14 มกราคม 2548 12:04 น.
สุชาดา โมรา
เปล่าแต่ว่าผู้ชายคนนั้นหล้อหล่อละตัวเอง
บ้ายังมีแก่ใจมาเล่นอีกไปเข้างานเถอะ
กุหลาบสีขาวนี่กัญญาแทบจะกว้านเอามาหมดจากไร่ดอกไม้ที่มีที่นี่ วันนี้หล่อนต้องการให้มีเพียงกุหลาบสีนี้สีเดียว...กัญญาให้คุณวจีมารับดอกไม้ ขณะที่หล่อนกำลังแต่งตัวอยู่นั้นคุณวจีก็จะต้องแต่งเตรียมสถานที่ด้วยดอกไม้สดทั้งหมดและหล่อนเลือกแต่กุหลาบ... ฝีมือการจัดดอกไม้ของคุณวจีอยู่พอประมาณ คุณวจีทำตามคำสั่งของกัญญาซึ่งจะเนรมิตงานนี้ให้เป็นเวทีสำหรับนางฟ้าเท่านั้นคุณวจีและลูกน้องจัดซุ้มและตกแต่งงานให้ดูราวกับสวรรค์บนดินเลยทีเดียวบ่งบอกถึงความมีรสนิยมของเจ้าของงานและความโรแมนติกของกัญญามากยิ่งขึ้น
กัญญาเป็นคนที่ทำอะไรได้หลายอย่างหากว่าเธอต้องการจะทำ นิสัยของเธอเป็นอย่างนั้นเรียนรู้สิ่งต่างๆ และเอาจริงเอาจังกับมันสักระยะที่เธอเห่อและตื่นเต้นกับสิ่งนั้นๆ แต่พอความรู้สึกแต่แรกคลายหายไปหล่อนก็จะไม่ใส่ใจอีกเลย...กัญญาจึงเป็นคนเบื่อง่าย เธอมีอารมณ์ที่วูบวาบทั้งทางขึ้นและลง... เธอไม่ค่อยได้อยู่ตรงกลางกับสิ่งใด ๆ ที่ผ่านเข้ามา เรียกว่าไม่มากเกินไปก็น้อยเกินไปเสมอและงานนี้ที่เธอได้เสกสรรขึ้นก็เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานและลูกค้ารายใหญ่ได้จดจำภาพนี้ตราบนานเท่านานเลยทีเดียว
อ้าวคุณแนนซี่คุณกิ๊ก มาถึงแล้วเหรอคะงานเริ่มตอนกลางคืนนะคะคุณจะรีบร้อนแต่งตัวไปไหนคะ
อ้าวเหรองั้นฉันไปเปลี่ยนชุดในรถก่อนนะเดี๋ยวมาก
แนนซี่กลับไปแต่งตัวใหม่ เธอใส่เสื้อยืดเอวลอย กางเกงยีนส์ขาสั้นเดินนวยนาถออกมาช่วยงานคุณวจี ทำให้คุณวจีชำเลืองมองอยู่หลายครั้งแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ
คนส่งดอกไม้ที่นั่งมากับคนขับรถปิกอัพบอกกับคุณวจีว่า
รวบรวมดอกไม้ได้เท่านี้เองครับ คุณกัญญาสั่งเอาไว้ล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์
ก็ไม่น้อยนะคะ ทั้งหมดรวมกันได้มาเกือบจะสองแสนดอก
คุณวจียิ้มแย้ม ไม่น้อยสำหรับการจะนำมาใช้...เกือบสองแสนดอก...จะจัดแต่งในส่วนที่หมายตาเอาไว้เนรมิตโรงงานให้เป็นดินแดนแห่งกุหลาบขาว
ค่ะ ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว กลัวจะไม่ได้เลยเสียมากกว่าเพราะดอกกุหลาบขาวมีคนสั่งจองเยอะไม่ใช่เหรอคะ
คุณวจีพูดขึ้นพร้อมกับสั่งให้เด็ก ๆ เอาดอกไม้ลงแล้วจ่ายเงินทันทีคุณวจีจ่ายค่าดอกไม้เป็นเงินสด เพราะรู้ว่าเขาต้องเอาดอกไม้มาจากหลายเจ้าด้วยกัน เมื่อจ่ายเงินกับคนที่จัดแจงหาดอกไม้นี้มาให้ด้วย กำชับไปอีกหนก่อนจะจากกัน
งานเริ่มตอนค่ำสองนะคะ อย่าลืมแวะมา...
ครับไม่ลืม...ขอไปแต่งตัวหล่อก่อนนะครับ
คุณวจีมองชายคนนั้นกับรถปิกอัพสี่คันที่กำลังขับลับสายตาออกไปแนนซี่และกิ๊กรู้สึกงง ๆ เธอสงสัยว่าทำไมคุณวจีถึงต้องชวนชายคนนั้นมาด้วย
คุณวจีทำไมต้องชวนผู้ชายคนนั้นด้วยล่ะ
อ๋อนั่นคุณนิว อดีตแฟนของน้องสาวคุณกัญญา
เอฉันจำได้ว่ายายกัญญาเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ
อ๋อเธอมีลูกพี่ลูกน้องอีกคนค่ะ ชื่อสาแต่ว่าเธอเสียไปแล้วละค่ะอีกอย่างเรื่องนี้มันก็ซับซ้อนด้วย คือก่อนที่คุณกัญญาจะไปเรียนปริญญาโทใบที่สองที่ปารีสเธอคบกับคุณนิวมาก่อนพักหนึ่งด้วย เธอก็เลยต้องชวนเขามางานนี้
อ๋อไม่เห็นบอกให้เพื่อนรู้เลยเนาะใจร้ายที่สุดเลย
แนนซี่พูดขึ้นพร้อมกับช่วยคุณวจีจัดดอกไม้ให้สวยงาม จากนั้นก็เดินไปอาบน้ำใหม่ที่บ้านของกัญญาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่ทำการบริษัทมากนัก เพียงแค่มีรั้วกั้นเท่านั้นเอง
แนนซี่และกิ๊กไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ กิ๊กจึงพูดถึงเรื่องคุณเอกนายตำรวจหนุ่มสามีของเธอด้วยความคับแค้นใจให้กับแนนซี่ฟังพร้อมทั้งชี้รอยเขียวช้ำเป็นจ้ำ ๆ ให้แนนซี่ดูว่าตนเองถูกทำร้ายร่างกาย
โธ่ฉันเคยบอกเธอก่อนที่ฉันจะไปอเมริกาแล้วใช่ไหมว่า อย่าแต่งกับคนนี้เธอก็ไม่เชื่อ
จะให้ฉันทำไงได้ล่ะในเมื่อตอนนั้นฉันท้อง
โธ่เอ๊ย.!!!!
