จักพาไปดูผ้าในตลาดเจ้าจักไปหรือไม่
อย่าเลยเจ้าค่ะนี่ก็มากันนานแล้วเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้นะเจ้าคะ
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเชื่อพี่เถอะเจ้า
คุณหลวงพายเรือไปเรื่อย ๆ และก็ชี้ชวนให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วดูนกดูไม้ข้างทางด้วยความสุขที่เปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจอันเข้มแข็งของทหารผู้กล้า
กลิ่นดอกไม้ใดฤๅหอมเท่ากลิ่นเจ้า พี่อยากแนบเคล้าคู่ชื่นรื่นนาสา กลิ่นอบร่ำอันอบอวนเหมือนวาจา น้องนั้นหนาน่าเชยชิด
คุณหลวงเจ้าคะอิฉันไม่อยากฟังเพลงยาวดอกเจ้าค่ะ มีอะไรก็พูดตรง ๆ เถอะอย่ามัวอ้อมค้อมเลยเห็นทีว่าจะค่ำเป็นแน่ หากแต่เอ่ยวาจาเพียงประโยคสองประโยคอิฉันก็เข้าใจแล้วละเจ้าค่ะ เพราะเดี๋ยวใครเขาจะครหาเอาได้ว่าอิฉันมาเที่ยวค่ำมืดมันไม่ดีดอกเจ้าค่ะ
คุณหลวงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มเป็นเชิงว่าแม่หญิงนั้นยังคงเป็นเด็กอยู่ดี ไม่รู้จักขวยเขินเสียเลยทั้ง ๆ ที่มีชายหนุ่มนั่งเกี้ยวขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องอีก หล่อนกลับนั่งนิ่งแล้วก็พูดด้วยสีหน้าธรรมดา ๆ จนดูแล้วรู้สึกได้ว่าหล่อนเป็นคนที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมดูแล้วรู้สึกสบายใจ
คุณหลวงจับมือแม่หญิงขึ้นมาและนำแหวนที่ถอดออกจากนิ้วก้อยนั้นสวมไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของหล่อนทันที
วันนี้พี่ขอจับจองเจ้าได้หรือไม่
อิฉันมิใช่ของตลาดนะเจ้าคะที่จะจับจอง
พี่ขอจองเจ้าก่อนที่จะหาผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าพี่กลัวว่าชายใดจะมาเห็นดอกไม้งามในสวนหลวงอย่างเจ้ารักษาตัวครองรักไว้รอพี่เถอะเจ้า พี่จะเร่งให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าโดยด่วน
แม่หญิงก้มลงกราบคุณหลวงบนเรือ หล่อนน้ำตาซึมแล้วก็เงยหน้าขึ้น คุณหลวงจึงเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้หล่อน
เป็นอะไรหรือเจ้า
รีบเถอะเจ้าค่ะคุณหลวงก่อนที่จะสายเกินไป
ทำไมหรือเจ้า
วันนี้เจ้าคุณพลเทพและคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีมาที่เรือนเจ้าคุณย่าพูดคุยอะไรกันก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่เจ้าคุณย่าเรียกอิฉันกลับจากวังและให้มาหาเรื่องนี้ อิฉันสังหรใจเหลือเกินเจ้าค่ะ
คุณหลวงถึงกับทำตาโตทีเดียว เขารีบพาแม่หญิงกลับบ้านและรีบไปคุยกับเจ้าคุณย่าที่เรือนใหญ่ตามลำพังทันที น้ำผึ้งแก้วนั้นนั่งซึมอยู่ในห้องของตัวเอง หล่อนรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที
6
นางเอก พระเอก และเพื่อน ๆ ของเธอจะเป็นเช่นไร กับการตามล่าข้ามภพข้ามชาติของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีซึ่งมีใจรักต่อแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว และทั้งคู่จะสมหวังในรักหรือไม่ ทั้งคู่จะได้พบกับลูกชายในอดีตชาติที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้หรือไม่ อย่าพลาดตอนต่อไปนะคะ...
22 มีนาคม 2548 15:40 น.
สุชาดา โมรา
คุณอุดมศักดิ์หลุดพูดออกมาทันที เขาคิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าเหมือนคนที่เขาเห็นในความฝัน ทำไมจึงบังเอิญแบบนี้นะ
หลังจากที่เขาได้ไปเยี่ยมนายตำรวจหนุ่ม เขาก็ครุ่นคิดอยู่นานเรื่องความฝันอันเลือนลางของเขา เขาคิดว่าน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ ๆ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างมันดูจะชัดเจนเสียเหลือเกิน
คุณเคยเชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดหรือไม่
ทำไมถึงถามขึ้นมาล่ะคะ
น้ำผึ้งถามขึ้นอย่างงง ๆ เพราะเธอเองก็ไม่คิดว่าคุณอุดมจะมีความคิดเช่นนี้
คือผมเคยได้ยินคนหลายคนเขาพูดว่า คนที่ได้มาทำงาน ได้มามีส่วนในโบราณสถานและสิ่งเก่าแก่นั้นอาจจะเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาก่อนในภพภูมิที่แล้ว คุณน้ำผึ้งเชื่อบ้างไหมครับ
ก็อาจจะจริงนะคะ ฉันเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางทีการที่เราฝันอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ นั่นก็อาจจะมาจากการที่เราคิดไปเองก็ได้ หรือไม่ก็ปางอดีตที่ยังคงฝังใจเราในชาติที่แล้ว ก็เลยทำให้ชาตินี้ปางนั้นมีผลต่อชะตาของเราก็ได้นะคะ
คุณน้ำผึ้งพูดดูมีหลักการมากเลยนะครับแต่ทำไมคุณถึงพูดเรื่องความฝันขึ้นมาล่ะครับ
คุณเคยได้ยินหรือเปล่าคะว่าอดีตกับปัจจุบันมันขนานกันอยู่ ถ้าหากว่าจู่ ๆ เราเห็นภาพอะไรที่นอกเหนือจากความฝันแล้ว นั่นก็หมายความว่าเราอาจจะได้เห็นปางอดีตของเราก็ได้นะคะ
ฟังดูเข้าท่าดีนะครับแล้วคุณเห็นปางอดีตของคุณหรือยัง
น้ำผึ้งนั่งยิ้มโดยไม่ตอบอะไร เธอมองไปนอกรถก็เห็นผู้คนสวมใส่ชุดแปลก ๆ เดินกันให้ขวักไขว่ไปหมด บ้างก็หาบเร่ขายของ บ้างก็เดินหยิบจับเพื่อหาซื้อ เธอถึงกับเหลียวหลังมองทีเดียวเมื่อเห็นภาพของกระบวนช้างม้าซึ่งมีฉัตรเรียงราย ผู้คนเดินตามขบวนนั้นมากมาย มีคนรักษาเท้าช้าง เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกที่ประดับประดาทรงเครื่องช้างอย่างงดงาม และที่ตามมาติด ๆ ก็คือช้างที่มีฝรั่งนั่ง มีทหารม้าควบตามโดยไม่ห่าง ชาวบ้านต่างหมอบกราบหลีกทางออกเพื่อนให้กระบวนนั้นเคลื่อนออกไปได้
พระนารายณ์!!!!!เธอนึก
คุณน้ำผึ้งครับคุณน้ำผึ้ง
คะ!!!!
