29 ธันวาคม 2552 15:10 น.
= สิ้ น ฝั น =
กระทาชายนายหนึ่งซึ่งผอมหิว
เดินหอบหิ้วร่างโซอย่างโผเผ
ตาพร่าขาสั่นและโซเซ
เหมือนลิเกขี้เมาร้านเหล้าดอง
สตางค์ติดกระเป๋ามาเพียงห้าบาท
แวะตลาดเปิดท้ายที่ขายของ
มีเสื้อผ้ารองเท้าเขากางกอง
เดินกระย่องผ่านมาหาของกิน
ถึงท้ายสุดจุดจ่ายขายอาหาร
ทั้งคาวหวานร้านจมสมถวิล
พิศดูราคาน้ำตาริน
จะซื้อกินอะไรให้พอเงิน
หน้าก็เหี่ยวเรี่ยวแรงก็แห้งหด
มันท้อทดหมดท่าน่าขัดเขิน
ท้องก็ร้องก้องขรมลมก็เดิน
สั่นสะเทิ้นหิวกระหายแทบตายพลัน
เหมือนสวรรค์มีตาฟ้าลิขิต
ให้ชีวิตยืดยาวอีกคราวนั่น
ร้านโดนัทเปิดขายใกล้ทอดมัน
ราคาอันละห้าบาทประกาศไว้
ทอดจนเหลืองเรืองรองกองในถาด
น้ำตาลราดเกล็ดขาวพราวไสว
กลิ่นโชยอ่อนย้อนลมเหลือข่มใจ
จรลีรี่ไปในทันที
" ผมขอซื้อโดนัทอันงามหรู
แต่ไม่เอาเจ้ารูตรงกลางนี่ "
แม่ค้าว่า " แหม !ท่านนี่โชคดี
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นให้ท่านลอง
ซื้อโดนัทแถมรูคู่กันไป
ไม่ชอบรูก็ทนไว้อย่าได้หมอง
แทะขอบขอบรอบวงคงสมปอง
พอเหลือรูท่านก็ต้องโยนทิ้งไป "
............................................
26 ธันวาคม 2552 08:04 น.
= สิ้ น ฝั น =
จำลุกยืนฝืนร่างเพื่อย่างก้าว
สู้หมอกหนาฝ่าหนาวในเช้าตรู่
ปาดน้ำค้างกลางเบาะที่เกาะพรู
แล้วมุ่งสู่เส้นทางเหมือนอย่างเคย
ละฝันอันไสวในคืนสวย
สลัดผวยผืนบางข้างเขนย
โขยกรถบดอานเพื่อผ่านเลย
ในสิ่งเคยเลยล่วงและลวงตา
สู่ความจริงในเช้าอันหนาวเหน็บ
หนาวจนเจ็บผิวกายและใบหน้า
แม้มือเท้าเข่ากร้านที่ด้านชา
ก็ปวดปร่าชาเจ็บถึงเล็บมือ
เมื่อเกิดเป็นสารถีขี่สามล้อ
จะทดท้อฝ่อใจกระไรหรือ
จะฝ่าหนาวและราวฝนให้คนลือ
แหละหยิบถือธงธรรมมานำใจ
ขอหล่อเลี้ยงชีวินที่สิ้นฝัน
อยู่กับปัจจุบันไม่หวั่นไหว
อดีตลาอนาคตอีกยาวไกล
เอาวางไว้ใต้ฐานของอานรถ
ดีดกระดิ่งกริ๊งกร๊างอย่างองอาจ
ผ่านร้านค้าอาวาสตลาดสด
กำแฮนด์แขนเกร็งปุเล็งรถ
ทางคดลาดชันไม่พรั่นใจ
เหลียวหลังยังเบาะที่ว่างเปล่า
จะมีเงาแห่งฝันนั้นหาไม่
ส่งสาส์นผ่านลมแห่งสายใย
ขอให้หายโศกและโชคดี
.......................................