15 มกราคม 2548 21:39 น.
...สียะตรา..
บทที่ ๕
วันนี้ปองตื่นเช้า ได้ใส่บาตรกับคุณอรอีกแล้ว ..ปองตื่นแต่งตัวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางช่วยฉันเตรียมของถวายพระกลิ่นข้าวหอมละมุน กับข้าว และของหวานที่มือของเราทั้งสองบรรจงใส่ลงในบาตรนั้นทำให้ปิติไม่ต่างกับอรุณแรกของเราเลย เดินทางดีๆนะคะ แล้วเย็นๆพบกัน ฉันพูดกับปองเหมือนทุกๆครั้ง..จัดปกเสื้อเครื่องหมายยศต่างๆให้เรียบร้อย หากวันนั้นต่างไปตรงที่ปองจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของฉันนิ่ง..นาน..ฉันเสยผมใต้หมวกเครื่องแบบให้ปองด้วยความคิดถึงจับใจ กลับบ้านเร็วๆนะคะ ตลอดวันฉันดูสับสนวุ่นวายใจทั้งที่ไม่มีงานใดๆเร่งรัดเหมือนที่ผ่านมา จนเมื่อหันเหความคิดของตัวเองไปจัดเสื้อผ้าของใชัที่ต้องใช้ที่สัตหีบตามแผนที่ปองวาดไว้ฉันจึงรู้สึกสงบขึ้นบ้าง ฉันสัญญากับตัวเองว่าครั้งนี้ฉันตามใจปองที่อยากให้ฉันอยู่ท่ามกลางความบริสุทธิ์ของแสงแดด ไอทะเลพร้อมๆกันเสียเหลือเกินแม้ว่าหลังจากนั้นฉันจะย่ำแย่กับอาการแพ้สิ่งเหล่านั้นมากกว่าคนอื่นๆก็ตาม
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบงันรอบๆตัวฉันในยามดวงตะวันใกล้จะสิ้นแสง คุณอร ช่อชฎานั่นเอง คุณช่อรึคะ ปองยังไม่กลับเลยค่ะ บอกว่าจะกลับเย็นๆมีงานพิเศษน่ะค่ะ คุณอร ฟังช่อนะ มาที่ร.พเดี๋ยวนี้เลย ทำใจให้สงบ แต่รีบมา มีอะไร ใครเป็นอะไรคะคุณช่อ มาเดี๋ยวนี้ คุณอร ช่อชฎาวางสายไปแล้วทิ้งฉันไว้กับความงุนงงตลอดการเดินทางอันร้อนรุ่มฉันเพียรติดต่อกับปองทั้งที่ไม่เคยทำหากอยู่ในเวลางานของปองช่อยืนคอยฉันอยู่แล้วเมื่อถึงร.พ ภายในห้องภาพแม่ของปองที่นิ่งสนิทจากทุกอย่าง คุณปานสุมาที่ซบหน้าข้างเตียงเคลื่อนไหวด้วยเสียงสะอื้นไห้ ปกเขตซุกตัวอยู่บนโซฟาร์มุมห้องคงมีแต่ช่อชฎาเท่านั้นกระมังที่คงสติเข้มแข็งทั้งที่ดวงตาแดงช้ำ แม่เป็นอะไรคะคุณช่อ แล้วปองล่ะคะ....ที่สุดฉันก็ได้พบร่างของปองที่ไม่ต่างจากการร่ำลากันเมื่อเช้า อุบัติเหตุคุณอร ยางรถคันที่ปองนั่งระเบิดรถเสียหลักแล้วพลิกคว่ำปองเป็นคนเดียวที่เจ็บหนัก เสียงของช่อเหมือนเสียงผึ้งบินหึ่งๆอยู่ข้างหูฉันฉันกุมมือไร้สัมผัสของปองไว้ในสองมือของฉัน หันไปหาช่อ หาแพทย์ที่ยืนอยู่รอบเตียงหาคำตอบว่า ปองเป็นอย่างไร คุณอร หมอดูจากแผล พริบตาเดียวที่ปองไปจากเราทุกคน ปองไม่เจ็บนะคุณอร ฉันยังคงประคองมือของปองไว้ด้วยความรู้สึกที่ดิ่งลึกสู่ความว่างเปล่า ไม่มีน้ำตา ไร้เสียงหวนไห้ ให้เจ้าหน้าที่เค้าพาปองไปดูแลเปลี่ยนเสื้อผ้านะคุณอร ช่อชฎาแยกมือของฉันกับปอง ให้ฉันทำนะคะ ได้โปรด ให้ฉันเป็นคนดูแลปอง ช่อจะช่วยคุณอร เจ้าหน้าที่ของร.พ เลี่ยงไปมุมห้อง..ดับจิตฉัน ช่อชฏาและคุณปานสุมายืนอยู่รอบอ่างที่มีตะแกรงรองรับร่างของปอง ทว่าเพียงน้ำหยดแรกที่คุณปานลูบลงบนใบหน้าของปองเธอก็ทรุดตัวลงไม่สามารถที่จะฝืนความรู้สึกโศกเศร้าได้ต่อไปช่อชฏาต้องประคองเธอกลับไปยังห้องที่แม่ของปองยังหลับเพื่อตัดการรับรู้ด้วยฤทธิ์ยา.แล้วปองก็งามสง่าหมดจดอยู่ในเครื่องแบบอีกคร้งในท่ามกลางความสงัดเงียบ คุณอร ร้องไห้สิ อย่าเก็บ อย่านิ่ง ช่อชฎาพูดกับฉันแต่ฉันว่างเปล่าเสียแล้วกับความรู้สึก
ตลอดช่วงเวลางานพิธีรำลึกถึงปองขวัญที่จากทุกคนไปในหน้าที่ สมเกียรติที่ปองรักเป็นนักหนาฉันไม่สามารถไปร่วมได้เลยนอกจากวันที่ร่างของปองกลายเป็นเถ้าอังคารที่ฉันบรรจงร้อยมาลัยเกลียวที่ปองเคยชอบด้วยว่าชื่นชมกับภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่คิดประดิษฐ์ประณีตศิลปเหล่านี้ให้คนรุ่นหลังฉันฝากมาลัยนั้นไปกราบปองขวัญ..ฉัตรแก้วของฉันเป็นครั้งสุดท้าย..ชีวิตของฉันว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงไร้ความรู้สึกใดใด ช่อชฏา ให้เด็กในร้านคนหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อน แวะเวียนมาดูฉันบ้างและไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง คุณอร ช่อพูดแทนปองได้เลยนะว่า ปองจะทุกข์ ปองจะไม่สงบสุขเลยที่เห็นคุณอรในสภาพทุกวันนี้ ถ้าคุณอรอยู่ไม่ได้คุณอรตายตามปองไปเลยดีมั๊ย ช่อชฎาตบพื้นโต๊ะไม้เบื้องหน้าในขณะที่ฉันเขี่ยอาหารในจานอยู่ไปมา .