13 กุมภาพันธ์ 2548 19:37 น.
สุชาดา โมรา
แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม วัน เดือน ปี ไม่เคยทำให้ความรัก ความสุข ที่พ่อแม่มีต่อลูกจืดจางลงเลย ถึงแม้ตอนนี้เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ความรักที่พ่อแม่มอบให้ก็ยังเหมือนเดิม นับตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนชัยบาดาลวิทยา และได้ก้าวเข้ามาเรียน ณ สถาบันราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี มีความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เรียนการศึกษาแห่งนี้ ตลอดเวลาที่มาเรียน ฉันชอบนั่งคิด๔งพ่อแม่เป็นประจำ เพราะพ่อแม่บอกว่ายามใดที่ลูกคิดถึงพ่อแม่ พ่อแม่จะคิดถึงลูกมากกว่าหลายเท่า เมื่อถึงวันศุกร์ทุกสัปดาห์ พ่อแม่จะนั่งรอด้วยใจจดจอ เมื่อไรลูกจะกลับมาถึงบ้านสักที พอถึงบ้านก็สวัสดีพ่อแม่ โอบกอดพ่อแม่อย่างมีความสุข อ้อมกอดใดเล่าจะอบอุ่นเท่าอ้อมกอดพ่อแม่ พ่อแม่จะเตรียมอาหารกับข้าวของโปรดของลูกไว้เยอะมาก พ่อแม่จะยิ้มอย่างมีความสุขตลอดเวลาที่ลูกสาวได้กินข้าวหมดจาน และตอนเย็นก็มานั่งคุยปรึกษากัน พูดคุยสนทนาอย่างมีความสุข ที่สำคัญคือจะพยายามไม่นำเรื่องไม่สบายใจมาเล่าให้พ่อแม่ฟังเลย เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาทุกใจกับเราด้วยเมื่อมีความทุกข์จะเก็บความทุกข์และแก้ไขด้วยตนเอง จะไม่นำมาไว้ในครอบครัว เพราะครอบครัวของเรามีแต่ความสุขที่มอบให้กัน ฉันเคยนำความทุกข์ความไม่สบายใจมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง เท่าที่สังเกตใบหน้า เหมือนท่านทุกข์กับเรามาก ก็เลยคิดว่าต่อไปนี้จะไม่นำสิ่งที่ไม่สบายใจมาเล่าให้พ่อแม่ฟังอีกต่อไป
วันหยุดพักผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช้าตรู่ของวันอาทิตย์พ่อแม่จะเตรียมอาหารการกินเพื่อให้ลูกนำมาไว้กินไว้ใช้หอพักทุกครั้ง ความรู้สึกของพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกไปไกลอยากให้ลูกอยู่ใกล้ ๆ แต่เพื่ออนาคตของลูกพ่อแม่ยอมทุกอย่าง ถึงแม้จะคิดถึงมากมายแค่ไหนก็ตามฉันสอบติด มหาวิทยาลัยศิลปกร แต่เพราะความคิดถึงของพ่อแม่และเราก็คิดถึงพ่อแม่ด้วยจึงไม่ได้ไปเรียนที่ศิลปกร ได้มาสอบที่สถาบันราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี สอบได้ก็ได้เรียนภูมิใจมากที่ได้เรียนสถาบันราชภัฏเทพสตรี ได้เรียนได้ศึกษาและที่สำคัญได้อยู่ใกล้พ่อแม่ด้วย แม้จะใกล้ไกลแค่ไหนความรักความคิดถึงที่พ่อแม่มีต่อลูกก็ยังเหมือนเดิม
ในชีวิตได้ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่า ไม่ว่ามั่งมี สูงศักดิ์ ร่ำรวย ยากดี มีจน จะไม่มีวันทิ้งพ่อแม่โดยเด็ดขาด ที่เติบโตเติบใหญ่ได้ เรียนสูงถึงระดับนี้ ก็เพราะพระคุณของพ่อแม่ ความรักความห่วงใยที่มีต่อลูก ทำให้เรามีชีวิตที่ดีเพียบพร้อมทุกอย่างก็เพราะท่านทั้งสอง ลูกคนนี้ขอสัญญากับพ่อแม่ว่าจะเรียนให้จบ เมื่อสำเร็จการศึกษามีงานทำที่ดีจะคงเป็นลูกที่ดีอย่างนี้ตลอดไปและจะไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจและผิดหวัง...ลูกคนนี้ขอสัญญา
รักและคิดถึงพ่อแม่ที่สุดในชีวิต ไม่มีใครมาแทนที่ท่านได้ กลอนนี้อยากจะมอบให้พ่อแม่ จากใจลูกถึงใจพ่อแม่บุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนนี้ ความสุขที่ได้รับทุกเวลาทุกนาทีจากพ่อแม่ คือ ความรัก ความสุขที่ยิ่งใหญ่ไม่มีที่เปรียบ
เก็บเวลาในดวงใจ เก็บความห่วงใยเท่าที่มี เก็บความคิดถึงและรู้สึกดี. ดี.เก็บไว้ทั้งหมดนี้ที่พ่อแม่ทั้งสองคน
13 กุมภาพันธ์ 2548 19:11 น.
