22 มีนาคม 2548 15:59 น.
สุชาดา โมรา
ประวัติ นายณรงค์ กล่อมเกลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๓ บ้านหม้อตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เกิดวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๑๑ เป็นบุตรคนที่ ๒ ในจำนวนพี่น้อง ๓ คน บิดา นายระเบียบ กล่อมเกลา มารดา นางเล็ก กล่อมเกลา นายณรงค์ กล่อมเกลา จบการศึกษาระดับประกาศวิชาชีพชั้นสูง (ป.ว.ส.) สาขาช่างยนต์ จากโรงเรียนเทคโนโลยีละโว้จังหวัดลพบุรี
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๑ การปฏิบัติงานในหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำงานอย่างมีระบบระเบียบมีแผนงาน มีกฎข้อบังคับในการปฏิบัติงานในชุมชนหมู่บ้าน คำนึงถึงประโยชน์ที่ราษฎรจะได้รับเป็นหลัก การทำงานมีความตั้งใจจริงใจจริงจังในการทำงาน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นหลัก
ข้อมูลการปกครองในความรับผิดชอบ พื้นที่ในความปกครอง ๑,๐๕๒ ไร่ แยกเป็น พื้นที่ทำการเกษตร ๙๘๔ ไร่ พื้นที่อยู่อาศัย ๖๘ ไร่ จำนวนครัวเรือนในความปกครอง ๗๒ ครัวเรือน จำนวนประชากรรวม ๓๔๓ คน
ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน
ด้านการปกครอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่๑๓ พัฒนาหมู่บ้านในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ราษฎรในหมู่บ้านมีรายได้เพียงพอ ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง ตามนโยบายหมู่บ้านเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง และปกครองหมู่บ้านด้วยความยุติธรรม เป็นที่รักของชาวบ้าน ทำงานโดยยึดหลักประชาธิปไตยการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมการจัดเวทีประชาคมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหาในชุมชน
ด้านการปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเป็นแกนนำชุมชนในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด จัดตั้งเวรยามประจำหมู่บ้าน ออกตรวจดูแลความสงบความปลอดภัยในหมู่บ้าน นอกจากนั้นยังประสานงานกับโรงพยาบาลท่าวุ้งให้มีการการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
ด้านการพัฒนาท้องถิ่น จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ปัจจุบันมีสมาชิก ๑๑๗ คน มีกิจกรรมส่งเสริมเงินทุน ประกอบอาชีพแก่สมาชิกกลุ่ม กิจกรรมจัดสวัสดิการช่วยเหลือสมาชิกกลุ่ม จัดตั้งโรงสีชุมชน โดยระดมหุ้นจากราษฎรในหมู่บ้าน ตำบล และที่ดินที่ชาวบ้านเสียสละยอมยกให้ใช้ประโยชน์เพื่อจัดตั้งโรงสี และโรงสีชุมชนได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของตำบล เป็นกิจกรรมที่แก้ไขปัญหาเรื่องปากท้อง และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน มีผู้สนใจมาขอศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก และได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนชุมชนเพื่อสังคม ๒๕๐,๐๐๐ บาท เพื่อเพิ่มกำลังผลิตและเพิ่มคุณภาพของการสีข้าว งบสนับสนุนจากสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท จัดสรรงบถ่ายโอนผ่านองค์กรปกครองท้องถิ่น ๓๔๐,๐๐๐ บาท เพื่อดำเนินการจัดซื้อข้าวเปลือกแก่โรงสี งบประมาณมูลนิธิรักษ์ไทย ๘๔,๖๕๐ บาท เพื่อส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอาชีพสตรีแม่บ้านแปรรูปอาหาร และกลุ่มทำน้ำปลา และได้จัดกลุ่มปลูกพืชสมุนไพรตำบลบางคู้ ส่งเสริมปลูกพืชและอนุรักษ์พืชสมุนไพร
ด้านการเกษตร จัดตั้งครัวเรือนนำร่อง ๑๐ ครัวเรือนในการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมให้ปลูกผักสวนครัวกินได้ประสานงานกับอำเภอในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชให้แก่เกษตรกรในหมู่บ้าน และส่งเสริมให้รู้จักคุณค่าของปุ๋ยธรรมชาติและลดการใช้ปุ๋ยเคมี นอกจากนั้นยังประสานงานชลประทานเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำทำการเกษตรไม่เพียงพอ
ผลงานดีเด่น แก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และเพิ่มมูลค่าผลผลิตของเกษตรที่มีอาชีพทำนา ด้วยการจัดตั้งโรงสีตำบลบางคู้เพื่อแก้ปัญหาและให้เกษตรกรรู้จักกระบวนการแปรรูป เช่น ข้าวนำมาสีเป็นข้าวสาร นอกจากนั้นยังได้ประโยชน์อื่น ๆ อีกคือ รำละเอียด รำหยาบ นำไปประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ เช่นหมู ปลา น้ำรำจำหน่าย แกลบ นำไปรองเล้าไก่ เผาถ่าน ใส่ต้นไม้ให้เจริญงอกงาม ปลายข้าว นำไปประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ทำโจ๊ก ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อื่น ๆ มากมาย และส่งเสริมการแปรรูปอาหารโดยจัดตั้งกลุ่มทำน้ำพริก ไข่เค็ม กลุ่มทำน้ำปลา ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรตามทฤษฎีใหม่ และการปลูกผักสวนครัวกินได้ การก่อสร้างสถานที่ต่าง ๆ สร้างโรงอาคารโรงสีพร้อมเครื่องสีข้าว ๑ เครื่อง สร้างคุ้มบ้าน ๕ คุ้ม จัดทำป้ายชื่อบ้านทุกบ้านพร้อมเสา ถมดินทำสวนสมุนไพรพร้อมจัดซื้อต้นสมุนไพร
ปัจจุบันตำบลบางคู้ โดยเฉพาะบ้านหม้อ หมู่ ๑๓ ได้การยอมรับเรื่องการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นที่ศึกษาดูงานของกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ทั้งต่างอำเภอและต่างจังหวัด
22 มีนาคม 2548 15:52 น.
สุชาดา โมรา
เจ้าหญิงรู้สึกตกใจมากเมื่อรู้ว่าชายคนนั้นคือเจ้าชายเทวธิราช เจ้าหญิงยืนนิ่งจนเจ้าชายต้องเอื้อมมือไปจับมือของพระองค์เอาไว้และสวมแหวนให้ พิธีราชาภิเษกจึงเริ่มขึ้นตามพิธีการของแคว้นราชันย์อุไร
เสียงแตรดังประโคมกึกก้อง เครื่องดนตรีหลายชนิดบรรเลงดังรัวราวกับตอบรับความยินดีที่กำลังจะเกิดขึ้น เจ้าชายจูงมือเจ้าหญิงออกไปเต้นรำกลางท้องพระโรงซึ่งจัดไว้เป็นลานเฉลิมฉลอง
เจ้ารู้ไหมว่าพี่รอเจ้ามานานแสนนาน
รอเหรอเพคะหม่อมฉันคิดว่าเจ้าพ่อส่งหม่อมฉันมากระทันหันเสียอีก เหตุใดจึงทรงบอกว่ารอหม่อมฉันหรือเพคะ!!!