เธอตกใจมากสะดุ้งโหยงทีเดียวเมื่อคุณอุดมเรียก พร้อมทั้งยื่นมือไปจับหัวไหล่ของเธอเบา ๆ
ถึงแล้วครับแม่กี้คุณมองอะไรเหรอ
ปะเปล่าค่ะ
น้ำผึ้งลงจากรถแล้วก็กล่าวคำขอบคุณกับคุณอุดม เธอเดินเข้าไปในสำนักงานแล้วก็หยิบหนังสือเกี่ยวกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราชขึ้นมาอ่านทันที เธอรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณเลยว่าขบวนที่เธอเห็นนั้นเป็นขบวนเสด็จขององค์สมเด็จฯ ท่าน แต่ก็น่าแปลกที่ว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่านั่นคือพระนารายณ์ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นท่านมาก่อน เรื่องนี้จึงทำให้เธอเชื่อสนิทใจว่าเธอต้องเคยอยู่ในช่วงสมัยนั้นแน่ ๆ และเชื่อว่าปางอดีตกับปัจจุบันนั้นขนานกันจึงทำให้เธอได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
ทำอะไรอยู่ครับขยันจังเลย
น้ำผึ้งตกใจสะดุ้งโหยง เธอค่อย ๆ หันกลับไปมองทันที เธอวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วก็ยืนขึ้น เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขา แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยเธอเห็นเขาแต่งกายนุ่งโจงไม่สวมเสื้อ เข็มขัดทำด้วยทองคำประดับด้วยเพชรนิลจินดา มีผ้าแพรทองพาดที่หน้าอกยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอขยี้ตาแล้วก็มองใหม่อีกครั้ง
เฮ้อ!!!! โล่งอกไปทีเธอนึก
หมอให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอคะเมื่อกี้ก็ไม่บอกจะได้ให้ติดรถมาด้วย
ผมเห็นคุณไปกับแฟนผมก็เลยไม่อยากจะรบกวน
ฟงแฟนที่ไหนกันคะ นั่นมันลูกค้าของฉันต่างหากล่ะเชิญนั่งก่อนค่ะ
น้ำผึ้งเดินไปหยิบขนมจันทร์อับ กลีบลำดวน จ่ามงกุฎ สัมปันนีและทองเอกใส่จาน จากนั้นก็รินน้ำแตงโมใส่แก้ว เดินถือมาให้เขาที่โซฟา เธอวางจานและแก้วอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งที่โซฟา เธอนั่งใกล้ ๆ เขาราวกับคนสนิทเธอรู้สึกอบอุ่นทันทีเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ เขา
ไปซื้อขนมนี่มาจากไหนเหรอครับ
ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ คุณย่าท่านทำเอง ลองชิมสิคะตำรับชาววังเชียวนะ
เหรอครับ
ผู้หมวดหนุ่มใช้ช้อนซ่อมคันเล็กจิ้มไปที่ขนมสัมปันนีซึ่งมีสีสวยน่าทานทันที แต่ขนมแตกออกจากกันน้ำผึ้งจึงใช้มือหยิบขึ้นมาและป้อนใส่ปากเขาทันที
ขอโทษนะคะ.
อืมอร่อยครับ
ผู้หมวดหนุ่มยิ้มหน้าบานทีเดียว เขาทานขนมไปคุยไป ความรู้สึกของเขาในตอนนี้คืออยากอยู่ใกล้ ๆ น้ำผึ้งให้มากที่สุดเพื่อพิสูจน์ว่าทำไมเขาถึงได้ฝันติด ๆ กันเป็นเรื่องเป็นราวมานานตั้งแต่เด็ก ๆ จนปัจจุบันนี้เมื่อเจอเธอแล้วก็ยังไม่เลิกฝันถึงอีกเธอเป็นใครกันแน่ หรือว่าเขาบังเอิญที่เห็นหน้าเธอเหมือนผู้หญิงในความฝัน
คุณไปดูอาการคุณแก้มหรือยังคะ
ยังเลยผมว่าจะชวนคุณไปพรุ่งนี้น่ะครับ
อ้าวแฟนคุณไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ไปดูตั้งแต่ก่อนออกจากโรงพยาบาลล่ะคะ
น้ำผึ้งพูดอย่างสงสัย เธอวางช้อนตักขนมทันที เธอแสดงสีหน้าอย่างไม่พอใจราวกับแม่ดุลูกทีเดียว
อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ผมนึกว่ามีแม่อีกคน
เอ่อขอโทษค่ะคือฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่ไปดูอาการเธอ แล้วทำไมคุณมามัวเหลวไหลอยู่แถวนี้ นี่ถ้าฉันเป็นแฟนคุณฉันคงงอนไปแล้วละ
นายตำรวจหนุ่มหยิกแก้มของน้ำผึ้งทันที เขารู้สึกหมั่นเขี้ยวเธอมากเพราะเธอชอบทำท่าทางเหมือนตุ๊กตาพูดได้
เอ่อผมขอโทษครับ คือผมไม่ได้ตั้งใจผมเห็นคุณพูดท่าทางน่ารักดี แก้มก็ยุ้ยจนผมอดใจไม่ให้หยิกแก้มคุณไม่ได้
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอทีเดียว น้ำผึ้งนั่งคุยถึงเรื่องตำนานและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองลพบุรีให้เขาฟัง เธอเล่าเรื่องราวได้ละเอียดละออจนทำให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกว่าเรื่องบางเรื่องเหมือนเขาเคยเห็นมาแล้วในความฝัน และก็เกิดความคุ้นเคยจนเห็นเป็นภาพจินตนาการต่าง ๆ นานา
อะแอ่ม!!!!
ทั้งคู่หันไปมองเสียงใครคนหนึ่งที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะการคุยของพวกเขา
อ้าวส้ม นา ต่าย แป้ง พี่โอ เชิญนั่งก่อนค่ะ
แหม.
ส้มแสดงสีหน้าหยอกล้อน้ำผึ้งแล้วก็เดินตามเธอเข้าไปในครัวเพื่อยกของว่างออกมาให้คนอื่นทาน
เดี๋ยวขอคุยเป็นการส่วนตัวจะได้ไหมคะ
แหมเธอก็พูดแหย่ฉันจังเลย ได้จ่ะแม่นางส้ม!!!!