สุชาดา โมรา
จากอดีตสานสู่ปัจจุบัน วิถีชีวิตคนไทยนับตั้งแต่อดีต มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายพออยู่พอกิน มีทรัพย์ในดินมีสินในน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ และอีกทั้งยังมีภูมิปัญญามายังลูกหลานจนทุกวันนี้ มรดกทางภูมิปัญญาที่ได้มาเราควรจะสานต่อ นอกจากนี้คนไทยก็ยังมีวัฒนธรรมอันงดงามน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
ในปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีภูมิปัญญาที่มากมายหลากหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่ภูมิปัญญานั้นส่วนมากจะอยู่ตามพื้นถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง อย่างเช่นจังหวัดลพบุรีก็จะขอนำเสนอตำบลบางคู้ เพราะตำบลบางคู้เป็นถิ่นแห่งภูมิปัญญาที่เราควรจะสืบสานต่อ และที่สำคัญไปกว่านั้นบางคู้ยังมีสิ่งที่ดี ๆ ที่มีผู้คนอีกหลายคนยังไม่รู้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากรู้
จากการที่ได้ไปศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับตำบลบางคู้ บางคู้เป็นชุมชนที่มีการพัฒนาที่สูงมาก ไม่ว่าจะเรื่องการประกอบอาชีพ ความอยู่ดีมีสุขของคนในชุมชนนั้น การอยู่ดีมีสุขก็รวมไปถึง การมีสุขภาพอนามัยที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ มีความรู้ มีงานทำทั่วถึง มีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ มีครอบครัวที่อบอุ่นมั่นคง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
การประกอบอาชีพของคนบางคู้ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกร เช่น ทำไร่ ทำนา เพราะเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนนั้น การประกอบอาชีพทำไร่ทำนาก็เป็นการสานต่อมาจากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน ส่วนอาชีพเสริมของผู้คนบางคู้ ก็เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นจากที่ธรรมชาติได้สร้างสิ่งที่ดี ๆ มาให้เรา บางคนอาจจะมองข้ามไปโดยไม่เห็นประโยชน์ของสิ่งสิ่งนั้น แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่สามารถนำภูมิปัญญาที่มีอยู่มาพัฒนา ให้เกิดค่าและมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต กับการผสมผสานภูมิปัญญาที่มีอยู่ให้สืบเนื่องต่อไป
ภูมิปัญญาของคนบางคู้นั้น เป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาทั้งสิ้น เพียงแต่เราจะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยน์อย่างไร อย่างเช่นบ้านบางคู้ มีการทำผลิตภัณฑ์จากกะลาที่สวยสดงดงามตระการตาที่ผู้คนได้พบเห็น จากการที่ไปสำรวจสอบถามคนบางคู้ที่ทำผลิตภัณฑ์จากกะลาก็ได้ทราบว่า การประกอบอาชีพนอกเหนือจากการทำไร่ทำนาแล้ว อาชีพเสริมก็คือการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แล้วยังส่งผลไปยังเศรษฐกิจของชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ส่วนกะลามะพร้าวที่นำมาทำผลิตภัณฑ์นั้น ก็มาจากชุมชนหมู่บ้านบางคู้ ที่มีต้นมะพร้าวเป็นทุนอยู่แล้ว ก็นำกะลามะพร้าวจากครัวเรือนของเรานี่เอง เช่น การทำขนมไทยจากกะทิ แกงกะทิ กะลามะพร้าวที่ทุกคนมองข้าม ที่เราโยนทิ้งโดยไม่เห็นคุณค่าของมันเลย แต่ปัจจุบันนี้กะลามะพร้าวสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และชุมชนบ้านบางคู้ได้มากมหาศาล และนี่ก็เป็นอีกความคิดใหม่ที่สามารถนำภูมิปัญญาที่มีอยู่ แล้วมาผสมผสานให้เกิดภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ และมีการพัฒนาได้เป็นอย่างดีจึงจะเป็นสิ่งที่ควรสืบทอดภูมิปัญญาใหม่ให้เกิดในวิถีของคนไทยในปัจจุบัน
13 กุมภาพันธ์ 2548 19:07 น.
