25 มกราคม 2548 15:06 น.

สาวนาแสงเทียนเสียงธรรมคำสอนอ้าย!

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6207

คืนนี้พระจันทร์เพ็ญเด่นดวง
ล่วงสู่วันพระอีกคราแล้วนะอ้าย

หัวใจสาวนา..ดวงดายเดียวดวงเดิม
ยังคงสงบเย็นอิ่มเต็มอิ่มงามไปตามจันทร์วันเพ็ญบุญ

สาวนา..ค่อยๆเลือกเด็ดมะลิตูมตั้ง
จากแปลงดอกไม้นานาพรรณพื้นบ้าน
บานชื่น ดาวเรือง รัก บานไม่รู้โรย ที่พากัน
โปรยปรายคลี่กลีบดอกหวานบานสะพรั่งริมรั้วกระท่อมลั่นทม

แล้วนำมาร้อยเสียบผสม
กับพุดซ้อนกล้วยไม้
กับรักพราวขาวนวล
ให้หอมอวลเป็นพุทธบูชา...



สาวนา..ทรุดตัวลงตรงหน้าพระพักตร์องค์พระปฎิมา
แล้วเริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็นอย่างช้าช้าๆ
ใน..ยามค่ำกับแสงเรืองรองรำไร
หน้าพระพักตร์พระพุทธิ์ผู้บริสุทธิคุณ

เสียงธรรมดังกังวานก้องไพเราะ
ด้วยพลังสมาธิศรัทธาไปทั่วท้องนาอันแสนวิเวกสงบเงียบ
แสงทองส่องจับเสี้ยวหน้าละมุน
ให้งามยิ่งงามจากรัศมีจิตรัศมีจันทร์
จากพลังนวลเนื้อใจนวลนาบุณย์
อันยิ่งใหญ่หอมกรุ่นกลิ่นธรรมใสธรรมขาว
ราวอัญมณีเพชรพราวน้ำดี..
ที่ซ่อนอยู่ในโคลนตม
แม้นไร้ผู้ใดรับรู้งาม...ของหญิงบ้านนาป่าดอย


สาวนา..
ก้มกราบกรานอธิษฐานจิต
ด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์แสนนานในค่ำคืนนี้
พลีให้กับจิตวิญญาณทุกดวง
ที่ล่วงลาลับดับไปกับภัยพิโรธซือนามิ

กับทุกคนดีที่แสนโศกวิโยคยากทำใจ
ผู้สูญเสียคนที่รักไป
ที่ยังคงต้องทนมีชีพชนม์อยู่นะเบื้องหลัง

ให้พลังแห่งความรักเมตตาปรานี
แผ่ปรารถนาดีไปทั่วทิศไทยไพศาล




ให้ใจดวงรานทุกดวงดับทุกข์ได้ด้วยพระรัตนตรัย
ให้เพียรยึดมั่นไว้ใช้เป็นที่พึ่งทางใจ
อันเที่ยงแท้สว่างใส
ด้วยสัจจะธรรมบารมี..อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

ให้มวลมนุษย์ในพุทธภูมิมิสิ้นหวัง.
ที่จะค้นหาความว่างเปล่ารู้รำงับดับวาง
รู้ผสานจิตเข้าสู่ร่มธรรม 

อันคือความงามเย็นเป็นนิรันดร์รัก
เสมือนที่อ้ายเคยสอนไว้
ให้อย่าท้อแท้
ที่จะเพียรพาพบพระนิพพาน
แม้นจะนานแสนนาน
อีกสักกี่ชาติภพก็ตามที



**ชีวิตพ่อนะแม่  
พ่อเลือกตายได้สองสถานะ  คือ 
หมดลมคาหน้าที่  โดยไม่บวช  หรือ  ถ้าบวช 
ก็จะตายใต้พระศาสนา  
พ่อไม่มีโอกาสตายในอ้อมกอดแม่ 
หรือ มีแม่อยู่ใกล้พ่อในวันที่พ่อตาย  

