2 กุมภาพันธ์ 2548 01:50 น.
สุชาดา โมรา
ว่ากันว่าสีแต่ละสีมีความหมายในตัวของมันอยู่แล้ว เมื่อสีใดสีหนึ่งมาอยู่บนตัวเรา เราก็จะแสดงความรู้สึกออกมาตามสีนั้น แล้วคุณคิดว่าสีไหนเหมาะกับคุณที่สุด
1. สีดำ เป็นสีที่บ่งบอกถึงความมีอำนาจ ดูภูมิฐาน และดูเป็นผู้ดีมี รสนิยม นอกจากนี้ยังเป็นสีที่นำไปแมทช์กับสีอื่นๆ ได้ง่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรู้จักเลือกแต่งให้เข้ากับเครื่องประดับ รองเท้า เมคอัพ ด้วย เดิมใครเป็นสาวมั่นอยู่แล้ว พยายามอย่าใส่ชุดสีดำใส่ไปสัมภาษณ์ งานเด็ดขาด เพราะมันอาจทำให้คุณดูเด่นเกินหน้า ซึ่งอาจถึงขั้นสวยข่มรัศมีอนาคตเจ้านายก็เป็นได้
2. สีแดง ช่างเป็นสีที่เด่นและสะดุดตาเหลือเกิน นั่นเพราะสีแดงเป็น สัญลักษณ์ของความร้อนแรง เย้ายวนใจ ดังนั้นคนที่ใส่จะต้องเป็น คนมั่นใจในตัวเอง ค่อนข้างเปิดเผยและมีลักษณะเป็นผู้นำ ความโดดเด่นของสีแดงใครเห็นก็ต้องหยุดมอง หากสาวใด ต้องการเป็นจุดสนใจ ใส่ชุดแดงออกไปเดินแถวเซ็นเตอร์พอยต์ หรือเอ็มโพเรียม ได้เลย
3. สีเหลือง ถึงแม้จะเป็นสีที่ไม่ค่อยเตะตาใครต่อใครเหมือนสีอื่น แต่ความโดดเด่นของสีเหลืองก็บ่งบอกได้ว่า คุณเป็นคนอารมณ์ดี ร่าเริง แจ่มใส และอ่อนโยน แต่อย่าได้ใส่ประเภทเหลืองแจ๊ดจนกลายเป็นส้ม เพราะสีส้มอาจเปลี่ยนบุคลิกจากสาว น้อยให้กลายเป็นหญิงกร้านโลกใน สายตาคนรอบข้างได้ในพริบตา
4. สีฟ้า เป็นสีที่ผสมระหว่างความอ่อนหวานและแข็งแกร่ง เป็นตัวแทนของความสดใสและ กระฉับกระเฉงได้อย่างลงตัว เพราะเหตุนี้สีฟ้าจึงค่อนข้างป็อปปูลาร์ในหมู่สาวน้อยสาวใหญ่ เพราะจะแต่งให้เท่หรือหวานก็ได้
5. สีเขียว เป็นสีที่แสดงออกถึงความสุขุม เยือกเย็น ใกล้เคียงกับสีฟ้า แต่น่าแปลกที่วงการแฟชั่นไม่ค่อย นิยมใช้สีเขียวกัน คงเป็นเพราะ วงการแพทย์ชิงเอาไปใช้เสียก่อน ดีไซน์เนอร์จึงเกรงว่าถ้าใส่เสื้อ ผ้าสีเขียว แล้ว เดี๋ยวคนจะทึกทักเอาว่าขโมยชุดคนไข้มาใส่รึไง
6. สีม่วง พูดถึงสีนี้ทีไรคนไทยชอบเหมาว่าเป็นสีแม่ม่าย ทุกที ไม่รู้ต้นคิดมาจากไหน แต่ฝรั่งกลับมองว่า สีม่วงหมายถึง เสน่ห์อันแสนลึกลับ น่าค้นหา ประมาณว่าเป็นสาวรักสันโดษ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร
