6 กุมภาพันธ์ 2553 22:03 น.
= สิ้ น ฝั น =
ครั้นรุ่งสางลางแสงแห่งอุษา
ท้องนภาวิบวับประดับแสง
มลังเมลืองเหลืองส้มชมพูแดง
จึงจัดแจงห่มคลุมครองจีวร
กระชับบาตรแนบตัวด้วยกลัวตก
เสียงวิหคเซ็งแซ่แลบินว่อน
เจ้าดีใจพระใหม่จะให้พร
หรือว่าสอนธรรมวินัยให้แก่เรา
บิณฑบาตด้วยเท้าที่เปล่าเปลือย
ทั้งขบเมื่อยแขนขาเจ็บฝ่าเท้า
ทางลูกรังดังหนามคมมาข่มเอา
เหมือนย่องเบาเขย่งขาหาหญ้าเดิน
ทั้งหลวงพี่หลวงตาพากันยิ้ม
" เดินริมริมพระน้องไม่ต้องเขิน
สักห้าวันจากนี้ไม่มีเกิน
ท่านจะเดินเหยียบย่างอย่างสบาย "
เมื่อแสงเช้าทอดปะทะพระอุ้มบาตร
เห็นเงาพาดดาดไปก็ใจหาย
เป็นเงาแม่อุ้มท้องประคองกาย
ห่วงลูกชายเกรงกระทบกระเทือนท้อง
น้ำตาหยดรดบาตรมิอาจฝืน
ขนลุกยืนทั่วร่างอย่างฟูฟ่อง
ลูกอุ้มบาตรเหนื่อยจับแทบพับกอง
แม่อุ้มท้องเก้าเดือนฤาเหมือนกัน ?
จะกี่บาตรชาตินี้มิมีเท่า
ก็เทียบเงาของแม่ได้แค่นั้น
จะกี่ล้ากี่ร้าวหรือเท่าทัน
กับหนึ่งวันแม่เราเฝ้าอุ้มท้อง
.................................
24 มกราคม 2553 03:10 น.
= สิ้ น ฝั น =
หรือเป็นเพียงเรื่องราวที่เล่าขาน
จากตำนานรักแสลงแห่งสงขลา
หญิงนามดรรชนีที่โสภา
ตัดนิ้วเพื่อบูชาความรัก
จากเพลงดรรชนีไฉไล
ครูสุรพลร้องไว้ได้แน่นหนัก
แสนระทดสลดใจเสียยิ่งนัก
ใยพิษแห่งความรักหนักเพียงนี้
จากหญิงงามหมดจดและสดใส
ถูกทารุณจิตใจเสียป่นปี้
ยอดชู้ที่แสนรักและภักดี
หลบลี้ร้างไกลไปแต่งงาน
ทั้งเจ็บทั้งอายและขายหน้า
ร่ำไห้จนสองตาแดงฉาน
น้ำตาเพียงสายเลือดแสนร้าวราน
หอบสังขารผอมซูบหลีกเร้น
เจ็บปวดเจียนว่าจะบ้าตาย
ไม่รู้จะอธิบายให้ใครเห็น
ดังใจถูกแล่เชือดอย่างเลือดเย็น
ตายทั้งเป็นโอ้ละหนอแสนทรมาน
ดรรชนีจึงตัดดรรชนี
ยอมพลีนิ้วน้อยอย่างอาจหาญ
ใส่โหล ดอง ของขวัญวันแต่งงาน
บรรณาการแด่ชายผู้ทรยศ
เล่าขานตำนานนิ้วดรรชนี
ตามเรื่องราวเท่าที่มีปรากฏ
ด้วยสะเทือนใจในรักอันรันทด
ขอจำจดเอาไว้เตือนใจตัว
................................................
เพลง ดรรชนีไฉไล
สุรพล สมบัติเจริญ
ดรรชนี ไฉไล
นามนี้อยู่กลางดวงใจพี่ดวงเดียว
สงขลาแดนป่าดงพงเปลี่ยว
พี่ยังเที่ยวซอกซอนหาบังอรแม่ดรรชนี
นิ้วเจ้าขาดเพราะพิศวาสปักทรวง
น้ำตาพี่ไหลร่วง กลัวพุ่มพวงสิ้นชีวี
เห็นใจแล้วหนอน้องแก้วดรรชนี
เห็น ใจว่ารักพี่แล้วดรรชนีน้องนาง
ดรรชนี ไฉไล
ความรักจึงทำให้นิ้วต้องขาดกลาง
เพราะรักผัวยอมมอบตัวทุกอย่าง
ถึงชีพจะวายวางน้องนางก็ยังยอม
ผัวเจ้าสิ้นพิศวาสคลายคืน
แต่งงานกับหญิงอื่นทิ้งนางขม
ขื่นตรมตรอม
อยู่สงขลากินน้ำตาเสียผ่ายผอม
แอบตัวอยู่ในอ้อมของพยอมพงไพร
ดรรชนี เอ๋ย ดรรชนี
นามนี้พี่จะขอจำเจ้าจนตาย
เพราะรักผัวยอมตัดนิ้วน้องใส่
มาในโหลดองเพื่อเป็นของขวัญวันวิวาห์
ซึ้งแล้วเจ้าเมื่อพี่เปิดโหลดู
ขนหัวพี่ลุกซู่ดูนิ้วน้องที่ส่งมา
หัวใจเต้นพี่แทบเผ่นจากเตียงวิวาห์
ปากละเมอเพ้อหา น้องจ๋า น้องดรรชนี
.............................................