แนนซี่แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจริง ๆ แล้วเพื่อนทุกคนก็ไม่มีใครอยากให้เธอแต่งงานกับเขาเพราะทุกคนก็รู้ดีว่าเขาพยายามหลอกลวงเธอ เขาไม่ได้หวังดีกับเธอเลยสักนิด เขาคิดถึงแต่เรื่องสมบัติของเธอและชื่อเสียงของเธอมากกว่าเรื่องความรักเสียอีก
ฉันรู้เรื่องของพี่เอกมานานแล้วเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อ
งั้นก็ช่วยบอกฉันให้กระจ่างเสียทีเถอะก่อนที่ฉันจะฟ้องหย่ากับเขา
ก็ได้ฉันจะบอกว่าก่อนที่เขาจะมีเธอเขาแต่งงานมาแล้วมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง น่าจะราว ๆ อายุของลูกชายของยายหนูนานี่แหละต่อมาเมียเขาก็ตายเขาก็เลยมาคบกับตำรวจหญิงที่อยู่บนโรงพักแล้วก็ซื้อบ้านให้กัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา ต่อมาก็มีเธอนี่แหละที่จู่ ๆ ก็ตกหลุมพรางให้เขาหลอกเงินที่เธอมีอยู่ที่หมดไปนั้นเพราะเขาโยกย้ายถ่ายเทไปให้ยายรัชนีเมียลับ ๆ ของเขา
แล้วเธอรู้ได้อย่างไร
เธอก็รู้ ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอว่าฉันคลั่งไคล้ดาวนายร้อยฉันก็เลยรู้จากปากของนายตำรวจหลายคนนอกจากนี้ฉันยังไปเห็นด้วยตัวเองด้วยนะ ถ้าเธอไม่เชื่อเดี๋ยวฉันไปที่ท้ายรถเอารูปมาให้ดูก็ได้
งั้นก็ดี ฉันขอเอาไปเป็นหลักฐานในการฟ้องหย่าเลยก็แล้วกัน
..7
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณคำติชมทุกคำนะคะ...ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นกำลังใจให้เสมอมาค่ะ
14 มกราคม 2548 11:18 น.
สุชาดา โมรา
เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำหนังสือเรียกหัวหน้าฝ่ายทั้งหมดมาประชุมในสัปดาห์หน้านะและฉันต้องการให้คุณช่วยเอาเอกสารนี้ไปเก็บให้หมดเพราะฉันคัดลอกข้อมูลพวกนี้ออกมาหมดแล้ว
กัญญาตั้งอกตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีจนลืมหน้าที่บางอย่างซึ่งควรจะเป็นหน้าที่ของเลขา จึงทำให้คุณวจีรู้สึกน้อยใจที่คุณกัญญาไม่ค่อยได้ป้อนงานให้เธอเหมือนเมื่อก่อน
คุณกัญญาคะคุณไม่ไว้ใจดิฉันเหรอคะ ทำไมคุณถึงไม่ค่อยจะให้งานฉันทำเลย
คุณวจีคะฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ บางทีฉันก็ลืม ๆ ไปบ้างแต่อย่าน้อยใจเลยนะคะคิดเสียว่าฉันแบ่งเบาภาระที่คุณเคยทำไงคะ อีกอย่างคุณก็อายุมากแล้วฉันอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งคุณเสียด้วยซ้ำ
หมายความว่าคุณจะปลดฉัน
ไม่ใช่ค่ะแต่ฉันอยากให้คุณมาอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยท่านประธานต่างหากล่ะคะ
คุณวจีถึงกับดีใจสุดขีดเธอโผเข้ากอดกัญญาด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจกัญญาสั่งให้คนจัดโต๊ะทำงานให้เธอใหม่อีกโต๊ะและนำเข้ามาไว้ในห้องเพื่อที่จะได้ปรึกษาคุณวจีอย่างเต็มที่ จากนั้นก็เปิดรับสมัครเลขานุการคนใหม่ทำให้มีหลายคนในบริษัทสนใจที่จะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นเลขา แต่กัญญาก็ไม่ได้เลือกใครในบริษัทเลยสักคนเดียว เธอสัมภาษณ์งานด้วยตัวของเธอเอง
คนแล้วคนเล่าที่เข้า ๆ ออก ๆ ในบริษัทจนกัญญารู้สึกว่ายังไม่ใช่เลขาในอุดมคติที่เธอหวังไว้สาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกิริยาท่าทางสง่างาม เธอทั้งสวยบุคลิกดี หุ่นดีคาดว่าน่าจะสูงราว ๆ 175 เซ็นติเมตรได้ เธอนั่งลงและยื่นใบสมัครทันทีกัญญาดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ถูกชะตากับเธอมาก เธอจึงไม่ลังเลที่จะเลือกผู้หญิงคนนี้เลยทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ดูวุฒิการศึกษาและความสามารถของเธอเลย
คุณสนใจที่จะมาทำงานร่วมกับดิฉันไหม
ค่ะ..ดิฉันมีความยินดีเป็นอย่างมากค่ะที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นเลขานุการของคุณ
ดิฉันรับคุณเข้าร่วมงานค่ะ
สาวสวยคนนั้นพูดเสียงหวาน กัญญารู้สึกถูกชะตากับสาวสวยคนนี้มาเธอจึงรับเธอเข้าทำงานอย่างไม่ลีรอ เมื่อเธอก้มลงมองเอกสารเธอถึงกับตกใจทีเดียว
คุณเขียนชื่อผิดหรือเปล่าคะ
ไม่ผิดหรอกค่ะนายพิเชษฐ์ ก็ถูกแล้วนี่คะ
หมายความว่า
ค่ะ ดิฉันเป็นกระเทยค่ะ
สาวสวยพูดจาอ่อนหวาน เธอยืนยันคำตอบเดิมว่าเธอชื่อนายพิเชษฐ์ กัญญาถึงกับตกใจทีเดียว แต่เมื่อเธอเห็นนามสกุลเธอก็ยิ้ม เธอจำได้ว่านายคนนี้เป็นเพื่อของเธอตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่เมืองไทย เขาเป็นตุ๊ดคนเดียวในกลุ่มห้าสาวกัญญาคุยกับพิเชษฐ์อย่างสนุกสนาน
นี่หล่อน ฉันเปลี่ยนชื่อเล่นแล้วนะย๊ะ
