5 กุมภาพันธ์ 2547 12:27 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1675
(คลิ๊กURL..ฟังสาวนาคอยคู่กระหึ่มหูกระหน่ำใจนะจ๊ะ)
และ
เพื่อเป็นสีสันแห่งบทบันทึกรักบันดาลใจจากค่าคำจรัสเจรือง.
(สุดทนแล่วนะแม่ข้าเหอ!)
ของลำน้ำน่านจากงานน้องน้อยผู้หญิงไร้เงานะคะ
*เพราะเราคู่กันคู่กัดดั่งแหล๊กขู๊ดวัดกับพร่าวว..น่าวว*
*********
ฉันขูดใจถอดใจรักให้เธอไปทั้งหมด
ฝากจำจดยามจากไกลใจเพ้อหา
กี่คืนวันกัปป์กัลป์ชาติสวาทลา
กี่เหว่ว้าจะเฝ้าคอยรับรอยบุญ..
และ
มะพร้าวเน่านี้ที่เธอคอยประชด
ใจงามงดเกินค่าราคาหนุน
เธอจะด่าว่าอย่างไรใจหอมกรุ่น
*ใน*ละมุนแม้นเน่านอกหลอกตาเธอ..
ไม่จีรังอะไรถึงใหม่สด
มันเป็นกฎจีรังหวังผ่านเพ้อ
สดวันนี้เน่าวันหน้าอย่าละเมอ
วันปีเผลอเธอฉันนั้นพอกัน
เป็นเหล็กขูดขูดเนื้อใจใครสดสด
ใช้ใจจรดแทงใจใครหลงฝัน
ผ่านคืนวันฝันลาเลยก็เท่านั้น
สบสวรรค์หรือนรกยกให้เธอ..เพียงผู้เดียว!
สบสวรรค์หรือนรกยอมยกให้เธอ..ขูดเนื้อใจฉันเพียงผู้เดียว!
และบทขอต่องานงาม
***
งามใจงามคำจากสุดยอดจอมใจจอมฝัน
ในยุทธจักรกวีกระวาดนี้ที่เกี่ยวใจทุกดวง
ในร่มรักเรือนใจเรือนไทยแห่งนี้นะคะ
มนต์รักที่ราบสูง........ ลำน้ำน่าน
สิ้นฤดูอีกคราวหนาวจรผ่าน
เมื่อดอกจานตูมเต้ายามเช้าใหม่
ลมหนาวเอยโบกพลัดไปแหล่งใด
จึงทิ้งใจลอมฟางไว้กลางลาน
เหลืองระยับทุ่งทองรอคล้องเคียว
รวงข้าวเหนียวโน้มกอคลอรวงสาน
หอมวิญญาณบ้านทุ่งจรุงบาน
ต่อตำนานมนต์เพลงบรรเลงแล้ว
ที่ราบสูงยูงยางสร่างใบ
เมื่อลมแล้งโบกไกวบ่วงใบแผ่ว
หล่นลาร่วงถมกว้างเต็มทางแนว
กี่ดวงใจคลาดแคล้วจะจรคืน
มารับขวัญท้องทุ่งหุงข้าวใหม่
ก่อฟืนไฟไล่ล่องท่องนาผืน
โห่ลมว่าวหนาวเอยเชยกลับคืน
มาพัดครืนเกรียวฟางอย่าร้างลับ
เกี่ยวเก็บฝันต้นฤดูมาสู่ท้อง
เมื่อดุเหว่าแว่วร้องพร้องเดือนดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นให้เกินนับ
ให้คว้าจับแกะเคียวไปเกี่ยวรวง
มนต์ท้องนาป่าไพรในส่วนลึก
หว่านผลึกจรดแหล่งแสบงหลวง
เกลี่ยเกรียวอาบม่อนเนินดั่งเงินยวง
เขียวสุดท้ายรอร่วงอยู่ลิบลิบ
เพลงเกี่ยวข้าวกังวานซ่านในอก
เมื่อหมู่นกร้องครวญชวนใจจิบ
วิหคใดห่างร้างกลางเมืองลิบ
หอบชีวิตยากไร้ไปเดียวดาย
ลมว่าวเอยอย่าช้าพามนต์ทุ่ง
ไปจรุงหอมรินกลิ่นความหมาย
แม้นอกสั่นพรั่นพรึงถึงความตาย
จงโอบกายผ่อนหนักอย่าชักช้า
เพลงฤดูอีกคราวหนาวจะผ่าน
ยังกังวานแกล้มกลิ่นรินบุปผา
ดอกโสนจานใจไหวกลีบมา
เป็นมนต์เพลงมนตราข้ายลยิน
แสงแดดฉ่ำสะท้อนย้อนรวงข้าว
ริ้วลมหนาวจรจากพรากทิ้งถิ่น
มนต์เสน่ห์ที่ราบสูงคลุ้งระริน
อบวิมานบนดิน...กลิ่นทุ่งไทย
มนต์เสน่ยังหยัดสูงคลุ้งระริน
อวลวิมานอบกลิ่น....ผืนดินใคร?