ฉันเงยหน้ามองช่อชฎาอย่างว่างเปล่า พรุ่งนี้ช่อจะไปหาแม่ปองแต่เช้าคุณอรเตรียมตัวไว้ช่อจะมารับ แต่ฉันยังไม่. .. ช่อจะมารับเก้าโมง วันรุ่งขึ้นแม้จะฝืนความรู้สึกที่อยากอยู่นิ่งๆแต่ฉันก็เตรียมตัวพร้อมเมื่อช่อชฏามาถึง ไปขึ้นรถคุณอร ก้าวแรกเมื่อฉันย่างสู่บ้านเก่าของปองสรรพสิ่งรอบตัวให้ความอบอุ่นจุดเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นฉันกราบที่ตักแม่ของปองซึ่งเวลานี้ร่วงโรยกว่าที่ผ่านมา.. หนูขอโทษค่ะที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนงานของปอง .. แม่เข้าใจความรู้สึกหนูนะอรณีแต่เพราะความที่ว่าแม่พบกับการพลัดพรากมาหลายครั้งทำให้แม่คิดว่าครั้งนี้แม่ก็จะผ่านมันไปได้หนูเองก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ อรณี มานั่งใกล้ๆแม่..อย่างที่ปองเคยนั่งสิจ๊ะ ฉันไม่อาจฝืนความรู้สึกทั้งปวงที่สั่งสมไว้ได้อีกต่อไป ฉันซบหน้าลงบนตักของ แม่ รู้สึกในสัมผัสของความปราณีที่ลูบเส้นผมของฉันอยู่ ทุกคนที่ผูกพันกับปองเศร้าโศกกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ขณะเดียวกันต่างก็ยังห่วงใยซึ่งกันและกันและแม่ลูกๆของแม่รวมทั้งช่อก็ห่วงหนูเช่นกัน หนูฟังเรื่องที่แม่จะเล่านะจ๊ะ ปองอวดหนูว่าแม่เป็นนักเล่าไม่ใช่หรือ ตอนที่คุณพ่อเสียทุกคนไม่ต่างกับหนูเวลานี้ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ปล่อยชีวิตให้ว่างเปล่าแล้วก็วันนึงน่ะจ้ะที่ปองเค้าได้ความคิดจากหนังสืออะไรสักอย่างที่แม่ก็ลืมเสียแล้ว ปองพยายามดึงส่วนที่เป็นพ่อกลับมาสู่บ้านปองเค้าเลือกส่วนของอารมณ์ดีของพ่อ บนโต๊ะทานข้าวในวันที่ไม่มีพ่ออีกต่อไปปองพยายามเหลือเกินที่จะทดแทนสิ่งนี้ให้ทุกคนเล่าเรื่องราวต่างๆที่ปองคิดว่าทุกคนจะได้หัวเราะเหมือนที่พ่อเคยทำแม้มันจะได้เพียงหัวเราะฝืนๆแต่ทุกคนก็ได้คิดความเป็นพ่อไม่ได้ลับหายตายจากไปเลยยังอยู่รอบๆตัวทุกคนจากนั้นทั้งปาน เขต แม้กระทั่งช่อพยามยามทำส่วนที่พ่อเคยทำเพื่อทุกคน..ความอุ่นใจจะกลับมาความเศร้าแม้จะมีบ้างแต่ก็เบาบางลงไป แม่อยากให้หนูคิดตามให้ได้นะอรณี ปองไม่ได้ลับหายไปจากเราทุกคน ความเป็นปองยังอยู่รอบๆตัวเรา แม่ยังจำหมอนอิงผ้าไหมสีแดงที่ปองเอามาอวดว่าหนูสอนให้เค้าทำตั้งแต่เตรียมนุ่น..จนมันสำเร็จมาเป็นหมอน ซึ่งก็ยังอยู่ใกล้ๆหนูไม่ใช่หรืออรณี ..ฉันก้มลงกราบแม่ด้วยจิตใจที่สว่างกว่าที่ผ่านมา สิ่งใดที่ปองเคยรักเคยทำหนูพยายามทำให้ได้สิจ๊ะ แล้วหนูจะรู้สึกดีขึ้น เริ่มจากเป็นลูกของแม่อย่างที่ปองเคยเป็นได้ไหม อรณี และคืนนั้นเมื่อฉันกลับถึงบ้านมองไปรอบๆตัวจริงสินะ ปองยังคงอยู่รอบๆตัวฉัน เทปเพลงเนวี บลู ที่ปองรักที่จะเปิดคลอยามทำงาน ลายมือของปองที่คัดบทกลอนที่ฉันแต่งใส่กรอบไว้อยู่ตามมุมต่างๆของบ้าน แม้แต่เครื่องแบบของปองพร้อมเครื่องยศก็พับเก็บไว้เหมือนเดิมภายในตู้ของเรา
ปัจฉิมบท
วันนี้ครบ๕๐ วันแล้วที่ปองจากไป หนังสือเล่มสุดท้ายที่ปองจับต้องยังอยู่บนหลังตู้ไม้มะฮอกกานี..ฉันทิ้งชายม่านให้ระบายลงตามเดิม.. ต่อหน้าภาพของปอง ปองขวัญ ฉันสัญญานะคะฉันจะทำชีวิตในส่วนที่เหลือของฉันให้ดีงามเหมือนเวลาที่ยังมีปอง แม้ว่าฉันจะไม่รู้สึกเป็นสุขอีกเลยยามนี้ แต่ฉันจะหล่อเลี้ยงชีวิตของฉันด้วยความสุขที่ผ่านมาความสุขที่ปองนำมาสู่ฉัน
ปลิดเจ้ากลีบดอกมณฑามาจุมพิต
แล้วตั้งจิตถึงวธูผู้ดับสูญ
รับกระแสจากวนิดาว่าอาดูร
จะมิพูนเกษมสันต์จวบวันปลาย
15 มกราคม 2548 21:26 น.
...สียะตรา..
บทที่ ๒
และในตอนสายของวันหยุดวันหนึ่ง ปองมาพร้อมกับดอกไม้เล็กๆ ๒ ดอก ดอกมณฑาค่ะคุณอร จากสวนของช่อน่ะค่ะคุณอร ปองทำท่าลึกลับ ฉันเลิกคิ้วเหมือนฉงน ลึกๆ ในใจปองที่ปองเคยบอกคนเดียวคือช่อปองอยากชื่อมณฑาค่ะ ฉันขันจนต้องเลี่ยงจากปองว่าขอตัวไปทำงานที่ค้างไว้ฉันสอดเส้นไหมลงบนผืนผ้าได้ไม่นานเลยเมื่อปองเดินเข้ามาทรุดตัวนั่งบนพื้นใกล้ๆฉันในห้องทำงาน ไม่มีรางวัลให้ปองบ้างรึคะที่เอาดอกมณฑามาให้คุณอร ฉันคิดอยู่เป็นครู่ก่อนปักเข็มลงบนหมอนพักเข็ม ปองรักที่จะมองเวลาคุณอรทำงาน แต่ปองขออนุญาตนะคะ เกินกว่าที่ฉันจะคาดคิดปองเอนตัวลงหนุนตักฉัน ปองนิ่งมองฉันเป็นครู่แล้วเอ่ยว่า คุณอรสวย เหมือนนางงาม พ.ศ.ไหนคะ ฉันถามเย้าปอง. คุณอรสวย สวยเหมือนลูกไม้ริมผ้าเช็ดหน้าที่คุณอรใช้น่ะค่ะ เล็กๆ ละเอียดลออ เป็นคำชมที่แปลกแต่ฉันก็ยินดีค่ะ คุณอรกลัวไหมคะที่อยู่คนเดียว
ฉันก็กลัวบ้างกล้าบ้างตามสถานการณ์น่ะค่ะ เพื่อนบ้านใกล้ๆก็มีน้ำใจต่อกันดี คุณอรมีความสุขกับชีวิตเลยดูนิ่งๆ ไม่ร้อนรนเหมือนคนอื่นๆ ฉันก็เคยร้อนรนค่ะ กับความปรารถนากับสิ่งรอบตัว แต่เวลาที่นำวัยมาให้ฉันทำให้ฉันเป็นอย่างที่ปองเห็น
ตอนบ่ายคุณอรไปหาแม่กับปองได้ไหมคะ คุณอรจะได้เห็นบ้านเก่าที่ปองเคยอยู่ปองอยากให้คุณอร ได้รู้จักพี่ปานกับเขตด้วย