พี่จำได้ว่าพี่เคยพบเจ้าเมื่อเจ้ายังเล็กนัก ที่วังแห่งนี้
เหรอเพคะหม่อมฉันคิดว่าหม่อมฉันไม่เคยมานะเพคะ
เจ้าเคยมาเจ้าหญิงมินทรา พี่จำได้ดีว่าเจ้าวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ ขณะนั้นเจ้ายังเล็กนักคงจำความอะไรไม่ได้มากเพราะเราก็อายุห่างกันถึงสิบปีไม่ใช่หรือ
เพคะหม่อมฉันเริ่มรู้สึกว่าคับคล้ายคับคลาว่าเคยเล่นกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง แต่หม่อมฉันจำไม่ได้ว่าใครเพคะ เพียงแต่เด็กผู้ชายคนนั้นเขาได้มอบของไว้ให้หม่อมฉันอย่างหนึ่งเพคะ
ใช่พี่ให้สิ่งนี้กับเจ้า
เจ้าชายถอดแหวนมุกสีดำที่คล้องอยู่ที่คอออกมาทันที จากนั้นจึงยื่นให้เจ้าหญิงดูขณะที่ผู้คนในงานต่างเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหญิงแสดงท่าทางดีใจจากนั้นจึงถอดแหวนออกมาจากนิ้วก้อยยื่นไปเทียบกับแหวนวงนั้นทันที
เป็นแหวนวงเดียวกันเพคะหม่อมฉันจำได้แล้วเพคะหม่อมฉันจำได้ว่าตอนนั้นหม่อมฉันสวมแหวนวงนี้ไม่ได้ น่าขำอยู่เหมือนกันนะเพคะที่จู่ ๆ เราต้องกลับมาเจอกันอีก
เจ้าชายกอดเจ้าหญิงไว้ไม่ยอมให้ห่างกายไปไหน พระเจ้าปฐมเทพรู้สึกว่าเจ้าชายมีใจให้กับเจ้าหญิงก็ดีใจเพราะทั้งสองเมืองจะได้มีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น แต่พระองค์ก็หาทราบการต่อไปที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากความไว้เนื้อเชื่อใจของพระองค์ที่มีต่อเมืองกัญจาศรี
เจ้าชายทำพิธีเปิดผ้าคลุมหน้าตามประเพณีของเมืองกัญจาศรี จากนั้นเจ้าหญิงจึงคุกเข่าลงและปลดผมออกมาลูบที่เท้าของเจ้าชายเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างชาวกัญจาศรี สร้างความประทับใจให้กับเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพาลที่มาร่วมเฉลิมฉลองในงานยิ่งนัก เจ้าชายจึงเริ่มทำพิธีอย่างชาวแคว้นราชันย์อุไรที่แสดงความรักต่อเจ้าสาวโดยการจูบที่ฝ่ามือเบา ๆ และกอดเจ้าหญิงเอาไว้ จากนั้นจึงพาเจ้าหญิงเดินลอดซุ้มกระบี่นับพันเล่มและอุ้มเจ้าหญิงเข้าเรือนหอทันที
ทั้งสองพระองค์เปลี่ยนเครื่องทรงเจ้าหญิงนั่งลงที่เตียงด้วยท่าทางเขินอาย เจ้าชายนอนราบบนเตียงอย่างสบายอารมณ์ จากนั้นจึงเอื้อมมือมาคว้าตัวเจ้าหญิงให้มานอนเคียงข้างกายไม่ยอมให้ห่างไปไหน
เจ้ารู้ไหมว่าแต่ก่อนแคว้นเก้าแคว้นที่มีอยู่นี้มาจากแคว้นอุไรเพียงแคว้นเดียวพวกเราทุกแคว้นเป็นพี่น้องกันและหนีตายตอนที่เกิดมหันตภัยครั้งร้ายแรงที่สุด จากนั้นก็มาแยกดินแดนและตั้งรกรากเป็นอาณาจักรที่เกรียงไกร
หม่อมฉันก็พอจะทราบเหมือนกันเพคะ แต่หม่อมฉันไม่รู้รายละเอียดอะไรมากมายนอกจากคำจารึกและภาพบนผนังที่บ่งบอกถึงอารายธรรมที่เคยมีมา พร้อมทั้งภาพมหันตภัยที่เตือนชาวโลกอย่างเราให้ตระหนักและระวังภัยเท่านั้นเองเพคะ
ใช่เมืองอุไรหนึ่งเดียวในพิภพนี้ได้จมหายไปกับภัยธรรมชาติที่เราไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เมืองของพี่เป็นเมืองของพระโอรสองค์โตจึงใช้ชื่อเมืองตามชื่อของกษัตริย์และคงชื่อเมืองเก่าไว้ด้วย
เจ้าชายนอนเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เจ้าหญิงฟังจนกระทั่งเผลอหลับไปทั้งคู่ ทั้งสองพระองค์ดูมีความสุขมากจนเจ้าหญิงได้ลืมคำสั่งของพระเจ้าเมียงเตะผู้เป็นบิดาไปเสียสนิท
เจ้าหญิงตื่นบรรทมแต่เช้า เมื่อมองไปข้าง ๆ ก็ไม่เห็นเจ้าชายจึงรีบลุกขึ้นและออกไปตามหาแต่เช้าเจ้าหญิงเปิดประตูห้องทันที
เจ้าหญิงมังคะเปลี่ยนเครื่องทรงเถอะมังคะ
ตุงจีคนสนิทรีบเข้ามาเก็บห้องและเปลี่ยนเครื่องทรงให้เจ้าหญิง ชุดที่เจ้าหญิงใส่ยังคงเป็นชุดของชาวกัญจาศรีแต่พระองค์ไม่เอาผ้ามาคลุมหน้าเหมือนอย่างเคยตุงจีรีบนำกำไลข้อเท้ามาสวมให้เจ้าหญิงเพื่อแสดงว่าเจ้าหญิงได้อภิเษกไปแล้ว
ทำอะไรกันอยู่เหรอ
เจ้าชายเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นให้เจ้าหญิงทันที ตุงจีรีบถอนสายบัวเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและรีบออกไปจากห้องทันทีเจ้าชายนำชุดของเจ้าหญิงที่อยู่ในตู้ออกมายื่นให้ จากนั้นจึงหวีผมให้กับเจ้าหญิง
พระองค์ตื่นบรรทมตั้งแต่เมื่อไรเพคะ
พี่ตื่นมาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแล้วก็รีบไปเก็บดอกไม้ที่หน้าผาใหญ่มาให้เจ้า
ไม่เห็นต้องไปไกลขนาดนั้นเลยเพคะ
ไม่มีดอกไม้ที่ไหนจะสวยเท่าที่นั่นอีกแล้ว
ขอบพระทัยเพคะ
เจ้าหญิงเอามือของเจ้าชายมาแนบไว้ที่ข้างแก้มแล้วก็หลับตาพริ้ม เจ้าชายรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากที่ได้มีเจ้าหญิงมาอยู่เคียงข้าง
ในเมื่อเป็นคนของพี่แล้วเจ้าก็ต้องใส่ชุดของคนที่นี่ พี่อยากให้เจ้าลองสวมชุดนี้ดูเพราะพี่เป็นคนไปเลือกมาให้เจ้าโดยเฉพาะเลย
เจ้าหญิงสวมใส่ชุดของชาวแคว้นราชันย์อุไร ความงดงามของเจ้าหญิงกับชุดที่สวมใส่นั้นดูเข้ากันเหลือเกิน ผมยาวสยายสีดำเป็นเงา ผิวกายดูขาวและดูสง่างามยิ่งนัก ใบหน้าสวยราวกับเทพธิดาผิวเนื้อละเอียดขาวอมชมพู ทำให้เจ้าชายรู้สึกตะลึงเมื่อเจ้าหญิงเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
เจ้าชายพาเจ้าหญิงไปร่วมโต๊ะเสวย และจัดแจงให้ราชองครักษ์นำข้าวของในห้องรับรองแขกบ้านแขกเมืองมาเก็บไว้ในห้องส่วนพระองค์ที่ตำหนักขาว และสั่งให้มีการปลูกดอกไม้หลากหลายชนิทไว้ในอุทยานเพื่อให้เจ้าหญิงได้รู้สึกสดชื่นเพราะพระองค์ทราบว่าเจ้าหญิงชอบดอกไม้ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
.
เจ้าหญิงรัตนมณีเสด็จออกเที่ยวป่าด้วยม้าส่วนพระองค์เพราะพระองค์ทรงชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ เจ้าหญิงแอบไปเพียงลำพังเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น อีกอย่างพระนางจรัสรัตน์ก็ไม่ทรงโปรดให้ราชธิดาออกไปเที่ยวเล่นนอกเขตพระราชฐาน ด้วยความซุกซนเจ้าหญิงจึงผูกม้าไว้กับต้นไม้และรีบเปลี่ยนชุดเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ จากนั้นก็มานั่งเล่นน้ำที่ริมฝั่งทะเลสาบ
ไงไอ้น้องแต่งตัวสวยนี่คงจะรวยน่าดูเลยสิใช่ไหมพวกเรา!!!
ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลก ๆ พูดเสียงดังขึ้น เมื่อเจ้าหญิงรัตนมณีหันกลับไปมองก็ตกใจมากเมื่อพบผู้ชายร่างใหญ่ถึงสามคนแต่งกายมอซอ ท่าทางไม่น่าไว้วางใจตรงเข้ามาจะทำร้ายเจ้าหญิงเจ้าหญิงตะโกนร้องให้คนช่วยแต่ชายสามคนนั้นหัวเราะระรื่นราวกับเป็นเรื่องตลก
ผู้ชายอะไรวะ!!! ร้องว๊าย!
ใช่ลูกพี่นี่ไอ้น้องเป็นพวกลักเพศหรือเปล่า
เจ้าหญิงไม่ยอมฟังเสียงพวกนั้น รีบวิ่งหนีและร้องตะโกนให้คนช่วยทันที ชายทั้งสามวิ่งตามทันทีเจ้าหญิงสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น ชายคนหนึ่งเดินมาดักทางด้านหน้า ส่วนอีกสองคนตรงรี่เข้ามาจนถึงตัวเจ้าหญิง
อย่านะช่วยด้วย
ไม่มีใครช่วยหรอกที่นี่เป็นป่าอาถรรพ์ใครจะกล้าเข้ามา ก็มีแต่เจ้านั่นแหละที่เข้ามาให้ข้าปล้น
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นและก็ส่งเสียงหัวเราะระรื่น ชายอีกสองคนจึงหัวเราะตามทำให้เจ้าหญิงรู้สึกหน้าเสีย ใบหน้าซีดเผือดทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียวชายคนหนึ่งฉุดเจ้าหญิงให้ลุกขึ้นและเริ่มเข้าไปค้นตัวทันที แต่เจ้าหญิงขัดขืนดิ้นรนหนีอย่างสุดชีวิต เมื่อวิ่งหนีไม่พ้นจึงหันกลับมาสู้ เจ้าหญิงทั้งเตะและต่อยชายทั้งสามคนนั้นที่เข้ามาประชิดตัวจนกระทั่งผ้าคลุมผมหลุด ทำให้ผมสยายยาวออกมา
ผู้หญิงสวยซะด้วย!!!!
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นและก็หัวเราะพร้อมกับแสดงท่าทีว่าจะเข้ามาลวนลามขณะนั้นมีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นราชองครักษ์กำลังนอนเล่นอยู่บนโขดหินอย่างเพลิดเพลินเนื่องจากเขาออกเวรแล้ว เมื่อเขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องให้ช่วยเขาก็รีบวิ่งมาทันทีเขาแอบดูอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นเป็นผู้หญิงแน่เขาจึงรีบเข้าไปช่วยอย่างไม่รอช้า
หยุดนะ!!!!
ราชองครักษ์คนนั้นจับกระบี่แน่นและจ่อไปที่คอหอยของชายคนหนึ่งทันทีทำให้ชายคนนั้นถึงกับขาสั่นรัวไม่กล้าขยับเขยื่อน
รีบไสหัวไปซะก่อนที่ข้าจะตัดหัวเจ้า
ชายสามคนนั้นรีบวิ่งหนีไป เจ้าหญิงแสดงความขอบคุณราชองครักษ์คนนั้นทันทีราชองค์รักษ์คนนั้นจำได้ว่าผู้หญิงที่เห็นตรงหน้านั้นคือเจ้าหญิงราชนิกูลอันดับต้นของแคว้นราชันย์อุไร จึงรีบคุกเข่าลงและยื่นมือขวามาประสานที่หน้าอกเพื่อแสดงความเคารพทันที
เจ้าจำเราได้เหรอ
พะย่ะค่ะ
เจ้าชื่อเรียงเสียงใดกันเราจะได้ปูนบำเหน็ดให้
ข้าบาทหาได้อยากได้ยศศักดิ์ไม่หากแต่ข้าบาทเพียงแต่จะปกป้องผู้หญิงไม่ให้ถูกใครรังแกเท่านั้นพะย่ะค่ะ
เราถามว่าเจ้าชื่ออะไร
กระหม่อมราเชนพระย่ะค่ะ
อยู่กับเราก็คิดว่าเราเป็นเพื่อนเจ้าละกันลุกขึ้นเถอะ
กระหม่อมมิอาจเอื้อมพระย่ะค่ะ
นี่เป็นคำสั่งของเราเจ้าจะกล้าขัดหรือ!!!!
เจ้าหญิงพูดเสียงดังทำให้ราเชนราชองครักษ์หนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัวทีเดียว เจ้าหญิงแอบอมยิ้มที่มุมปากแล้วก็ตบไหล่ราเชนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินพาเจ้าหญิงไปชมดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าผา ดอกไม้ที่นี่ค่อนข้าจะเป็นดอกไม้ที่แห้งแล้ง มีใบสีทองราวกับรวงข้าวแต่ความงามของดอกนั้นงดงามยิ่งนัก มีสีม่วงงดงามเป็นอย่างมาก เจ้าหญิงรู้สึกพอพระทัยที่ได้เห็นทุ่งดอกไม้บนเนินผามากมายขนาดนี้
กระหม่อมจะขึ้นไปเก็บให้พะย่ะค่ะ
ไม่ต้องหรอกราเชนปล่อยให้ดอกไม้มันสวยอยู่อย่างนั้นเถอะ
ราเชนไม่ฟังที่เจ้าหญิงพูด เขารีบปีนขึ้นไปบนหน้าผาทันที ทางนั้นสูงชันจนราเชนเกือบพลาดตกลงมาหลายครั้ง เขาเก็บดอกไม้ได้กำหนึ่งและก็คาบไว้ที่ปากดอกไม้ที่ราเชนเก็บนั้นเขาได้คัดเลือกเป็นอย่างดี เขาเลือกดอกที่ทั้งใหญ่และสวยเพื่อนำมาถวายให้กับเจ้าหญิงทั้ง ๆ ที่ดอกอื่นมากมายแต่เขาก็ไม่ยอมเก็บและแล้วเขาก็เหยียบไปที่ก้อนหินก้อนหนึ่งและพลัดตกลงมาทันที แต่ดีที่เขาเกาะรากไม้ที่โผล่ออกมาตรงนั้นได้เจ้าหญิงรู้สึกตกใจมากรีบวิ่งเข้าไปใกล้ ๆ หน้าผานั้นทันที เขาค่อย ๆ ไต่ลงมาอย่างระมัดระวังและนำดอกไม้นั้นยื่นถวายให้กับเจ้าหญิง
ขอบใจนะเป็นอะไรหรือเปล่า
ไม่เป็นอะไรพะย่ะค่ะ
เจ้าหญิงเห็นที่แขนเสื้อของราเชนขาด บาดแผลถลอก มีเลือดไหลออกมาซึมที่แขนเสื้อ เจ้าหญิงจึงคว้าแขนของเขาและฉีกแขนเสื้อที่ขาดวิ่นของเขาออกเพื่อล้างแผลด้วยน้ำสะอาดที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เจ้าหญิงฉีกชายเสื้อของพระองค์เองและนำมาพันแผลให้กับราเชน ราเชนรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากรีบคุกเข่าแสดงความเคารพและขอบคุณทันที
ไม่เป็นไรหรอกก็เรามันเพื่อนกันไม่ใช่เหรอเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ
2..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ว่าแผนการยึดอำนาจของพ่อตาจะชนะราชบุตรเขยซึ่งกุมอำนาจทางทหารได้หรือไม่ อย่าพลาดค่ะ
22 มีนาคม 2548 15:50 น.
