16 พฤศจิกายน 2547 09:48 น.
สุชาดา โมรา
พี่เบลวมาส่งมารับฉันทุกวัน แต่เขาไม่รู้หรอกว่าบางทีฉันก็หนีเรียนบ้างเพราะฉันรู้สึกกดดันทุกทีที่เจอเพื่อน แต่ก็นั่นแหละการเรียนฉันเริ่มแย่ลงเพราะผลมาจากการที่ไม่เข้าเรียนนี้แหละ ไม่มีใครคาดคิดว่าฉันจะเรียนตกต่ำเพราะฉันเรียนได้เป็นอันดับต้น ๆ ของห้องตลอดระยะเวลา 2 เทอมที่ผ่านมา ใกล้สอบแล้ว ฉันยังคงเข้าเรียน อาจารย์ที่เป็นความกับฉันก็กดคะแนนฉัน เขาคงแค้นที่ฉันกับย่ายื่นฟ้องต่อศาลเพราะป่านนี้แล้วคดีก็ยังไม่ไปถึงไหนเสียที
เรื่องนี้ยืดเยื้ออยู่หลายวันจนอาจารย์ทั้งหมดยอมความ แต่ย่าฉันไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้หรอกย่ายื่นคำร้องร้องเรียนถึงกรมสามัญศึกษา และทำอย่างนี้หลายครั้งจนอาจารย์ทั้ง 7 คนถูกเรียกไปสอบสวนหลายครั้ง จากนั้นทางโรงเรียนก็สั่งย้ายอาจารย์ทั้ง 7 คนภายใน 24 ชั่วโมงทำให้ฉันได้อาจารย์ประจำชั้นใหม่ แต่ผลที่ตามมาคือก่อนที่อาจารย์ทั้ง 7 คนจะไปนั้นเขาได้ส่งใบเกรดไปแล้วว่าฉันต้องติด มส. (หมดสิทธิ์สอบ) แน่นอน ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับฉันเลย ฉันต้องติด มส. ถึง 7 ตัว ฉันรู้ตัวเลยว่า ม.5 นี้ฉันเรียนไม่จบแน่ ๆ ฉันจะทำอย่างไรดีนะ ชีวิตฉันจะดำเนินไปอย่างไร...
พอฉันรู้ว่าฉันติด มส.ก่อนที่จะได้สอบปลายภาคฉันไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดีจึงไปปรึกษาอาจารย์ในสมาคมฯ อาจารย์ดนัยและอาจารย์อีกหลายท่านลงชื่อเซ็นหนังสือราชการส่งไปที่สมาคมยูโดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูประถัมป์ แต่ยาวนานมากข่าวคราวไม่ได้ตอบรับเสียที ฉันรู้สึกหมดหวังแล้ว คิดว่าต้องเรียนไม่จบแน่ ๆ ประวัติฉันล้มเหลวแล้ว ฉันจะเข้าเรียนที่ไหนได้อีกถ้าในใบทรานสคิปมี มส.ยาวถึง 7 ตัวแบบนี้
ฉันเข้าสอบเฉพาะวิชาที่ไม่ติด มส. ฉันไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ที่รู้ ๆ คือฉันต้องเรียนไม่จบ ม.5 แน่ ๆ เพราะฉันต้องมาเริ่มต้นเรียนวิชาพวกนี้ใหม่อีกครั้ง
ฉันไม่กล้าบอกใครเลยจริง ๆ ว่าฉันจะเรียนไม่จบ แต่ฉันก็กล้าที่จะมาพูดกับพี่เบลวเพราะฉันมีความรู้สึกว่าพี่เบลวเป็นคนที่ฉันให้คำปรึกษาได้
ฉันมาซ้อมยูโดเป็นปกติ แต่วันนี้มันไม่ปกติเสียแล้ว...ฉันเดินมาจนเกือบจะถึงหน้าประตูกรม ร.พ.ศ.ที่2 ฉันเห็นพี่นัทกำลังมีเรื่องชกต่อยกับนักเลงกลุ่มหนึ่งฉันจึงวิ่งเข้าไปช่วย ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดหรอกว่าฉันเป็นผู้หญิงคงสู้พวกนั้นไม่ได้เพราะพวกนั้นมีมีด แต่ฉันก็วิ่งเข้าไปช่วยเพราะใจฉันยังแคร์พี่นัทอยู่
นี่มันอะไรกันเนี่ย...พวกแกเป็นใคร...