แล้วใช้ชื่อว่าอะไรล่ะ
แนนซี่ย่ะตอนนี้กำลังฮิตเลย
อะไรที่ว่าฮิตน่ะ
ก็เพลงของแนนซี่ไงล่ะ ฉันก็เลยเปลี่ยนให้เข้ากับยุคหน่อย เธอไม่เคยฟังเหรอ กัญญาส่ายหน้า ด้าดีด้าว ดะดะดีด้าดีด้าว ดะดะดาด้าดีด้าวดะดะดี้ดาว
กัญญาถึงกับหลุดขำออกมาทันทีเมื่อเห็นแนนซี่เพื่อสาวของเธอร้องเพลงและลุกขึ้นมาทำท่าประหลาดประหลาดให้เธอเห็นขนาดคุณวจีเองซึ่งเป็นคนที่เคร่งเครียดไม่ค่อยจะหัวเราะถึงกับหลุดขำกลิ้งอยู่ที่โต๊ะทำงานเลยทีเดียว
กัญญากดโทรศัพท์นัดเพื่อน ๆ ให้มารวมตัวกัน เธอคุยกันเรื่องแนนซี่ถึงเรื่องการแปลงเพศที่อเมริกา แนนซี่ดูสนุกสนานมากที่ได้เจอเพื่อน ๆ ครบเซ็ทขาดก็เพียงคนเดียวคือยายกิ๊กที่ตั้งแต่มีลูกก็ไม่โผล่หน้ามาเจอเพื่อน ๆ เลย
นี่เธอตอนฉันอยู่แอลเอนะ สนุกมากเลยละ พวกเธอยังไม่เคยไปใช่ไหมล่ะ ฉันจะเล่าให้ฟังนะหนุ่ม ๆ ที่นั่นหล้อหล่อละเธอแหมเห็นแล้วน่ากัดเป็นบ้าเลย ดั้งนี้แมบเชียว อยากจะกัดให้โด่งขึ้นมาเลยละ
แอลเออะไรของเธอยะผู้ชายถึงได้ดั้งแมบขนาดนั้น
ก็แอลเอย่อมาจากร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำไงย๊ะหล่อน
ทุกคนถึงกับขำกันหลุดโลกเลยทีเดียว โดยเฉพาะแนนซี่เขาหัวเราะจนลืมความเป็นหญิงเลยละ ทำให้หลายโต๊ะที่นั่งอยู่ในห้องอาหารหันมามองเป็นตาเดียวกันเลยทีเดียว
อุ๊ย!!!! ขอโทษค่ะลืมตัวไปนิ๊ด.
แนนซี่หันไปแสยะยิ้มให้กับหลายโต๊ะที่หันมาดูเธอแล้วก็หันกลับมาคุยต่อ
เออแล้วทำไมเธอถึงเสียงสวยแบบนี้ล่ะ
ก็ฉันผ่ากล่องเสียงด้วยน่ะสิย๊ะไม่น่าถามเลย ไม่งั้นหนุ่ม ๆ ก็คงไม่หันมาหลงรักฉันแบบนี้หรอกย่ะ
นี่ถามจริง ๆ เถอะไปอดอยากมาจากไหนยะเดี๋ยวก็อ้วนหรอก นอกจากจะคุยเก่งขึ้นแล้วยังจะกินเก่งด้วยนะเนี่ย
แหมก็คนมันต้องไว้หุ่นถึงสามปีนี่ย๊ะพอฉลองก็ขอสักทีจะเป็นอะไรไปยายกัญญายังไม่เห็นว่าอะไรฉันเลย
แนนซี่ตอบพร้อมกับตั้งอกตั้งใจคุยไปกินไปอย่างสนุกสนานคุณภูริเดินมาจากทางข้างหลัง เขาเห็นทุกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานจึงเดินเข้ามานั่งร่วมวงด้วยคุณภูวดลจึงเดินตามมาติด ๆ เพื่อมาแนะนำตัวเอง
โหหล่อมากค่ะแนนซี่ชอบมีเบอร์ไหมคะ
แนนซี่ เก็บอาการไว้บ้างผู้หญิงนะย๊ะหล่อน
หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับกระซิบกระซาบให้แนนซี่รู้ว่าคุณภูริเขามาจีบกัญญาอยู่ ส่วนคุณภูวดลก็มีท่าทีว่าจะชอบ ๆ กัญญาอยู่เหมือนกันเพราะหมู่นี้สองพี่น้องคู่นี้มักจะถกเถียงกันเรื่องของยายกัญญาอยู่บ่อย ๆ
ผมภูวดลน้องชายของพี่ภูริครับถ้าไม่รังเกียจผมขอให้คุณเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ
กัญญาเดินผ่านหน้าคุณภูริไปเต้นรำที่กลางลานทันที คุณภูริรู้สึกโกรธ ๆ น้องชายของตัวเอง เขาได้แต่มองเท่านั้น
ให้วิเคราะห์นะคุณภูวดลหล่อสู้พี่ชายไม่ได้ฉันขอละกันนะ
แล้วเธอจะทำอย่างไร เขาเต้นรำกันอยู่นั่น
ฉันมีวิธีก็แล้วกัน
แนนซี่เดินเข้าไปควงแขนคุณภูริและฉุดให้ออกไปที่ลานทันที เพื่อน ๆ ต่างปรบมือกันใหญ่
ฉันจะทำให้คุณสมหวัง
แนนซี่พูดขึ้นทำให้คุณภูริรู้สึกงง ๆ แนนซี่ส่งซิกกับเพื่อนให้หนูนาเดินไปบอกนักดนตรีที่สีไวโอลินให้เปลี่ยนเพลงเป็นจังหวะทอมโบ เพลงสนุกสนานเร้าใจจนทำให้กัญญาต้องเปลี่ยนเป็นการเต้นรำเข้าจังหวะ แนนซี่จึงใช้วิธีหาโอกาสแทรกตัวเข้าไปสับคู่กับทั้งสองคนทันทีเพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างปรบมือดีใจในความสามารถของแนนซี่ที่สามารถทำให้คุณภูริและกัญญาเต้นรำด้วยกันได้ คุณภูวดลพยายามจะสับคู่ให้เหมือนเดิมแต่หนูนารู้หน้าที่ เธอเดินไปบอกนักดนตรีให้เปลี่ยนเพลงเป็นจังหวะวอลช้า ๆ เพื่อให้ทั้งคู่มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น
ผมผมผม
คุณภูริได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมาว่าเขาชอบเธอเขาได้แต่มองตาเธอเธอเดินเข้าจังหวะตามเสียงเพลงเท่านั้นจนเผลอเหยียบรองเท้าคู่โปรดของเธอซึ่งเป็นรองเท้าเปิดหัวสีทอง กัญญารู้สึกเจ็บเท้ามากจึงขอตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะกับเพื่อน ๆ ต่อ
ผมขอโทษครับ
คุณภูริเดินตามกัญญาไปนั่งที่โต๊ะในขณะที่แนนซี่และคุณภูวดลเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน หนูนาเป็นใจให้เพื่อนเพราะรู้ว่าแนนซี่ชอบความสนุกสนานเร้าใจจึงบอกให้นักดนตรีเปลี่ยนเพลงเป็นจังหวะลุมบ้าเพื่อให้ทั้งคู่สนุกสนานกันมากยิ่งขึ้นคุณภูวดลถึงกับทำหน้าเหยทีเดียว
..6
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มาเป็นกำลังใจให้เสมอ
14 มกราคม 2548 11:16 น.