สุชาดา โมรา
จริงเหรอคะ เขาไม่มีงานทำหรือไงนะถึงได้ว่างนัก นี่พักนี้เขาก็มาหาผึ้งบ๊อยบ่อย ผึ้งไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยค่ะ
เขามาตอนไหนเหรอ
เดี๋ยวเที่ยง ๆ เขาก็มาแล้วค่ะนั่นไงคะพูดไม่ทันขาดคำเลย
นายตำรวจหนุ่มหันไปมองที่ประตูสำนักงาน เขาเห็นคุณอุดมเดินเปิดประตูเข้ามา เสียงกระดิ่งดังอยู่ตลอดเวลา น้ำผึ้งลุกขึ้นไหว้คุณอุดมและเชิญให้เขานั่งทันที
ไปทานข้าวกับผมเถอะ
คือวันนี้ผึ้งไม่ว่างน่ะค่ะ คือผึ้งมีนัดแล้ว
คุณอุดมทำท่าไม่ค่อยพอใจ เขาจ้องมองนายตำรวจหนุ่มด้วยท่าทางหัวเสีย ทำให้น้ำผึ้งรู้สึกกลัว ๆ เขานิด ๆ และก็พูดขึ้น
คือไม่ใช่พี่เอกหรอกค่ะ ผึ้งมีนัดกับลูกทัวร์น่ะค่ะ ขอโทษทีนะคะคุณอุดม
งั้นเหรอไม่เป็นไร พี่ไม่รบกวนแล้วละ
น้ำผึ้งถึงกับถอนหายใจทันทีเมื่อเห็นคุณอุดมออกไปนอกสำนักงาน
ผึ้งมีนัดแล้วจริง ๆ เหรอ
ยังไม่มีหรอกค่ะ เมื่อกี้ต้องโกหกไปก่อนเพราะผึ้งไม่อยากไปกับเขา หมู่นี้เขามักจะพูดอะไรแปลก ๆ อยู่เสมอเลยค่ะ เขาชอบพูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์
ก็เขาทำงานด้านนี้นี่ ไม่น่าแปลกใจเลย
ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือเขามักจะพูดถึงเรื่องการกลับชาติมาเกิด เรื่องของคนในอดีตชาติ และเรื่องของประวัติศาสตร์ที่เขามักจะแทรกให้ฟังอยู่ตลอดเวลา เขาพูดว่าผึ้งมาเจอกับพี่เอกได้เพราะกำไลวงนั้น
นายตำรวจหนุ่มยกแขนขึ้นและมองไปที่กำไลข้อมือทันที เขาทำท่าแปลกใจและไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
คือเขาว่าผึ้งกับพี่เอกเคยมอบกำไลให้กันและสัญญากันว่าจะเป็นคู่ครอง
คู่ครองกันทุกชาติ ทุกชาติไป
ทำไมพี่เอกถึงรู้ล่ะคะ
นิยายออกเยอะแยะ พี่ว่านายนี่ต้องเพี้ยนแน่ ๆ เลย
แต่ผึ้งเชื่อในบางเรื่องที่เขาพูดนะคะ เพราะผึ้งเคยเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นแต่อย่าหาว่าผึ้งบ้านะคะ คือผึ้งอาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ค่ะ
นายตำรวจหนุ่มรู้สึกอึ้ง ๆ อยู่เหมือนกันเขาจึงนั่งเล่าเรื่องราวที่เขาเคยเห็นให้เธอฟัง เขาเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าสิ่งที่เธอเห็นจะเหมือนกับที่เขาเห็นหรือเปล่า
นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่พี่เอกเห็นเรื่องราวแปลก ๆ ในอดีตจะต้องมีเด็กหัวจุกคอยชี้นำอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือคะแปลกมากเลย ผิดกับผึ้ง ทุกครั้งที่ผึ้งเห็นมันจะวูบไปเองโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเราได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น พยายามควบคุมตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้ ผึ้งกลัวการกลับไปเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็นนั่นจังเลยค่ะ
แสดงว่าที่เราเห็นนั่นก็เป็นเรื่องจริงใช่ไหมพี่ว่าเราควรจะไปถวายสังฆทานให้กับเจ้ากรรมนายเวรด้วยกันดีกว่า เพราะถ้าหากเป็นแบบนี้นั่นก็หมายความว่านายอุดมก็คงจะมีเซ้นเรื่องนี้เหมือนกัน
นายตำรวจหนุ่มแสดงท่าทางที่หวาดวิตก เขาพาน้ำผึ้งเดินออกจากสำนักงานและไปทานอาหารกลางวันกัน จากนั้นก็พาไปที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งเขากำลังมีงานมหรสพกันอย่างใหญ่โต
วัดนี้ก็แล้วกันนะ
น้ำผึ้งนั่งพับเพียบกราบพระพร้อมกับนายตำรวจหนุ่มด้วยท่าทางที่สงบ
มาแล้วเหรออาตมารอโยมทั้งสองคนอยู่
พระรูปนั้นพูดขึ้นทำให้ทั้งคู่รู้สึกแปลกใจถึงกับจ้องมองกันและกันทันที
ไม่ต้องสงสัยหรอกโยม เมื่อคืนนี้มีเด็กหัวจุกมาบอกอาตมาว่าพ่อกับแม่จะมาทำบุญ ให้อาตมามารอที่หน้าโบสถ์ พออาตมาเห็นโยมมากับเด็กหัวจุกนั่นอาตมาก็เลยรู้ว่าเป็นโยมทั้งสองคน
พ่อกับแม่หรือคะ
น้ำผึ้งทำหน้าสงสัยและหันกลับไปมองนายตำรวจหนุ่ม
อาตมาจะดูดวงให้ บอกวันเดือนปีเกิดของโยมมาสิ อาตมาจะดูให้
น้ำผึ้งและนายตำรวจหนุ่มเขียนวันเดือนปีเกิดใส่กระดาษ นายตำรวจหนุ่มคลานเข้าไปยื่นให้พระรูปนั้นทันที เขาทำท่าแปลกใจแล้วก็หันกับมามองน้ำผึ้งซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ
พระรูปนั้นนั่งเขียนอะไรใส่กระดาษอยู่ครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้น
อาตมารู้แล้วละ โยมผู้หญิงและโยมผู้ชายมีดวงต่อกัน ดวงทั้งคู่เป็นคู่กันมาตั้งหลายภพหลายชาติ มีสัญญาต่อกันให้ตามกันมาอยู่ด้วยกันทุกชาติ ๆ ไป แต่ดวงทั้งคู่ตอนนี้กรรมกำลังตามมาจากชาติภพที่แล้ว ต่อให้โยมหลีกเลี่ยงอย่างไรก็คงหนีไม่พ้น จงทำบุญให้ลูกของโยมในอดีตชาติเพื่อเสริมบารมีให้กับลูกของโยม เขาจะได้ช่วยเหลือโยมได้
หลวงพ่อครับ ผมมีเรื่องสงสัยว่าไอ้สิ่งที่ผมเห็นในความฝันซึ่งมีเด็กหัวจุกที่หลวงพ่อเห็นพาไปนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ
สุดแล้วแต่โยมจะเชื่อนะโยม อาตมาจะไม่ฝืนลิขิตชะตาใคร ถ้าหากโยมสองคนอยากรู้ก็ลางานมาสักอาทิตย์หนึ่งเพื่อมาเข้าพิธีตัดกรรมที่วัดนะ อาตมาจะให้โยมทั้งสองคนเข้าไปนั่งในวงล้อมสายสิญจ์และจะมีการสวดพานยักษ์กัน หากโยมมีดวงในอดีตโยมก็จะผ่านมิตินั้นเข้าไปรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้ แต่ก่อนอื่นโยมต้องไม่ลืมที่จะเรียกลูกของโยมให้นำพาโยมไปด้วย เด็กคนนี้เขารอที่จะมาเกิดกับพ่อกับแม่ของตัวเองมานานมากแล้ว โยมต้องละทิ้งคนที่ไม่ใช่คู่ของโยมและมาอยู่กับคู่ของโยมเถอะ หากโยมฝืนชะตาผู้หญิงคนนั้นจะตาย
หมายความว่าอย่างไรครับ
ก็ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังอยู่ในพะวังของอดีตกับปัจจุบัน เธอแยกไม่ออกว่าอันไหนคือจริงไม่จริง เธอจะจำได้เพียงคนรักของเธอเท่านั้น ถ้าโยมไม่ปล่อยให้เธออยู่กับคู่ของเธอโยมก็อาจจะสร้างบาปให้กับเขาเพราะโยมไม่ใช่คู่กับเขา
อะไรนะคะไม่ใช่คู่ อย่าบอกนะว่าหมอนั่นคือ
นายตำรวจหนุ่มและน้ำผึ้งหันไปมองเสียงผู้หญิงที่พูดทันที เขารู้สึกตกใจมากที่เห็นคุณสร้อยแม่ของคุณแก้มมานั่งอยู่ใกล้ ๆ
นายอุดมบอกว่าเธอละเลยลูกสาวของฉัน ฉันก็เลยขับรถตามเธอมาขอบใจนะที่ทำให้ฉันรู้ว่าหมอนั่นเป็นคู่แท้ของลูกสาวฉัน!!!!