7. สีขาว ใส สะอาด บริสุทธิ์ และสวยงาม ต้องยกให้สีขาว จึงไม่แปลกใจ ว่าทำไมชุดแต่งงานถึงนิยมใช้สีขาวเป็นหลัก แต่ถ้าในชีวิตประจำวัน หากวันไหนลุกขึ้นมาใส่ขาว ล้วนก็ต้องสวมเครื่องประดับด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำให้ทั้งเสื้อผ้าและคนใส่ดูจืดชืดเกินไป แต่ถ้าจะเอาไปใส่แมทช์กับสีอื่นก็ย่อมได้ เพราะสีขาวเข้าได้กับทุกสีอยู่แล้ว
8. สีชมพู นุ่มนวล อ่อนหวาน คือ คุณสมบัติของสีชมพู ถ้าคุณไม่ใช่ สาวหวาน กุ๊กกิ๊ก น่ารักจริงๆ อย่าพยายามใส่ เพราะจะขัดกับ บุคลิกเอามากๆ
เลือกสีให้เข้ากับสีผิวและเส้นผม
เลือกอย่างไรให้สวยและดูดี มีสูตรง่ายๆ อยู่ว่า ให้เลือกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสีผิวและผม เช่น ผิวขาว สีผมและนัยน์ตาดำ : ควรเลือกใส่ชุดสีอ่อนๆ สว่างสดใส เช่น เหลือง ฟ้า ชมพู ขาว ครีม พยายามหลีกเลี่ยงสีขุ่นๆ อย่างน้ำตาลหรือเทาเข้ม เพราะจะทำให้ดูหมอง ขาดความสดชื่น
ผิวขาว สีผมและนัยน์ตาสีน้ำตาล : จริงๆแล้ว จะใส่ชุดอ่อนหรือสีเข้ม ก็ได้ แต่ถ้าให้ดีแนะนำว่าสีเข้มอย่าง สีแดง น้ำเงิน ม่วง หรือ ดำ จะสวยกว่า เพราะทั้งสีผมและผิวค่อนข้างสีอ่อน การใส่สีเข้มจะช่วยขับให้ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น
ผิวคล้ำ : ไม่ว่าสีผมของคุณจะน้ำตาลหรือดำ ไม่มีผล เพราะสีผิวคล้ำมีทางเลือกเดียวคือ ต้องใส่เสื้อผ้าสีอ่อนๆ เท่านั้น เช่น ฟ้า ขาว ครีม ชมพู และถ้าไม่อยากเป็นถูกเปรียบเปรยว่า เหมือนอีกาคาบพริก ก็จงลืมสีแดงไปได้เลย
2 กุมภาพันธ์ 2548 01:46 น.
สุชาดา โมรา
ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจที่เกิดมาร่างเล็ก หุ่นกระจิ๊ดริด เพราะสาวตัวเล็กก็่โดดเด่นได้ อย่าง แม่หน ูซาร่าห์ มิเชล กิลลาร์ หรือวิโนน่าไรเดอร์ พวกเธอก็ใช่สาวหุ่นสูงกับใครๆ เขาซะทีไหน เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะต่างหาก
ชุดทำงาน
กระโปรงมินิสั้นจู๋ อาจจะไม่เหมาะสำหรับบุคคลิกที่น่าเชื่อถือในวันทำงาน เลือกใส่กระโปรงมิดี้ความยาวประมาณเข่าจะดีกว่า ส่วนกระโปรงชนิดที่ยาวเลยเข่า เหมาะสำหรับสาวสะโพกเล็ก และหากใส่ไม่ดี ก็เสี่ยงจะกลายเป็นป้าๆได้นะคะสีสันควรเลือกโทนสีเรียบ ๆ เช่น ขาว เทา ดำ หรือน้ำเงินจะใช้ได้นาน ไม่ตกยุค เสื้อ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อตัวโคร่ง ๆ เพื่อให้แลดูตัวใหญ่
กระโปรงวันหยุด