ส้มและน้ำผึ้งยกของว่างออกมา จากนั้นก็หลบเข้าไปคุยกันสองคนในครัว
เธอชอบเขาเหรอพระเอกของเธอน่ะ
จะบ้าเหรอเขามาหาฉันเองนะฉันก็เลยคุยกับเขา
แล้วทำไมต้องป้อนขนมให้กันด้วยล่ะ
ก็เขาหยิบกินไม่ถนัดนี่นา
ไม่จริงมั้งแอ๊ะ!หรือว่าเธอกับเขาแอบชอบกัน เขามีแฟนแล้วนะหรือว่าเธอคิดจะแย่งแฟนคนอื่นเหรอ
บ้าเหรอคิดมากไปได้ เราแค่คุยกันเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย นี่ถ้าว่างนักก็ช่วยฉันทำงานนี่ไป หน้าที่ของเธอก็ออกจะเยอะแยะ ไม่รู้จักทำแหมล้อฉันจังเลยนะ
ส้มเดินตามน้ำผึ้งออกมา เธอช่วยน้ำผึ้งเคลียร์เอกสารและงานเกี่ยวกับทัวร์ที่จะมาลงในอีก 2 3 วันนี้ จากนั้นก็โทรจองโรงแรมเพื่อให้ลูกทัวร์พักผ่อนอย่างสบายใจ
ใครจะเป็นคนรับผิดชอบลูกทัวร์คราวนี้ล่ะ
ฉันเองก็ได้
งั้นผมขอช่วยด้วยได้ไหมครับ คือผมลางานหลายวันแล้ว
ส้มสะกิดน้ำผึ้งทันที เธอทำท่าหยอกล้อน้ำผึ้งจนเธอรู้สึกเขินแล้วก็เดินไปนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ส้มจึงเดินไปสะกิดนายตำรวจหนุ่มให้เดินเข้าไปช่วยเธอทำงาน
นายตำรวจหนุ่มเดินมาที่โต๊ะของเธอจากนั้นก็วางมือที่พนักพิงเก้าอี้ของเธอ ส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นก็วางมือที่โต๊ะของเธอ
ส้ม!!!! ไม่เล่นนะ นี่มันเวลางานอย่ามายืนค้ำหัวฉันได้ไหม
ผมขอโทษครับ
น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมาดู เธอยิ้มแล้วก็เรีกให้นายตำรวจหนุ่มนั่งที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ
ฉันเห็นนิ้วเรียว ๆ ก็นึกว่าเป็นนิ้วของส้ม ไม่คิดว่าจะเป็นนิ้วของคุณไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าผู้ชายนี่นิ้วจะสวยได้ขนาดนี้
น้ำผึ้งนั่งทำงานไปคุยไปด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นและมีความสุขมาก เธอยิ้มไปหัวเราะไปโดยไม่หยุด นา ส้ม ต่าย และแป้งแอบยืนมองอยู่ที่ประตูห้องทำงานของเธอ นายตำรวจหนุ่มหันมายักคิ้วให้จากนั้นก็นั่งช่วยเธอเคลียร์เอกสารต่อ
สงสัยว่าคุณคงต้องลาออกมาเป็นพนักงานทัวร์แล้วละมั้งเห็นทำงานคล่องจังเลย
น้ำผึ้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
.5..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...นางเอก พระเอก และเพื่อน ๆ ของเธอจะเป็นเช่นไร กับการตามล่าข้ามภพข้ามชาติของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีซึ่งมีใจรักต่อแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว และทั้งคู่จะสมหวังในรักหรือไม่ ทั้งคู่จะได้พบกับลูกชายในอดีตชาติที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้หรือไม่ อย่าพลาดตอนต่อไปนะคะ...
22 มีนาคม 2548 15:35 น.
สุชาดา โมรา
ก็ดีนี่ถ้าไม่มีการติดต่อกันนั่นก็หมายความว่าเขาไม่อยากคุยกับคุณอีกอย่างเพื่อนของฉันคนนี้ก็ไม่ชอบเป็นที่สองรองใครด้วยสิทางที่ดีฉันว่าคุณน่าจะกลับไปดูแลคนที่อยู่เบื้องหลังคุณมากกว่านะ
กัญญาพูดขึ้นพร้อมกับหมุนเก้าอี้หันหลังให้ เธอไม่อยากจะคุยกับคุณภูวดลเพราะเธอรู้สึกรังเกียจที่เขามาหลอกลวงเพื่อนสาวของเธอถึงแม้ว่าเพื่อนคนนี้จะไม่ใช่สาวแท้ ๆ ตั้งแต่กำเนิดก็ตามแต่เธอก็ยังรู้สึกเคืองและเห็นอกเห็นใจอกลูกผู้หญิงด้วยกัน
เดี๋ยวคุณหันมาคุยกับผมก่อนได้ไหม
คุณภูวดลพยายามพูดกับกัญญา แต่เธอกลับไม่ยอมพูดด้วย เขาจึงเดินเข้าไปจับเก้าอี้ให้หันกลับมาทันทีเขารู้สึกฉุนมากที่กัญญาไม่ยอมพูดด้วยดี ๆ แถมยังจะเล่นตัวเมินหน้าหนีอีกเขาจึงเอามือกดที่หัวไหล่ของเธอเอาไว้แล้วก็จ้องหน้าตาเขม็งทำให้กัญญารู้สึกกลัวมาก เธอพยายามจะขยับตัวหนีแต่เขาก็กดตัวเธอเอาไว้ไม่ยอมให้เธอลุกขึ้น
นี่คุณถ้าฉันกดปุ่มเดียวละก็คุณจะได้ออกไปโดยที่ไม่ต้องเดินเลยนะ
หมายความว่าไง
ฉันจะให้ ร.ป.ภ.มาลากตัวคุณแล้วโยนออกไปน่ะสิ
คุณกล้าเหรอถ้าคุณกล้ากดแม้แต่ปุ่มเดียวผมจะทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณกำลังจะเล่นกีฬาบนโต๊ะทำงานอย่างเมามันกันสองคนน่ะสิ คุณภูวดลยื่นหน้าเข้าไปหาเธอจนจมูกแทบจะติดกัน เขาแสดงสีหน้าเคร่งขรึม เอาจริงเอาจังจนกัญญารู้สึกกลัว
หมายความว่าไงคุณจะทำอะไรฉันหรือว่าคุณไอ้.เลว!!!!