สุชาดา โมรา
เป็นอย่างไรบ้าง คุณแม่คนใหม่
กิ๊กยิ้ม สีหน้าของเธอดูแจ่มใส เพื่อน ๆ ทุกคนมากันพร้อมหน้า ล้วนแล้วแต่มาเป็นคู่ ๆ กิ๊กพูดคุยกับเพื่อด้วยความเบิกบานใจจนกระทั่งพยาบาลเข็นรถเด็กเข้ามา
อุ๊ยตายน่ารักเชียว
นี่ยายกัญญาใครเขาพูดกันว่าน่ารัก โบราณเขาถือเขาให้พูดว่าน่าเกลียดน่าชังผีจะได้ไม่เอาไป
แหมยายแป้งทำเป็นพูดดีไปเชื่อโบราณก็บานบุรี
แต่ถ้าไม่เชื่อโบราณก็บานทุกทีไม่ใช่เหรอ
เอาละพอ ๆ เถียงกันอยู่ได้ พูดสองแง่สองง่ามไม่อายเด็กบ้างเลย
หนูนาดุแป้งและกัญญาที่ต่อล้อต่อเถียงกันทุกคนหัวเราะกันด้วยความเบิกบานใจ คุณภูริเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผลไม้กระเช้าใหญ่เพื่อมอบให้กับกิ๊กเจตนาของเขาคือต้องการที่จะมีส่วนร่วมในกลุ่มเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกันกัญญาให้มากกว่านี้
เมื่อกี้อะไรบาน ๆ นะครับผมได้ยินไม่ถนัด
คุณภูริพูดขึ้น ทุกคนหัวเราะกันดังลั่นจนพยาบาลต้องจุ๊ปากหลายครั้งเพื่อให้ลดเสียงลงมาบ้าง
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่พวกเรากำลังพูดกันเรื่องดอกกุกลาบบานมันสวยไม่เท่ากับดอกกุหลาบแรกแย้มก็เท่านั้นเองค่ะ
ทำเป็นลื่นเชียวนะ
หนูนาพูดขึ้นเพื่อแก้ต่างให้เพื่อนเพราะเธอเองก็รู้ดีว่าคุณภูริแอบปลื้มในตัวกัญญาอยู่ไม่น้อยกัญญาแอบกระซิบในเชิงหยอกกับหนูนา เธอเงยหน้าขึ้นมองคุณภูริแล้วก็ยิ้ม ๆ จากนั้นก็เดินไปอุ้มเด็กน้อยเล่น
นี่เราจะตั้งชื่อหลานว่าอะไรดีล่ะ หนูนาพูดขึ้น
เดี๋ยวนะพ่อชื่อเอกสิทธิ์ แม่ชื่อกิรินา ลูกออกมาก็ต้องชื่อกิรเอก และกิรสา เธอว่าดีไหมล่ะเพราะเป็นฝาแฝดก็ต้องใช้ชื่อให้คล้าย ๆ กัน กัญญาพูดขึ้น
ฉันว่าไม่ดีหรอกมีความหมายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันว่าน่าจะชื่ออรอุมา และอภิสิทธิ์ ดีกว่า อีกอย่างฉันก็ชอบนักการเมืองคนนั้นด้วย หล่อดี แป้งพูดขึ้น
แต่ว่าฉัน.
กระต่ายรู้สึกปวดท้องขึ้นมา เธอพยายามจะพูดว่าเธอกำลังปวดท้องหนักมากใกล้ที่จะคลอดแล้วแต่ว่าทุกคนหันกลับมาเบรคเธอพร้อมกันเสียก่อน เธอจึงไม่ได้พูดออกมา
นี่ยายต่ายเธอยังตั้งชื่อลูกของตัวเองไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดเลย
ทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานคุณเอกนายตำรวจหนุ่มซึ่งยืนฟังอยู่นานตรงประตูเดินตรงเข้ามาพอดี เขาคิดตามที่กัญญาและแป้งพูดจากนั้นก็เดินเข้ามาถามกิ๊กว่าจะให้ลูกชื่ออะไร เขานั่งที่ขอบเตียงและเอามือลูบหน้าผากเธอเบา ๆ
คุณว่าลูกเราจะชื่ออะไรดีล่ะ
คุณพี่คิดว่าอย่างไรล่ะคะ เพราะฉันเองก็ไม่เคยตั้งชื่อใครมาก่อนก็เลยไม่ได้เตรียมการอะไรคุณพี่เป็นพ่อก็ช่วยคิดหน่อยสิคะ
กิ๊กพูดกับสามีของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานออดอ้อนจนเพื่อน ๆ รู้สึกอิจฉาที่นายตำรวจหนุ่มคนนี้มีภรรยาที่ทั้งดีและเก่งทั้งการเรียนและเอาอกเอาใจคนเก่งด้วย
ผมว่าลูกของเราน่ะจะชื่ออะไรก็ไม่สำคัญหรอกนะ ผมคิดว่าคุณแป้งเขาก็มีความคิดที่ดี ผมขอใช้ชื่อที่คุณตั้งละกัน ส่วนชื่อเล่นนั้นผมคิดมาแล้วว่าจะให้ชื่อโอ๊ดและอุ้ม ทุกคนเห็นดีด้วยไหม
ทุกคนยืนคิดนิ่ง ๆ และก็เห็นพร้องต้องกันว่าพ่อของเขาคิดออกมาแล้วก็ไม่น่าจะขัดเขาเพราะเขาเป็นพ่อในขณะเดียวกันกระต่ายรู้สึกทนไม่ไหวเสียแล้วตะโกนดั่งลั่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดทันที
โอ๊ย.!!!!!
ต่าย.เป็นอะไรน่ะ!!!!.เลือด
หมอคะหมอ.!!!!!