กระโปรงมินิ จะช่วยพรางตาให้คุณดูช่วงขายาวขึ้น ถ้าเรียวขาไม่สวย ลองหาถุงน่องมาสวม ก็พอช่วยได้ แต่ถ้าไม่อยากอวดเรียวขา กระโปรงยาวเข้ารูป จะผ่าหน้าหรือผ่าข้างก็เลือกใส่ได้ค่ะ แต่ที่ควรเลี่ยงคือ กระโปรงชนิดรูด มีจีบ หรือระบายกรุยกราย จะทำให้คุณดูตัวเตี้ยเข้าไปอีก
ชุดแส็ค
ควรเลือกสไตล์ที่เรียบสุด ไม่มีจีบย้วยรอบตัว และใส่คู่กับเครื่องประดับเพียงน้อยชิ้น เพราะยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรุ่มร่ามมากขึ้นเท่านั้น
กางเกงวันหยุด
กางเกงยีนส์ทรงตรง สร้างเสน่ห์ให้กับสาวขาสั้นได้ดี เพราะช่วยให้ช่วงขาดูยาวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกางเกงทรงโคร่ง เพราะจะทำให้ช่วงล่างดูเทอะทะมากขึ้น
รองเท้า
รองเท้าส้นสูง จะช่วยให้คุณดูสูงขึ้นค่ะ ส่วนรองเท้าส้นแบนเอาไว้ให้สาวสูงเพรียวเค้าใส่กันเถอะค่ะ
เครื่องประดับ
อย่าใส่ให้มากเกินควร เพราะจะทำให้ดูรก และรสนิยมเลอะเทอะเลือกชิ้นเล็ก ๆ เก๋ ๆ จะสวยเด่นกว่า
แต่ที่สำคัญก็คือ ความมั่นใจ ลองคุณมั่นใจซะอย่าง ความสูงก็ไม่ใช่อุปสรรคของความสวยหรอกค่ะ เพราะคุณสามารถดูดีได้ในสไตล์ของคุณเองค่ะ
ขาวพราวเสน่ห์
แฟชั่นหน้าร้อน มักเน้นความสะอาดตา สีขาวจึงเป็นสียอดนิยมสำหรับเสื้อผ้ารับลมร้อน ไม่ว่าจะเป็นเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว อวดเรียวขา ของสาว ๆ ชุดราตรีสีขาว ดูสวยบริสุทธิ์แต่พราวเสน่ห์สำหรับสาวหน้าร้อน หรือชุดทำงานสีขาวเข้ารูปก็ดูเรียบเท่ และมาดมั่นได้ เคล็ดลับในการใส่ชุดสีขาว
1. ใส่คู่กับเครื่องเคียงสีเงิน จะทำให้ดูสวย เหมือนเจ้าหญิง
2. เมื่อใส่ชุดสีขาว ควรเลือกใส่ชุดชั้นในสีเนื้อ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เห็นริ้วรอยของชุดชั้นใน เนื่องจากสีเนื้อจะช่วยพรางตาให้ดูกลมกลืนกับสีผิว
จะสวยหรือโทรม สีสันสำคัญจริงเหรอ?
อะไรถึงทำให้คิดว่าผู้หญิงให้ความสำคัญกับสี สังเกตได้จากเวลาเลือกเสื้อผ้า บางคนแบบเสื้อไม่เก๋ไม่ว่าแต่ขอเน้นสีสันให้สวยเช้งไว้ก่อน แต่อย่าลืมว่า การเลือกสีนั้น ต้องคำนึงถึงบุคลิกหรือสีผิวมากกว่าความชอบส่วนตัวเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าปกติชอบสีแดงแรงฤทธิ์เหลือเกิน แต่ผิวพรรณ กระเดียดไปทางบุญรอด ก็ยังฝืนใส่ อย่างนี้เขาเรียกว่าใช้ความมั่นใจผิดทางไปหน่อย
2 กุมภาพันธ์ 2548 01:45 น.