ได้ค่ะ ฉันให้คำตอบปองพร้อมกับย้อนคิดถึงคำพูดของปองที่เคยเล่าให้ฟังในครั้งหนึ่ง ปองกับเขตตกลงใจยกบ้านให้พี่ปานเป็นเรือนหอตอนที่สมรส พี่ปานก็ดูแลแม่ที่ยังอยู่บ้านเดิม ปองกับเขตหาได้บ้านเล็กๆไม่ไกลที่ทำงานของเรา๒คนนัก ปองคิดนะคะ วันหนึ่งถ้าเขตมีครอบครัวปองก็จะทำแบบเดียวกัน ปองไม่คิดว่าเป็นการเสียสละอะไรเลยกับการที่ทำให้คนที่ปองรักมีความสุข วันหยุดปองกับเขตก็ไปหาแม่ หาพี่ปานพี่ปานใช้ที่ว่างข้างๆบ้านเปิด ร.ร. อนุบาลเล็กๆแม่ก็เลยสนุกใหญ่แทนที่จะมีหลานสาวคนเดียวทีนี้เลยมีเป็นสิบ พี่ปานน่ารักนะคะ พยายามรักษาทุกอย่างให้เหมือนเดิมแม้แต่มะม่วงทองดำสักต้นก็ไม่ยอมตัด ยอมให้ตึกมันแหว่งไปหน่อย ปองเล่าถึงครอบครัวอย่างมีความสุขในวันนั้น
คุณอร คิดอะไรคะ ปองพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
ครอบครัวปองน่ารักนะคะ เวลาที่ฉันได้รู้จักผู้คนที่ดีงาม ฉันมักคิดว่าเป็นบุญของฉัน ฉันอยากไปพบครอบครัวของปองค่ะฉันกับคุณปานพี่ของปองก็รุ่นเดียวกัน ปองจะเรียกฉันว่าพี่ก็ได้ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะปองส่ายหน้า มือที่เคยสัมผัสกันเพียงปลายก้อยในวันแรกวันนี้ได้ประคองมือของฉันเอาไว้ ปองอยากเรียก คุณอรแบบนี้ ตามใจค่ะ แต่ทำไมล่ะคะ ปองทำหน้าขรึมแล้วบอกว่า เพราะคุณอรตัวเล็กนิดเดียว จะให้ปองเรียกพี่ได้ไงคะ
ฉันขันกับเหตุผลของปองจนต้องหัวเราะ
แล้วฉันก็ได้พบภาพงดงามในความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ยากจะลืมเลือนปองแนะนำฉันกับแม่ของปอง สตรีสูงวัยคงเค้าของความงามที่เคยมีในเวลาที่ผ่านมา คุณปานสุมาพี่สาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันกับลูกสาวตัวเล็กๆ สายกสินธุ์ และ ปกเขตน้องชายที่ทำงานด้านศิลป คุณอรนั่งคุยกับแม่ก่อนนะคะ ปองไปเตรียมกับข้าวกับพี่ปานเอง นั่งพับเพียบเรียบร้อยจริง ถนัดรึเปล่าล่ะหนู ปองคุยเรื่องหนูให้แม่ฟังบ่อยๆจ้ะ แม่ของปองเอ่ยกับฉัน ฉันยิ้มให้ท่านเป็นคำตอบ ทำงานแบบหนูก็น่ามีความสุขนะจ๊ะ อยู่กับสิ่งสวยงามประณีต อยู่บ้านไม่ต้องไปผจญภัยนอกบ้านเหมือนคนอื่นๆตอนนี้ปักอะไรอยู่ล่ะจ๊ะ .. เป็นฉากกั้นห้องค่ะ ปองเล่าว่าหนูชอบของเก่าๆโต๊ะ ตู้ หนังสือเหมือนกัน ค่ะ แต่ที่มีอยู่ก็เป็นของเดิมนานๆถึงจะมีโอกาสซื้อชิ้นใหม่สักครั้งค่ะ
งั้นมาดูภาพเก่าๆสมัยที่คุณพ่อของปองยังอยู่ไหมล่ะจ๊ะ
ค่ะ แม่ของปองเลื่อนตัวลงมานั่งที่ผืนพรมเดียวกับฉัน
สมุดภาพเล่มหนาหนักเปิดออก ภาพนายทหารเรือในชุดสีขาวสะอ้าน สง่างาม เป็นภาพแรก คุณพ่อของปองจ้ะ ดวงตาและช่วงปากของปองละม้ายบิดาเหลือเกิน ฉันคิด ปองเค้าเหมือนพ่อแทบทุกอย่างความคิด รูปร่าง หน้าตา หนูว่าไหม
ปองเหมือนคุณพ่อช่วงปาก กับดวงตาค่ะ ฉันตอบไปแบบนั้น หนูช่างสังเกต เป็นแบบนั้นจริงๆจ้ะ ปองติดพ่อเป็นลูกพ่อตั้งแต่รู้ความ แต่เค้าก็มีความคิดบางอย่างเป็นของตัวเอง เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองแม่ของปองฉันได้พบดวงหน้าเปี่ยมสุขของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้มองได้พูดถึงบุคคลที่รัก พ่อของปองสอนให้ลูกๆรู้จักระเบียบในชีวิตแต่ไม่ตีกรอบให้ลูกๆเป็นแบบนั้นแบบนี้จ้ะ พ่อกับแม่คิดเหมือนกันว่าตราบใดที่เราเป็นแบบอย่างที่ดีงามพวกเค้าจะมีต้วอย่างให้เห็น และบางครั้งถ้าแต่ละคนจะมีแนวทางที่ต่างไปจากพ่อและแม่เคยประพฤติปฎิบัติเราจะใช้ความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีเหมาะสมกับชีวิตตัวเอง แม่ของปองเล่าพร้อมๆกับพลิกสมุดภาพภาพแล้วภาพเล่าที่ผ่านสายตาฉันแสดงให้เห็นความผูกพันธ์ สายใยแน่นแฟ้นของบุคคลในครอบครัว
นี่ตอนปองรับปริญญาจ้ะ นี่ตอนเค้าเริ่มงานใหม่ๆ พ่อน่ะภูมิใจนักหนาเชียวที่ปองเจริญรอยตาม ปองเค้ามุ่งมั่นมาแต่เด็กว่าจะเป็นทหารเหมือนพ่อ ตลกดีนะหนูแทนที่จะเป็นนายเขต
นี่ตอนปานแต่งงานจ้ะ สมัยที่ปานเค้าเริ่มคบหาสาธิต ตอนเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย พ่อกับแม่ก็ห่วง แค่ห่วงนะจ้ะ ว่าปานจะปรับตัวได้ไหมกับสังคมสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันมากๆ สาธิต สามีปานเค้ามาจากครอบครัวจีนรุ่นเก่าน่ะจ้ะ ก็ต่างกันมากกับที่ปานเค้าคุ้นเคย แต่ด้วยความรักนะหนู มันมี ..เส้นทางสายกลาง ..เสมอแม้จะต่างกัน ทุกวันนี้วันตรุษวันสารทปานเค้าเตรียมเครื่องไหว้ได้สวยงามพร้อมเพรียง สาธิตเองเค้าก็ปล่อยให้แม่ให้ปานอบรมยายสายให้เป็นไปอย่างที่บ้านนี้เคยอบรม แต่ตัวเค้าเองก็สอนลูกให้รู้ภาษาจีนวันละคำเหมือนกันนะจ้ะ ยายสายก็เอามาสอนน้าสอนยายอีกต่อหนึ่ง แม่ของปองเล่าอย่างมีความสุข