กระต่ายร้องขึ้นเสียงดังด้วยความเจ็บปวด น้ำคล่ำไหลออกมาเป็นทางยาว เพื่อน ๆ ทุกคนตกใจกันไปหมด หนูนาเป็นคนที่ตั้งสติได้ก่อนเพื่อน เธอวิ่งไปเรียกพยาบาลและแพทย์ทันทีเพราะเธอรู้ว่ากระต่ายคงจะต้องคลอดเหมือนกัน
แพทย์และพยาบาลวิ่งมาดูกระต่ายอย่างโกลาหล พยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องคลอดโดยด่วน หนูนา ต้น โอ แป้ง คุณภูริ และกัญญาวิ่งตามไปที่ห้องคลอด ทุกคนนั่งรอผลอยู่จนเวลาร่วงเลยมาถึงสามชั่วโมง
ต้นต่อและต้นเอกลูกชายฝาแฝดของหนูนานั่งรอพ่อกับแม่ของตัวเองอยู่กับกิ๊กในห้อง ต้นต่อและต้นเอกเป็นเด็กดีมาก ไม่ดื้อไม่ซนจนคุณเอกนายตำรวจหนุ่มเข้ามานั่งเล่นด้วย
ถ้าลูกของลุงยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะโตเท่าหนูละ
นายตำรวจหนุ่มพูดขึ้นทำให้กิ๊กรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถามขึ้นมา เธอทำฟอร์มนอนนิ่งราวกับเธอกำลังหลับสนิทนายตำรวจหนุ่มนั่งเล่นกับเด็ก ๆ จนกระทั่งหนูนาเดินกลับมาหากิ๊กในห้องอีกครั้ง
กิ๊กหลับเหรอคะ
หนูนาถามขึ้นนายตำรวจหนุ่มหันกลับมามองแล้วก็ยิ้ม ๆ เด็กสองคนวิ่งมาหาหนูนาแล้วก็ออกไปนอกห้องกิ๊กลุกขึ้นพรวดทันที เธอน้ำตาคลอที่เบ้าตาทั้งสองข้างจากนั้นก็เรียกหนูนาให้กลับมาอยู่เป็นเพื่อนกับเธอก่อน
หนูนา.!!!!
หนูนาเดินกลับมาหากิ๊ก เธอเห็นท่าทางของเพื่อนไม่ค่อยจะดีจึงบอกให้ลูกชายฝาแฝดของเธอทั้งสองคนเดินไปหาต้นกล้าพ่อของเขาที่ห้องติด ๆ กัน
มีอะไรเหรอ
ผู้หญิงหรือผู้ชาย
ผู้หญิงจ่ะพ่อเขาปลื้มมาเลยนะ
หนูนาพูดขึ้น นายตำรวจหนุ่มจึงเดินออกไปนอกห้องราวกับรู้ว่าทั้งคู่กำลังจะคุยอะไรกัน เขาออกไปนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ด้านนอกด้วยท่าทางเครียด ๆ เขาเหม่อมองไปที่ระเบียงราวกับคนหมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากคิดหรือจะทำอะไร ผิดกับการที่เพิ่งได้เป็นพ่อคนใหม่ ๆ เลยทีเดียว
มันเกิดอะไรขึ้นเหรอกิ๊ก
หนูนาถามขึ้นกัญญาเดินเข้ามาในห้องพอดี เธอนั่งลงข้าง ๆ เตียงและขอฟังเรื่องราวด้วย
เมื่อกี้เขาพูดว่าลูกเขาถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็คงจะเท่ากับต้นต่อและต้นเอกนี่ละฉันเครียดมากเลยเธอรู้ไหมหนำซ้ำเขายังพูดถึงเรื่องเมียเก่าเขาในอดีตด้วย ฉันไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย ฉันรู้สึกทนไม่ได้
อย่าเก็บเอามาเป็นอารมณ์สิ เรื่องอะไรที่มันเป็นอดีตอย่าไปรื้อฟื้นมันปล่อยให้มันเป็นความหลังไป เราก็จดจำเรื่องที่ดี ๆ ของเขาสิ กัญญาพูดขึ้น
ถ้ามีแต่เรื่องอดีตฉันจะไม่ว่าเขาเลย เขาพูดถึงเมียคนปัจจุบันด้วย เขาบอกว่าเขาไม่ได้อยากจะแต่งงานกับฉัน เขาอยากได้สิ่งที่ฉันมีอยู่ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติเขาพูดถึงเมียของเขาที่อยู่กินกันอย่างลับ ๆ ในตอนนี้ด้วยจะให้ฉันทำอย่างไรดี
กิ๊กร้องไห้คร่ำครวญ เธอกอดเพื่อนทั้งสองคนเอาไว้แน่น เธอไม่รู้จะวางตัวอย่างไรดีในเมื่อเธอเพิ่งมารู้เดี๋ยวนี้เองว่าเธอถูกหลอกเธอคิดว่าน่าจะเชื่อเพื่อน ๆ เธอตั้งแต่ทีแรกเรื่องราวก็จะได้ไม่มาถึงขั้นนี้
เธอต้องตัดเรื่องราวที่ร้าย ๆ ให้หมดและอดทนเพื่อลูกนะลูกจะได้มีพ่อ เข้าใจไหม
หนูนาพูดขึ้นพ้อมกับเช็ดหยาดน้ำตาให้กับกิ๊กจนเหือดแห้งไป ทั้งสองคนพยายามพูดเรื่องตลกจนกิ๊กหลุดขำขึ้นมาทันทีนายตำรวจหนุ่มเปิดประตูเดินเข้ามาพอดี หนูนาและกัญญาหันไปมองค้อน ๆ และก็เดินออกไปหากระต่ายที่นอนอยู่ข้าง ๆ ห้อง
คุยอะไรกันครับหัวเราะกันจนน้ำตาไหลเชียว
นายตำรวจหนุ่มพูดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครตอบอะไร กิ๊กยังคงทำตัวตามปกติให้เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
น่าสงสารยายกิ๊กเนาะ
ใช่ก็พวกเราเตือนแล้วนี่แต่เขาไม่ฟัง แล้วก็ต้องมาเจ็บปวดใจน่าแปลกนะคนดี ๆ ที่คบกันมาดูใจกันมานานแปดเก้าปีกลับไม่สนใจ กิ๊กดันไปรักคนที่เพิ่งรู้จักเพียงไม่กี่วัน แล้วก็ด่วนแต่งงานทั้ง ๆ ที่ดูใจกันมาไม่นาน
กรรมของใครกรรมของมันเนาะเราจะโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเราเองที่ตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปไม่คิดไตร่ตรองอะไรให้มันดี ๆ เสียก่อน
กัญญาและหนูนานั่งคุยกันที่หน้าห้องของกระต่าย คุณภูริพรวดพราดออกมาพอดีจึงได้ยินเพียงแค่เรื่องไตร่ตรองเท่านั้น
ไตร่ตรองอะไรเหรอครับ
นี่คุณจะไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม
ก็ผมอยากรู้นี่นาใช่ไหมครับคุณนา
คุณภูริพูดขึ้น กัญญาจึงเบรคเขาด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไรนัก หนูนารู้ตัวว่าคุณภูริขอเวลาเป็นส่วนตัวสองคนกับกัญญา เธอจึงเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากกว่าที่เป็นอยู่
.5..