คุณก็คิดถูกแล้วไม่ใช่เหรอคุณก็ฉลาดดีนี่ที่คิดอะไรได้ว่องไวขนาดนี้
กัญญาถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าคุณภูวดลคิดจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับเธอเธอจึงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื่อนเพราะกลัวว่าเขาจะเข้ามาทำแบบที่พูดจริง ๆ
ดีมากที่ทำตัวดี ๆ เป็นเด็กดีแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้น่ารักแล้วก็ช่วยบอกมาได้ไหมว่าทำไมแนนซี่ถึงไม่ยอมพบหน้าผม แม้แต่พูดเธอยังไม่ยอมพูดด้วยเลย
ก็คุณมีลูกมีเมียแล้วไม่ใช่เหรอแล้วคุณมาหลอกเพื่อนฉันทำไมกัน
กัญญาพูดขึ้นทำให้คุณภูวดลหยุดชะงัก เขาปล่อยเธอและยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมามองกัญญาด้วยความสงสัยกัญญาเมื่อเห็นคุณภูวดลหันกลับมาเธอถึงกับสะดุ้งเอื้อมมือจะไปกดปุ่มเรียก ร.ป.ภ. เลยทีเดียวทำให้คุณภูวดลวิ่งเข้าไปจับมือเธอเอาไว้และถามเธอด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง
ลูกเมียเหรอคุณไปเอาที่ไหนมาพูด
ก็ทุกคนเห็นคุณภูริมากับเธอคนนั้นและเธอคนนั้นก็ยอมรับว่าเป็นเมียของคุณ คุณจะให้ฉันว่าอย่างไร
อ๋อพี่ภูรินี่เองผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมกับดาหวันเราเคยเป็นอะไรกันจนมีลูกด้วยกันก็จริงอยู่ แต่นั่นมันนานมาแล้วนะมันตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่เมืองนอกนั่นแหละแต่ผมก็เลิกกับเธอไปนานแล้วนี่นา ทำไม
แต่คุณยังไม่ได้หย่ากับเธอใช่ไหม!!!! กัญญาพูดขึ้น
ใช่เรากำลังจะหย่ากันในเร็ววันนี้แต่มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับการที่ผมจะคบกับแนนซี่เลยนี่นา
ฉันจะบอกให้เอาบุญนะว่าถึงคุณจะหย่าหรือว่าไม่หย่ามันก็ไม่สำคัญแล้วเพราะแนนซี่เขาตัดใจไปจากคุณแล้ว
เพราะอะไร
เธอคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับคุณก่อนที่เธอจะไปดูงานที่เชียงใหม่นั้นเธอฝากให้ฉันเอานี่ให้คุณด้วยเพราะเธอรู้ว่าคุณจะต้องมาหาเธอแน่ ๆ
กัญญาส่งแผ่นซีดีให้กับคุณภูวดล ใจจริงเธอไม่ได้อยากให้คุณภูวดลไปเลยเพราะเธอกลัวว่าเขาจะหาว่าเธอและเพื่อน ๆ หลอกเขาเนื่องจากซีดีแผ่นนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความลับที่อยู่ในตัวของแนนซี่ทั้งหมด
คุณภูวดลรับซีดีแผ่นนั้นไป เขาโผเข้ากอดกัญญาราวกับเพื่อนสนิทเขาหันมายิ้มแล้วก็บอกก่อนไปว่าขอบคุณจากนั้นก็เดินกลับไป
คุณภูวดลกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง เขาเปิดซีดีแผ่นนั้นดูทันทีเมื่อเขาเห็นภาพที่อยู่ในนั้นก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าแนนซี่จริง ๆ แล้วเป็นกระเทยเขารู้สึกเสียหน้ามากที่ถูกเธอหลอก เขาจึงนำซีดีแผ่นนั้นมาปาใส่หน้าพี่ชายเพราะคิดว่าเขาก็คงจะสมรู้ร่วมคิดเช่นกัน
นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!!
พี่รู้มาโดยตลอดเลยใช่ไหมว่าแนนซี่เป็นกระเทยแล้วทำไมพี่ถึงไม่บอกผมพี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าผมเกลียดกระเทย
พี่ขอโทษพี่ไม่ขอแก้ตัวนะแต่ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ
คุณภูริยอมรับกับน้องชายตัวเองโดยดี เขาเดินเข้ามาโอบไหล่น้องชายตัวเองและปลอบใจเขาเขาบอกให้คุณภูวดลตัดใจและกลับมาทำให้ครอบครัวของตัวเองมีความสุขกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเขาไม่อยากให้หลานสาวของเขากลายเป็นเด็กมีปัญหาคุณภูวดลจึงตัดสินใจที่จะเริ่มชีวิตใหม่อีกครั้งกับภรรยาของเขาและลูกสาวคนเดียวของเขา
กัญญาโทรคุยกับแนนซี่เรื่องของคุณภูวดลแนนซี่มีข่าวดีถึงสองเรื่องคือเรื่องแรกเธอบอกว่าเธอทำใจได้แล้วกับปัญหาทุกอย่าง และเรื่องที่สองคือตอนนี้เธอหาผู้ชายหล่อ ๆ เอาไว้ควงได้แล้ว เป็นหมอดูลายมือที่มาดูดวงให้เธอตอนที่อยู่ดอยอ่างขาง เธอบอกว่าเขาเป็นคนที่หล่อมากเลยทีเดียวกัญญารู้สึกว่าเพื่อนสาวคนนี้ของเธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องของการหาคู่ควงมากกว่าการทำงานเสียอีก เธอถึงกับแอบยิ้มอยู่หลายครั้งเมื่อนึกถึงภาพของแนนซี่ดูเธอมีความสุขมากจริง ๆ ที่ได้ทราบข่าวเพื่อน ๆ แต่ละคนว่ากำลังลงเอยไปด้วยดี
กิ๊กโทรมาหากัญญาถึงเรื่องการฟ้องหย่าเธอบอกกับกัญญาถึงเรื่องลูกของเธอทั้งสองคนว่าเธอเองเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเด็กทั้งสองคนด้วยตัวเอง โดยที่ฝ่ายชายจะไม่เข้ามายุ่งกับชีวิตของเธอเลยสักนิดส่วนเรื่องทรัพย์สินนั้นก็แบ่งกันคนละครึ่งจริง ๆ แล้วกัญญาเองก็คิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยเพราะนี่ไม่ใช่สินสมรส แต่เป็นสินสมสร้างที่กิ๊กเองก็หาได้มาก่อนที่จะแต่งงานเสียอีกแต่ก็ต้องเอาเถอะถ้าหย่าแล้วเพื่อนจะได้กลับมามีความสุขเหมือนเดิมกัญญาก็พอใจแล้ว
คิดอะไรอยู่เหรอครับแหมนั่งใจลอยเชียวนะ
เปล่าค่ะจะไปทานข้าวที่ไหนดีคะภูริ
เอเดี๋ยวนี้ผมว่าเราชักจะสนิทใหญ่แล้วนะเนี่ยเมื่อก่อนเห็นชอบเรียกคำนำหน้าว่าคุณ แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะเรียกแค่ชื่อเฉย ๆ เสียแล้วสิอืมแต่ผมก็ว่ามันก็ดีเหมือนกันนะ ดูสนิทสนม กันดี
คุณภูริพูดขึ้นเขาพากัญญาออกไปทานข้าวเที่ยงเหมือนเคยแต่วันนี้เป็นวันที่แปลกไปจากเดิมคือ เมื่อเขาพาเธอลงมาที่รถคันหรูแล้วก็หยิบช่อดอกกุหลาบสีขาวที่อยู่เบาะหลังรถออกมายื่นให้เธอทำให้กัญญารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เธอขอบคุณ คุณภูริเสียหลายรอบทีเดียว
เนื่องในวันอะไรคะ
วันที่ทำให้เรามีความสุขไง
กัญญารู้สึกงง ๆ เหมือนกันที่คุณภูริพูดแบบนี้ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรคุณภูริรู้สึกดีใจที่คุณภูวดลน้องชายหลุดออกจากแนนซี่ได้และกลับไปดูแลครอบครัวของตัวเองนอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าเวลาที่อยู่ใกล้ ๆ กัญญาก็เหมือนกับโลกทั้งใบมีแต่เธอเพียงคนเดียว จึงทำให้เขาไม่ชายตามองผู้หญิงคนไหนเลย
.14
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอมาค่ะ
22 มีนาคม 2548 15:32 น.