เสียงวิ่งหยอกล้อของปองกับหลานสาวดังใกล้เข้ามามาจากอีกห้องหนึ่ง จวนเสร็จแล้วค่ะแม่ หิวกันรึยังคะคุณอร จะทำเลี้ยงกองทัพกันรึไงจ๊ะ เขตเกิดอยากจะทำกุ้งชุบแป้งสูตรใหม่น่ะค่ะ แป้งขาวเต็มครัวไปหมด ทุกคนอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพที่ปองเล่า แม่ได้คนฟังเรื่องเล่ารายใหม่แน่ๆเลยลงได้เปิดสมุดภาพแบบนี้ นี่นะคะคุณอรถ้าเป็นช่อล่ะก็ ก่อนแม่จะเล่าช่อจะบอกว่า แม่จ๋าขอหมอนใบนึง แล้วจากนั้นจะได้ยินเสียงเล่าเสียงปลุกให้ตื่นไปตลอดล่ะค่ะ หาว่าแม่พูดมากเรอะเดี๋ยวเถอะ ปองบอกคุณอรว่าแม่เป็นนักเล่าเรื่องชั้นเยี่ยมต่างหากค่ะ ปองกอดแม่พร้อมแนบแก้มกับแก้มแม่อย่างรักใคร่
อาหารเย็นมื้อนั้นสมบูรณ์ในความเป็น ครอบครัว ซึ่งฉันไม่ได้สัมผัสมานาน เมื่อของหวานถูกยกออกมา วุ้นกรอบสีอ่อนสวยรูปร่างต่างๆในจานกระเบื้องขาวใบเล็ก ทำให้หลานสาวตัวน้อยของปองส่งสายตาอย่างสนใจ คุณอรทำเองค่ะ ลองทานสิคะไม่หวานมากอย่างที่ขายทั่วไป ปองแบ่งไว้ในตู้ให้พี่สาธิตกับยายสายอีกจานด้วยนะคะพี่ปาน อืมม อร่อยจ้ะหนู วุ้นหนาน้ำตาลบางเป็นกระจกเชียว ต้องสอนแม่ทำบ้างแล้ว อาหารมื้อนั้นจบลงอย่างสมบูรณ์ ปองพาฉันเดินชมรอบๆบ้าน ต้นไม้ร่มครึ้มส่วนใหญ่เป็นไม้ผลยืนต้น แม่ชอบคุณอรนะคะ ก่อนปองจะพาคุณอรมาวันนี้ปองบอกแม่ว่าว่าจะพาลูกสาวเรียบร้อยเป็นผ้าพับมาให้แม่ แม่อยากได้ลูกสาวแบบคุณอรน่ะค่ะ ฉันก็รู้สึกเคารพท่านมากค่ะ เคารพความคิด การสั่งสอนของท่าน และรู้สึกนิยมกับความเปิดกว้างของจิตใจในการมองผู้คนและสิ่งรอบๆตัว ปองยิ้มรับอย่างภูมิใจในมารดา แม่กับพ่อปองมองคนที่ความคิด มากกว่ารูปแบบภายนอกที่เค้าเป็นน่ะค่ะคุณอร อย่างช่อนี่ หลายคนจะกล่าวหาว่าช่อทำตัวแปลกๆ พูดจาก็ตรงเป็นไม้บรรทัดจนกลายเป็นระคายหู แต่พ่อกับแม่กลับเอ็นดูช่อเพราะเห็นในน้ำใสใจจริงความรักเพื่อนรักโน่นรักนี่ไม่เคยคิดร้ายกับใครๆเลยนอกจากปากร้าย กับความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนทั่วๆไป ฉันมีความสุขค่ะที่มาทานข้าวที่นี่วันนี้..เหมือนกับว่าฉันได้ความรู้สึกเก่าๆที่แทบจะเลือนหายไปแล้วกลับคืนมา ขอบคุณค่ะ ตลอดทางกลับบ้านปองยังสนุกที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฉันฟังจนถึงบ้าน..ปองช่วยฉันเก็บสิ่งของต่างๆเรียบร้อย คุณอรให้ปองนั่งทำงานต่อที่บ้านคืนนี้ได้ไหมคะ ปองลุกมาคุกเข่าเบื้องหน้าฉัน .. ปองอยากอยู่ใกล้ๆคุณอรและก็มีอีกหลายอย่างที่ปองอยากพูดอยากถามถ้าคุณอรอนุญาต ฉันนิ่งคิดไม่นานเลยสำหรับคำตอบ ฉันอนุญาตค่ะเพราะฉันก็มีสิ่งที่อยากถามปองเช่นกัน
ปองทำงานของปองนะคะ ฉันขอตัวขึ้นขัางบนสักครู่จะเตรียมเสื้อผ้าให้ปองด้วยค่ะ เมื่อฉันลงมาข้างล่างอีกครั้งก็ได้เห็นปองที่ขมักเขม้นกับแผ่นกระดาษมากมายตรงหน้า ฉันเลี่ยงเข้าครัวเตรียมโกโก้ร้อนที่ปองชอบ หอมจังค่ะคุณอร หอมก็ดื่มเสียก่อนที่จะเย็นนะคะ ปองว่าหอมคุณอรต่างหากค่ะ
งานมากรึคะ ดื่มเสร็จแล้วอาบน้ำก่อนดีไหมจะได้ไม่เพลียฉันจะนั่งทำงานเป็นเพื่อนปองค่ะ คุณอรเลี่ยงบาลีเก่ง
นี่หรือคะสำนวนอาจารย์ภาษาอังกฤษฉันยังอายเลยค่ะ ปองอยู่ในอาณัติคุณอร ปองนั่งตัวตรงตั้งใจดื่มจนหมดถ้วย คุณอรอยากถามอะไรปองคะ ฉันสงสัยน่ะค่ะว่าหลังจากพบกันวันแรก แล้วปองก็เงียบหายไป แล้วทำไมปองถึงติดต่อกลับมาด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลเลย คุณอร เป็นคำถามที่ปองอยากตอบคุณอรเหลือเกินค่ะ แต่คุณอรบอกปองก่อนได้ไหมคะว่าช่วงเวลานั้นคุณอรล่ะคะนึกถึงปองบ้างไหม กระดาษแผ่นเล็กๆที่สามารถติดต่อปองได้อยู่ในสัมผัสของฉันทุกวันค่ะ แต่ฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะติดต่อปองได้อย่างไรนอกจากเงื่อนไขที่ปองตั้งไว้ คุณอร นี่คือสิ่งที่ปองอยากบอกคุณอรนะคะ และก็มีคำถามอีกคำถามด้วยเช่นกันปองมีความหวังมานาน นานมากที่จะมีคนสักคนที่ปองได้ดูแล ได้รัก อย่างที่พ่อมีต่อแม่และเมื่อพบคุณอร ปองรู้สึกได้ว่าคุณอรคือคนๆนั้น ตลอดเวลาที่ปองเงียบหายไปปองหายไปเพื่อ คิด ค่ะ คิดว่าปองพร้อมหรือยังที่จะรับผิดชอบชีวิตคนอีกคนที่ปองปรารถนา เมื่อปองตอบตัวเองได้ทุกอย่างว่าปองพร้อมปองถึงได้เดินเข้ามาหาคุณอร และแม้ปองจะมั่นใจในความรู้สึกต้วเองกว่าครึ่งแต่ปองก็ยังอยากรู้จากคุณอรเองว่าคุณอรคิดและรู้สึกในเส้นทางสายเดียวกับปองหรือไม่
ฉันให้ความรู้สึกทั้งปวงผ่านสายตาเป็นคำตอบให้ปอง...