สุชาดา โมรา
ผู้หญิงในสังคมไทย มีสถานะเป็นได้แค่เพียงแม่และเมียที่ดี คำว่า แม่ ยังแสดงธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ให้เราเข้าใจความหมายของชีวิตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม่ในวรรณคดีจึงไม่ใช่เป็นเพียงตัวละครที่โลดแล่นตามบทบาทที่กวีกำหนด หากแต่ตัวละครเหล่านี้แสดงให้เห็นความเป็นชีวิตที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน
ดั่งพระนางมัทรี ในมหาเวสสันดรชาดก ที่เป็นชายาของพระเวสสันดร ซึ่งภรรยาตามแบบอุดมคติของสังคม คือ เทิดทูนสวามีเหนือเกล้า มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีแต่พระสวามีเพียงผู้เดียว พระนางมัทรีจึงยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าพระนางจะขอตามเสด็จพระเวสสันดร ไม่ว่าจะต้องมีชีวิตที่ยากลำบากอย่างไรก็ตาม เราจะสังเกตได้ว่า พระนางมัทรีมีลักษณะนิสัยที่เข้มแข็ง พระนางไม่เพียงคิดตามเสด็จพระสวามี เพราะเป็นจารีตของภรรยาที่ดีเท่านั้น แต่ทรงถือเป็นหน้าที่จะปกป้องดูแลพระสวามีทุกอย่าง เพื่อให้พระเวสสันดรไม่ลำบาก โดยไม่คำนึงถึงพระองค์เองเลย
ด้วยความจงรักภักดีและความกตัญญู ต้องการให้พระเวสสันดรบำเพ็ญพรตอยู่สบายโดย ไม่ต้องลำบากพระวรกาย เสด็จไปแสวงหาผลาผลเพื่อเลี้ยงครอบครัว พระนางจึงขออาสาเป็นผู้ออกป่าไปหาผลไม้ให้สวามีและโอรสธิดา ความมุ่งมั่นยอมลำบากกายนั้น ยังไม่เทียบเท่าการยอมทุกข์ใจเพื่อประโยชน์แห่งการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดร ความทุกข์ใจที่รุนแรงที่สุด คือการสูญเสียพระโอรสและพระราชธิดา แสดงการพิลาปคร่ำครวญของพระนางมัทรีอย่างสะเทือนอารมณ์ แต่เมื่อพระนางทราบว่าพระโอรสพระธิดาไม่ได้หายไป หากแต่พระเวสสันดรบริจาคเป็นทานแก่ชูชก พระเวสสันดรขอให้พระนางช่วยอนุโมทนาทานด้วยศรัทธา พระนางก็อนุโมทนาให้ด้วยความเต็มพระทัย