แฟนแกเหรอ สวยนี่หว่า...คืนนี้ไปนอนกับพี่ไหมน้อง....!!!!
ฉันทั้งอึ้งและโมโหจึงเข้าไปเอาชุดยูโดที่ทั้งหนาและหนักเควี้ยงใส่หน้าผู้ชายคนนั้นทันที จึงทำให้พวกนั้นโกรธและจับมือฉันไว้
สวย ๆ แบบนี้ ดุ ๆ อย่างนี้พี่ชอบ ไป...เฮ้ยพวกเราคืนนี้มีของเล่นใหม่แล้วเว้ย....!!!!
ฉันทั้งโกรธและกลัวจึงดิ้นกระโดด ๆ จนชายคนนั้นรำคาญเลยหันมาตบหน้าฉันแต่ไม่ทันได้ตบฉันก็จับแขนหักเลยแล้วก็ถีบจนหงายท้องและวิ่งเข้าไปหาพี่นัท พี่นัทกำลังจะถูกซ้อม คนพวกนั้นจับแขนพี่นัทไว้และจะต่อย ฉันจึงวิ่งกระโดดถีบชายคนนั้นทันที พี่นัทดิ้นจนหลุดแล้วก็คว้าชุดยูโดพาฉันวิ่งมาที่ประตู แต่ยังไม่ทันจะถึงพวกนั้นวิ่งเอามีดมาจะแทงพี่นัทฉันจึงเอาตัวเข้าขวาง
ดาว.....!!!!
พี่นัทร้องเสียงหลง คนพวกนั้นก็ตกใจจึงวิ่งหนีไป ส่วนฉันนึกว่าตัวเองไม่รอดแน่ ๆ จึงฟุบตัวลงแล้วก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ตื่นมาอีกทีก็รู้สึกว่านอนอยู่บนเบาะซ้อม ฉันคิดว่าตัวเองตายไปแล้วซะอีก ไม่มีเลือดซักนิด
ดาว...ฟื้นแล้ว ขอบใจนะ
ดาวไม่ตายเหรอพี่นัท
จะบ้าเหรอ...พูดอะไรอย่างนั้น พี่ตกใจมากนึกว่าดาวถูกแทงตายซะแล้วเหมือนกัน แต่ดีนะที่ดาวกอดชุดยูโดอยู่ตลอดพอไอ้พวกนั้นเข้ามาแทงมีดเลยติดชุดนี่แหละ
ฉันดีใจมาก อย่างน้อย ๆ ฉันก็ได้ปกป้องคนที่ฉันรักได้ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รักกันอีกแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ดีใจที่เขาปลอดภัย... ฉันตั้งปณิธานเอาไว้ว่าสักวันฉันจะต้องช่วยเขา วันนี้ฉันทำสำเร็จแล้ว... ฉันไม่รู้ว่าพี่เขาไปมีเรื่องอะไรกับใครมาแต่ฉันก็จะไม่ถามหรอกเพราะฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะถามได้อีกต่อไปแล้ว...