15 มกราคม 2548 21:24 น.
...สียะตรา..
บทที่ ๓
อรุณแรกของความเป็น เรา งดงามนัก บนระเบียงที่ฉันยืนอิงร่างสูงของปองนั้นเบื้องหน้าแสงสีชมพูระบายจางๆบนขอบฟ้าดอกไม้นานาแต้มสีสันทั่วบริเวณ
คุณอร ปองกระซิบกับฉัน เราไปทำบุญที่วัดเลยดีไหมคะ แทนที่จะใส่บาตรหน้าบ้านอย่างที่คุณอรทำอยู่ให้เช้าแรกของเราเป็นกุศลร่วมกันเถิดนะคะ น้ำตาของปิติรื้นในดวงตาฉันก่อนออกจากบ้านปองขอเข้าไปกราบพระและอัฐิบุพการีของฉันอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้มิใช่เพียงขออนุญาตพักอาศัยตามธรรมเนียมทั่วไปหากครั้งนี้ปองกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจต่อหน้าโกศ ปองขอสัญญาไม่เฉพาะกับคุณอร แต่กับทุกท่านที่ให้กำเนิดคุณอรมาเพื่อปอง ปองขอรัก ขอดูแลคุณอร นับแต่นี้จนกว่าปองจะหมดความสามารถ
เช้านั้นเราแวะวัดใกล้ๆแห่งแรกที่พบ แล้วเราก็ได้ผู้ให้ศีลและพรและประพรมน้ำพระพุทธมนตร์เป็นสงฆ์ผู้ชราและอาพาธเกินกว่าที่จะออกบิณฑบาตร วันเกิดหรือโยม วันมงคลค่ะหลวงพ่อ ปองตอบท่านไปเช่นนั้น ดีจ้ะโยม คิดดี แล้วก็ทำตามที่คิดก็เป็นวันดีวันมงคลทั้งสิ้น
.. ไม่กลับบ้านรึคะปอง เกเรแบบนี้งานไม่เสร็จนะคะ ฉันท้วงเมื่อออกจากวัดแล้วปองออกนอกเส้นทาง ไม่นานหรอกค่ะคุณอร ดุจัง ปองออดอ้อนฉันด้วยสายตา
ปองอยากให้สิ่งแรกที่นำเราสองคนมาพบกัน เป็นสิ่งแรกที่เรามีร่วมกันค่ะ ปองพาฉันมาที่ร้านเฟอร์นิเจอร์สถานที่แรกที่ได้พบกัน คุณลุงเจ้าของร้านหาอยู่เป็นนานกว่าจะคิดออกว่าเป็นตู้ใบไหนมันถูกร่นไปไว้เกือบหลังร้านฝุ่นจับหนาเมื่อฉันและปองสัมผัส.และแล้วตู้ใบสวยที่เราได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งสองก็มาตั้งอยู่ในบ้าน แม้จะยังหาที่เหมาะไม่ได้ ที่จะตั้ง
เดี๋ยวปองไปเอาเครื่องแบบที่ร้านซักรีดตอนเย็นๆนะคะ คุณอรอยากได้อะไรไหมคะ แม้จะขวยเขินอยู่บ้างแต่ฉันก็เกาะแขนปองพามาที่ตู้ข้างบันไดและเมื่อเปิดออก ฉันไม่ทราบนะคะว่าฉันจะทำได้ดีเหมือนที่ปองคุ้นเคยรึเปล่า แต่ฉันอยากทำให้ปองค่ะ เครื่องแบบสีขาวน้ำเงินของปองที่ฉันนำมาซักรีดเรียบร้อยด้วยมือของฉันเองโดยที่ปองไม่รู้อยู่บนราวแขวนเบื้องหน้าเราทั้งสอง คุณอร ไม่เหมือนค่ะ ไม่เหมือนเลยกับที่ปองคุ้นเคยแต่ที่ต่างคือความรู้สึกค่ะคุณอร ปองอยากให้ทุกสิ่งที่เป็นชีวิตปองอยู่ในมือคุณอรแต่ปองไม่อยากให้คุณอรลำบากงานก็มากอยู่แล้ว ฉันสุขใจที่จะทำค่ะ เราปาดน้ำตา..ของความตื้นตันกระมังให้กันและกัน เป็นวันแรกที่รับราชการนะคะคุณอรที่ปองสวมเสื้อไม่เรียบไปทำงาน ปองแหย่ฉันแบบนั้นแล้วก็ได้รอยหยิกเล็กๆเป็นรางวัล
บทที่ ๔
.เวลาเดินผ่านไป เป็นเดือน ปี และ ย่างเข้าปีที่๔ ที่ร่วมชีวิตกัน บางขณะยามที่อยู่ลำพังฉันเคยนึกอัศจรรย์ใจนักว่าสิ่งใดนำฉันและปองมาพบกัน ปองที่เสมือนแสงอุ่นในฤดูหนาว เสมือนท่วงทำนองคนตรีหนักแน่นทว่าอ่อนหวานเรื่อยรินอยู่รอบตัวฉันทุกวินาที เสมือนร่มไม้ใหญ่ที่ทอดเงาร่มเย็นให้ฉัน ปองมิได้ทำให้ชีวิตเราทั้งสองเป็น ครอบครัว ขึ้นมาเท่านั้น หากทว่าปองถักทอเชื่อมโยงครอบครัวของเรากับสรรพชีวิตรอบตัวมิได้หลบเร้นอยู่ในมุมมืดเพียงสองคน ด้วยเส้นไหมอันงดงามของความอาทร ในบางเช้าของวันหยุดเสียงกริ่งหน้าบ้านของเราดังขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็น เด็กเล็กๆหลายคนถามหาพี่ปอง เมื่อฉันถามไถ่จึงได้ความว่าเด็กเหล่านี้ในยามเช้าที่พวกแกไปโรงเรียนปองจะรับทุกๆคนติดรถไปส่งในที่ๆสะดวกที่สุดและปองทำให้ฉันรู้สึกไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปเมื่อยามที่ฉันได้รับหน้าที่พาแม่ของปองพบแพทย์ตามนัดบ้าง หรือในบางครั้งเพียงไปเป็นเพื่อนยามท่านอยากไปวัดที่ศรัทธาในขณะที่คุณปาน เขต หรือปองอยู่ในหน้าที่เกินกว่าจะพาท่านไปได้ ฉันได้หัวเราะยามคุณช่อเพื่อนของปองมาที่บ้าน ช่อชฏา ที่ฉันนิ่งไปเมื่อพบครั้งแรกกับภาพลักษณ์ที่ในใจคุณช่อปราถนาจะเป็นไม่ว่าผมที่สั้นเกรียน การแต่งกายทะมัดทะแมงก็ดูต่างจากปองกระมังแต่เมื่อฉันเฝ้ามองยามทั้งสองนั่งคุยวางแผนสิ่งที่อยู่ในอนาคต แลกเปลี่ยนทัศนะ ไม่มีอะไรที่แตกต่างระหว่างข่อชฏากับปองขวัญ ความคิดและหัวใจของทั้งสองต่างหากที่เหมือนกัน
