16 มกราคม 2548 07:55 น.
...สียะตรา..
......ใช่แต่เพียงความรู้ที่ ครู สอน
...จิตอาทรต่อศิษย์สนิทสมาน
...คุณธรรม จริยา วิชาการ
...จนแตกฉานพร้อมหทัยที่ใฝ่ดี
......รำลึกพร้อมน้อมหัตถ์มนัสกนิษฐ
...เชิญอุกฤษฏ์เทววงศ์จงบายศรี
...ปวง ครุ สุขสวัสดิ์วัฒนี
...ทิพย์บารมีอวยพิทักษ์รักษ์ ครู
15 มกราคม 2548 06:42 น.
...สียะตรา..
......นภาเปิดเฉิดฉันบุหลันโฉม
...สาดแสงโสมส่องหล้านิศาสมัย
...รำเพยอวลมวลบุปผามาลัยราย
...เคียงหทัยคู่ภิรมย์ชมรุกขพรรณ
13 มกราคม 2548 21:47 น.
...สียะตรา..
ผจงจัดรัดเกี้ยวบนเกลียวเกศ
ยุวเรศมุ่นไล้เรียงไรผม
กันขนงองค์อรดั่งศรคม
ลูบชื่นฉมแป้งจันทร์สุคันธา
เนียนพิลาส ชาด โชติบนโอษฐ์นิ่ม
นวลถนิมพริ้มสราญปานเรขา
ห่มสไบ สีขาบ ทาบกัลยา
โฉมสุดานุ่งผ้ายกกนกลาย
แล้วสวมสอดกรรณาภรณ์อ่อนระยับ
เรียงประดับก่องเก็จด้วยเพชรสาย
พาดสังวาลย์รูปมะเฟืองเฟื่องพรรณราย
เยื้องยังฉายคันฉ่องส่องพักตรา
11 มกราคม 2548 20:59 น.
...สียะตรา..
......จุดโคมเทียนเนียนไสวเมื่อใกล้ค่ำ
...ประแป้งร่ำน้ำปรุงจรุงหอม
...ลอยมะลิใส่ขันไว้เพื่ออ้ายดอม
...ยามเมื่ออ้อมคืนกลับจากทัพมา
......ผจงเจียนหมากพลูให้ดูเรียบ
...พร้อมจะเทียบยามเอ่ยปากอยากสลา
...ยกสำรับขึ้นตั้งตั่งมุกดา
...แล้วรอท่าพี่ชายอ้ายจะคืน
.................ยาม ๑ ..........
............................ยาม ๒................
.......................................ยาม ๓.............................
...................................................ยาม๔..........................................
...............ยาม ๕...............................................................
......ดับโคมเทียนหม่นสลัวเมื่อหัวรุ่ง
...เจียนวันพรุ่งสุริย์จ้านภาผืน
...จางน้ำปรุงบนแก้มช้ำด้วยกล้ำกลืน
...ถอนสะอื้นไห้วิตกในอกอร
......ได้สดับทัพกรุงศรีนั้นมีเหตุ
...ต้องอาเพทแตกพ่ายคล้ายสังหรณ์
...ตามดั่งคำโหราพยากรณ์
...พม่า มอญ ..บีฑามุ่งสู่...กรุงไกร
.........( สลา แปลว่า หมาก )........
9 มกราคม 2548 09:02 น.
...สียะตรา..
.....ยามพิรุณถั่งท้น............................... .ชลสาย
...เปรียบดั่งอัสสุปราย ............................ก่นไห้
...ทุกข์ขมปร่ากลืนกาย ...........................หมดชื่น
...หลับตื่นฝืนอกไหม้ ..............................บ่มร้าว ทับทวี