สุชาดา โมรา
อย่าว่าอย่างนั้นสิยายกิ๊กก็มีลูกแฝดเหมือนกันทำไมไม่เรียกล่ะ
อ้าวเธอน่าจะรู้ตัวนะว่าเธอยังไม่ได้พูดสาวลูกแฝดก็มีแค่เธอนั่นแหละที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย กัญญาแย้งหนูนาถึงกับทำหน้าเศร้า ๆ แล้วก็รีบพูดออกมาทันที
คือต้นกล้าน่ะเป็นคนที่รักลูกรักเมียมากทำอะไรก็ดีไปเสียหมดจนฉันไม่คิดที่จะระแวงเขาเลย สาว ๆ โทรมาหาเขาฉันก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้ว่านั่นมันลูกค้าแต่ว่าข้างบ้านน่ะสิพูดกันหนาหูเรื่อย ๆ ว่าเขามีเมียน้อย ฉันก็ไม่เชื่อเพราะเขากลับบ้านตรงเวลา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหาเมียน้อยได้แต่ด้วยความที่เริ่มคิด ๆ บ้างแล้วเหมือนกันอย่างที่เขาบอกนั่นแหละว่าถ้าไม่เห็นจริงเราก็คงไม่เชื่อใช่ไหม
เขาเรียกว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำแต่ถ้าอย่างฉันละก็ฉันจะคลำให้หมดตัวเลยละ
แนนซี่!!!! เพื่อน ๆ ทุกคนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันเลยทีเดียว แนนซี่ถึงกับชะงักหยุดพูดทีเดียว
วันนั้นฉันก็เลยตามต้นกล้าไปเธอรู้ไหมว่าเป็นอย่างไรตอนเช้าออกไปวิ่งก็ไปหาเมียน้อยที่บ้านอยู่ปากซอย ตอนเที่ยงไปทานอาหารก็ไปหากันเพราะนังนั่นมันเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่แถว ๆ ที่ทำงานของเขาพอเย็นจะกลับบ้านก็แวะส่งมันอีกฉันนะแค้นจริง ๆ เลย
หนูนานั่งกัดเขี้ยวเคี้ยวกรามด้วยความแค้น เธอยัดอาหารเข้าปากด้วยท่าทางโกรธ ๆปกติเธอก็ไม่เคยกินอะไรได้ทุเรศขนาดนี้ แต่นี่เธอคงโกรธสุด ๆ จริง ๆ เธอถึงได้แสดงกิริยาออกมาแบบนี้
แล้วเธอจะทำอย่างไรดีล่ะ
ฉันบอกเขาไปว่าถ้ารักกันต้องไว้เนื้อเชื่อใจกันมีอะไรต้องบอกกัน พอฉันหลอกถามเรื่อยงนังสารภีเมียน้อยของเขาเขาก็ปฏิเสธหน้าตาเฉยว่าไม่รู้จัก พอฉันเอารูปที่แอบถ่ายออกมาให้เขาดู เขาถึงกับอึ้งแล้วก็ยอมรับสารภาพตอนนี้ฉันบอกเขาว่าให้กลับเนื้อกลับตัวซะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ออกไปจากบ้านและไม่ต้องกลับมาอีก
อ้าวแล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ
เขาต้องกลับมาแน่ ๆ เพราะเงินเดือน บัญชีและบริษัทเป็นชื่อของฉันและเป็นของฉัน อยู่กับฉันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบัตรเอทีเอ็ม เครดิตการ์ด หรือแม้แต่เอกสารทางราชการทั้งหมดถ้าเขาไม่มีที่ไปเขาก็ต้องกลับมา
หนูนาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้เพื่อน ๆ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความปลื้มใจที่เพื่อนสาวคนนี้เก่งสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดี
แล้วเรื่องของเธอล่ะกัญญา แนนซี่คนรักของเธอไปถึงไหนแล้วล่ะ
ของฉันเหรอกำลังหวานชื่นเลยละของยายกัญญาก็คงจะเหมือนกันละมั้ง แนนซี่พูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและหันไปมองกัญญาทันที
บ้าฉันกับเขาเป็นแค่เพียงเพื่อนกันเท่านั้นแหละเธอคิดมากไปหรือเปล่า
แล้วไอ้ที่ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ล่ะ
นั่นมันเรื่องเข้าใจผิด
แน่นะทั้งเรื่องที่สวมสร้อยข้อเท้าให้กันที่ร้านไอศกรีมในห้างแล้วก็เรื่องที่พาไปไหนต่อไหนด้วยกัน จับมือถือแขนด้วยเนี่ยนะ
หนูนาซักถามขึ้นมาทำให้กัญญาถึงกับตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียวกัญญารู้สึกเขินอายจึงรีบจ่ายเงินค่าอาหารและเดินออกไปนอกร้านทันทีหนูนาชี้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนดูสร้อยข้อเท้าและนาฬิกาข้อมือที่เธอสวมใส่ตลอดมาด้วย เพราะนั่นเป็นของที่คุณภูริได้มอบให้เธอด้วยหัวใจจริง ๆทำให้เพื่อน ๆ ยิ้มไม่หยุดทีเดียวแต่ก็ไม่มีใครกล้าแซวเธอเพราะรู้ว่าเธอเป็นคนขี้อายและปากไม่ตรงกับใจสักเท่าไรนัก
กัญญาเดินมาดูของที่ชั้นสองของห้าง เธอเลือกสินค้าใส่รถเข็นเพื่อน ๆ ทุกคนวิ่งตามมาช่วยเลือกซื้อของเข้าบ้านเพราะวันนี้ทุกคนจะมานอนที่บ้านของกัญญาเนื่องจากเป็นวันนัดรวมตัวกันเพื่อหาวิธีการจัดการสามีตัวแสบของแต่ละคนเพื่อน ๆ จึงหอบลูกมาอยู่ที่บ้านของกัญญาด้วยทุกคนเลือกซื้อของกันอย่างสนุกสนานกัญญาหันไปเห็นคุณภูริซึ่งกำลังเดินควงแขนกับสาวสวยคนหนึ่งก็รู้สึกฌกรธจนขึ้นสมองและรีบเดินหนีไปหนูนาเมื่อเห็นคุณภูริก็เข้าใจว่ากัญญาโกรธเพราะอะไรเธอจึงบอกให้แป้งตามกัญญาไปส่วนเธอก็เดินเข้าไปหาคุณภูริ
อ๋อตอนเที่ยงก็ไปรับคนนั้นมาทานข้าวตอนเย็นก็มารับคนนี้ไปทานข้าวคุณเห็นเพื่อนฉันเป็นอะไรเป็นแค่กิ๊กอย่างนั้นเหรอ
หนูนาพูดใส่ฉอด ๆ คุณภูริถึงกับตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียวหญิงสาวที่มาด้วยทำหน้างง ๆ เพราะเธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เธอจึงได้แต่นิ่งมองหนูนาพูดเองเออเองเพียงฝ่ายเดียว
ถึงคุณจะเป็นเจ้านายของฉันแต่ฉันก็ไม่กลัวหรอกนะ
คุณแม่
เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ยิ่งทำให้หนูนาเข้าใจผิดเข้าไปใหญ่คิดว่าเป็นลูกสาวของคุณภูริเพราะเด็กคนนั้นหน้าตาคล้ายกับคุณภูริราวกับพิมพ์เดียวกันเลยคุณภูริอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาเขาเล่นกับเด็กคนนั้นทำให้หนูนาโกรธจัดรีบเดินหนีไปทันทีแนนซี่จึงเดินเข้าไปผลักอกคุณภูริทันที
คุณกล้าทำร้ายเพื่อนฉันเหรอคุณมีลูกมีเมียแล้วยังไปหลอกยายกัญญาอีกคุณนี่มันผู้ชายเฮงซวยจริง ๆ เลย
หมายความว่าไงกัญญาเกี่ยวอะไรด้วย
ก็กัญญาเห็นคุณมากับยายนี่น่ะสิ
เหรอแล้วเธออยู่ไหนล่ะพวกคุณนี่มันบ้าจริง ๆ เลยนี่มันเมียกับลูกของเจ้าดลมัน!!!!