คุณอร อยู่ไหนเอ่ย เสียงเรียกของปองดึงฉันกลับจากความคิด เหนื่อยไหมคะ ..ปองหอบหนังสือหลายเล่มไว้ในมือสายใยในสายตาที่ส่งมาที่ฉันนับแต่วันแรกจนถึงเวลานี้ยังเช่นเดิม เห็นหน้าคุณอรแล้วหายเหนื่อยค่ะ ปองมีหนังสือมาฝากด้วยค่ะ แวะไปที่บ้านน่ะค่ะค้นเจอหนังสือเก่าๆหลายเล่มคิดถึงคุณอรเลยขนมาค่ะ เรารักการอ่านเหมือนๆกันแม้จะคนละแนวแต่ก็ผสานกันได้ ปองรักที่จะฟังเรื่องราวเก่าๆประวัติศาสตร์ที่ฉันชอบอ่าน ในขณะที่ฉันรักที่จะฟังแนวคิด ปรัชญา ของบุคคลต่างๆที่ปองถ่ายทอดให้ฟัง วันนี้กับข้าวมีแค่กุ้งทอดกระเทียมกับแกงจืดเต้าหู้นะคะ ต้องรีบเก็บงานให้เสร็จน่ะค่ะ วันนี้ดูปองเหนื่อยจัง ฉันละมือจากจานเบื้องหน้า ดึงผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยที่เหน็บสะเอวจนชินมาเช็ดหน้าให้ปอง ปองเพลีย เท่านั้นคุณอรอย่ากังวล งั้นทานข้าวเสร็จปองนอนเลยนะคะฉันส่งปองเข้านอนด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างอย่างไม่เคยเป็น ลงมาทำงานต่อด้วยสมาธิอันน้อยนิดแต่ก็เสร็จสมบูรณ์ตามหน้าที่และเมื่อฉันก้าวสู่ห้องนอนของเราอีกครั้งฉันก็พบปองที่ดวงหน้าสดใสขึ้นจากเมื่อหัวค่ำ ตื่นมาทำไมคะน่าตีจริงๆ ฉันอังมือกับหน้าผากปองว่ามีไข้หรือไม่ คนดีปองไม่ได้ป่วยแค่เหนื่อยกับงานเท่านั้นเอง ปองจุมพิตมือที่ห่วงใยของฉันด้วยลมหายใจของความรัก ปองว่าถ้าเกินเที่ยงคืนไปแล้วสัก5นาทีจะลงไปตามคุณอรค่ะ อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ ปองอยากให้คุณอรอ่านนะคะ A girl who was Life ( เขียนโดย นิโคไล ชูคอฟสกี้ )เธอคือชีวิต คือหนังสือที่ปองยื่นให้ฉันเรื่องของแอสยาในเรื่องนี้ทำให้ปองได้คิดตอนที่ปองทุกข์เพราะเสียพ่อน่ะค่ะคุณอร มันคิดได้หลายมุม อย่างเวลานี้ที่ปองมีความสุข คุณอรเหมือนพลังให้ปองเหมือนๆกัน ให้มีจุดมุ่งหมาย ให้ภาคภูมิใจที่ปองสามารถนำพาและรับผิดชอบชีวิตคุณอรได้ปองว่ามันต่างกันนะคะถ้าในขณะที่เราดำรงชีวิตอยู่เราทำอะไรแม้มันจะถูกต้องดีงามแต่ลำพังตัวเพื่อเราเพียงคนเดียวกับเพื่อคนที่อยู่เคียงข้างเรา ..ฉันลูบผมสีน้ำตาลเข้มเส้นบางของปองด้วยความรู้สึกทั้งมวลของฉัน ความคิดของฉันอาจจะไม่เป็นสากลนักฉันบอกปองได้เพียงว่า ฉันรู้สึกเหมือนมี..ฉัตรแก้วกั้นเกศ..นับแต่ปองเข้ามาในชีวิตของฉัน . แปลกจังค่ะทำไมปองคิดถึงคุณอรจับใจทั้งที่คุณอรอยู่ตรงนี้ ปองกอดฉันไว้ราวกับยื้อแย่งกับสิ่งใดตอนใกล้เที่ยงของวันต่อมาเสียงปองที่ดังมาตามสายสดชื่นนัก คุณอรปองลาพักร้อนแล้วนะคะ อาทิตย์นึงเต็มๆค่ะคุณอรอยากไปไหนเดี๋ยวปองพาไป ปองได้พักตามใจปองดีกว่าไหมคะ อืมมม งั้นเราไปนอนอ่านหนังสือที่สัตหีบกัน2วันแล้ววันที่เหลือปองโทรไปนัดช่างมาทำเรือนกล้วยไม้ยาวไปจรดกำแพงให้คุณอรดีไหมคะ คุณอรรู้ไหมปองดีใจที่คุณอรเชื่อปองรับงานน้อยลง ปองอยากเห็นคุณอรมอมแมมอยู่กับต้นไม้แต่พักผ่อนได้มากขึ้นมากกว่าเพ่งอยู่กับเส้นไหมสีสวยของคุณอร ปองแอบเอากล้วยไม้ที่คุณอรแยกไว้มาเป็นรางวัลให้ลูกศิษย์ของปองตั้งหลายกระถางแล้วนะคะ ยิ่งเจ้าต้น ม้าวิ่ง ที่ออกดอกสีขาวหอมชื่นทั้งที่กิ่งนิดเดียว ทำให้ลูกศิษย์ของปองขยันแข่งกันเก็บคะแนนเพราะอยากได้เจ้าต้นนี้ค่ะ ฉันหัวเราะอย่างสุขใจนัก ฉันดีใจค่ะที่มีส่วนร่วมในงานของปอง .เย็นวันนั้นปองกลับบ้านแต่วัน พร้อมกับข้าวที่แม่ของปองฝากมาเป็นพิเศษ แม่ทำแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะเลยฝากมาให้เราทานเสร็จคงต้องวิ่งรอบบ้าน10รอบไม่งั้นลงพุงแน่เลย สงบและมีความสุขเหลือเกินที่ได้นั่งเคียงกันวางแผนสิ่งที่จะทำร่วมกัน1อาทิตย์เต็มๆ ฉันส่งงานทุกชิ้นเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าปองอยากอยู่กับทะเลตลอดวันหยุดก็ได้นะคะอย่าห่วงเรื่องเรือนกล้วยไม้เลยทำเมื่อไหร่ก็ได้ 2วันก็พอแล้วค่ะ ปองรู้คุณอรกลัวแดดแล้วปองก็อยากอยู่บ้านมากกว่าด้วยค่ะ คุณอร เล่นขิมให้ปองฟังหน่อยสิคะ ตั้งนานแล้วที่ไม่ได้ฟัง ฉันเล่นเพลง ลาวแพน คุณอรเล่นลาวดวงเดือนเถอะค่ะ ปองขอเล่นซอจีนของพ่อคุณอรนะคะ .หากความสุขในวันนั้นเหมือนสายน้ำ ที่หลากหลั่งมันก็ล้นปรี่ในความรู้สึก . ดูสิปองลืมจนได้ วันเสาร์ นี้ปองต้องทำงานแทนพี่พงศ์พานายทหารฝรั่งไปอยุธยาเค้าอยากเห็นน่ะค่ะนายเลยจัดให้พี่พงศ์พักนี้สุขภาพแกก็แย่พอนายถามปองก็เลยไม่ปฎิเสธ เย็นๆปองก็กลับ แต่พรุ่งนี้ต้องออกจากบ้านแต่เช้าหน่อย ตลอดคืนที่ฉันเหมือนหลับๆตื่นๆยามใดที่รู้สึกตัวฉันก็ผวาเข้าโอบปองไว้ด้วยความหวงแหน
14 มกราคม 2548 08:46 น.
...สียะตรา..
บทที่ ๑
........................................เรือนหอ..............................................