สุชาดา โมรา
ดีไซเนอร์ชื่อดังส่วนใหญ่ มักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " If You look good, you feel good , and you do good " นั่นคือ การแต่งตัวดี ทำให้รู้สึกมั่นใจ เมื่อมั่นใจซะอย่างจะพูด หรือทำอะไร ก็ย่อมได้รับการยอมรับ ได้รับความเชื่อถือ มากกว่าคนที่ไม่มั่นใจแม้แต่ในเรื่องเสื้อผ้าหรือบุคคลิกของตัวเอง แม้ว่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือทรงผม ล้วนแต่ถูกจัดให้เป็นเรื่องของแฟชั่นกันไปหมด แต่การแต่งตัวให้ดูดี คุณไม่จำเป็นต้องวิ่งตามกระแสแฟชั่นเสมอไป ไม่อย่างนั้น มีหวังกระเป๋าฉีกกันไปตาม ๆ กัน แต่อยู่ที่การนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวคุณเองมากกว่า เรียกว่าสวยในสไตล์ของตัวเองนั่นแหล่ะค่ะ แต่จะสวยในสไตล์ของตัวเองได้อย่างไร ดีไซเนอร์ส่วนใหญ่เขาแนะนำไว้อย่างนี้ค่ะ
1. ลองรื้อค้นตู้เสื้อผ้า แล้วดูสิค่ะว่า เสื้อผ้า รองเท้าหรือกระเป๋าใบไหนที่เป็นคู่โปรด หรือชุดเก่งของคุณ และคัดแยกประเภทที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ออกมา คุณก็ค้นพบความเป็นตัวขอตัวเองมากขึ้น
2. คงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดัง ราคาสูงลิ่ว แล้วจึงจะมั่นใจ แต่การนำแนวคิดที่เป็นสากล มาปรับให้เข้ากันกับสไตล์ของแต่ละคน จุดนี้ต่างหาก ที่คุณจะได้รับประโยชน์จากการดูแฟชั่น
3. การแต่งตัวในยุคนี้ ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น จึงไม่ควรจำกัดตัวเองกับการแต่งตัวรูปแบบเดียว ชุดทำงานอาจดูขรึมขลังหน่อย เพื่อเสริมมาดหญิงมั่น แต่ในวันหยุด คุณอาจจะลุกขึ้นมาแต่งแบบสไตล์สาวเปรี้ยว หรือจะเป็นสาวหวาน สดใส ด้วย เสื้อผ้าสีสด คุณก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ตามใจชอบ ขอให้มีความมั่นใจที่จะใส่เท่านั้นแหล่ะค่ะ ขอเพียงมั่นใจที่จะแต่ง ศึกษาหาข้อมูล ในการที่จะแต่งตัวให้ดูดีในสไตล์ของตัวคุณเอง คุณก็ไม่มีปัญหากับการที่ต้องวิ่งตามกระแสแฟชั่นกันแทบทุกฝีก้าว และมั่นใจได้ว่าสวยอย่างมีสไตล์แน่นอนค่ะ ก็คนใส่มั่นใจซะอย่าง !
2 กุมภาพันธ์ 2548 01:43 น.
สุชาดา โมรา
หากคิดจะใส่เสื้อฟิตๆ หรือแต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ดเกาะอก โชว์หลังโชว์ไหล่ สักขนาดไหน ก็ไม่ต้องกลัวว่าบราจะเป็นอุปสรรคอีกต่อไปแล้ว เพราะสมัยนี้เขาผลิตบราออกมา เอาใจสาว ช่างแต่งตัวโดยเฉพาะ ถ้าอยากรู้ว่าชุดสวยของคุณ จะเหมาะกับบรา แบบไหน พลาดไม่ได้กับไกด์ไลน์ ที่เราเอามาฝาก พร้อมกับวิธีเลือกซื้อบราตัวใหม่ หรืออาจจะเป็นตัวแรก สำหรับสาวเฟิร์สบราหลายๆ คนด้วย