ฉันไม่รู้หรอกว่าขณะที่ฉันฟื้นขึ้นมานั้น มีคน 2 คนกำลังจ้องมองฉันอยู่ คนหนึ่งมองด้วยความเกลียดชัง แต่อีกคนหนึ่งมองด้วยความห่วงหา...ฉันเข้าไปแต่งตัวในห้องแล้วก็เดินออกมา
ดาว ๆ ๆ...เป็นอะไรบ้างหรือเปล่า
ไม่เป็นอะไรแล้วละพี่เบลว...ขอบคุณนะที่เป็นห่วง
ฉันรู้ทันทีว่าคนที่ห่วงฉัน แอบมองฉันนั้นคือพี่เบลว แต่อีกคนที่มองฉันด้วยความเกลียดชังนั้นฉันรู้โดยที่ไม่ต้องบอกเลยว่าคือเหมี่ยว... วันนี้ฉันจึงซ้อมยูโดด้วยความสุข ฉันเริ่มรู้ตัวแล้วว่าพี่เบลวสายตาไม่เหมือนเดิม ฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะแต่ฉันรู้ด้วยสัญชาตญาณของตัวฉันเอง ฉันจึงลองใจเขาด้วยการเอาไดอารี่ที่ฉันเขียนเป็นกลอนทั้งหมดแอบเอาไปใส่ในกระเป๋าเขา ในนั้นฉันไม่ได้บอกว่าฉันหมายถึงใคร แต่ฉันจงใจเขียนในตอนท้ายเป็นชื่อพี่เบลว และแผ่นรองปกก็มีชื่อฉันอยู่ด้วย...ฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไรเมื่อได้อ่าน ถ้าเขาชอบฉันเขาคงจะมาหาฉัน แต่ถ้าเขาไม่มีใจเขาก็คงจะโกรธหรือว่าว่าฉันบ้า...
เช้ารุ่งขึ้นของวันปิดเทอมวันแรกฉันมาช่วยงานศพของอาจารย์สิงห์ทอง หลังจากที่เขาไว้ศพมาเป็นเวลายาวนานมาก ฉันมานั่งจัดอาหารเลี้ยงพระ พี่เบลวเขาก็มา เขามาก่อนฉันเสียอีกแต่เขานั่งกับผู้หญิงคนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เขาคุยกันอย่างคนสนิทจนฉันรู้สึกตัวว่าบ้าไปเองที่คิดว่าเขามีใจให้ ฉันนั่งจัดอาหารจนเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากวัดพร้อมกับพี่เจี๊ยบ มาเดินเล่นบนรางรถไฟเพื่อดูแม่น้ำที่อยู่ข้างล่างสะพาน
ดาว....ดาว....
พี่เบลววิ่งมาเรียกฉัน ฉันตกใจมากคิดว่ามีเรื่องอะไรเพราะเห็นเขาทำหน้าตาตื่น ๆ อย่างไรชอบกล เขาวิ่งมาคุยอะไรกับพี่เจี๊ยบก็ไม่รู้จนพี่เจี๊ยบเดินออกไป
อ้าว...พี่เจี๊ยบจะไปไหนล่ะ
ฉันตะโกนลั่นสุดเสียงพี่เจี๊ยบหันมายิ้มแล้วก็โบกมือบ๊ายบายแล้วก็เดินออกไป ส่วนพี่เบลวก็เดินมาหาฉันแล้วก็ส่งไดอารี่คืนมาให้ฉัน
เมื่อวานใครไม่รู้เอามาใส่ในกระเป๋าพี่ อ่ะพี่คืนให้
แอบอ่านหรือเปล่า....!!!!