คุณสร้อยแม่ของคุณแก้มพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน จากนั้นก็หันไปกราบพระรูปนั้นทันที
หลวงพ่อคะ จะทำอย่างไรดีคะ ลูกสาวฉัน
ปล่อยเธอไปก่อนเถอะโยม อีกไม่นานถ้าหากคู่นี้เขาอยู่ด้วยกันเมื่อไรเธอจะกลับมาเป็นปกติและอยู่กับคู่ของเธอ โยมต้องทำใจเพราะเธอไม่ได้ป่วยเพียงแต่เธอกำลังใช้หนี้เวรที่เธอก่อไว้ในชาติที่แล้วอยู่เท่านั้นเอง เธอกำลังแบกภาระของคู่รักเธอที่ทำกรรมเอาไว้ในชาติที่แล้ว เนื่องจากเธอสัญญาว่าเธอจะตามใช้หนี้เวรหนี้กรรมให้กับเขา
คุณสร้อยแม่ของคุณแก้มกราบลาหลวงพ่อและรีบกลับทันที ก่อนกลับเธอหันกลับมามองหน้าทั้งคู่และพูดขึ้น
ต่อไปนี้เธอไม่ต้องไปยุ่งกับลูกสาวฉันอีก เพราะถ้าเธอไปลูกสาวฉันอาจจะตาย รีบ ๆ แต่งกันนะลูกฉันจะได้ฟื้น
นายตำรวจหนุ่มร่วมกันถวายสังฆทานจากนั้นก็กรวดน้ำส่งไปให้กับลูกชายของตัวเองในอดีตชาติทันที
ลูกจ๊ะแม่ไม่รู้ว่าลูกชื่ออะไรแต่บุญกุศลทั้งหมดที่แม่มีอยู่นี้แม่อุทิศให้กับลูกและเจ้ากรรมนายเวร
น้ำผึ้งพูดขึ้นพร้อมกับรินน้ำลงบนใบโพธิ์โดยมีมือของนายตำรวจหนุ่มจับมือของเธอไว้แน่น จากนั้นนายตำรวจหนุ่มก็กลับไปลาพระรูปนั้นบนโบสถ์และรีบกลับทันที
พี่เอกเชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอคะ
ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ควรลบหลู่ไม่ใช่เหรอเราก็ทำ ๆ ไว้บ้างก็ดีนะ อยู่อย่างป้าสร้อยสิ ท่านยังเชื่อสนิทใจเลย เราก็ลอง ๆ เชื่อดูบ้างก็ได้นี่นา
นายตำรวจหนุ่มพูดไปขับรถไป เขามาส่งเธอที่สำนักงาน เมื่อเธอลงจากรถเธอก็ต้องผงะเมื่อเห็นคุณอุดมยืนอยู่หน้าสำนักงาน
ผึ้งมาแล้วเหรอ ฉันห้ามเขาแล้วแต่เขาไม่ฟังเขาบอกว่าจะมารอเธออยู่แบบนี้จนกว่าเธอจะกลับมา
ส้มพูดขึ้นจากนั้นก็ดึงแขนเธอออกไปคุยห่าง ๆ ทำให้นายตำรวจหนุ่มต้องลงมาจากรถเพื่อห้ามไม่ให้คุณอุดมเดินตามเธอไป
นี่อะไรน่ะ
รอยปาน
นายตำรวจหนุ่มถึงกับตกใจเมื่อเห็นรอยปานดำของคุณอุดม เขารู้สึกเหมือนเคยเห็นรอยปานนี้ที่ไหนสักแห่งแต่ก็นึกไม่ออก เขาจำได้ว่ามันคับคล้ายคับคลาอย่างไรชอบกล
คุณสงสัยอะไรเหรอ
คือรอยปานของคุณเหมือนรอยแผลเป็นน่ะสิ
นายตำรวจหนุ่มพูดขึ้น น้ำผึ้งเดินเข้ามาพร้อมกับส้มและก็เปิดประตูสำนักงานทันที นายตำรวจหนุ่มเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาและก็พูดคุยกับคุณอุดมราวกับคนสนิท เขาพูดด้วยท่าทางที่สบายใจ ผิดกับคุณอุดมที่พูดด้วยท่าทางราวกับคนหึง และพยายามหันไปมองน้ำผึ้งอยู่ตลอดเวลา
ตาคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ
ส้มพูดขึ้นพร้อมกับยกน้ำส้มและขนมหวานมาวางไว้ที่โต๊ะ
ปะเปล่าครับ คือผม
อ๋อน้ำผึ้งน่ะเหรอคะ กลับไปแล้วค่ะ คือเธอกลับไปได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ
ผมไม่เห็นเธอเดินออกทางประตูเลยนี่ครับ
นี่คุณไม่เห็นเหรอ เธอเพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่ใหญ่ ๆ นี่เอง ใช่ไหมคะพี่สุเมธ
เอ่อใช่ครับ
นายตำรวจหนุ่มรู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าคุณอุดมจะมองไม่เห็นเธอ เขาคิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าคงเป็นเพราะผลบุญที่เขาทำร่วมกับเธอเมื่อกี้นี้จึงทำให้เด็กคนนั้นช่วยเธอให้แคล้วคลาดจากนายอุดมได้
9
นางเอก พระเอก และเพื่อน ๆ ของเธอจะเป็นเช่นไร กับการตามล่าข้ามภพข้ามชาติของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีซึ่งมีใจรักต่อแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว และทั้งคู่จะสมหวังในรักหรือไม่ ทั้งคู่จะได้พบกับลูกชายในอดีตชาติที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้หรือไม่ อย่าพลาดตอนต่อไปนะคะ...
22 มีนาคม 2548 15:47 น.
สุชาดา โมรา
หายไปไหนนะ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลยเธอนึก
สวัสดีครับคุณน้ำผึ้ง จำผมได้ไหมครับ
อ๋อจำได้ค่ะแหมใครจะจำลูกค้าตัวเองไม่ได้ล่ะคะ
คือผมมาวันนี้เพื่อที่จะบอกว่า.
คุณอุดมนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ไม่พูดอะไร น้ำผึ้งจ้องมองเขาด้วยใจจดจ่อเพราะอยากจะรู้ว่าเขามาธุระเรื่องอะไรกันแน่ เธอยืนยิ้ม ๆ แล้วก็ทำท่างง ๆ เขาจึงเดินเข้ามาจูงมือเธอออกมาที่ห้องอาหารของบริษัท
ปุ๊..!!!!!