......กล่อมเอย..เจ้าเรือนทองห้องหอ
เคยชะลอเป็นนิวาสสวาสดิ์สอง
คงรื่นรินสุคัณธาลดากรอง
โสตทำนองของเสียงสังข์..ยังบรรเลง
......ใกล้เช้าแล้วค่ะแต่ดวงจันทร์ยังเต็มดวงคิดถึง ปอง เต็มหัวใจ เรือนน้อยของเรายามนี้ ทุกเม็ดฝนทำให้ต้นไม้งามกว่าที่เคย ต้นพุดช้อนริมรั้วที่แนมด้วยเถาต้นโปร่งฟ้าและต้นบานบุรีสีเหลืองสดดอกเล็กๆหอมระรื่นที่ฉันเคยเล่าให้ปองฟังไงคะว่าแม่รักมากหอบหิ้วเอาต้นไปปลูกทุกที่ที่แม่ไปอยู่ไปทำงาน มะลิ๒กอก็แข่งกันแย้มดอกขาวกับต้นเขี้ยวกระแตซึ่งแต่ก่อนจะมีดอกสักทีแสนยากเย็น ชมนาดอยู่ตัวดีแล้วค่ะไต่โครงไม้ที่ปองทำไว้หน้าหนาวปีนี้คงมีช่อแรกให้ได้เห็น ผ่านม่านสีขาวฉันมองสรรพสิ่งข้างนอกที่ยังคงอยู่รอบตัวฉันแล้วปองล่ะคะเป็นอย่างไร มอง และซึมซาบสิ่งเหล่านี้พร้อมๆกับฉันเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่
ปอง ปองขวัญ และฉัน อรณี พบกันบ่ายวันหนึ่งในร้านขายเฟอร์นิเจอร์เก่า ที่เงียบมากจนฉันไม่คิดว่าจะมีลูกค้าคนอื่นๆอีก สัมผัสแรกที่ทำให้ชีวิตของเรา๒คนมาร่วมกันคือมือของฉันและ ปอง ที่ไล้อยู่บนตู้ไซด์บอร์ดไม้มะฮอกกานีที่เจ้าของร้านเอ่ยว่าเป็นของเก่ามาจากอังกฤษปองนั้นนั่งสำรวจอยู่ด้านหลังตู้ส่วนฉันชื่นชมลายไม้สวยอยู่ด้านหน้า สัมผัสจากมือนั้นแปลกแม้จะเพียงปลายก้อยที่บังเอิญมาสบกันและเมื่อ ปอง ยืนขึ้นประโยคแรกที่เราพูดพร้อมกันคือ สวยมากนะคะ
ปองเป็นผู้หญิงที่สง่า มีบุคลิกบางอย่างที่ฉันคิดในเสี้ยวแรกของการพบกันว่า ปอง เหมือนทหาร
สวยมากนะคะ ปองยังย้ำประโยคเดิม คุณจะซื้อไหมคะ
.นั่นคือการเริ่มของการรู้จักกัน เราออกจากร้านโดยไม่มีใครได้ซื้อตู้เล็กๆใบนั้นด้วยราคาที่ต้องกลับมาทบทวนระหว่างประโยชน์ใช้สอยกับความอยากเป็นเจ้าของสิ่งที่พึงใจ
เมื่อฉันขอแยกตัวจาก ปอง ในวันนั้น หลังจากผลัดกันเอ่ยชื่นชมกับตู้ใบสวยพอสมควร
คุณอรโปรดบอกปองด้วยถ้าคุณอรตัดสินใจซื้อเจ้าตู้ใบนี้ปองจะได้ไม่มาเก้อและถ้าปองเป็นเจ้าของมันวันไหนปองจะบอกคุณอรเหมือนกันค่ะ ฉันจำได้ดี ปองสาละวนกับกระดาษเล็กๆมากมายในกระเป๋าสตางค์แล้วก็ใด้กระดาษโนตแผ่นเล็กๆเพื่อนำมาเขียนหมายเลขโทรศัพท์ให้ฉัน นี่ค่ะหมายเลขของปองขอของคุณอรด้วยค่ะ ฉันเองแม้จะงุนงงกับวิธีของคนแปลกหน้าแบบปองแต่ดวงหน้าเรียบๆ ที่มีแววตาแบบเด็กเกเรยามคิดว่าหลอกล่อผู้ใหญ่ได้ของปอง ทำให้ฉันวางใจพอที่จะยื่นนามบัตรที่มีเพียงชื่อและหมายเลขที่ติดต่อได้ให้ปองไป
กว่า๓เดิอนทีเดียวที่ฉันเฝ้าพลิกกระดาษแผ่นน้อยที่มีเพียงตัวเลขและลายมือที่เขียนชื่อ ปองขวัญ ลายมือตัวใหญ่ เส้นหนักแน่นตวัดปลาย ฉันเฝ้านึกว่าฉันเคยเห็นลายมือแบบนี้ที่ไหน แล้วฉันก็นึกออกเมื่อรื้อกระดาษเก่าๆที่ตั้งใจเก็บไว้อย่างถนอม ปองเขียนอักษรเหมือนคนรุ่นปู่ย่าไม่มีผิด และแล้วในตอนสายของวันหนึ่งหลังจากนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงของปองอีกครั้ง
คุณอร ปองโทรมาบอกว่าปองยังไม่ได้ซื้อตู้ใบนั้นนะคะ
ไหนว่าจะโทรมาเมื่อเป็นเจ้าของแล้วไงคะ ฉันตอบปอง ไป
ปอง เหนื่อยจังค่ะ คุณอร ว่างมาทานข้าว คุยกับ ปองไหมคะ
ไม่เห็นเกี่ยวกับตู้นี่คะ
เกี่ยวค่ะ ปองเงียบไปครู่หนึ่ง ปองว่าปองเห็นรอยแตกด้านหลังน่ะค่ะ ทานข้าวกับปองนะคะ please my lady ฉันรู้สึกวาบกับคำวิงวอนของปอง ปองจะนัดที่ไหนเมื่อไหร่ล่ะคะ ฉันไม่ปฏิเสธตัวเองเมื่อปองบอกสถานที่และเวลา แม้จะไม่คุ้นเคยนักกับสถานที่ที่ปองนัดหมายสำหรับคนที่ชีวิตส่วนมากในบ้านอย่างฉัน แต่ฉันคิดว่า ปองเป็นผู้ที่ฉันอยากเดินเข้าไปหา
ร้านเล็กๆริมถนนไม่หรูหรามากนักหาได้ไม่ยากจนเกินไป ฉันออกจะประหม่าเมื่ออยู่ในสายตาของผู้คนที่นั่งอยู่เกือบเต็มร้านแม้ก่อนถึงที่หมายฉันจะนั่งนึกทบทวนถึงปองขวัญที่ฉันกำลังจะได้พบเพื่อหาความมั่นใจ
ฉันมองหาปองไปทั่วร้านท่ามกลางผู้คนที่นั่งอยู่มากมาย
คุณอร แล้วฉันก็ได้พบปอง อีกครั้งปองขวัญ ที่ทำให้ฉันยืนนิ่งอยู่เป็นครู่ปอง อยู่ในเครื่องแบบแสนสง่า ปองที่ฉันรู้สึกในเสี้ยวแรกว่า ปองเหมือนทหารปองเป็นทหารจริงๆและอยู่ในเหล่าที่ฉันชื่นชมปองเดินมารับฉันไปที่โต๊ะริมหน้าต่างกระจกที่เมื่อมองผ่านความสลัวลางของยามเย็นออกไปเห็นแนวของต้นโมกที่ผลิดอกราวโคมสีขาวเล็กๆ
ปองมีความสุขจังค่ะที่พบคุณอรอีกครั้ง หาร้านไม่ยากใช่ไหมคะ
