8 กรกฎาคม 2545 16:42 น.

พระจันทร์สีเปลือกไข่

สาแก้ว


                   พรั่งพราวสกาวสุกลุกสว่าง
          เบื้องฟ้ากว้างดวงดาววาวระยับ
          ส่องแสงเด่นเป็นนวลอยู่วับวับ
          แวววาวจับราตรีกาลละลานใจ

                    พระจันทร์แจ่มแอร่มเรื้องเรืองวิลาศ
          ฉายแสงสาดจางฟ้ามืดให้สดใส
          สีเปลือกไข่ขาวนวลชวนวิไล
          เหนือฟ้าใหญ่เต็มดวงเด่นเป็นประภา

                    กระต่ายน้อยคอยหมายดวงจันทร์เจ้า
           คอยแอบเฝ้าแอบมองปองปรารถนา
           แหงนหน้ามองจ้องเขม็งเล็งสายตา
           จันทร์เจ้าขา สวยล้ำ ประจำใจ

                    จันทร์อร่ามงามสีเปลือกไข่ขาว
           ทอแสงเป็นแนวยาวราวเส้นไหม
           ส่องสู่พื้นคืนค่ำล้ำละไม
           คือแสงไฟแห่งพื้นฟ้ายามค่ำคืน				
8 กรกฎาคม 2545 12:39 น.

ทะเลสีโศก

สาแก้ว

ทะเลหม่นปนเศร้าเคล้าสีโศก
                   บ่ไหวโยกนิ่งเรียบเงียบสงบ
                   ลมบ่พริ้วปลิวโบกโกรกกระทบ
                   แลเซาซบซึมซึมครึ้มหัวใจ
                      ทะเลเหงาฤาเงาแห่งฟ้ามืด
                    จึงจืดชืดทิ้งฝันวันฟ้าใส
                    เหลือแต่เพียงความเหงาศร้าอาลัย
                    น้ำใสใสกลายขุ่นมัวสลัวเงา
                       ปลาใหญ่น้อยเคยเวียนว่ายหายไปหมด
                     ทิ้งเพียงคราบความสลดหดหู่เศร้า
                     เดียวดาย เบื่อหน่าย ซึมเซา    
                       สีเหงาเหงาเคล้าไปทั่วผืนทะเล				
7 กรกฎาคม 2545 15:58 น.

ตะวันยามแดงเรื่อ

สาแก้ว

ตะวันแรงแดงเรื่อเจือร้อนรุ่ม
                  ดั่งจะสุมโลกให้ ดั่งเพลิงผลาญ
                  แดดเปรี่ยงเปรี่ยงสายลมร้อนแสงระราน
                  ภายใต้การเผาผลาญของดวงไฟ
                        กระหน่ำแสงแรงร้อนสะท้อนส่อง
                  คุกคคามครองปองเผาให้ลุกไหม้
                  ให้แผ่นดินมอดไหม้มลายไป
                   ด้วยหัวใจแห่งตะวันอันร้อนแรง
                        สาดรังสีไปทั่วทุ่งนาข้าว
                    แดดร้อนพ่าวข้าวเฉาแดดดินระแหง
                    ชาวนาตรมพรมทุกข์แดดทิ่มแทง
                    หมดเรี่ยวแรงโรยอ่อนวอนฝนพรำ
                        ข้าแต่ฝนจงหล่นหลั่งพรั่งพรูพร่าง
                      พรมข้าบ้างยามแดดเหี้ยมเกรียมกระหน่ำ
                      ข้าวแห้งตายน้ำแล้ง แห้งขอดซ้ำ
                       ฤาจะย้ำความตายหมายชีวิน				
7 กรกฎาคม 2545 15:31 น.

ตะวันยามเช้า

สาแก้ว

พราวแสงซ่านหว่านสว่างกลางท้องทุ่ง
                    ลานตะวันโปรยปรุงแต่งสีสัน
                    หมู่ผีเสื้อปีกบางหลากสายพันธุ์    
                    ระเริงฝันปั้นความสุขคลุกผกา

                        สายลมลู่คู่นกวิหกเหิน
                    เมฆขาวเพลินบรรเลงเพลงแห่งฟ้า  
                    แมกไม้ไหวในบทเพลงแห่งพนา
                    ภายใต้ฟ้าแห่งท้องทุ่งแสงตะวัน

                        สายน้ำกระเพื่อมกระเพื่อมระยิบแสง
                     หมู่แมลงจำแลงร่างท่ามกลางฝัน  
                     ออกโบยบินตามกลิ่นผกาพรรณ  
                     ยามเช้าวันแดดส่องครองนภา

                        แดดอ่อนอ่อนอุ่นอุ่นกรุ่นกลิ่นแสง
                      ดังศรแผลงแสงฉายประกายฟ้า
                      ทอถักความอบอุ่นอาบกายา
                       แผ่รังสีลงมาหาผืนดิน				
7 กรกฎาคม 2545 13:21 น.

ตะวันสีหมากสุก

สาแก้ว

แดดรอนรอนทินกรเจ้าจะพลบ
                      เพลาจบครบหนึ่งวันผันเวียนหมุน
                      ฉายลำแสงสีแดงคล้ำดูขุ่นขุ่น
                      แลวุ่นวุ่นหัวใจให้แอบมอง
                           ตะวันพรากจากฟ้านภาหม่น
                    ยามจะพ้นขอบฟ้าดูสีหมอง
                    สีหมากสุกดังทุกข์บุกมาครอง
                    ดังเสียงร้องจากตะวันลั่นฤทัย
                             สายลมพรายพรมพื้นชลธาร
                    แลสะท้านตะวันหวั่นหวิวไหว
                    ยิ่งมองยิ่งทุกข์ไม่สุขใจ
                    ฤาตะวันคือฤทัยแห่งผองเรา
                              ท้องฟ้ายามอับแรงไร้แสงตะวัน
                     ดูวังเวงเงียบงันและเงียบเหงา
                     ดูเหนื่อยๆเมื่อยล้าน้ำตาเนา
                     ดั่งเจ้าเศร้าเดียวเปรี่ยวระแวง
                             เมฆหม่นหม่นฤาฝนจะพร่างพรม
                     ฤาระทมกับตะวันยามส่องแสง
                     ฤาเจ้าเห็นตะวันยามอ่อนแรง
                     ฤาเจ้าแกล้งให้เราเศร้าตามตะวัน
                             ยามเย็นย่ำหมู่นกการ่อนถลา
                    สู่พนาอาณาเนาเจ้าสุขสันต์
                    ท่ามกลางสีของฟ้าระทมหวั่น
                    ปนสายลมพรมพริ้วอันหวิวใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาแก้ว
Lovings  สาแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาแก้ว
Lovings  สาแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาแก้ว
Lovings  สาแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสาแก้ว