แฮปปี้เบริ์ดเดย์ทูยู.แฮปปี้เบริ์ดเดย์ทูยูแฮปปี้เบริ์ดเดย์ แฮปปี้เบริ์ดเดย์ แฮปปี้เบริ์ดเดย์.ทูยู
ทุกคนร่วมกันร้องเพลงวันเกิดของเธอกันใหญ่ พร้อมทั้งปรบมือกันกราวหลังจากเพลงจบลง เธอถึงกับน้ำตารินเพราะไม่คิดว่าทุกคนจะรู้ว่าวันนี้วันเกิดของเธอ
ขอบคุณนะคะพวกคุณรู้ได้อย่างไรคะว่านี่วัน
เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นัยตาเปล่งประกายด้วยความดีใจจนสุขล้น มองไปรอบ ๆ ก็มีแต่คนรู้จักและเพื่อนฝูงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนูนา แป้ง ต่าย ส้ม ยาหยี มด แหม่ม ก้อย แอน นงนุช และที่ขาดไม่ได้เลยคือนายตำรวจหนุ่มสุเมธ
พวกเรารู้ว่าปีนี้เธอทำงานหนักมาโดยตลอด เราก็เลยอยากจะตอบแทนเธอด้วยการฉลองวันเกิดให้
หนูนาพูดขึ้น พร้อมทั้งเดินมาจูงมือเธอให้เดินมาเป่าเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะ
อธิฐานสิ
หนูนาพูดขึ้น น้ำผึ้งจึงประสานมือและอธิฐานทันที ฉันอยากรู้ว่าพี่เอกเป็นคุณอาหรือคู่รักในอดีตชาติของฉัน หรือว่านี่คือเรื่องบังเอิญที่เขาเกิดมาหน้าตาเหมือนชายในฝันของฉันซึ่งฉันได้เก็บความสงสัยมานานถึง 10 ปีแล้ว ได้โปรดช่วยบอกฉันทีเถอะว่านี่เรื่องจริงหรือเรื่องบังเอิญ เพราะตั้งแต่ที่ฉันเจอเขามันทำให้เรื่องราวที่ฉันเห็นมาโดยตลอด 10 ปีชัดเจนยิ่งขึ้น เธอนึกและเป่าเทียนบนเค้กทันที
รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำเค้ก
ส้มพูดขึ้นทำให้น้ำผึ้งรู้สึกสงสัย
อภินันทนาการจากนายตำรวจหนุ่มขวัญใจของเธอไง
เธอหันไปมองเขาแล้วก็ยกมือไหว้ขอบคุณ เธอยิ้มแล้วก็เดินไปหยิบจานกับช้อนเพื่อมาตัดเค้กแบ่งให้ทุกคนทาน
ถามจริง ๆ เถอะค่ะพี่เอก เมื่อเช้าพี่มาที่บ้านผึ้งไม่เห็นพี่บอกเลยว่าจะฉลองวันเกิดให้แล้วทำไมพี่ถึงขับรถมาเร็วนักคะเอพี่รู้ตั้งแต่เมื่อไรคะว่าวันนี้วันเกิดของผึ้ง
โอ้โหถามซะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรก่อนดีเลย เอาเป็นว่าพี่รู้ก็แล้วกันนะทานกันเถอะ
ทุกคนหัวเราะกันใหญ่ทำให้น้ำผึ้งรู้สึกเหมือนถูกเพื่อน ๆ รุมแกล้ง แต่เธอก็ดีใจที่ทุกคนจำวันเกิดของเธอได้ และสิ่งที่ดีใจที่สุดก็คือพี่เอกนายตำรวจหนุ่มของเธอ เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ควรจะคิดเกินเลยกับเขาเลย
แล้วพี่อุดมรู้ได้อย่างไรคะว่าวันนี้วันเกิดของผึ้ง
พี่ก็ไม่รู้หรอกแต่พอพี่มาทุกคนก็ให้พี่ออกไปรับหน้าเท่านั้นเอง สุขสันติ์วันเกิดนะครับ
ขอบคุณค่ะ
น้ำผึ้งยิ้มแล้วก็นั่งทานต่อ ทุกคนคุยกันสนุกสนาน เธอมองเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นอีกครั้งทำให้เธอรู้สึกสงสัยและเดินตามเด็กคนนั้นไปที่ด้านหลังของบริษัททันที
หนู ไม่ไปทานด้วยกันเหรอลูก
ไม่หรอกขอรับ กระผมกินไม่ได้ คุณแม่ต้องอนุญาตก่อน
ทำไมต้องขออนุญาตแม่ล่ะจ๊ะ ไปเถอะเดี๋ยวน้าจะพาไปทาน ไปสิ
คุณแม่ขอรับ
เด็กคนนี้พูดเสียงแจ๋ว เธอยิ้มแล้วก็นั่งคุยกับเด็กคนนั้น เธอรู้สึกผูกพันธ์กับเด็กคนนั้นมาก ความรู้สึกที่มีอยู่ภายในใจเธอทำให้เธอมีความสุขเมื่อได้คุยกับเด็กคนนั้น
ลูกเต้าเหล่าใครเนี่ย ทำไมแต่งตัวแปลก ๆ ล่ะลูก
กระผมลูกของคุณแม่ไงขอรับ
น้ำผึ้งอึ้งแล้วก็ยิ้ม ๆ เธอรู้สึกงง ๆ คิดอะไรไม่ออกเพราะจู่ ๆ เด็กคนนี้ก็มาบอกเธอว่าเป็นลูกของเธอทั้ง ๆ ที่เธอก็ยังไม่ได้แต่งงาน เด็กคนนั้นชี้ไปข้างหลังทำให้เธอหันตามมือน้อย ๆ นั้นไป
ทำอะไรอยู่เหรอผึ้ง
คุณอุดมเรียกเสียงหลงทำให้เธอสะดุ้งโหยง เมื่อหันกลับมาหาเด็กคนนั้นเขาก็หายไปเสียแล้ว เธอรู้สึกแปลกใจมากแล้วก็เดินตามหาเด็กคนนั้นจนคุณอุดมถามเธออยู่หลายครั้งแต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อเธอหาเด็กคนนั้นไม่เจอเธอก็รีบเดินเข้าไปนั่งคุยกับทุกคนทันที
พี่อุดมมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ
คือผมเอาเอกสารนี่มาให้ ผมเห็นว่าคุณทำงานด้านนี้ก็เลย
ขอบคุณค่ะ
น้ำผึ้งนั่งทำงานที่บริษัทอยู่ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันทำงานกันหมดแล้ว เธอรับโทรศัพท์แล้วก็แสดงสีหน้าที่ตกใจจากนั้นก็เดินมาหานายตำรวจหนุ่มทันที
พี่เอกคะคือพี่แก้ม
มีอะไรเหรอผึ้ง
ไปดูอาการพี่แก้มเถอะค่ะขอร้องนะคะ เราต้องรีบไปด่วนเลยค่ะ
ผมขอไปด้วยได้ไหม
คุณอุดมพูดขึ้น ทั้งสามคนจึงขับรถไปด้วยกัน โดยนายตำรวจหนุ่มนั่งไปกับน้ำผึ้ง ส่วนคุณอุดมขับรถตามไปติด ๆ
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลนายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาคุณหมอ
คือตอนนี้ผมต้องกระตุ้นหัวใจคนไข้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้คนไข้เกิดอาการช็อกและหัวใจหยุดทำงาน เอ่อผมว่าพวกคุณรออยู่ข้างนอกก่อนนะครับ
คุณหมอเข้าไปในห้องไอซียู นายตำรวจหนุ่มกุมมือน้ำผึ้งแน่น เขาทำหน้าเศร้าและกระวนกระวายใจจนคุณอุดมรู้สึกว่าทั้งคู่จะไม่ใช่แค่คนรู้จักเสียแล้ว
จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้คุณอุดมนึก
คุณน้ำผึ้งครับผมว่าคุณมานั่งตรงนี้ก่อนนะครับคุณเอกครับผมว่าคุณใจเย็น ๆ นะครับ ทุกอย่างมีทางแก้ไขได้
คุณอุดมบอกให้เธอออกมานั่งที่เก้าอี้และเดินเข้าไปคุยกับนายตำรวจหนุ่ม เขาภาวนาอยู่ตลอดเวลาว่าอย่าให้คุณแก้มเป็นอะไรไปเลยเพราะถ้าหากคุณแก้มแฟนสาวของเขาเสียชีวิต คุณน้ำผึ้งก็จะสนิทกับเขามากกว่านี้ ผมไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเลยคุณอุดมนึก
คุณหมอครับ!!! คุณหมอเป็นอย่างไรบ้างครับ
ตอนนี้หัวใจเริ่มทำงานแล้วครับ ถ้าคุณจะเข้าเยี่ยมเธอผมต้องขอเตือนก่อนนะครับว่าอย่าเสียงดังเพราะคนไข้อาจตกใจและมีอาการช็อกได้
ทุกคนเดินเข้าไปในห้องไอซียู คุณอุดมถึงกับตะลึงเมื่อเห็นร่างของคุณแก้มนอนอยู่บนเตียง เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอเธอที่นี่เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาฝันถึงบ่อย ๆ และเป็นคนที่ทำให้เขาเห็นภาพในอดีตชาติซึ่งเคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับคุณน้ำผึ้ง
แม่หญิงช้อย!!!!
คุณอุดมพูดเปลยออกมาทันทีทำให้น้ำผึ้งหันขวับมามองเขาอย่างสงสัย เพราะเธอก็คิดเหมือนกันว่าคุณแก้มน่าตาเหมือนคุณช้อยที่เธอเห็นในอดีต
เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะคะ
ปะเปล่าครับ
นายตำรวจหนุ่มรู้สึกกังวลใจมากที่เห็นคุณแก้มแฟนสาวเป็นแบบนี้ เขากุมมือเธอแน่นส่วนอีกมือหนึ่งจับมือของน้ำผึ้งเอาไว้ทำให้คุณอุดมรู้สึกว่าสองคนนี้ไม่ใช่แค่คนรู้จักกัน สองคนนี้น่าจะรักกันโดยไม่รู้ตัวไปเสียแล้ว หรือว่าลางบอกเหตุอันนี้จะบอกว่าสองคนนี้รู้เรื่องในอดีตของตัวเองคุณอุดมนึก
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี!!!!