ชุดโชว์หลัง เปลือยไหล่ จะไปงานสโมสรยามราตรี ไปแดนซ์กับ เพื่อนฝูงหรือ ไปออกเดทกับ หนุ่มหน้ามน บราที่เหมาะ กับชุด นี้คือ แบบไร้สายเต็มตัวและเน้น ว่า ด้านหลังลึกหน่อย
เสื้อเชิ้ตแบบปลดกระดุม สาวเท่แต่แอบเซ็กซี่ชอบสวมเชิ้ตปลดกระดุม บน 2 เม็ด โชว์อกวาบหวิวทั้งที จะมาใส่บราพื้นๆ ได้ไง แนะนำว่าควรใส่แบบ ไม่มีตะเข็บ ตะขอหน้าห่างๆ หน่อย ทรงคล้ายๆ สปอร์ตบรานิดๆจะช่วยดันทรงให้เต่งตึงสวยงาม
เสื้อเกาะอก ส่วนสาวเกาะอก สายเดี่ยวโชว์ไหล่ทั้งหลาย ก็ต้องใส่บราแบบไร้สาย หรือถ้ายังมือใหม่มาก ไม่เคยใส่เลย อาจจะรู้สึกโหวงๆ อาจจะไปหาซื้อสายแบบใสๆ เล็กๆ มาใส่รั้งไว้ก่อน
เสื้อกล้ามหรือเสื้อไหล่ล้ำเว้าเข้าหลัง การโชว์หลังแว๊บๆ แบบนี่ ถ้ามีสายอะไรมาเกะกะก็คงไม่สวย วิธีแก้คือ ซื้อบราแบบสายไขว้ ด้านหลัง ตะขอหน้า
ชุดโชว์หลัง เปลือยไหล่ จะไปงานสโมสรยามราตรี ไปแดนซ์กับ เพื่อนฝูงหรือ ไปออกเดทกับ หนุ่มหน้ามน บราที่เหมาะ กับชุด นี้คือ แบบไร้สายเต็มตัวและเน้น ว่า ด้านหลังลึกหน่อย
เสื้อเชิ้ตแบบปลดกระดุม สาวเท่แต่แอบเซ็กซี่ชอบสวมเชิ้ตปลดกระดุม บน 2 เม็ด โชว์อกวาบหวิวทั้งที จะมาใส่บราพื้นๆ ได้ไง แนะนำว่าควรใส่แบบ ไม่มีตะเข็บ ตะขอหน้าห่างๆ หน่อย ทรงคล้ายๆ สปอร์ตบรานิดๆ จะช่วยดันทรงให้เต่งตึงสวยงาม
เสื้อเกาะอก ส่วนสาวเกาะอก สายเดี่ยวโชว์ไหล่ทั้งหลาย ก็ต้องใส่บราแบบไร้สาย หรือถ้ายังมือใหม่มาก ไม่เคยใส่เลย อาจจะรู้สึกโหวงๆ อาจจะไปหาซื้อสายแบบใสๆ เล็กๆ มาใส่รั้งไว้ก่อน
เสื้อกล้ามหรือเสื้อไหล่ล้ำเว้าเข้าหลัง การโชว์หลังแว๊บๆ แบบนี่ ถ้ามีสายอะไรมาเกะกะก็คงไม่สวย วิธีแก้คือ ซื้อบราแบบสายไขว้ ด้านหลัง ตะขอหน้า
เสื้อยืดรัดรูปหรือเสื้อคอเต่า เมื่อใส่แล้วมักเน้นให้เห็น หน้าอก หน้าใจ จะมาใส่แบบลีบๆ แบนๆ ก็คงไม่เหมาะ ถ้าใส่เป็นประจำ น่าจะซื้อบราแบบดันทรงติดไว้สัก 2-3 ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่มักถูกกล่าวหา ว่าอกเล็กเหมือน ไข่ดาว
ชุดสำหรับงานค็อกเทล ที่มีสายคล้องคอเส้นเล็กจิ๋ว ทำให้คุณดูเซ็กซี่สุดสุด เลือกสไตล์ที่เรียบง่ายหรือแบบสดใสสุดๆก็ยังได้ แต่เน้นเนื้อผ้าที่ทิ้งตัว ใส่สบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว คุณจะได้สนุกสุดเหวี่ยงกับงานเลี้ยงเริงรื่น โดยไม่ต้องกังวลว่าชุดสวยของคุณจะยับย่น หรือเสียรูปทรงจนหมดสวย
2 กุมภาพันธ์ 2548 01:42 น.