ฉันให้คำตอบปองด้วยรอยยิ้ม. ร้านเพื่อนปองเองค่ะชื่อเดียวกับร้านนี้น่ะค่ะ..ช่อชฎา บ้าน..มัน ..เอ๊ย คือเจ้าช่อน่ะค่ะอยู่ลึกเข้าไปในซอยนี้เองแต่วันนี้ช่อไม่อยู่ ไม่งั้นปองอยากให้ช่อเห็น ได้รู้จักคุณอรจังค่ะ นี่ค่ะเมนู คุณอรสั่งอะไรดีคะ
ฉันละสายตาจากเมนูอาหารขึ้นมา และก็ได้พบกับสายตาของปองที่จ้องมองมาที่ฉัน ..สั่งสิ่งที่ปองคิดว่าดีที่สุดของที่นี่เถอะค่ะฉันเชื่อการตัดสินใจของปอง
อาหารที่ร้านคุณช่อชฎา เพื่อนของปอง เป็นเลิศตามที่อาหารไทยควรเป็นอย่างที่ปองยกย่อง ฉันนั่งฟังปองเล่าเรื่องราวต่างๆโดยไม่เบื่อหน่าย เรื่องงานในหน้าที่ของปอง พี่สาวของปอง คุณปานสุมา น้องชายของปอง ปกเขต แม้แต่เรื่องราวของช่อชฎาเพื่อนสนิทของปอง
เจ้าช่อกับปองเหมือนคู่แฝดตั้งแต่ประถมจนมหาวิทยาลัยค่ะคุณอร ปองได้เห็นได้สัมผัสความละเมียดละไมแบบไทยๆนอกจากที่บ้านปองเองก็มีที่บ้านของช่อนี่ล่ะค่ะอีกแห่งหนึ่ง เมื่อยังเด็กเราชอบมาว่ายน้ำในท้องร่องสวนที่บ้านของช่อทานข้าวกลางวันแบบง่ายๆฝีมืออาหญิงแม่ของช่อและบางครั้งก็แอบย่องไปดูในโรงปั้นของคุณพ่อ ประติมากรรมอ่อนละมุนยังอยู่ในใจปองเสมอแม้จะไม่ได้เห็นของจริงอีก
คุณอรทานน้อยจังค่ะ ไม่ชอบรึเปล่าคะ ปองถามฉัน
อร่อยมากค่ะ แต่ฉันทานน้อยแบบนี้เอง
โล่งใจค่ะคุณอร วันอาทิตย์เราสองคนไปดูตู้ของเรากันไหมคะ
ฉันตั้งใจจะไปอยู่เหมือนกันแต่ไปดูต้นไม้ ไม่อยากไปกวนคุณลุงเจ้าของร้านอีกถ้ายังไม่ตัดสินใจซื้อน่ะค่ะ
ให้ปองไปด้วยนะคะ ปองชอบต้นไม้ ดอกไม้ไทยๆหอมเย็น สวย อย่างเรียบๆ ปองรักดอกมณฑา หลงรักตั้งแต่ช่อชี้ให้ดูในสวนน่ะค่ะ ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยได้เห็นดอกจริงๆเลย
๒วัน ถัดมาฉันและปองได้เดินดูต้นไม้หลากชนิด เราชอบต้นไม้เหมือนๆกัน ปองตื่นเต้นกับ ไฮย์ซิน ต้นเล็กๆที่มีช่อดอกสีม่วงคราม แต่ฉันไม่ใคร่ชอบนักด้วยสีที่ดูเศร้าแม้กลีบดอกจะสวยงาม แล้วปองก็ชอบใจเป็นนักหนาเมื่อฉันเก็บดอก สร้อยอินทนิล สีม่วงที่ร่วงเกลื่อนลานของร้านหันหลังให้ปองเพียงครู่ดอกโรยจากต้นก็กลายเป็นกระต่ายตัวน้อยเท่าปลายก้อย
คุณอรทำอย่างไรคะ สอนปองบ้าง น่ารักจังค่ะ
ไว้จะสอนให้ทำค่ะแต่วันนี้เย็นมากแล้ว เราแยกย้ายกันกลับบ้านนะคะ ปองไปส่งนะคะ คุณอรจะขนยังไงไหวตั้งมากมาย แล้วเพิ่งจะบ่ายอ่อนๆเอง เผลอๆปองลงต้นไม้ให้คุณอรได้นะคะ
มิใช่น้ำเสียงและสายตาของปองเท่านั้นที่ทำให้ฉันใจอ่อนหากเป็นเสียงจากหัวใจของฉันเองที่นำปองเข้ามาใก้ลชีวิตของฉันมากขึ้นทุกทีปองช่วยขนต้นไม้ที่ฉันซื้อลงมา รวมทั้งไฮย์ซินที่ปองอดใจซื้อมาไม่ได้ หิวไหมคะ ฉันจะทำกับข้าวง่ายๆให้ทาน ปองทำยืนตัวตรงตบเท้าชิดแบบทหาร ซึ่งฉันถือเป็นคำตอบรับ
เชิญข้างในค่ะ จะล้างหน้าก็ตามสบาย ทิ้งต้นไม้ไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ฉันว่างเมื่อไหร่จะจัดการเอง ปองเดินตามเข้ามาภายในบ้านเล็กๆของฉันเสียงปองแผ่วนักเมื่อมองไปรอบๆภายในบ้าน เหมือนปองเดินเข้ามาอีก ยุคสมัยค่ะคุณอร คุณเล่นคนตรีด้วยรึคะ ขออนุญาตปองดูหน่อยได้ไหม เชิญค่ะ ซอด้วงกับซอจีนของพ่อฉันค่ะ ส่วนฉันน่ะเล่นไม่เป็น จะเล่นได้ก็แต่ขิมก็แค่ไม่กี่เพลง ฉันจะหาน้ำเย็นให้นะคะ ฉันปลีกตัวเข้าครัวหลังบ้านเพื่อหาน้ำและดูว่าพอจะมีอะไรเป็นกับข้าวรับรองปองได้บ้างไม่นานเลยฉันก็ได้ยินเสียงซอจีนท่วงทำนองสนุกสนานเหมือนเมื่อครั้งพ่อของฉันเล่นในยามเย็นแบบนี้ดวงตะวันอ่อนแสงลง ลมรำเพยพากลิ่นดอกแก้วที่โปรยกลีบเกลื่อนเฉลียงหน้าบ้าน ดอกบัวผันสีม่วงและชมพูดอกเล็กๆหรุบกลีบบางสะท้อนรูปสวยอยู่เรี่ยผิวน้ำ
ทานข้าวค่ะปอง ที่เฉลียงนี่นะคะลมเย็นดี
ปองเก็บซอเรียบร้อย ดวงหน้าแช่มชื่นจากหยดน้ำที่พร่างพราว
มีความสุขจังค่ะคุณอร ปองพบคุณปองรู้สึกแบบนี้ ทุกครั้งตั้งแต่ครั้งแรก ฉันตักข้าว เลื่อนกับข้าวที่มีเพียง๒อย่างเทียบให้ปอง อยากเอ่ยกับปองว่าฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ดวงจันทร์สว่างทั่วฟ้าแล้วเมื่อฉันยืนส่งปอง ขอปองมาหาคุณอรอีกได้ไหมคะ มาลงต้นไม้ มาขอข้าวทาน ขอฟังคุณอรเล่นขิม มานั่งนิ่งๆก็ได้ค่ะ
ส่วนมากฉันจะอยู่บ้านค่ะ ถ้าว่างก็เชิญ ฉันตัดดอกพุดซ้อนช่อหนึ่งห่อใบตองให้ปองไปถวายพระแล้วปองก็มาพบฉันยามเลิกงานบ้าง วันหยุดบ้าง ช่วยฉันทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ นั่งทำงานที่ปองหอบมาทำบ้าง และบางครั้งเฝ้ามองในขณะที่ฉันนั่งทำงาน......