เสียงคุณแก้มพูดขึ้นทำให้นายตำรวจหนุ่มถึงกับผงะ คุณอุดมเดินเข้าไปหาคุณแก้มและกระซิบข้าง ๆ หูทำให้เธอฟื้นขึ้นมา เธอจ้องมองคุณอุดมและโผเข้ากอดทันที นายตำรวจหนุ่มและน้ำผึ้งถึงกับงงและพยายามพูดกับคุณแก้มแต่เธอกลับแสดงท่าทีเหมือนไม่ได้ยินที่ทั้งคู่พูดออกมาเลย
เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมานะคะ
น้ำผึ้งวิ่งออกไปตามนายแพทย์ชิดชัย เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับแพทย์หนุ่มคุณอุดมจึงเดินห่างออกจากเตียงและมายืนใกล้ ๆ น้ำผึ้งทันที
ปาฏิหารย์มากผมไม่คิดว่าคุณกิตติยาจะฟื้นนะครับ แต่ดูเธอจะพูดไม่รู้เรื่อง ผมว่าต้องรอดูอาการก่อนนะครับ
แต่คุณหมอครับ เมื่อกี้ผมเห็นเธอนั่งคุยกับคุณอุดมได้นี่ครับ
พูดเป็นเล่นน่าคุณคุณก็เห็นอยู่ว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเธอไม่มีเลย
แต่เมื่อกี้ฉันก็เห็นจริง ๆ นะคะ
คุณอุดมจึงเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ เตียงและกระซิบข้าง ๆ หูของเธอ เธอยิ้มแล้วก็กอดคุณอุดมเอาไว้
คุณหลวงคะ อิฉันอยากอยู่แบบนี้ตลอดไปจังเลยเจ้าค่ะ
เมื่อคุณแก้มพูดจบเธอก็ทิ้งตัวลงนอนจากนั้นหัวใจของเธอก็หยุดทำงานทันที คุณหมอรู้สึกแปลกใจมากแต่เขาก็ต้องรีบช่วยคนไข้ให้ได้เสียก่อนเพราะตอนนี้คนไข้เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวทุกคนเดินออกมาจากห้องไอซียูเพื่อรอฟังอาการของคุณแก้มอีกครั้ง
นายตำรวจหนุ่มและน้ำผึ้งพยายามถามคุณอุดมว่าพูดอะไรแต่คุณอุดมกลับไม่ตอบเลยสักนิด เขายืนนิ่ง ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่ไม่กล้าถามอะไร
คุณหมอครับ!!!!
คนไข้มีอาการดีขึ้นเยอะเลยครับ
เฮ้อ.โล่งอกไปที
นายตำรวจหนุ่มยิ้มดีใจและหันมากอดเธอเอาไว้ทำให้คุณอุดมรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่เขาก็ต้องเก็บอาการเอาไว้เพราะตัวเขาเองอยู่ในฐานะที่ไม่ควรจะหัวเสียกับเธอเนื่องจากเขาไม่ใช่แฟนของเธอ
.8.
นางเอก พระเอก และเพื่อน ๆ ของเธอจะเป็นเช่นไร กับการตามล่าข้ามภพข้ามชาติของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีซึ่งมีใจรักต่อแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว และทั้งคู่จะสมหวังในรักหรือไม่ ทั้งคู่จะได้พบกับลูกชายในอดีตชาติที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้หรือไม่ อย่าพลาดตอนต่อไปนะคะ...
22 มีนาคม 2548 15:45 น.
สุชาดา โมรา
เงียบ ๆ หน่อยได้ไหมเสียงดังออกไปหลายคุ้งหลายแควแล้ว อ้าวอาบน้ำให้เสร็จก่อนพระเคาะระฆังนะเจ้าเดี๋ยวจะไม่ทันใส่บาตร
เสียงเจ้าคุณย่าตะโกนดังมาแต่ไกล บ่าวไพร่ต่างพากันเงียบไปหมด น้ำผึ้งแก้วขึ้นจากน้ำแล้วกลับไปยังเรือนเพื่อแต่งตัวเตรียมเข้าวังแต่เช้าเพราะหล่อนลาออกมาได้เพียงวันเดียวเท่านั้น
ใส่บาตรก่อนไปเสียด้วยเจ้า ย่าเตรียมของไว้ให้เสร็จแล้ว
เจ้าค่ะ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วเดินตรงมายังท่าน้ำเพื่อมาหาเจ้าคุณย่าที่ยืนรออยู่ หล่อนค่อย ๆ คลานเข้าไปหยิบข้าวของที่วางอยู่แล้วก็รอเรือของพระสงฆ์ที่กำลังพายมาแต่ไกล เมื่อพระมาถึงหล่อยจึงหยิบอาหารใส่ลงบาตรแล้วรอรับศีลรับพร
เจ้าคุณย่าเจ้าคะ หลานลาแล้วเจ้าค่ะ อีกสองปักษ์หลานจะกลับนะเจ้าคะ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วลาเจ้าคุณย่าก่อนที่จะลงเรือเรือลอยลำไปไกลมาก หล่อนมองเห็นบ้านเรือนและผู้คนมากมายที่กำลังพายเรือเพื่อไปจับจ่ายซื้อของแต่เช้าตรู่ เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องท้องน้ำก็ค่อย ๆ มองเห็นได้ชัดขึ้น หล่อนมองเห็นมือใครคนหนึ่งที่โผล่ออกมาจากใต้น้ำอยู่หลายครั้งหล่อนจึงพยายามจ้องมองมือของใครคนนั้นด้วยความรู้สึกหวั่นใจ
พี่เอี้ยง ฉันว่ามันคงมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้วละ
อะไรรึเจ้าคะแม่หญิง
เดี๋ยวนะขอฉันเถอะ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วคว้ามีดปลอกหมากของเอี้ยงพี่เลี้ยงคนสนิทมาถือเอาไว้แน่น ประจวบเหมาะกับตอนที่หล่อนเล็งเห็นว่ามือของใครคนหนึ่งพยายามเกาะเรือเพื่อให้เรือล่มนั้นหล่อนจึงเอามีดเฉือนไปที่มือของใครคนนั้นทันที ทำให้บาดแผลลึกมาก เลือดไหลอาบลงผืนน้ำเต็มไปหมด แต่เจ้าของมือคู่นั้นก็หารู้ไม่ว่ามือของเขาบาดเจ็บ เขากลับโครงเรือจนล่มลงในที่สุด
ช่วยด้วยเจ้าค่ะ.แม่หญิงตกน้ำ.ช่วยด้วยบ่าวว่ายน้ำไม่เป็นเจ้าค่ะ.!!!!!!!
เสียงตะโกนโหวกเหวกของพี่เอี้ยงดังลั่นพร้อมกับทิ้งร่างดิ่งลงไปในน้ำและทะลึ่งขึ้นมาอยู่หลายครั้ง มือของใครบางคนพยายามกอดรัดตัวแม่หญิงและบ่าว
ตูม!!!! เสียงของใครคนหนึ่งกระโดดลงน้ำจนแตกกระเซ็นเป็นฟอง
จ๋อมจ๋อมจ๋อม เขาว่ายน้ำมากอดตัวแม่หญิงไว้และพาขึ้นฝั่งทันที ส่วนพี่เอี้ยงบ่าวของแม่หญิงนั้นมีคนมาช่วยไว้ทันจึงขึ้นจากน้ำได้โดยปลอดภัย
คุณหลวง!!!!
แม่หญิงโผกอดคุณหลวงบดินทร์นฤบาลทันที หล่อนไม่รู้สึกเลยว่าจะละอายกับสิ่งที่กระทำลงไปเพราะหล่อนรู้สึกว่าหล่อนเองมิใช่คนโบราณอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อย ๆ จิตใต้สำนึกของคนในโลกปัจจุบันที่ยังคงฝืนตัวเองได้ก็แสดงออกมาได้เป็นบางครั้งบางคราว หล่อนรู้สึกตัวว่าหล่อนรักพี่เอกในคราบคุณหลวงอย่างชู้สาว มิใช่อย่างอาหลานเสียแล้ว เพราะหล่อนได้ก้าวกลับมาในอดีตหล่อนจึงได้รู้ว่าตนเองเคยชอบพอกับคุณหลวงอยู่ หล่อนจึงกล้าที่จะกอดเขา
ปล่อยเถอะเจ้า อายเขา
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลเอ่ยขึ้น น้ำผึ้งแก้วจึงละมือออกพร้อมทั้งแสดงอาการขวยเขิน
กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเจ้า
จับได้ไหมเจ้าคะ
คนล่มเรือน่ะรึ!!!