สุชาดา โมรา
เสื้อผ้า..จะหญิงหรือชายก็ชอบซื้อกันจริง ขนซื้อกันชนิดที่ว่าบางคน ตู้เสื้อผ้าใบเดียวไม่พอใส่ ทั้ง แบรนด์เนมแบรนด์ไทยเต็มตู้ไปหมด แต่ละชิ้นแต่ละตัวราคาไม่ใช่ถูกๆ (ถึงแม้จะซื้อตอน sale ก็เถอะ) ซื้อมาแล้วก็ต้องใส่ให้คุ้มกันหน่อย แต่คุ้มในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ใส่เสียจนเยินไปทั้งตัวนะคะ อยากให้คุ้มค่า คือใส่ไปได้นานๆ ต่างหากล่ะ
จริงๆ แล้วการดูแลรักษาเสื้อผ้า ไม่ต้องใช้พรสวรรค์การเป็นแม่บ้านแม่เรือนก็ได้ เพราะมีปัจจัย อยู่ไม่กี่อย่างที่เราต้องเอาใจใส่ อย่างเช่น ผ้าชนิดนี้ต้องซักอย่างไร ต้องรีดความร้อนระดับไหน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ไม่ยากเลย เวลาซื้อเสื้อผ้ามาจะสังเกตเห็นว่า บริเวณคอเสื้อ หรือด้านในของขากางเกงหรือกระโปรง มีป้ายเล็กๆ เขียนสัญลักษณ์ 2-3 ตัว เย็บติดอยู่ (ชุดชั้นในหรือชุดว่ายน้ำ ก็มีเหมือนกัน) ตรงป้ายนี้ล่ะเขาจะบอกไว้หมดว่า เราควรดูแลผ้าชิ้นนี้อย่างไร ไม่ว่าคุณจะซื้อเสื้อผ้าจากประเทศไหนในโลก หน้าตาสัญลักษณ์ก็เหมือนกันหมด ลองมาดูกันว่า สัญลักษณ์แต่ละตัวบอกอะไรเราบ้าง ถึงอยู่บ้านจะเป็นคุณหนูคุณนายก็ควรรู้ไว้ จะได้เก็บไปถ่ายทอดให้สมศรีที่บ้านปฏิบัติตาม
WASHING ถ้าเห็นเครื่องหมายนี้ ก็แปลว่า ใช้เครื่องซักผ้าซักได้ แต่บางครั้งคุณอาจเห็นสัญลักษณ์แบบเดียวกันนี้ แต่มีตัวเลข 30 40 50 90 กำกับอยู่ในนั้นด้วย ตัวเลขนี้บอกให้รู้ว่า อุณหภูมิของน้ำที่ควรใช้ซักผ้าชิ้นนี้เท่าไร แต่ไม่จำเป็นต้องซีเรียสตาม สำหรับบ้านเราใช้น้ำที่ออกมาจากก๊อกปกติก็พอแล้ว เวลาซักก็ควรแยกซักระหว่างผ้าขาวกับผ้าสี โดยเฉพาะสีดำ เพื่อป้องกันการตกสี จากนั้นควรกลับเอาผ้าด้านในออกซัก โดยเฉพาะกางเกงยีน จะได้ไม่ดูเก่าและซีดเร็ว เห็นภาพนี้เป็นอันรู้เลยว่า ควรใช้มือซักค่ะ เพราะผ้าบางชนิดไม่เหมาะจะซักด้วยเครื่อง ทีนี้การซักมือ ก็ต้องระวังเช่นกัน หนึ่ง แช่ผ้าในน้ำผงซักฟอกสักระยะเพื่อให้คราบสกปรกต่างๆ หลุดออกไป แต่อย่าแช่นานเกินไป เดี๋ยวผ้าสีตก สอง ใช้มือขยี้เบาๆ อย่าใช้แปรงเด็ดขาด สาม เวลาล้างน้ำสะอาด ต้องล้างผงซักฟอก เครื่องหมายนี้บ่งบอกว่า ซักแห้ง เท่านั้น ซึ่งการซักแห้งเป็นงานละเอียดอ่อน และยุ่งยากต่อการทำเองที่บ้าน แนะนำว่าส่งร้านซักรีดจะสะดวกและปลอดภัยกว่า เพราะผ้าที่ต้องซักแห้งจะเป็น ผ้าไหม ไหมพรมและพวกขนสัตว์ ซึ่งราคาค่อนข้างแพงทั้งนั้น นี่ก็ซักแห้ง แต่ตัว P กำหนดว่า ควรใช้น้ำยาซักแห้งที่มีส่วนผสมของสาร Perchlorethylene ซึ่งปลอดภัยทั้งคนและผ้าซักแห้งเช่นเดียวกัน แต่ตัว A หมายความว่าใช้น้ำยาซักแห้งชนิดใดก็ได้