16 มกราคม 2553 13:58 น.
= สิ้ น ฝั น =
โปรดอย่ารอหัวใจที่ไร้ค่า
ฉันไม่มีราคาให้มารัก
ค่าเธอเยี่ยงหงส์เหินจำเริญศักดิ์
ควรหรือถักทอฝันร่วมพันธุ์กา
เพียงแอบมองปองเธอแค่ในฝัน
ก็ชุ่มชื่นชีวันฉันนักหนา
โปรดอภัยในวันอันล่วงมา
ที่นำพาหัวใจให้ไหวคลอน
เจ็บเสียแต่วันนี้จึงดีกว่า
ก็แค่เสียน้ำตาลงชุ่มหมอน
หากยืดเยื้อเรื่องราวยิ่งร้าวรอน
จะถ่ายถอนย้อนคืนแสนขื่นใจ
เมื่อหนทางข้างหน้ายังสดสวย
มธุรสรื่นรวยลานกล้วยไม้
หวังเจ้าชื่นรื่นรมย์สมฤทัย
กับดอกใบไสวกอขึ้นล้อลม
เหมือนว่าเป็นความฝันอันเลวเหลือ
มิทันเรือรักเลื่อนก็ต้องล่ม
แม้ทะเลสว่างไสวไร้คลื่นลม
จำต้องจมเรือลงอย่างปลงใจ
......................................................
2 มกราคม 2553 13:43 น.
= สิ้ น ฝั น =
เคยเคล้าเคลียเลียขาประสารัก
โดดนั่งตักนอนหงายทำตายแหง
พอเขี่ยท้องร้องครางดังฮอแฮ
แล้วยิ้มแหยแผ่ขาให้ข้าฯเกา
คอยเห่าปลุกลุกนอนตอนตีห้า
แล้วนำหน้าพาเดินจนเพลินเช้า
ตะครุบบอลซ่อนหลบตะปบเงา
ทำวิ่งวนชนเอากับเสาไฟ
ในคืนแห่งแสงสีมีพลุส่อง
เขารำร้องฉลองกันวันปีใหม่
เจ้าทุกข์ตรมล้มดิ้นและสิ้นใจ
มิทันได้แลเหลียวหรือเยียวยา
ขอจงจบภพภูมิเดรัจฉาน
ชั่วกัปกาลนะเพื่อนซี้เจ้าสี่ขา
หลับให้สบายใต้ผืนพสุธา
แล้วพบกันชาติหน้านะเพื่อนรัก
...........................................
29 ธันวาคม 2552 15:10 น.
= สิ้ น ฝั น =
กระทาชายนายหนึ่งซึ่งผอมหิว
เดินหอบหิ้วร่างโซอย่างโผเผ
ตาพร่าขาสั่นและโซเซ
เหมือนลิเกขี้เมาร้านเหล้าดอง
สตางค์ติดกระเป๋ามาเพียงห้าบาท
แวะตลาดเปิดท้ายที่ขายของ
มีเสื้อผ้ารองเท้าเขากางกอง
เดินกระย่องผ่านมาหาของกิน
ถึงท้ายสุดจุดจ่ายขายอาหาร
ทั้งคาวหวานร้านจมสมถวิล
พิศดูราคาน้ำตาริน
จะซื้อกินอะไรให้พอเงิน
หน้าก็เหี่ยวเรี่ยวแรงก็แห้งหด
มันท้อทดหมดท่าน่าขัดเขิน
ท้องก็ร้องก้องขรมลมก็เดิน
สั่นสะเทิ้นหิวกระหายแทบตายพลัน
เหมือนสวรรค์มีตาฟ้าลิขิต
ให้ชีวิตยืดยาวอีกคราวนั่น
ร้านโดนัทเปิดขายใกล้ทอดมัน
ราคาอันละห้าบาทประกาศไว้
ทอดจนเหลืองเรืองรองกองในถาด
น้ำตาลราดเกล็ดขาวพราวไสว
กลิ่นโชยอ่อนย้อนลมเหลือข่มใจ
จรลีรี่ไปในทันที
" ผมขอซื้อโดนัทอันงามหรู
แต่ไม่เอาเจ้ารูตรงกลางนี่ "
แม่ค้าว่า " แหม !ท่านนี่โชคดี
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นให้ท่านลอง
ซื้อโดนัทแถมรูคู่กันไป
ไม่ชอบรูก็ทนไว้อย่าได้หมอง
แทะขอบขอบรอบวงคงสมปอง
พอเหลือรูท่านก็ต้องโยนทิ้งไป "
............................................