โปรดติดตามตอนต่อไปต่ะ...ใครที่ชอบรักโรแมนติกเชิญทางนี้นะคะ...ขอขอบคุณเพื่อนๆและแฟนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านและติชมผลงานของผึ้งนะคะ....ขอบคุณค่ะ
ขอให้คนอ่านสวยๆหล่อๆทุกคนนะคะ
10 มกราคม 2548 02:15 น.
สุชาดา โมรา
นี่ยายกัญญาเธอจะรีบไปไหนล่ะ
ก็ฉันสายแล้วน่ะสิ
สายอะไรกันนี่มันงานกลางคืนนะย๊ะ!!!
ยังจะมาเล่นมุกอีก ฉันไม่ขำด้วยนะแล้วยายหนูนาล่ะ
เห็นบอกว่ามาไม่ได้ต้องไปสัมภาษณ์ใครก็ไม่รู้ที่อุทัยนั่นแน่ะเขาย้ำแล้วย้ำอีกนะเพราะกลัวว่าเธอจะต่อว่าเรื่องที่เขามาไม่ได้
ก็แหงสิย๊ะ!!!! เป็นใคร ใครก็ต้องเคือง นัดเราแล้วก็ไม่มา
ฉันว่าเธออย่าเพิ่งบ่นเลยไปห้องน้ำกันเถอะ
ไปทำไม
ไปซับเหงื่อและเมคอัพใหม่สิย๊ะถามได้
กระต่ายพากัญญาตรงไปยังห้องน้ำและแต่งหน้าใหม่ให้กัญญาทันที ทั้งคู่พูดคุยถึงเรื่องของเพื่อนอีกสองคนในกลุ่มอย่างออกรสทีเดียวและแล้วทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นแป้งและกิ๊กออกมาจากห้องน้ำพร้อมกัน
แหมกล้านินทานะย๊ะหล่อน
แป้งทำสายตาค้อน ๆ แล้วก็หัวเราะ กิ๊กเดินเข้ามากอดกัญญาแล้วก็เติมลิฟสติกส์จากนั้นก็คุยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่จะเดินมาเซ็นชื่อที่หน้างาน
คุณภูริออกมารับกัญญาเข้าไปในงาน เขาเดินคุยกับกัญญาอย่างสนุกสนานราวกับคนรู้จัก เมื่อเจอใครก็แนะนำกัญญาให้ทุกคนรู้จักราวกับเธอเป็นแฟนของเขา ทำให้กัญญารู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรแต่ก็ต้องเก็บอาการเพราะไม่อยากให้เขาเสียหน้า
นี่คุณทำอะไรน่ะ
ผมขอร้องนะคือผมยังไม่มีแฟน ช่วยสมอ้างหน่อยได้ไหมเพราะช่วงนี้มีข่าวลือว่าผมเป็นเกย์อยู่ด้วยขอร้องนะ
เอาก็เอาว่าไงว่าตามกันกัญญานึก
กัญญาเต้นรำกับคุณภูริด้วยท่าทางที่สนุกสนาน เพลงที่บรรเลงก้องกังวาลอยู่ตลอดเวลาเป็นจังหวะชะชะช่าที่เร้าอารมณ์ทำให้ทั้งคู่ดูสนุกเป็นพิเศษผู้คนในงานร่วมกันเต้นรำอย่างสนุกสนาน
เพลงจังหวะวอลบรรเลงขึ้น แสงไฟสาดส่องลงมาสลัว ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก คุณภูริโอบกอดกัญญาแนบแน่บจนเธอรู้สึกอึดอัด เธอพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถจะหลุดออกจากอ้อมแขนของเขาได้
ผมคิดไม่ผิดเลยที่เลือกคุณมาเต้นรำด้วย
อย่างไรคะ
ก็คุณเต้นรำเก่งขนาดนี้สาวไฮโซ สวยเท่ห์ เก๋ไม่เบา แถมยังจะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเปรี้ยวและมั่นใจในตัวเองแบบคุณนี่จุ๊..จุ๊..จุ๊ผมว่าคุณนี่สวยมาก ๆ เลยนะ บางทีคุณก็หวานจนผมรู้สึกว่าคุณมีหลายรูปแบบที่ไม่เหมือนใครผมชอบคุณนะ
เหรอคะฉันไม่เห็นจะรู้สึกเลยแล้วจะปล่อยฉันได้หรือยัง ฉันอึดอัด
นาน ๆ ผมจะได้เจอคนสวย ๆ แบบนี้ผมจะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร
กัญญาพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขาเมื่อเธอได้ฟังสิ่งที่เขาพูดเธอก็รู้สึกหมั่นไส้ เธอจึงใช้ส้นรองเท้าซึ่งเป็นหัวเข็มกระแทกไปที่รองเท้ามันเงาคู่นั้นทันที
โอ๊ย.!!!!
คุณภูริร้องดังขึ้นไม่มีใครหันมาสนใจทั้งคู่เลย ทุกคนยังคงเต้นรำกันอย่างสนุกสนานกัญญาวิ่งออกไปจากห้องจัดเลี้ยงภายในงานทันที เธอออกมายืนหยุดอยู่ที่ลานจอดรถและมองไปรอบ ๆ เพื่อหารถที่เธอจอดเอาไว้
นี่คุณผมขอโทษ!!!!