พระนางมัทรีผ่านความทุกข์ทรมานใจรุนแรงสาหัส ด้วยความเป็นแม่ทำให้พระนางพิลาปร่ำไห้ราวกับจะสละชีวิตเพื่อลูกได้ แต่ด้วยความเป็นพระชายาทำให้มัทรีสละลูกได้เพื่อให้พระสวามี การเสียสละของนางมัทรีจึงไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อมนุษย์ในสากลโลก พระนางมัทรีจึงเป็นนางแก้วคู่บารมีของพระเวสสันดรในการร่วมกันเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแห่งมนุษย์โลกทั้งปวง
ความเป็นแม่ที่มีความรักลูกท่วมหัวใจ และหวงแหนลูกสุดชีวิต เมื่อตัดสินพระทัยตามเสด็จพระเวสสันดรเข้าสู่ป่าหิมพานต์ พระเจ้าสูญชัยและพระนางผุสดีขอพระชาลีและกัณหาไว้พระนางมัทรีไม่ยอมยกให้ แม้จะเข้าพระทัยดีว่า พระเจ้าสูญชัยทรงสงสารพระราชนัดดา ไม่อยากให้ต้องลำบาก พระนางกราบทูลจึงพระเจ้าสูญชัยด้วยน้ำเสียงเสียดสีว่า
ขึ้นชื่อว่าบุตรเป็นที่สุดแสนเสน่หาถึงชั่วช้าประการใด ใจสามารถเป็นหนามเสี้ยนเบียดประชาราษฎร์ควรห้ามเฝ้า จะตัดจากลูกเต้านั้นไม่ขาด เกล้ากระหม่อมเหมือนฝ่าละอองธุลีพระบาทก็คงจะตัดพระลูกขาดได้คล่อง ๆ ... ข้ามัทรียังมีอาลัยเป็นล้นพ้นกว่าจะเลี้ยงได้ตะละคน ๆ สุดแสนยาก ทูลกระหม่อมจะมาพรากไปจากอก ดั่งจะหยิบยกเอาดวงใจไปจากกาย
เมื่อชูชกเดินทางมาถึงอาศรมสถานในยามเย็น ชูชกไม่ผลีผลามเข้าไปทูลขอสองกุมารในทันที เพราะทราบดีว่าพระนางมัทรีจะต้องขัดขวางถึงที่สุดตามธรรมชาติของแม่ที่ต้องหวงแหนลูกยิ่งชีวิต ชูชกรอคอยจนกว่าจะรุ่งสาง เป็นเวลาที่พระนางมัทรีต้องออกไปหาผลไม้ตามปกติแต่ในคืนนั้น ด้วยสังหรณ์ว่าจะมีเหตุร้ายทำให้พระนางมัทรีนิมิตฝันน่ากลัวและมีกิริยาอาการเป็นลางอาเพศบอกเหตุหลายอย่าง ด้วยความเกรงว่าหากทำนายฝันตามที่เป็นจริง พระนางมัทรีจะเป็นภัยขัดขวางการกระทำปิยบุตรทาน พระเวสสันดรจึงทำนายนิมิตฝันว่า เป็นเพราะพระนางมัทรีมาตกระกำลำบากทั้งการเสวยการบรรทม ดังนั้น ธาตุทั้งสี่จึงวิปริต
เมื่อปลุกพระชาลีพระกัณหาให้ตื่นบรรทมแล้ว จึงอุ้มแก้วกัณหาพ่อชาลีขึ้นสู่ตัก สั่งเสียให้พระชาลีดูแลพระกัณหา ดั่งที่ครวญสั่งพระโอรสธิดาว่า
...พ่ออยู่หลังระวังน้องให้จงดี พ่ออย่าตีกันฟังแม่ว่าแม่กัณหาเอ่ยแม่อย่าหลงระเริงเลยแล่นไปนักนะแม่ แม่จงเสงี่ยม อย่าตะลีตะเลียมชะล่าไปให้ไกลพี่ พ่อชาลีเหล่าก็อย่าเลินเล่อละพระน้องให้แล่นเล่นแต่ลำพัง จงฟังแม่พร่ำสอนพร่ำสั่งทุกสิ่งอัน...