หัวใจเจ๊จะสลาย
คุณภูริพูดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่ากัญญาเข้าใจผิดคิดว่าเขามาหลอกลวงตัวเองแนนซี่เมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กับลูกเป็นภรรยาของคุณภูวดลเธอถึงกับจะเป็นลมทันที ตัวอ่อนระทวยแทบจะทรุดทำให้คุณภูริพยุงตัวหล่อนขึ้นและจ้องหน้าหล่อนเพื่อให้บอกว่ากัญญาไปไหนแนนซี่ชี้ไปทานร้านขายเทปทันที คุณภูริปล่อยแขนของแนนซี่ทำให้เธอฟุบตัวลงไปกองกับพื้นจากนั้นก็ส่งเด็กหญิงตัวน้อยให้กับผู้หญิงคนนั้นและวิ่งไปยังร้านขายเทปทันที กระต่ายจึงวิ่งเข้าไปประคองตัวของแนนซี่เอาไว้
เป็นอะไรหรือเปล่า
เจ๊อยากตาย แนนซี่พูดขึ้น
เกิดอะไรขึ้นคะ
ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยท่าทางงง ๆ เธอยิ้มแล้วก็วางลูกลงกับพื้นและช่วยพยุงตัวแนนซี่ขึ้นแต่แนนซี่สบัดตัวหนีเพราะรู้สึกโกรธที่ตัวเองโดนคุณภูวดลหลอกเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นเข้ามาจับมือแนนซี่และพูดคุยด้วยท่าทางฉอเลาะทำให้แนนซี่ลืมความโกรธและเล่นกับเด็กน้อยคนนั้นทันทีจนรู้ว่าเธอชื่อดาวดารา และผู้หญิงคนนั้นชื่อดาหวันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณภูวดล
คุณภูริวิ่งเข้าไปหากัญญาในร้านขายเทปเขามองหาเธอไปรอบ ๆ ร้านจนกระทั่งเห็นกัญญายืนฟังเพลงอยู่ตรงแผงขายซีดีเพลงของไมเคิ้ลเลินทูล็อคเขาจึงเดินเข้ามาใกล้ ๆ และขอคุยกับเธอทันที
คุณอย่ามายุ่งกับฉันเลยไปหาลูกเมียของคุณเถอะ
นี่คุณหึงใช่ไหมล่ะ
ใครบอกเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยฉันจะหึงคุณทำไม
นั่นแน่อย่าเก็บความรู้สึกเลยคุณผมรู้นะว่าคุณหึงพวกปากไม่ตรงกับใจก็อย่างนี้แหละน้า.เฮ้อ
คุณภูริพูดจาหยอกเธอจนเธอรู้สึกโกรธเขาพยายามมองหน้าเธอแต่เธอก็หลบสายตาหนี คุณภูริจึงเอื้อมมือเข้าไปจับที่เอวของเธอทันที
อุ๊ยคุณพระช่วย!!!! กัญญาอุทานเสียงหลง
พระน่ะไม่ช่วยหรอกโยมโยมต้องช่วยตัวเอง
คุณภูริพูดขึ้นทันทีกัญญาถึงกับหลุดขำและหันมาตีไหล่คุณภูริเบา ๆ ด้วยท่าทางเขิน ๆ ทำให้คุณภูริรู้ทันทีว่าเธอหายโกรธแล้ว
คุณไปเลยไปอยู่กับลูกเมียของคุณนู่นไป
กัญญาถึงกับแก้เขินและออกปากไล่คุณภูริทันที แต่เขาก็ไม่ยอมไปทำให้กัญญารู้สึกโมโหและเดินหนีไป แต่คุณภูริคว้ามือเธอเอาไว้ได้ทันเธอจึงได้แต่พยายามแกะมือออกจากเขา แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอ
คุณฟังผมก่อนนะนั่นมันลูกเมียของเจ้าดลมันเธอกลับมาจากเมืองนอกพร้อมกับลูกสาววัยเจ็ดขวบไม่ใช่ลูกเมียของผมนะคุณรู้ไว้ด้วยว่าผมยังไม่มีลูกไม่มีเมียผมรอคุณอยู่ไงล่ะ
คุณภูริพยายามอธิบายจนกัญญาเข้าใจเรื่องราวได้ดี คุณภูริตบท้ายด้วยการหยอกเธอว่าจะให้เธอเป็นภรรยาของเขาทำให้กัญญารู้สึกเขิน ๆ และเดินจับมือคุณภูริตามออกมานอกร้านทันที
อุ๊ยตายละแนนซี่รู้หรือยังเนี่ยคุณพระช่วย!!!! ป่านนี้คงร้องไห้โฮแล้วมั้ง
กัญญาร้องขึ้นและรีบเดินไปตามหาแนนซี่ทันที เธอเห็นแนนซี่กำลังแล่นงูกินหางกับเด็กน้อยคนนั้นก็รู้สึกดีใจ เธอไม่เข้าไปขัดจังหวะเพราะรู้ว่าถ้าขืนเข้าไปแนนซี่คงจะกรี๊ดหวีดแตกออกมาแน่ ๆ เชียวละ
กัญญาเดินซื้อของในห้างกับคุณภูริด้วยท่าทางอารมณ์ดี ขณะนั้นนักข่าวที่ได้มาแอบถ่ายภาพของทั้งสองคนไปเพื่อนำไปเขียนข่าวได้เจอกับหนูนาหนูนาจึงจับตัวเอาไว้และดึงฟิล์มออกทันที
อย่าพยายามทำร้ายเจ้านายและเพื่อนของฉัน
หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าโกรธ ๆ ใส่นักข่าวคนนั้นจึงวิ่งหนีไปพร้อมกับกล้องถ่ายภาพหนูนามองคู่ของกัญญาก็รู้สึกดีใจเพราะเห็นทั้งคู่เข้าใจกันและมีความสุข หนูนายิ้มด้วยความเบิกบานใจและรีบกลับไปหาเพื่อน ๆ ทันที
13..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ
22 มีนาคม 2548 15:30 น.