แต่เมื่อไหร่ที่จิตออกจากกาย 
พ่อจะไปรอแม่  ถ้าพ่อตายก่อน  
จะรอรับแม่  แต่ถ้าแม่ตายก่อนพ่อ 
พ่อจะตามไปหาแม่ทีหลัง  
รับรองว่าไม่หลงกันแน่นอน 
เพราะ  เวลาแม่จะตาย  
สมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ หลวงพ่อจะมารับแม่เอง 
พร้อมพ่อ(ถ้าพ่อตายก่อน) ***



***ปฏิบัติสายไหนก็ดีทั้งนั้นครับ 
แม่ชอบสายไหนก็ปฏิบัติสายนั้น 
หรือ นำสองสายมารวมกัน
ก็ได้แล้วแต่ความชอบจ้ะ ความถนัดจ้ะ 
พ่อเคยฝึกมาหลายสาย  
ทั้งยุบหนอพองหนอ 

ทั้งธรรมกาย  ทั้งพุทโธ มโนมยิทธิ  
ที่ถูกจริตของพ่อมีพุทโธกับมโนมยิทธิจ้ะ 
พ่ออ่านหนังสือธรรมะเกือบทุกสาย 
ได้ความรู้หลายอย่าง 
และอันไหนที่ดึงมาทำรวมกันได้
พ่อก็จะดึงมาทำด้วยกัน สนุกดี 
ทว่าจะไม่ทิ้งสายหลักที่ถูกกับจริตของตนเอง  

พ่อจะชอบอ่าน 
คำสอนของหลวงปู่หลุยส์ หลวงพ่อชา หลวงปู่ฝั้น  หลวงปู่บุดดา 
พระอาจารย์ชยาสโรภิกขุ (สายหลวงพ่อชา)  หลวงปู่ดาบส 
หลวงปู่ดูล  หลวงปู่โต๊ะ  หลวงปู่ดู่  หลวงพ่อ*****
...........................



สาวนา..ทิ้งร่างเหว่ว้าเหนื่อยนัก
นอนหลับตาพักใจอย่างช้าช้า
ในม่านมุ้งสีขาว..ด้วยจิตใสพราวรู้หยุดยุ่งหยุดนิ่ง
ทิ้งทอดทุกอย่าง
ทุกข์ทุกรักหนักวิบากโลกย์วางไว้นะบ้านภายนอก



และ
ค่อยๆกระซิบคำภาวนา...
จับสติอยู่ที่ลมหายใจ
ให้ค่อยๆเบาบางจางคลายและทิ้งร่างวางไว้
พาจิตเบาสบาย
คล้ายท่องไปเหนือโลกวิมุตติหลุดพ้น...พันธนา...ทั้งปวง

ก่อนจะล่วงลาเลยเข้าสู่นิทรารมย์อีกคืน...ค่ำ


กับ....
เสียงเรไรร่ำจิ้งหรีดร้องกบเขียด
ประลองสียง
เถียงประท้วงลมแล้งในท้องนารอฟ้าฝนวสันตฤดู

ราวแกล้งทดสอบกมลสาวนา
ว่าจะไหวครวญหาอ้ายสักปานใด

หาก..สาวนา..รู้วางรู้รำงับใจและเพียงเพียรหยุดคิด..
แล้วทุกอย่างก็นิ่งสนิทในความว่างเปล่า
ไร้เหงาใจ...ไร้ใคร....ไร้..แม้นตัวตนลำพัง


กับ..
จันทร์เพ็ญเด่นดวงทอทอดลอดไล้กิ่งไม้ร่ายไหว
มาโลมลูบจูบประทับให้หลับไหลด้วยมากเมตตา....
พร้อมมวลหมู่ดวงดาราเต็มอ้อมฟ้า
ทั้งส่งแสงสกาวพราวใสทั้งริบหรี่รุบหรู่
เสมือนสอนสัจจะธรรมผ่านบทเพลงธรรมชาติ
ให้ตัวเราและโลกนี้ได้รับรู้ว่า