ความรักความห่วงใยที่มีต่อพระกุมาร ทำให้พระนางมัทรีไม่เป็นสุขเลย เมื่อต้องเดินทางไปหาผลไม้ในป่าตามที่ทรงกระทำเป็นกิจวัตร เมื่อพระทัยของพระนางรุ่มร้อนเช่นนี้ สิ่งที่พระนาง เห็น จึงปรวนแปรไปด้วยพระอารมณ์ที่เศร้าหมอง
พระนางมัทรีพยายามเก็บผลไม้โดยเร็ว เพื่อจะได้เสด็จกลับแต่วัน แต่เนื่องจากเทพยดาทรงทราบดีว่าพระนางรักลูกสุดชีวิต หากเสด็จกลับแต่วัน ก็จะพบว่าพระเวสสันดรได้พระราชทานพระชาลีกัณหาให้แก่ชูชกไปแล้ว เทพยดาจึงแปลงร่างเป็นราชสีห์และเสือมาขวางทางไว้จนค่ำจึงปล่อยให้พระนางกลับสู่อาศรม เมื่อเสด็จถึงและไม่พบชาลีกัณหาวิ่งมารับเช่นเคย เมื่อไม่เห็นก็ใจหายคร่ำครวญหวนไห้ เพราะเกรงว่าจะสูญเสียพระกุมารไปเหมือนดังลางสังหรณ์ในนิมิตฝัน
หากเราคำนึงถึงความเป็นจริงว่าพระชาลีกัณหาเป็นเพียงทารกน้อยที่ยังไม่อดนมก็ถูกพรากไปจากมารดา ความโหยหาของสองกุมารที่มีต่อพระราชมารดานั้นย่อมมี แรงผลักดันมาจากความกระหายในน้ำนมแม่อันเป็นธรรมชาติของเด็ก เมื่อทั้งสามพระองค์ซึ่งมีจิตใจจดจ่อต่อกันอยู่พบกัน ความตื่นเต้นสะเทือนใจสุดประมาณทำให้ทั้งสามถึงกับสิ้นสติสัมปชัญญะ แต่สิ่งที่เป็นความปรารถนาฝังลึกในจิตใต้สำนึกของทั้งสามพระองค์ คือ ความผูกพันของลูกและแม่ เป็นเพศเดียวที่สามารถส่งผ่านกระแสความรักของตนไปสู่ผู้ที่ตนให้กำเนิดด้วยธารน้ำนม สิ่งอัศจรรย์ที่บังเกิดน้ำนมไหลจากพระเต้าของพระนางมัทรีเข้าสู่ปากพระชาลีกัณหา จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงว่าพระนางมัทรีและสองกุมารต่างบรรลุความปรารถนาที่ต้องการพบกันและได้ถ่ายทอดความรักสู่กัน
เรื่องของชาดกเรื่องนี้ให้ชัดเจนและเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความรักความผูกพันที่ผู้เป็นแม่มีต่อลูกอันเป็นที่รักที่สุดในชีวิต ถ้าชีวิตจริงของผู้เป็นแม่เจอกับอุปสรรคกับการสูญเสียลูกไป เชื่อว่าผู้ที่เป็นแม่ไม่ยอมแน่นอน ความหมายของคำว่ารักยากนักที่จะมาบรรยายเป็นถ้อยคำ ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะความรักที่เกิดขึ้นกับแม่และลูก จะมีแม่ที่ไหนที่ไม่รักลูกบ้างต่อให้ลูกชั่ว ลูกไม่ดีแค่ไหนความผูกพันทางสายเลือดความเป็นแม่ที่มีต่อลูกก็จะยิ่งผูกพันเป็นล้านเท่า ก็ด้วยความรักความห่วงใยที่ตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาดเพราะลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของแม่ ในความเป็นแม่ลูกจึงเป็นเหนือกว่าชีวิตสิ่งอื่นใดๆ
ถ้าจิตใต้สำนึกกำลังหลงระเริงกับชีวิตสวยหรู ก็อยากให้หันกลับมารักดูแลครอบครัว มาสร้างความอบอุ่นให้กับสถาบันครอบครัวตอนนี้ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไปและขอให้เชื่อในความรักของผู้ที่เป็นแม่เถอะว่า แม่รักลูกทุกคนด้วยความบริสุทธิ์ใจของแม่จริงๆ
สังคมเจริญขึ้นทุกวันจะมีสักกี่พันคนที่จะนึกถึงพระคุณแม่ผู้ให้กำเนิด อยากให้สังคมทุก ๆ สังคมมาสร้างจิตสำนึกรักแม่ให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าการแสดงความรักของลูกที่มีต่อแม่อาจจะน้อยกว่าที่แม่มีให้ต่อลูก แต่ถ้าเราให้ความรักด้วยรักจริงและสิ่งนี้เองที่เป็นของขวัญและเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตของแม่
อานุภาพของความรักอันยิ่งใหญ่นี้เป็นตัวแทนความรักของแม่ที่มีต่อลูก
13 กุมภาพันธ์ 2548 18:58 น.