*************
เวอร์ชั่นรักพิสุทธิใสจากใจสาวนา
ผู้รักเดียวใจเดียว
ราวเคียวคมรอเกี่ยวรอเก็บใจมิไหวหวั่น
หลงรอท่า.....
ผู้*อ้าย*ปากหวานหว่านแค่ลมลิ้น
ว่ายังถวิลหานา..สาวนานานเนิ่น..
แลทุกฤดูฤดีที่ลาลับมิคืนเคยกลับมา..เลย..ชั่วฟ้าดิน..
*******
ตะแบกร่วงพรายพร่างกลางลานหอม
นกแรมรอนหว่านคำเพ้อละเมอหา
รักหรือลวงเล่นลิ้นถวิลนา
เสน่หาหรือแสร้งแกล้งนาคอย..(สาวนาคอย)..
รักระยับเรียวรวงไยไม่กลับ
ลมระบัดหนาวเนื้อกี่หนาวหนอ
เคียวสิ้นคมแขวนคารอและรอ
อ้ายมาขอเกี่ยวคู่รวงรู้ใจ...
ที่ราบสูงไร้ยางยูงดินแห้งผาก
เหมือนคนยากนาน้อยคอยน้ำใส
หวังน้ำรักน้ำฝนรินรดใจ(ใบ)
ยอดดวงใจหลงแสงสีมิจรคืน...
รอรับขวัญกับผ้าถุงทอผืนหอมใหม่
อิงกองไฟดูดาวพรายใกล้นาผืน
ท้าลมว่าวหนาวแค่ไหนอุ่นรักคืน
ร้อนกว่าฟืนหอมกว่าฟางใจร่างรับ...
แล้วหยาดหวานกว่าฝนหล่นเรียวร่าง
ดุเหว่าหวานยังหยุดร้องเดือนยอมดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นเกินนานนับ
ให้คว้าจับน้ำผึ้งหวานผ่านร่างรวง...
มนต์ท้องนาจะเห่กล่อมจนรุ่งสาง
หอมเจือจางดอกจานหว่านหวานร่วง
ดาวหัวเราะจันทร์อวยพรอ้อนโอบรวง
โศกในทรวงล่วงลาลอยฟ้าไกล..
เพลงเกี่ยวข้าวคลอคู่ใจแสนซ่านซึ้ง
หวานตราตรึงนกไพรคืนคอนมิจรไหน
วิหคเอ๋ยอย่าหลงเชยไม้เมืองใด
คืนสู่ไพรคืนสู่รังหวังเคียงดิน..
ลมว่าวเอยอย่าช้าพัดพาหมอง
น้ำตานองเรียวรวงรอถวิล
ดอกโสนเหว่ว้าน้ำตาริน
ดอกจานสิ้นหว่านหวานประจานใจ..
ดับแดดกลางดวงใจรดน้ำรัก
หว่านกล้ารักแตกหน่อกอไสว
นาผืนน้อยนาคอยเคียวนาน้อยใจ
อย่าแรมไกลหว่านเพียงลมพรมผืนดิน... พรมผืนนา!!
*******************
5 กุมภาพันธ์ 2547 12:01 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1675
(สาวนาคอยคู่)
เพื่อเป็นที่ระลึกจากคำ..