ทั้งชีวิคนและโลกนี้
ที่ยังคงต้องดำรงหมุนอยู่และหมุนไปๆย่อมมี
ทั้งมืดดำและไสวสว่างพร่างเย็น

มีสุขมีทุกข์
มีกลางวันกลางคืน
มีชื่นมีช้ำมีระกำมีระทม
มีขื่นมีขมมีตรมมีตรอม
มีหอมมีหวาน


และ
สุดท้ายทุกอารมณ์วายวุ่นวกวนนั้น
ก็พลันต้องการเพียงวางว่าง
เหลือแค่เพียงความเป็นกลางๆคือการรู้ทันเท่า
เข้าใจในทุกสรรพสิ่งให้นิ่งรู้นิ่งรับ
ไม่จับมาไว้ให้หนักในจิต
แบกชีวิตล้าวนหมุนวงกรรมดั่งกงเกวียนย้ำรอยซ้ำรอย
..........


และ...
ในนิมิตรนิทรารมย์..
แม้นกมลจิตวางว่าง...แสนว่าง
แล้ว..ไยเล่า
อ้ายแสนรัก
จึงมาปรากฎกายตรงหน้า
ส่งสายตาล้าเหนื่อยนัก..
มาขออ้อนหาอ้อมตักอ้อมรักภักดิ์พลี
ขอไออุ่นจากละมุนมือสาวนาคนนี้



ให้ไล้ลูบจูบประทับรับขวัญทั่วใบหน้า
สองนัยน์ตาแสนโศกนั้นอย่างละไมละเมียด
ได้เบียดร่างซุกซบพบตักอุ่นไอรักคลึงเคล้าเฝ้าสู่นิทราฝันดี..
เพื่อพลีพร้อม
ให้พลังรักระรินไหล
สร้างพลังใจสู้โลกอีกยาวไกลยาวนานยาวยืนเพื่อผืนดิน




หลับตา..นะอ้าย..
สาวนากำลังลูบไล้เห่กล่อมถนอมขวัญ
จงหลับฝันให้สบายนะยอดรัก
สาวนาจะพัดวีมิให้ริ้นไรไต่ตอม



มีแก้มหอมคอยคลอเคลีย
มีดวงดอกไม้ร่ายมนต์หวาน
มีสายลมบางเบาพัดพรายให้ฉ่ำเย็น
มีเสียงธรรมนำทางจิตลอยล่อง
พาเราท่องไปกับนาวาทองนาวาทิพย์
สู่ทิพยสถานวิมานแก้วนิรพานนะยอดดวงใจ.
.ที่แสนรักเอยแสนรักในกมลยิ่งแล้วนะจ๊ะ
.............................



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6207
ฝัน   
เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key Eb  

ฝันไป
แห่งไหนไกลสุดจุดหมาย มอง
ในห้วงฝันเรืองรอง ด้วยภาพผอง
ลำยองพร่างพราย
ฝันพลาง
ใจคว้างกลางโลกแห่ง นิ-ยาย
เรานี้หนอเดียวดาย สุดจะหมาย
ตายเคียงคู่ใคร
ชีพใช่ความฝัน แต่ฉัน ยังฝันไป
สู่แดนใดไหน ซึ่งใคร คนนั้นครอง
ฝันไป
จนไร้จนสิ้นจุดหมาย ปอง
คงจักสมใจปอง ที่เรียกร้อง
รักคืนกลับมา

ชีพใช่ความฝัน
แต่ฉัน ยังฝันไป
สู่แดนใดไหน ซึ่งใคร คนนั้นครอง
ฝันไป
จนไร้จนสิ้นจุดหมาย ปอง
คงจักสมใจปอง ที่เรียกร้อง
รักชื่นคืนมา
คืนมาหา รักรอท่า
ประสาแสนเศร้า...
!				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสาวบ้านนา
Lovings  สาวบ้านนา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสาวบ้านนา