12 มิถุนายน 2552 12:18 น.
...สียะตรา..
......ปวงบุปผามาลีที่บรรเจิด
...ล้วนกำเนิดเพื่อโลกนี้ปรีดิ์เกษม
...เหล่ากีฏะบินระชิมจนอิ่มเอม
...โปรยกลิ่นเปรมหฤหรรษ์....เหลือพรรณนา
......ประดับหล้างามขจีด้วยสีสัน
...วิลาวัณย์ยามแย้มแซมเกศา
...ตกแต่งร่างลำเพาเยาวภา
...พวงมาลาคล้องศอลออองค์
......เพื่อบูชาวันทาไหว้พระไตรรัตน์
...คืออาณัติแห่งศรัทธาอานิสงส์
...ถวายแด่องค์พระพุทธด้วย " บุษบง "
...กรองผจงกลีบผกาเป็นมาลัย
......แล้วก็ถึงวาระปลายสลายร่วง
...วายุหน่วงปลิวคว้างลงกลางไศล
...เป็นอาหารให้..ราก...ต้น..จนจรด..ใบ
...ปัจฉิมนัยของบุปผา นานาพันธุ์
.
.
3 มิถุนายน 2552 13:23 น.
...สียะตรา..
...ไม้มะยม..
.......เหน็บกระบี่สี่เล่มเต็มพิกัด
...พร้อมหอกซัด...ง้าว...ธนู....สู้มิถอย
...ฟื้นจรยุทธเคยศึกษา ณ ฮานอย
...แล้วค่อย ค่อยปีนขึ้นนั่งหลังอาชา
......มโนมัยห้อตะบึงถึง " ง้อไบ๊
.
...ละลานใจล้วนเมธี....มีปัญหา...เอ๊ยยยยมีคาถา
...เหมือน สอ.สอ และส.อวอ ....ทั้งสภา
...จึงจอดม้าแล้วเผ่นโผนโจนทะยาน
......หันประสบพบพักตราแห่ง " ซาหมวย "
...ก็งงงวยด้วยลีลาที่อาจหาญ
...ทั้งกวี คีตยุทธสุดชำนาญ
...โอวววววนงคราญพิมพ์นี้หนอที่รอยล
......จึงน้าวศรนาม..ดอกเหมย...เชยสู่ฟ้า
...ยิงผกาให้โปรยปรายดุจสายฝน
...กลีบเกสรพรูพร่างข้างนฤมล
...เพียงหวังผลให้โฉมฉันหันมาแล
......หนากาสะรี..( ซาหมวย )
.............กรีดดัชนีคลี่พัดสกัดป้อง
...เหิรละล่องพลิกร่างกลางเวหา
...สลับเท้าเหยียบปถพีด้วยลีลา
...นางพญารุกโถม.....เข้าโจมตี
......ปลดแพรทองจากกายร่ายโศลก
...สะพัดโบกพร่างระยิบรุ้งสิบสี
...มนต์จำแลงแปลงผืนผ้าเป็น.....นาคี
...เคลื่อนสรีระห้อมจอมมารยา
...ไม้มะยม..
......รำกระบี่นามยี่เซียนเวียนทางซ้าย
...แล้วยักย้ายย่างเยื้องไปเบื้องขวา
...คาบบบบ..ผ้ายันต์.....อึ้บบบบ...ฟันลงกลางร่าง..นาคา
...สิ้นมนตราสลายคืนเป็นผืนแพร
......ตวัดง้าวนาม..ดาวลอย..สอยดอกท้อ
...คุกเข่าง้อ...พุ่มพวงเจ้าดวงแข
...รับไมตรีข้าเถิดหนออย่างอแง
...เชิญร่วม." แซ่ " เดียวกันไหม..กับไม้มะยม
......ชื่อ...ไม้มะยม.. ตั้งขึ้นในวันที่คิดถึงคุณยาย..คิดถึงต้นมะยมข้างบันไดและ..คิดถึงรอยเจ็บๆคันๆของก้านมะยมฝีมือคุณยาย...ส่วนชื่อ ...หนากาสะรี..ที่มาจากภาษาชวาแปลว่าดอกชบานำมาใช้เพราะชอบค่ะชอบอะไรที่เป็นชวา...
.