DRYING จริงๆแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการตากผ้าคือ ตากแดดตากลมให้แห้งตามธรรมชาติ ยกเว้นในยามที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็คงต้องพึ่งเครื่องซักผ้าช่วยปั่นแห้ง การปั่นด้วยเครื่องซักผ้าดีตรงที่สะดวก แต่ผลเสียของการปั่นบ่อยๆ จะทำให้ผ้าหดตัวสัญลักษณ์นี้มักเห็นกันบ่อยๆ คือ ห้ามใช้น้ำยาซักผ้าขาว ปั่นจนแห้งสนิทด้วยเครื่องซักผ้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องตากแดด และเสียทรงได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ๆ ลองเช็คดูว่าเสื้อผ้าที่ใส่มีสัญลักษณ์แบบนี้บ้างหรือเปล่า
IRONING เสื้อผ้าแห้งแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การรีดผ้า จากประสบการณ์ขอบอกค่ะว่า เป็นงานที่ยากและน่าเบื่อที่สุด แต่ก็จำเป็น เพราะการรีดนอกจะช่วยให้ทั้งเสื้อผ้าและคนใส่ดูดีแล้ว ยังทำให้ทรงของเสื้อผ้าเข้ารูปเข้ารอยอยู่ได้นาน ซึ่งปัจจัยจะปั่นหรือบิดด้วยมือก็ได้ แค่พอให้แห้งหมาดๆ ก็พอ แล้วนำไปตากแดด สำคัญของการรีดผ้าอยู่ที่ ความร้อน ร้อนมากไปผ้าอาจจะไหม้ ร้อนน้อยไปผ้าก็ไม่เรียบ เพราะฉะนั้นก่อนรีด พลิกป้ายคำ ให้ใส่ไม้แขวนแล้วตากแนวตรงตามทรงของเสื้อผ้า มักจะใช้กับเสื้อผ้าที่น้ำหนักไม่มาก แนะนำขึ้นมาดูสักนิดหนึ่ง ว่าเสื้อหรือกางเกงตัวนี้ ควรใช้ความร้อนมากประมาณไหน
ถ้าเป็นประเภทเสื้อขนสัตว์ เสื้อสเวตเตอร์ไหมพรม หรือแจ็คเก็ตนวมตัวใหญ่ๆ จะต้องเห็นสัญลักษณ์นี้ วิธีตากคือ ตากเสื้อลงบนพื้นแนวราบ (ถ้ากลัวเสื้อเลอะ ให้ปูผ้าเช็ดตัวก่อน แล้วค่อยวางเสื้อตากลงไป) วิธีเพื่อเป็นการรักษาทรงของเสื้อจุดเดียวแบบนี้ แปลว่า ไม่ร้อนเลย เหมาะสำหรับผ้าใยสังเคราะห์จำพวกโพลีเอสเตอร์ ไนลอน และ ผ้าไหมด้วย 2 จุด คือ ใช้ความร้อนปานกลาง พออุ่นๆ เหมาะสำหรับพวกขนสัตว์ และผ้าคอตตอน
3 จุด คือ ต้องเร่งความร้อนเตารีดสูงมาก ( แต่ระวังอย่านาบเตารีดบนผ้านานๆ กากบาทแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ห้ามรีด ค่ะ ) แถมท้ายเรื่องรีดผ้าอีกนิด ไม่ว่าจะรีดอะไรควรใช้ที่รองรีดทุกครั้ง ถ้ารีดเสื้อผ้าสีดำ ให้กลับเอาด้านในออกมารีด ป้องกันผ้าเป็นรอยเงาด่างๆ และให้ระวังพวกป้ายยี่ห้อ หรือ โลโก้ ที่ติดบนตัวเสื้อหรือกางเกง ที่ทำจากพลาสติก เพราะอาจละลายไหม้ติดเตารีด แต่ถ้าไม่อยากปวดหัวเรื่องรีดอีกต่อไป แนะนำว่าหาซื้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่ยับง่ายดีกว่า เป็นอันว่าสำเร็จเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน รู้อย่างนี้แล้วซื้อเสื้อผ้าคราวหน้า จะมีป้ายหรือไม่มี ก็คงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และถ้าเป็นไปได้ควรหมั่นทำให้ติดเป็นนิสัย ชุดใหม่ๆ จะได้ไม่เก่าเร็ว