สุชาดา โมรา
ในที่ไกล ๆ บ้านไกล ๆ เมือง เวลาพระธุดงค์ผ่านไปทางนั้น ชาวบ้านที่มีลูกหลานไว้จุก ไว้แกละ มักจะขอให้ท่านช่วยโกนผมให้เด็กเพื่อเป็นสิริมงคลเพราะจะพาไปวัด วัดก็อยู่ไกล ครั้นโกนเองก็ทำไม่ได้ เป็นธรรมเนียมและความเชื่อมาแต่โบราณว่า ถ้าโกนผมให้เด็กเองแล้ว เด็กจะบ้า หรือสติไม่ค่อยดี จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยง
ทางต่างจังหวัดจะจัดพิธีโกนจุกประจำปีกันที่วัดไหนบ้างไม่ทราบ แต่ที่กรุงเทพฯ และเมืองนนทบุรี มีพิธีโกนจุกเด็กประจำปี ทุกปีต่อเนื่องกันมานานแล้วไม่ได้ขาด
แห่งหนึ่งคือโบสถ์พราหมณ์ ที่เสาชิงช้า ข้างวัดสุทัศน์ เป็นแหล่งที่สำคัญ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีต่าง ๆ ของพระมหากษัตริย์ตลอดมา พราหมณ์ทั้งหลายก็ถือเป็นข้าราชการมีเงินเบี้ยหวัดกันเหมือนข้าราชการทั่วไป
ที่จริง การโกนจุกที่โบสถ์พราหมณ์นั้นพอเอาเข้าจริง ๆ แล้วการทำพิธีนี้ก็หาใช่จัดขึ้นเพื่อโกนจุกลูกชาวบ้านโดยตรงไม่ ( สำหรับเจ้าฟ้า เจ้านาย ย่อมมีพระราชพิธีโสกันต์ และเกศากันต์ในวัง และลูกผู้ดีมีเงินก็มักจะจัดกันตามบ้านตัวเองอยู่แล้ว ) งานโกนจุกโบสถ์พราหมณ์เป็นผลพลอยได้จากพิธีตรียัมปวาย หรือพิธีเนื่องในวันปีใหม่ของพราหมณ์
ในวันขึ้นปีใหม่พระเป็นเจ้าทั้งสามที่พราหมณ์นับถือจะลงมาเยี่ยมโลก เมื่อขณะที่พระเจ้าลงมานี้ ถือเป็นวันมงคลจะทำการใด ๆ ก็ได้ทั้งสิ้น แม้ตามทางบวกลบคูณหารจะว่าเป็นวันไม่ดีอย่างไร แต่ในเมื่อมีพระผู้เป็นใหญ่ประทับเป็นมิ่งขวัญอยู่ สิ่งเลวร้ายใด ๆ ก็ย่อมไม่อาจเข้ามากล้ำกรายได้
ในที่สุดจะเริ่มเมื่อรัชกาลใดไม่ทราบ ระหว่างพิธียัมปวายนี้ก็เกิดผนวกเอาการโกนจุกโกนแกละ ลูกหลานชาวบ้านเข้ามาร่วมด้วย พ่อแม่ปู่ย่าตายายคนไหน เห็นว่าลูกหลานถึงอายุหรือได้เวลาควรโกนจุกก็หอบลูกกันมาให้พราหมณ์ทำพิธีตัดจุกให้
วันที่จะโกนจุกได้แก่ วันแรม 6 ค่ำ เดือนยี่ ถ้าเทียบกับสมัยนี้คือต้น ๆ เดือนมกราคม อย่างเช่น ปีนี้ก็เพิ่งโกนไปเมื่อวันอังคารที่ 7 มกราคม ( ปกติ วันอังคารนั้นเขาถือเรื่องไม่ให้ตัดจุก เพราะเป็นวันพระขันกุมารคอขาด คราวจะตัดจุกคือพระนารายณ์ท่านได้เชิญให้ไปร่วมงานโกนจุกด้วย แต่นอนหลับเพลิน ๆ ก็มีคนมาปลุก ท่านนึกหงุดหงิด จึงตรัสออกไปว่า ไอ้ลูกหัวหาย คือพูดส่งเดชด้วยอารมณ์ ทันใดนั้นหัวพระขันธกุมารก็หายไปจริง ๆ ภายหลังต้องหาหัวมาต่อให้วุ่นวาย จนไปได้หัวช้างมา พลอยให้เรียกกันว่าพระคเณศจนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวแล้วว่าช่วงตรียัมปวายเป็นวันมงคลถึงจะโกนวันอังคารก็ไม่เป็นไร )
งานโกนจุกที่จริงมี 2 วันคือ ข้ามไปเย็นวาน วันแรม 5 ค่ำเดือนยี่ ต้องพาเด็กเข้าฟังพระสวดมนต์เย็นก่อน เลิกแล้วใครจะไปไหนก็ได้ บางคนก็กลับบ้าน บางคนก็ต้องนอนที่นั่นเพราะมาไกล จากหาดใหญ่ บางคนก็มาจากฉะเชิงเทรา ยิ่งสมัยก่อนก็ต้องมาจากหลาย ๆ จังหวัดเพราะทางโบสถ์พราหมณ์มีบัตรและลงทะเบียนเอาไว้ ตั้งแต่ตอนบ่าย พอจะค้นดูไว้สถิติที่เด็กมากันมากนั้นว่า 500-600 ก็ยังเคย ลองเทียบดูกับ 79 คนของปีนี้แล้วก็คงเห็นแล้วว่าเด็กไว้จุกจะน้อยลงไปทุกที
9 กุมภาพันธ์ 2548 22:42 น.