เจ้าค่ะ
ไม่ได้ดอกเจ้าแต่อย่างน้อย ๆ ก็คงจะได้บทเรียนไปอีกนาน เพราะพี่เห็นเจ้านั่นมีแผลที่มือข้างขวาลึกขนาดนั้น
อิฉันเอามีดกรีดเองเจ้าค่ะเพราะกลัวเรือจะล่ม
คุณหลวงพายเรือพาแม่หญิงและบ่าวกลับมาที่เรือนของตนเองที่อยู่ใกล้ ๆ กับคุ้งป่าหวาย เขาสั่งให้ผ่าวสองสามคนไปจัดเครื่องแต่งตัวมาให้แม่หญิงและบ่าวเปลี่ยน จากนั้นก็พายเรือไปส่งที่ท่าขุนนางเพื่อให้หล่อนเข้าวัง
น้ำผึ้งแก้วเดินเข้าประตูวังจนลับสายตาไปแล้วคุณหลวงบดินทร์นฤบาลจึงพายเรือกลับไป
แม่หญิงเจ้าคะ บ่าวว่าคุณหลวงท่านใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ
ใช่คุณหลวงใจดี
เอ๊ะ!!!! แล้วแม่หญิงว่าคุณหลวงท่านมองแม่หญิงแปลก ๆ หรือไม่เจ้าคะ
ก็ไม่นี่อย่าคิดมากน่า ไป!!!! ไปกราบเสด็จฯ ท่านก่อนเพราะวันนี้เรามาสายมากแล้วเดี๋ยวจะกริ้วไปกันใหญ่
น้ำผึ้งแก้วเดินมาถึงพระที่นั่งสุทธาสวรรย์หล่อนค่อย ๆ เดินขึ้นตำหนักช้า ๆ เมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างรุนแรง หล่อนรู้ทันทีว่านั่นคือใครจึงหมอบกราบทันที
หมอบเร็วพระปีย์มา
หล่อนบอกให้บ่าวหมอบกราบ เมื่อพระปีย์เสด็จออกไปได้ครู่หนึ่งแล้วหล่อนจึงค่อย ๆ คลานเข้าไปหาสมเด็จฯ ท่านช้า ๆ และหมอบกราบทันที
มาช้าเชียวนะเจ้าเอ้า!!!
หล่อนรับผ้าผืนนั้นมาและนำมาเช็ดพระบาททันที
รู้หรือไม่ว่าอ้ายเตี้ยลูกข้ามันดื้อมาก
หล่อนเงียบไม่ตอบอะไร
บ๊ะ.!!!!
หล่อนถึงกับสะดุ้งโหยงทันทีทำให้เสด็จฯ ท่านพร้อมทั้งนางในหลายคนหลุดหัวเราะออกมา หล่อนจึงก้มลงกราบและรีบตอบเพราะรู้สึกกลัวเกรงความผิด
หม่อมฉันมิทราบดอกเพคะ แต่หม่อมฉันรู้ว่าพระปีย์ท่านโปรดศาตราวุธมากกว่าตำรับตำรา หม่อมฉันคิดว่าพระองค์น่าจะค่อย ๆ ปราณีประนอมนะเพคะ
บ๊ะ!!!! อีนี่มึงรึจะสอนกู บังอาจนักนะ
ทรงสรวนดังลั่นตำหนัก หล่อนรีบหมอบกราบเพราะกลัวว่าพระองค์จะทรงกริ้วเรื่องที่หล่อนกล้าต่อปากต่ำคำกับท่าน
..
ผึ้งน้ำผึ้ง!!!!!
หะ.!!!!
น้ำผึ้งสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกเธอในกลางดึก เธอหันกลับมามองเสียงชายคนที่เรียกทันที
พี่เอก!!!
เธอเรียกเสียงหลงเพราะไม่คิดว่าเขาจะมายืนที่พระที่นั่งเย็นในกลางดึกอย่างนี้
คิดอะไรอยู่เหรอ
เปล่าค่ะ
เธอตอบทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และเห็นอะไรอยู่ เธอไม่กล้าตอบออกมาเพราะกลัวว่าเขาจะหาว่าเธอบ้า สติไม่ดี เธอจึงได้แต่ยิ้ม ๆ เท่านั้น
แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ
นายตำรวจหนุ่มถามเธอด้วยท่าทางงวยงง เธอก้มลงมองตัวเองแล้วก็แปลกใจเพราะตัวเธอเองกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอย่างคนโบราณ เธอไม่รู้จะตอบอย่างไรเพราะตัวเธอเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน
สายลมโชยมาเอื่อย ๆ เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่าง เธอจึงเดินกอดอกคุยกับนายตำรวจหนุ่มด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจทำให้นายตำรวจหนุ่มต้องถอดเสื้อนอกออกมาคลุมให้เธอทันทีเพราะกลัวว่าเธอจะหนาวไปมากกว่านี้
เสื้อพี่เอกอุ่นดีจังเลยค่ะขอได้ไหมคะ
ให้ได้ตลอดชีวิตเลยละ
หะ!!!!
เธอตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ เธอรู้สึกคุ้น ๆ กับคำพูดประโยคนี้มากแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเคยได้ยินที่ไหน ทำให้เธอยืนงงอยู่ นายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้ามาโอบไหล่เธอและพาไปขึ้นรถเพื่อพาไปส่งที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
เดี๋ยวค่ะพี่เอก
นายตำรวจหนุ่มกำลังจะสตาร์ทรถ เขาถึงกับหยุดทันทีและหันกลับมาคุยกับเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีอะไรเหรอ
ทำไมถึงรู้ว่าผึ้งอยู่ที่นี่ล่ะคะ
สัญชาตญาณมันบอก
และพี่ทำไมถึงมาตามผึ้งล่ะ
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ามีเสียงใครบางคนคอยกระซิบข้าง ๆ หูพี่ตลอดเวลาว่าให้มาเพราะถ้าไม่มาจะไม่เจอผึ้ง
เธอนั่งงง ๆ อยู่ในรถพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่สงสัยเพราะจู่ ๆ ทำไมเขาถึงมาตามหาเธอทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย
เสียงเหรอ ใครกันนะ!!!! เธอนึก
พี่เอกคะ เสียงเหรอคะ พี่จะบอกว่าผีกระซิบบอกหรือไงคะ
บ้าน่าแต่ก็ช่างเถอะพี่รู้ละกันว่าเธออยู่ที่นี่
นายตำรวจหนุ่มนั่งหัวเราะแล้วก็หันมาขยี้หัวเธอ ทำให้เธอยกมือขึ้นไปจับมือของเขาออกมาจากหัวและเอามาแนบไว้ที่แก้มทันที เธอหลับตาพริ้มพร้อมทั้งสูดลมหายใจลึก ๆ ทำให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกแปลกใจ
พี่เอกเชื่อเรื่องอดีตชาติไหมคะ
ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
นายตำรวจหนุ่มขับรถมาส่งเธอที่บ้าน เขาเดินลงมาส่งเธอกับพ่อแม่ของเธอ เขาคุยกับผู้ใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง เสียงวอวิทยุดังอยู่หลายครั้งเขาจึงขอตัวลากลับก่อน
ทำไมเราถึงมายืนอยู่ที่พระที่นั่งเย็นได้นะ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้เรายังอยู่ที่พระตำหนักในวังนารายณ์อยู่เลย น้ำผึ้งนึก
..7.
นางเอก พระเอก และเพื่อน ๆ ของเธอจะเป็นเช่นไร กับการตามล่าข้ามภพข้ามชาติของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีซึ่งมีใจรักต่อแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว และทั้งคู่จะสมหวังในรักหรือไม่ ทั้งคู่จะได้พบกับลูกชายในอดีตชาติที่ทำให้เขาได้พบกับรักแท้หรือไม่ อย่าพลาดตอนต่อไปนะคะ...