ก็นิดหน่อย แต่เก่งนะเขียนชีวิตส่วนตัวเป็นกลอนไปหมดเลย
ฉันรู้สึกอาย ๆ แล้วก็รู้สึกว่าเราเองไม่สมควรทำแบบนั้นเลย ฉันจึงเดินหนีออกมา
พรุ่งนี้วันเผาศพอาจารย์สิงห์ทองถึงพี่จะมาไม่ทันแกแต่พี่ก็จะบวชให้แก ดาวว่างหรือเปล่า ถ้าว่างพรุ่งนี้มาช่วยงานได้ไหม คือพี่อยากให้ดาวมาถือใบบัวให้พี่ตอนโกนผม พี่จะได้เอาใบบัวไปลอยน้ำไง
ฉันพยักหน้าแล้วก็เดินออกมา ฉันคิดว่าพี่เขาจะว่าเราซะอีกที่แท้ก็มาพูดเรื่องแค่นี้เอง ฉันเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง ฉันเห็นพี่เบลวเดินเข้าไปคุยกับพี่เจี๊ยบแล้วพี่เจี๊ยบก็ตีไหล่พี่เบลว ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่ 2 คนคุยอะไรกันแต่ที่รู้ ๆ ต้องไม่เกี่ยวกับเราแน่นอน
วันนี้เป็นวันที่พี่เบลวและพี่ ๆ อีกหลายคนจะบวชให้อาจารย์สิงห์ทอง ฉันมาที่วัดแต่เช้ามืดเอาใบบัวมารองผมให้พี่เบลว พี่นัท พี่ดอนและพี่ ๆ อีกหลายคนมองมาเป็นตาเดียวแล้วก็แซวฉัน
ตกลงปลงใจกับไอ้ทึ่มนี่แล้วเหรอ
ฉันทำหน้างง ๆ แล้วก็หันไปถาม
ไม่เข้าใจ...อธิบายหน่อยได้ไหมคะ
ทุกคนหัวเราะแล้วก็ไม่พูดอะไร พอตอนเย็นเผาศพอาจารย์เสร็จอาจารย์นิพนธ์ก็ไปเอาธงชาติที่คลุมอยู่บนฝาโลงออกมาเพื่อที่จะถวายวัด ส่วนพวกพี่ ๆ ก็ไปสึกบนกุฏิ
ดาว...เธอรอพี่เบลวหน่อยนะ
เธอ...
ฉันเป็นแฟนพี่เก้าน่ะ ไม่ใช่แฟนพี่เบลวหรอกอย่าคิดมาก
ฉันทำหน้างง ๆ แล้วก็หันไปมองคนอื่น ใคร ๆ เขาก็กลับกันหมดฉันจึงเดินออกไป ฉันไม่รู้ว่าจะรอพี่เบลวทำไมเพราะฉันไม่ใช่แฟนของเขานี่...
ดาว....!!!!!
พี่เบลววิ่งตามฉันออกมาแล้วก็ขึ้นรถเมย์มาพร้อมกัน มาลงที่หน้าสมาคมฯ ฉันเดินข้ามสะพานลอยมาโดยไม่พูดอะไร พี่เบลวก็ไม่พูดเหมือนกัน ราวกับว่าไม่รู้จักกัน พอเล่นยูโดเสร็จพี่เขาก็นั่งรถเมย์มาส่งฉันถึงหน้าปากซอย พี่เขาไม่พูดอะไรสักนิดจนกระทั่งลงจากรถเมย์
ดาว...พี่รักดาวนะ....!!!!
ฉันอึ้งแล้วก็หันไปมองหน้าพี่เบลว พี่เขายิ้มอย่างจริงใจแต่ฉันก็ทำหน้าเฉย ๆ
อ๋อ...เหรอก็รู้มานานแล้วละ
รู้ได้ไง...
รู้ของฉันหมายถึงรักแบบพี่ชาย แต่พี่เบลวคิดว่าฉันรู้ว่าเขารักฉันอย่างคนหนุ่มสาว เพราะหลังจากที่ฉันบ้าไปเองก็เลยทำให้หัวใจตายด้าน
พี่เบลวชอบดาวเหมือนน้องใคร ๆ ก็รู้...
ไม่ใช่อย่างนั้น...เป็นแฟนพี่ไหม
ฉันอึ้งแล้วก็หันไปยิ้ม
เอาไว้พิจารณาก็แล้วกันนะ...วันนี้ไปส่งดาวให้ถึงบ้านได้ไหม
พี่เบลวจึงเดินไปส่งฉันถึงบ้านเป็นครั้งแรก ทุกคนในบ้านชอบพี่เบลวมากยกเว้นพ่อของฉัน ดูท่านจะไม่พอใจเอาเสียเลย แต่ยังไง ๆ ฉันก็รู้แล้วละว่าที่ฉันคิดว่าฉันบ้านั้นมันไม่จริง...ฉันเดาถูกว่าเขารักฉันจริง ๆ...
......................................19.....................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ จะอวสานแล้ว