สุชาดา โมรา
เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งทุกคนก็รู้กันดีว่าเป็นวันวาเลนไทน์นั้นมีความสำคัญอย่างไร วาเลนไทน์ ( Valentine ) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์ วาเลนไทน์ ( Saint Valentine ) ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงแต่เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีมาแล้วในจักรวรรดิโรมัน ประวัติความเป็นมาของเรื่องนี้เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3 มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มากทุก ๆ วันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็นไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจนโดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้นนะคะศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมันและถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์จะมีความผิดร้ายแรงมาก พวกคริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนัก เพื่อบังคับให้เลิกเป็นคริสเตียน ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือคริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัส ก็รวมอยู่ในกลุ่มขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมานบังคับให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุก ในข้อหาเป็นคริสเตียน
ในขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น ก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาซึ่งเธอตาบอด หายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมานับถือศาสนาคริสต์ เมื่อความนี้นี้เองรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัส อย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ
ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรัก ของเขาและลงท้ายในจดหมายว่า "จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะและเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อมสุสานของเขาไว้เพื่อเป็น อนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขาจึงยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Saint Valentine's Day หรือ Valentine's Day หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและอเมริกา และเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย
แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่สงสัยว่าทำไมความรักต้องแทนด้วยกุหลาบด้วยใช่ค่ะกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่าชายหรือหญิงคนนั้นมีความรักและความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกัน คุณรู้ไหมว่าตามวรรณคดีเรื่องหนึ่งของไทยนั้นก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับกุหลาบเหมือนกันเรื่องราวอันหอมหวานและความรักที่แสนจะโรแมนติคของนางฟ้ากับพระราชาในเรื่องมัทธนพาทา ของรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงประพันธ์ขึ้นไว้อย่างจับใจเพื่อน ๆ ก็ลองไปหาอ่านดูนะคะเพราะถ้าดิฉันเล่าต่อเรื่องราวก็คงจะไม่สนุก ว่าง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ พอจะมีเวลาสักนิดก็ลองไปหาอ่านดูนะคะรับรองว่าจะต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ
แล้วก็ต้องฝากไว้อีกเรื่องนะคะว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ทุกคนแสดงความรักต่อกันไปทั่วทั้งโลก เป็นวันที่เปิดโอกาสให้ชายหญิงแสดงความรักต่อกัน แต่ตามสถิติที่เป็นข่าวกันอยู่ทุกวันนี้นั้นวันวาเลนไทน์ก็เป็นวันที่ทำให้คู่รักหลายคนปันหัวใจและร่างกายต่อกัน ซึ่งนั่นเป็นวิธีการแสดงความรักแบบที่ผิดจารีตและประเพณีที่ดีของคนไทย ดิฉันจึงขอฝากเพื่อน ๆ และกลุ่มวัยรุ่นทุกคนที่รักสนุกไว้ว่า รักสนุกก็ทุกข์ถนัดนะคะ คิดถึงพ่อแม่ไว้ให้มาก ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปอย่าปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ขัดต่อวัฒนธรรม จารีต ประเพณี ที่ดีของคนไทยซึ่งบรรพบุรุษไทยได้สร้างสมและสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานให้สูญสลายไปเพราะค่านิยมที่ผิด ๆ ของพวกเราเลยนะคะเก็บนิ้วนางของเราเอาให้คนที่เรารักไว้สวมแหวนให้ดีกว่านะคะและก็ต้องรักนวลสงวนหญิงเอาไว้เพื่อให้ตัวเองมีค่ามากที่สุดจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นว่าตัวเราเองมีค่ามากแค่ไหนสำหรับคนที่เรารักและปรารถนาที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่า