สุชาดา โมรา
แนนซี่พูดขึ้น คุณภูวดลถึงกับทำตาโตแล้วก็เดินเข้าลิฟไปพร้อมกันคุณภูริเดินตรงมายังห้องท่านประธานเขาเคาะประตูและเปิดเข้าไปทันที
หิวไหมทานอะไรมาหรือยังถ้ายังทานข้าวกันหน่อยได้ไหม
คุณภูริร้องเป็นเพลงดังขึ้น กัญญายิ้มแล้วก็หันไปมองคุณวจีที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ คุณวจีพยักหน้ากัญญาจึงหยิบกระเป๋าสะพายและเดินเคียงข้างคุณภูริออกมาเมื่อเข้าไปในลิฟมีเพียงทั้งคู่อยู่ด้วยกันคุณภูริจึงดึงดอกกุหลาบสีขาวที่ซ่อนอยู่ด้านหลังส่งให้กัญญาทันที
ขอบคุณค่ะนี่มันกุหลาบบ้านฉันนี่นี่คุณ
กัญญาทุบไหล่คุณภูริเบา ๆ เมื่อลิฟเปิดเธอจึงรีบเดินออกมาด้วยท่าทางที่แสนงอน คุณภูริจึงวิ่งตามเธอไป
ผมขอโทษเมื่อกี้ผมแวะร้านดอกไม้ไม่ทันผมเห็นว่าคุณชอบกุหลาบสีขาวผมก็เลยเด็ดที่หน้าบริษัทเมื่อกี้เองยามเกือบเอาผมตายแน่ะให้อภัยผมหน่อยนะ
คุณภูริพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน เขาวิ่งไปดักที่หน้าเธอและยื่นนิ้วก้อยให้เธอราวกับเด็ก ๆ ง้อกันอย่างนั้นแหละทำให้คนในบริษัทมองทั้งคู่และซุบซิบกันทันที
ทำเป็นเด็ก ๆ ไปได้ฉันก็ไม่ได้งอนสักหน่อย
กัญญาตอบด้วยท่าทางเขิน ๆ เธอหันไปมองคนอื่น ๆ ที่ยืนมองเธอทำให้พนักงานหลายคนแสดงท่าทีไม่สนใจ แต่เมื่อเธอเดินออกไปนอกบริษัทแล้วทุกคนต่างก็จับกลุ่มนินทากันให้แซทไปหมด
ไม่มีงานทำเหรอไปทำงานสิเดี๋ยวสั่งตัดเงินเดือนเลย
คุณวจีพูดขึ้น เธอเดินมาดูคุณภูริและคุณกัญญาที่นั่งรถจากั่วคันหรูออกไปด้วยกันพร้อมกับยิ้มด้วยท่าทางที่ดีใจทำให้หลายคนแอบหันมาจับกลุ่มคุยกันอีก เมื่อคุณวจีหันกลับไปทุกคนถึงกับสลายตัวทีเดียว
ทานร้านเดิมเหรอคะ
ครับ
คุณภูริมาจอดรถที่ร้านเจ๊หนิง ร้านส้มตำที่อร่อยที่สุดในเมืองไทยอีกครั้งเมื่อทั้งคู่มานั่งที่โต๊ะก็เห็นคุณภูวดลกับแนนซี่นั่งทานส้มตำด้วยกันด้วยท่าทางที่เอร็ดอร่อยกัญญาถึงกับยิ้มทีเดียว
นี่ถ้าคุณภูริรู้ว่าแนนซี่เป็นอะไรเขาจะรับได้ไหมนะ
คงจะไม่ได้หรอกตอนเป็นเด็กผมจำได้ว่าหมอนี่ไล่เตะตุ๊ดทุกทีเลยขานี้เขาเกลียดเข้าไส้ ทางที่ดีอย่าให้รู้เลยดีกว่านะเพราะไม่งั้นโลกแตกแน่ ๆ
กัญญาและคุณภูริพูดกระซิบกระซาบกันอาหารมาเสริฟโดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องสั่ง คุณภูวดลหันมายักคิ้วให้คุณภูริหลายครั้งจนคุณภูริแสดงสีหน้าเยาะเย้ยเพราะรู้ว่าน้องชายไม่ชอบกระเทยเขาจึงแหย่น้องชายใหญ่แต่คุณภูวดลกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เดี๋ยวก็รู้
คุณภูริเปรยขึ้นแล้วก็หันกับมามองกัญญาแล้วก็ยิ้ม ๆทั้งคู่ทานอาหารด้วยกันและนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน กัญญาหันไปตีมือคุณภูริหลายครั้งเพื่อไม่ให้แสดงสีหน้าเย้ยหยันน้องชายทำให้คุณภูริสงบลงครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับไปแหย่ต่อกัญญานั่งมองเขาไปยิ้มไปด้วยความสุข
เมื่อทานอาหารเสร็จคุณภูริก็พากัญญาเดินไปดูหนังสือที่ร้านขายหนังสือตามแถวนั้น เขาเห็นหนังสือนิตยสารหลายฉับและหนังสือพิมพ์หลายฉบับพาดหัวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาและเธอ เขารู้สึกฉุนมากไม่รู้จะทำอย่างไร
นี่มันอะไรกันเนี่ย.คุณมาดูสิ.!!!!
คะนี่มัน.เป็นรูปวันนั้นนี่นาโอ้ตายละคนรู้กันไปทั่วประเทศแล้วสิ
ผมจะไปแถลงข่าวก่อนที่จะลือกันไปต่าง ๆ นานา
ฉันว่าปล่อยไปก่อนเถอะค่ะอย่างนี้ต้องเกลือจิ้มเกลือค่ะ.อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะฉันมีแผนก็แล้วกัน
กัญญาพูดขึ้นพร้อมทั้งกดโทรศัพท์หาหนูนาทันทีหนูนาตอบตกลงที่จะช่วยเหลือเธอเกี่ยวกับการหักหลังสำนักข่าวฉบับอื่น ๆ โดยการส่งนักข่าวมือดีไปสืบความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามและทำอย่างที่เขาทำกับคุณภูริบ้าง
คุณว่าแผนของเรามันจะไปได้สวยเหรอ
กัญญายิ้มแล้วก็เดินขึ้นรถไป
อีกหน่อยคนก็ลืมเองนั่นแหละแต่ถ้าเรื่องของเขาเราก็คุ้ย ๆ ๆ ๆซะให้เรื่องมันฉาว อีกหน่อยเขาก็คงจะรู้เองละว่าอะไรเป็นอะไร
กัญญานั่งยิ้ม เธอมองคุณภูริด้วยความรู้สึกอารมณ์ดีแต่คุณภูริกลับรู้สึกหนักใจอย่างที่สุด
กัญญาและเพื่อน ๆ นัดเจอกันที่ร้านสุกี้ ทุกคนรวมกลุ่มกันเพื่อมาเสวนาเรื่องครอบครัวของแต่ละคน เนื่องจากคนเริ่มต้นชวนคนแรกนั้นก็คือกิ๊กเพราะดูเธอจะเป็นคนที่หนักใจมากที่สุดคราวนี้คนในกลุ่มมาแบบเป็นกันเอง ไม่มีการพ่วงให้ใครมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือสามีก็ตาม
มาแล้วเหรอนั่งสิ
กัญญาบอกเพื่อน ๆ ให้นั่งคนที่มาสายที่สุดเห็นจะเป็นแป้งเพราะขานี้ชอบแอบไปดูสามีของตัวเองก่อนว่าเขาทำอะไรอยู่กับใครหรือเปล่าแล้วจึงค่อยมาหาเพื่อนทีหลัง
