13 มกราคม 2549 19:12 น.
สุกรวดี
เคยหลงรักคนที่มีเจ้าของ
เฝ้าหมายปองครองจิตคิดสับสน
ได้เห็นเขาคลอคู่อยู่สองคน
ดวงกมลปวดร้าวทุกคราวไป
บ้านอยู่ชิดติดกันยามฉันเศร้า
มีเพียงเขาเป็นคอยดูอยู่ชิดใกล้
เขาเมตตาอารีย์มีน้ำใจ
ฉันจึงได้หลงผิดจิตผูกพัน
คิดว่ามีเยื่อใยให้ฉันอยู่
มิเคยรู้เขามีที่ใฝ่ฝัน
เป็นรักคุดอุดอู้อยู่นานวัน
เขาคนนั้นมีหญิงอื่นชื่นชิดชม
ฉันหมองหม่นทนยืนฝืนยิ้มทัก
แค่อกหักไกลหัวใจไม่ขื่นขม
จะปล่อยรักลอยไปกับสายลม
มิซานซมให้เห็นเช่นวันวาน
เส้นทางรักระหว่างเขากับฉัน
จะขีดกันให้เป็นเส้นขนาน
มินานคงเลือนลับไปกับกาล
สู่สถานนิยามความเป็นจริง
11 มกราคม 2549 22:22 น.
สุกรวดี
ช่วงชีวิตคนเราเขาว่าไว้
ผ่านเร็วไวไม่อาจคิดคาดหวัง
วันนี้สุขพรุ่งนี้ทุกข์รุกประดัง
อนิจจังไม่เที่ยงแท้นั้นแน่จริง
สองสิ่งในชีวิตคิดไว้เถิด
อะไรเลิศอย่างไรในสองสิ่ง
หนึ่ง...ความดีทำไว้อย่าได้ทิ้ง
สอง...อย่าอิงความชั่วมั่วอบาย
เจตนาทำดีเป็นที่ตั้ง
กลับพลาดพลั้งเกี่ยวเนื่องเรื่องเสียหาย
ทางที่เคยเดินเที่ยวกลับเปลี่ยวดาย
ตลอดสายเส้นทางร้างผู้คน
แต่ยังดีมีใจไปเป็นเพื่อน
ใจคอยเตือนสติมิสับสน
ก้าวต่อไปไม่พลั้งไม่กังวล
รู้เหตุผลกลในเพราะใจเรา
สองข้างทางที่เห็นเป็นแต่ป่า
ทั้งเสือสิงห์ลิงฬานกกาเหว่า
ช่อดอกไม้สดสวยช่วยบรรเทา
แผ่ร่มเงาพักผ่อนคลายอ่อนใจ
ช่วงชีวิตหนึ่งช่วงดวงชีวิต
มีถูกผิดอยู่ทั่วมัวและใส
แต่ละช่วงห่วงหามากอาลัย
พอหมดช่วงล่วงวัยไร้อัตตา ! ฯ
2 มกราคม 2549 10:36 น.
สุกรวดี
เก็บผกามาลีสีสลับ
ค่อยเรียงทับจับชมผสมผสาน
ผูกเป็นช่อสูงต่ำด้วยชำนาญ
บรรณาการขานต่อขอขอบคุณ
รับผกามาลีช่อนี้ไว้
เป็นมาลีจากใจให้กลิ่นกรุ่น
ขอเอามาลีร้อยเป็นสร้อยบุญ
เพื่อให้หอมละมุนให้อุ่นใจ ฯ
แทนสร้อยทองคล้องไว้ให้มองเห็น
ทั้งยังเป็นผลงานกานท์ชิ้นใหม่
ที่ร่วมกันสรรสร้างอย่างวิไล
เผยแผ่ไปในแห่งแหล่งวงศ์วรรณ
ส่งอินเตอร์เนตล่องฟ่องเวหา
ใส่เว็บไซด์ลอยฟ้าเสริมค่าฝัน
มิตรนักกลอนเปิดดูอยู่ทั่วกัน
ไม่มีวันลืมเลือนเพื่อนนักกลอน ฯ
เป็นรางวัลปันผลการค้นหา
ทั้งเห็นค่าควรรักษ์ซึ่งอักษร
ให้อยู่ยงคงมั่นนิรันดร
สืบสุนทรภู่ไว้ไม่อับจน
รางวัลงามตามฝันที่สรรค์ให้
ประคองจับรับไว้มิให้หล่น
เป็นบรรณาการล้ำฉ่ำกมล
จะเวียนวนเตือนใจมิให้ลืม ฯ