คุณภูริวิ่งตามกัญญาออกมา เขาพยายามจะขอโทษเธอแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอขับรถเกือบจะเฉี่ยวเขาคุณภูริกระโดดหลบแทบจะไม่ทัน เขายืนมองรถของกัญญาที่แล่นผ่านออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อน ๆ อีกสามคนเมื่อเห็นกัญญาออกไปจากงานก็รีบเดินตามมายังลานจอดรถ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทุกคนเห็นกัญญาขับรถแล่นฉิวออกไปต่อหน้าต่อตา
เกิดอะไรขึ้นคะคุณภูริ
ผมแค่แหย่เธอเล่นเอง ไม่คิดว่าเธอจะโกรธ
สู้เขานะคะยายกัญญาเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วเชื่อฉันสิเดี๋ยวสักพักเธอก็หายโกรธ
จริงเหรอ
จริงค่ะถามจริง ๆ เถอะ คุณชอบยายกัญญาใช่ไหมคะ
คุณภูริทำท่าเขินอายเมื่อได้ยินกิ๊กพูดขึ้น เขายิ้มแล้วก็เดินกลับไปในงานเลี้ยงกิ๊ก กระต่าย และแป้งยืนคุยกันที่ลานจอดรถ กระต่ายสงสัยว่าทำไมกิ๊กถึงได้พูดแบบนั้นแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เธอได้แต่แสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความสงสัยเอาไว้เท่านั้น
เชื่อฉันสิฉันมองคนไม่ผิดหรอกคุณภูริชอบเพื่อนเราไม่แน่เราอาจจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ก็ได้นะ
กิ๊กพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดประตูรถทันที เธอขับรถออกไปแป้งและกระต่ายจึงขับรถออกไปเช่นกัน ทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
กัญญาลืมให้ของขวัญกับคุณภูริเธอขับรถมาจนเกือบจะถึงบ้านแต่แล้วก็ต้องเลี้ยวกลับไปที่งานอีกครั้ง เธอลืมเรื่องที่โกรธเสียสนิทเมื่อมาถึงงานคุณภูริถึงกับตกใจทีเดียวเมื่อเห็นกัญญายืนอยู่ที่หน้าประตูงาน
มีอะไรเหรอครับ
สุขสันติ์วินเกิดค่ะ
กัญญาส่งกล่องของขวัญที่ผูกริบบิ้นสีชมพูซึ่งเป็นสีเดียวกับชุดที่เธอสวมใส่ให้กับคุณภูริ คุณภูริรับของขวัญชิ้นนั้นและรีบแกะทันที
โอ้นาฬิกาข้อมือมีเข็มทิศด้วย เก๋มาก ๆ
ลองสวมสิคะ
กัญญาพูดเสียงหวานพร้อมกับเอื้อมมือไปช่วยใส่ให้เพราะเห็นว่าเขาถือกล่องของขวัญซึ่งคงจะลำบากในการใส่
ขอบคุณครับ
ของขวัญชิ้นนี้มาจากสิงคโปร์ค่ะ คือฉันเพิ่งไปมาเมื่อสองวันมานี้เพื่อไปเที่ยวแล้วก็เลยซื้อของฝากมาด้วย ฉันเห็นว่ามันสวยดีและเหมาะกับพวกนักข่าวเผื่อคุณจะติดตามยายหนูนาไปทำข่าวจะได้พกติดตัวไปด้วยเวลาพัดหลงกันจะได้กลับมาถูกไงคะ
กัญญาพูดแล้วก็ยิ้ม ๆ คุณภูริรู้สึกแปลกใจมากที่เธอหายโกรธได้รวดเร็วมาก เขาชวนเธอเข้าไปในงานแต่เธอก็ไม่ยอมเข้า เธอได้แต่ปฏิเสธและลากลับบ้านทันที คุณภูริจึงลงมาส่งกัญญาที่ลานจอดรถ
โอ้ตายละรถเป็นอะไรไปเนี่ย!!!!
กัญญาร้องเสียงหลงเมื่อเห็นยางหน้าด้านขวาของรถแบนราบ คุณภูริจึงอาสาพาเธอไปส่งกัญญาจึงต้องรอจนกว่างานจะเลิกเพราะคุณภูริจะได้ไม่เสียมารยาทกับแขกที่มาร่วมงาน
นี่คุณขับรถไหวหรือเปล่า.
กัญญาร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นคุณภูริขับส่ายไปส่ายมา คนขับรถของคุณภูริขับตามมา เขามาขับรถแทนคุณภูริคุณภูริและกัญญาลงมานั่งด้านหลัง กัญญาเผลอหลับไปคนขับรถจึงพาเธอมาส่งไว้ที่บ้านของคุณภูริ
กัญญานอนที่ห้องของคุณภูริ ส่วนคุณภูริไปนอนที่ห้องน้องชายของเขาที่อยู่ติดกัน
อวก อวก อวก!!!
ของดีและไม่ดีหลายอย่างกำลังจะพุ่ง คุณภูรินอนอยู่บนเตียงน้องชายของเขาต้องหากระโถนมารองรับเพราะกลัวว่าจะเปื้อนรดพื้น
โธ่พี่ภูริเฮ้อ!!!
คุณภูวดลร้องขึ้น เขาถอนใจเฮือกใหญ่และก็หาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้คุณภูริพี่ชาย เขาเดินมาดูที่ห้องของพี่ชาย เขาเห็นคุณกัญญาแล้วก็ยิ้ม ๆ เขาเดินมาห่มผ้าให้เธอแล้วก็นั่งจ้องมองเธออยู่นานเขาจูบที่หน้าผากของเธอเบา ๆ ก่อนที่จะเดินกลับมายังห้องของตัวเองที่อยู่ติด ๆ กัน
คุณภูวดลล้มตัวลงนอนข้าง ๆ คุณภูริพี่ชาย ถึงแม้ว่าเขาจะปิดไฟนอนแล้วแต่ตัวเขาเองกลับไม่ยอมหลับตา เขายิ้มและนึกถึงคุณกัญญาที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องของพี่ชายเขาด้วยความอิ่มเอิบใจ
ทำไมเราไม่ตามพี่เราไปงานเลี้ยงนะ
คุณภูวดลนึกก่อนที่จะเผลอหลับไป
คุณภูรินอนหลับสนิท เขาไม่รู้เรื่องเลยสักนิดว่าใครเป็นคนพยุงตัวเขาขึ้นมานอนที่ห้องของน้องชายกัญญาก็เช่นกัน เธอหลับสนิทโดยที่ไม่รู้เรื่องเลยว่าคุณภูวดลน้องชายของคุณภูริเป็นคนอุ้มเธอมานอที่ห้องของคุณภูริ อาจจะเป็นเพราะเธอเมาด้วยฤทธิ์ไวน์องุ่นที่ดื่มไปหลายแก้วก็เป็นได้
3
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
10 มกราคม 2548 01:40 น.