มาพร้อมกันแล้วก็สั่งอะไรมาทานเลยละกันนะ
อาหารมาวางที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อย กัญญาจึงเริ่มเปิดฉากนั่งคุยถึงเรื่องของกิ๊กก่อนเป็นคนแรกว่ามีอะไรเกิดขึ้น กิ๊กถึงได้ดูหมองเศร้าขนาดนี้ และตามเนื้อตัวก็ยังมีรอยพกช้ำดำเขียวอีกมากมายแต่กิ๊กก็ยังกล้าที่จะออกจากบ้านเพื่อมาหาเพื่อน ๆ
เมื่อสามวันก่อน เราทะเลาะกันหนักมาก พี่เอกเอาแต่อารมณ์ไม่ฟังฉันบ้างเลยฉันทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่เคยจะสนใจฉัน เขาเอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามานอนในบ้านด้วยทั้ง ๆ ที่ลูกก็อยู่ในบ้านถึงสองคนฉันทนไม่ได้จึงโวยวายใส่เขา เขาก็เลยโชว์ออฟด้วยการซ้อมฉันต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น
กิ๊กนั่งน้ำตาซึมพร้อมกับก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาเพื่อน กัญญาจึงกอดเธอเอาไว้และปลอบใจเธอ
อย่างนี้เธอจะทนอยู่กับเขาทำไมสู้เลิก ๆ กันไปเลยจะดีกว่า อย่าไปทนเลยผู้ชายอย่างนี้น่ะ แนนซี่พูดขึ้น
ฉันก็อยากจะเลิกหรอกแต่ฉันสงสารลูก อีกอย่างพอเขาออกไปข้างนอกได้ครู่หนึ่งเขาก็กลับมาทำดีกับฉัน ฉันก็ใจอ่อนทุกที
เธอนี่มันบ้าจริง ๆ เลยเป็นฉันนะฉันจะล้างอายด้วยการเลิกให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ต่ายพูดขึ้น
ใช่ฉันก็อยากจะทำแบบนั้นแต่ฉันรักเขานี่นา จะให้ฉันทำอย่างไร
กัญญาถึงกับหันมาส่ายหน้าเพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ พูดเพราะกลัวว่ากิ๊กจะเสียใจไปมากกว่านี้กิ๊กหันมาพูดต่อด้วยท่าทางอันเศร้าหมองถึงเรื่องของพี่เอกคนรักของเธอ
หมู่นี้เขาใช้เงินเปลืองมากเลยตั้งแต่แต่งงานกันมาฉันก็รู้สึกว่าเงินของฉันหายวูบไปโดยที่ไม่มีการทำบัญชีฉันก็รู้นะว่าพี่เอกเป็นคนเอาไปแต่จะให้ฉันทำอย่างไรดีล่ะในเมื่ฉันไม่สามารถที่จะควบคุมเขาได้มีเพียงฉันเพียงคนเดียวที่ถูกเขาควบคุมอยู่ตลอดเวลา
รู้ว่าเขาหลอกแต่ก็ไปเต็มใจให้เขาหลอกซะอย่างนั้นเฮ้อมนุษย์หนอมนุษย์เขาถึงได้บอกว่าความรักทำให้คนเราตาบอดอย่างไรล่ะยายกิ๊กเอ๊ยเจ๊ฟังแล้วเจ๊ก็อยากต๊ายอยากตายจริง ๆ เลยมันน่าตีไหมเนี่ยหล่อน
แนนซี่พูดขึ้นพร้อมทั้งแสดงสีหน้าหมั่นไส้เธอรู้สึกอยากจะเดินเข้าไปตบนายตำรวจหนุ่มคนนั้นเหลือเกินที่ทำกับเพื่อนแสนสวยของเธอได้
ถ้าเจอเมื่อไรนะฉันจะตบให้ดูเลย
จะไปตบเขาได้อย่างไรยายแนนซี่เขาเป็นผู้รักษาสันติราช รู้ช่องโหว่ของกฎหมายมากมาย ถ้าเกิดเธอทำอะไรเขาละก็สงสัยชะตาเธอจะต้องขาดแน่ ๆ เลยเธอเอ๊ย!!!! หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม ๆ
ไม่เป็นไรหรอกฉันยอมเสียสองพันดีกว่าจะทนเห็นเขารังแกเพื่อนของฉัน
สองพันอะไร
ก็ค่าปรับไงล่ะค่าทำร้ายร่างกายไงล่ะแหมพวกเธอนี่ไม่รู้เรื่องเลย
เออจ่ะฉันลืมว่าเธอเป็นกิ๊กกับพวกนายร้อยตำรวจ กัญญาพูดขึ้นพร้อมกับหลุดขำออกมาทันทีทำให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มหลุดขำตามไปด้วยแม้แต่กิ๊กเองยังลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังโศกเศร้าอยู่เธอนั่งขำด้วยความรู้สึกที่ตลกและมีความสุขจริง ๆ
แล้วเรื่องของต่ายล่ะ กัญญาพูดขึ้น
หมู่นี้น่ะเหรอพี่โอก็ดีขึ้นนะไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นฉันก็เลยอนุญาตให้เขาไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ว่าฉันให้เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเพราะหมู่นี้ค่าน้ำมันมันแพงต้องประหยัดหน่อย
เออแม่คุณนายประหยัดขี้ตืดจริง ๆ เลยยายงกเอ๊ย!!!! แนนซี่พูดแทรกขึ้น
นี่จะฟังหรือเปล่าย๊ะ
ฟังสิเจ๊ขอโทษ แนนซี่ลากเสียซะทำให้เพื่อน ๆ หัวเราะออกมาทันที
คือตอนที่ไปนั่งทานอะไรกับเพื่อที่โต้รุ่งนะรถเก๋งมันแหกโค้งมาจากไหนก็ไม่รู้พุ่งเข้าชนทั้งโต๊ะเลยล้มระเนระนาดไปหมด ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาลทั้งก๊กเขาเลยละ
สมน้ำหน้าไอ้พวกชอบเที่ยวป่านนี้คงเข็ดแล้วมั้ง
บ้าแป้งก็พูดอะไรแบบนั้นแล้วอาการเป็นอย่างไรบ้างล่ะ หนูนาพูดขึ้น
ไม่เป็นอะไรหรอก แค่ทำสำออยอยากจะอยู่ใกล้ ๆ พยาบาลสวย ๆ เท่านั้นเองฉันก็เลยขอเปลี่ยนเอาพยาบาลแก่ ๆ มารักษาตอนนี้เลยเลิกโอดครวญเลย
แผนสูงนะเนี่ยผัวเธอน่ะถ้าเป็นฉันละก็ฉันจะจัดการให้ราบเลย
เธอจะทำอย่างไรจ๊ะแม่แนนซี่
ฉันจะตบจูบ ตบจูบเลยละฉันชอบผู้ชาย. แนนซี่พูดขึ้นพร้อมกับยืนตัวลอยจนเพื่อน ๆ ต้องดึงให้ลงมานั่งที่เหมือนเดิมเพราะโต๊ะอื่นหันมามองกันหมดแล้ว
12.
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