สุชาดา โมรา
การเขียน หมายถึง การถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิด เรื่องราว ตลอดจนประสบการณ์ต่างๆไปสู้ผู้อื่นโดยใช้ตัวอักษษเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอด
การเขียนเป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และประสบการณ์ เพื่อสื่อไปยังผู้รับได้อย่างกว้างไกล นอกจากนั้นการเขียนยังมีคุณค่าในการบันทึกเป็นข้อมูลหลักฐานให้ศึกษาได้ยาวนาน
จุดประสงค์ของการเขียน
การเขียนทั่วไปมีจุดประสงค์ดังนี้
01. เพื่อบอกเล่าเรื่องราว เช่น เหตุการณ์ ประสบการณ์ ประวัติ ฯลฯ
02. เพื่ออธิบายความหรือคำ เช่น การออกกำลังกาย การทำอาหาร คำนิยามต่างๆ ฯลฯ
03. เพื่อโฆษณาจูงใจ เช่น โฆษณาสินค้า ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ฯลฯ
04. เพื่อปลุกใจ เช่น บทความ สารคดี เพลงปลุกใจ ฯลฯ
05. เพื่อแสดงความคิดเห็น
06. เพื่อสร้างจินตนาการ เช่น เรื่องสั้น นิยาย นวนิยาย ฯลฯ
07. เพื่อล้อเลียน เช่น บทความการเมือง เศรษฐกิจ ฯลฯ
08. เพื่อประกาศแจ้งให้ทราบ เช่น ประกาศของทางราชการ ประกาศรับสมัครงาน ฯลฯ
09. เพื่อวิเคราะห์ เช่น การเขียนวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมือง วิเคราะห์วรรณกรรม ฯลฯ
10. เพื่อวิจารณ์ เช่น วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล วิจารณ์ภาพยนตร์ วิจารณ์หนังสือ ฯลฯ
11. เพื่อเสนอข่าวสารและเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
12. เพื่อกิจธุระต่างๆ เช่น จดหมาย ธนาณัติ การกรอกแบบรายการ ฯลฯ
จุดประสงค์ของการเขียนคือสิ่งที่ผู้เขียนต้องคำนึงว่า ในการเขียนงานเขียนแต่ละครั้งนั้นต้องการเขียนเพื่อสื่อเรื่องใด โดยผู้เขียนต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งหลักการเขียนประกอบการเขียน เพื่อให้การเขียนเพื่อการสื่อสารนั้นๆบรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
.
หลักการเขียน
เนื่องจากหลักการเขียนเป็นทักษะที่ต้องเอาใจใส่ฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดความรู้ความชำนาญ และป้องกันความผิดพลาด ดังนั้น ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องใช้หลักในการเขียน ดังต่อไปนี้
1. มีความถูกต้อง คือ ข้อมูลถูกต้อง ใช้ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ
2. มีความชัดเจน คือ ใช้คำที่มีความหมายชัดเจน รวมถึงประโยคและถ้อยคำสำนวน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ตรงตามจุดประสงค์
3. มีความกระชับและเรียบง่าย คือ รู้จักเลือกใช้ถ้อยคำธรรมดาเข้าใจง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อให้ได้ใจความชัดเจน กระชับ ไม่ทำให้ผู้อ่านเกิดความเบื่อหน่าย
4. มีความประทับใจ โดยการใช้คำให้เกิดภาพพจน์ อารมณ์และความรู้สึกประทับใจ มีความหมายลึกซึ้งกินใจ ชวนติดตามให้อ่าน
5. มีความไพเราะทางภาษา คือ ใช้ภาษาสุภาพ มีความประณีตทั้งสำนวนภาษาและลักษณะเนื้อหา อ่านแล้วไม่รู้สึกขัดเขิน
6. มีความรับผิดชอบ คือ ต้องแสดงความคิดเห็นอย่างสมเหตุสมผล มุ่งให้เกิดความรู้และทัศนคติอันเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
นอกจากหลักการเขียนที่จำเป็นต่อการเขียนแล้ว สิ่งที่มีความจำเป็นอีกประการหนึ่งคือกระบวกการคิดกับกระบวนการเขียนที่จะต้องดำเนินควบคู่ไปกับหลักการเขียน เพื่อที่จะทำให้สามารถเขียนได้ดียิ่งขึ้น
.
กระบวนการคิดกับกระบวนการเขียน
กระบวนการเคิดกับกระบวนการเขียนนั้นมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากการเขียนงานเขียนทุกประเภทต้องใช้ความคิด ต้องสร้างสรรค์ วิเคราะห์ กลั่นกรอง เรียบเรียงให้ดีเสียก่อน แล้วจึงลงมือเขียน อันจะทำให้การเขียนนั้นๆสำเร็จลงด้วยดี
กระบวนการคิด
1. คิดให้ตรงจุด หมายถึง คิดถึงจุดประสงค์ที่สำคัญเพียงจุดเดียว โดยการคิดให้อยู่ในวงจำกัด การคิดให้ตรงจุดมีดังนี้
..........1) คิดในหัวข้อที่จำกัด ไม่กว้างเกินไป จำกัดขอบเขตของเนื้อหาให้ชัดเจน
..........2) คิดเฉพาะสิ่งที่รู้ เพราะจะทำให้คิดได้ดี คิดอย่างชำนาญ มีประสิทธิภาพ
2. คิดให้เป็นระเบียบ หมายถึง การจัดลำดับความคิด มีดังนี้
..........1) จัดลำดับเรื่องราว คือ การจัดลำดับว่าเหตุการณ์ใดเกิดก่อนเกิดหลัง
..........2) จัดลำดับสถานที่ คือ เขียนรายละเอียดของสถานที่ให้ตรงตามความเป็นจริง ไม่วกไปวนมา
..........3) จัดลำดับตามเหตุผล คือ มีเหตุแล้วต้องมีผลตามมา หรือการกล่าวว่าผลที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด
3. คิดให้กระชับและชัดเจน คือ ต้องมีความคิดหลักเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถจับประเด็นได้ และความคิดนั้นต้องสามารถทำให้ผู้อ่านสื่อได้ตรงกับความคิดของผู้เขียน โดยไม่สับสน เช่น ผู้เขียนต้องการเสนอความคิดเกี่ยวกับคุณค่าของการประหยัด ต้องทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วเห็นคุณค่าของการประหยัดอย่างแท้จริง โดยไม่เห็นแตกต่างออกไป
นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้เขียนต้องคำนึงถึงเสมอก่อนจะลงมือเขียนเรื่องใด ก็คือ มารยาทในการเขียน เนื่องจากงานเขียนบางประเภท หรือบางเรื่องอาจก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้ ฉะน้น เพื่อป้องกันความเนียหายที่จะเกิดขึ้น ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องเขียนอย่างมีมารยาท ดังนี้
มารยาทในการเขียน
1. ไม่ควรเขียนโดยปราศจากความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เพราะอาจเกิดความผิดพลาด หากจะเขียนก็ควรศึกษาค้นคว้าให้เกิดความพร้อมเสียก่อน
2. ไม่เขียนเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติหรือสถาบันเบื้องสูง
3. ไม่เขียนเพื่อมุ่งเน้นทำลายผู้อื่น หรือเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตน พวกพ้องตน
4. ไม่เขียนโดยใช้อารมณ์ส่วนตัวเป็นบรรทัดฐาน
5. ต้องบอกแหล่งที่มาของข้อมูลเดิมเสมอ เพื่อให้เกียรติเจ้าของข้อมูลนั้นๆ
6. ไม่คัดลอกบทความหรือเนื้อหาตอนใดตอนหนึ่งมาโดยเจ้าของเรื่องไม่อนุญาต