บรรเจิดใจบันดาลรักจรัสเจรืองค่า
เพราะเราคู่กัน..*ดั่งแหล่กขู๊ดกับพร่าวน่าวว.*นะจ๊ะ
(กระต่ายขูดมะพร้าวกับมะพร้าวเน่า)
มนต์รักที่ราบสูง..ลำน้ำน่าน
สิ้นฤดูอีกคราวหนาวจรผ่าน
เมื่อดอกจานตูมเต้ายามเช้าใหม่
ลมหนาวเอยโบกพลัดไปแหล่งใด
จึงทิ้งใจลอมฟางไว้กลางลาน
เหลืองระยับทุ่งทองรอคล้องเคียว
รวงข้าวเหนียวโน้มกอคลอรวงสาน
หอมวิญญาณบ้านทุ่งจรุงบาน
ต่อตำนานมนต์เพลงบรรเลงแล้ว
ที่ราบสูงยูงยางสร่างใบ
เมื่อลมแล้งโบกไกวบ่วงใบแผ่ว
หล่นลาร่วงถมกว้างเต็มทางแนว
กี่ดวงใจคลาดแคล้วจะจรคืน
มารับขวัญท้องทุ่งหุงข้าวใหม่
ก่อฟืนไฟไล่ล่องท่องนาผืน
โห่ลมว่าวหนาวเอยเชยกลับคืน
มาพัดครืนเกรียวฟางอย่าร้างลับ
เกี่ยวเก็บฝันต้นฤดูมาสู่ท้อง
เมื่อดุเหว่าแว่วร้องพร้องเดือนดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นให้เกินนับ
ให้คว้าจับแกะเคียวไปเกี่ยวรวง
มนต์ท้องนาป่าไพรในส่วนลึก
หว่านผลึกจรดแหล่งแสบงหลวง
เกลี่ยเกรียวอาบม่อนเนินดั่งเงินยวง
เขียวสุดท้ายรอร่วงอยู่ลิบลิบ
เพลงเกี่ยวข้าวกังวานซ่านในอก
เมื่อหมู่นกร้องครวญชวนใจจิบ
วิหคใดห่างร้างกลางเมืองลิบ
หอบชีวิตยากไร้ไปเดียวดาย
ลมว่าวเอยอย่าช้าพามนต์ทุ่ง
ไปจรุงหอมรินกลิ่นความหมาย
แม้นอกสั่นพรั่นพรึงถึงความตาย
จงโอบกายผ่อนหนักอย่าชักช้า
เพลงฤดูอีกคราวหนาวจะผ่าน
ยังกังวานแกล้มกลิ่นรินบุปผา
ดอกโสนจานใจไหวกลีบมา
เป็นมนต์เพลงมนตราข้ายลยิน
แสงแดดฉ่ำสะท้อนย้อนรวงข้าว
ริ้วลมหนาวจรจากพรากทิ้งถิ่น
มนต์เสน่ห์ที่ราบสูงคลุ้งระริน
อบวิมานบนดิน...กลิ่นทุ่งไทย
มนต์เสน่ยังหยัดสูงคลุ้งระริน
อวลวิมานอบกลิ่น....ผืนดินใคร?
เวอร์ชั่นรักพิสุทธิใสจากใจสาวนา
ผู้รักเดียวใจเดียว
ราวเคียวคมรอเกี่ยวรอเก็บใจมิไหวหวั่น
หลงรอท่า.....
ผู้*อ้าย*ปากหวานหว่านแค่ลมลิ้น
ว่ายังถวิลหานา..สาวนานานเนิ่น..
แลทุกฤดูฤดีที่ลาลับและมิคืนเคยกลับมา..เลย..ชั่วฟ้าดิน..
*******
ตะแบกร่วงพรายพร่างกลางลานหอม
นกแรมรอนหว่านคำเพ้อละเมอหา
รักหรือลวงเล่นลิ้นถวิลนา
เสน่หาหรือแสร้งแกล้งนาคอย..(สาวนาคอย)..
รักระยับเรียวรวงไยไม่กลับ
ลมระบัดหนาวเนื้อกี่หนาวหนอ
เคียวสิ้นคมแขวนคารอและรอ
อ้ายมาขอเกี่ยวคู่รวงรู้ใจ...
ที่ราบสูงไร้ยางยูงดินแห้งผาก
เหมือนคนยากนาน้อยคอยน้ำใส
หวังน้ำรักน้ำฝนรินรดใจ(ใบ)
ยอดดวงใจหลงแสงสีมิจรคืน...
รอรับขวัญกับผ้าถุงทอผืนหอมใหม่
อิงกองไฟดูดาวพรายใกล้นาผืน
ท้าลมว่าวหนาวแค่ไหนอุ่นรักคืน
ร้อนกว่าฟืนหอมกว่าฟางใจร่างรับ...
แล้วหยาดหวานกว่าฝนหล่นเรียวร่าง
ดุเหว่าหวานยังหยุดร้องเดือนยอมดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นเกินนานนับ
ให้คว้าจับน้ำผึ้งหวานผ่านร่างรวง...
มนต์ท้องนาจะเห่กล่อมจนรุ่งสาง
หอมเจือจางดอกจานหว่านหวานร่วง
ดาวหัวเราะจันทร์อวยพรอ้อนโอบรวง
โศกในทรวงล่วงลาลอยฟ้าไกล..
เพลงเกี่ยวข้าวคลอคู่ใจแสนซ่านซึ้ง
หวานตราตรึงนกไพรคืนคอนมิจรไหน
วิหคเอ๋ยอย่าหลงเชยไม้เมืองใด
คืนสู่ไพรคืนสู่รังหวังเคียงดิน..
ลมว่าวเอยอย่าช้าพัดพาหมอง
น้ำตานองเรียวรวงรอถวิล
ดอกโสนเหว่ว้าน้ำตาริน
ดอกจานสิ้นหว่านหวานประจานใจ..
ดับแดดกลางดวงใจรดน้ำรัก
หว่านกล้ารักแตกหน่อกอไสว
นาผืนน้อยนาคอยเคียวนาน้อยใจ
อย่าแรมไกลหว่านเพียงลมพรมผืนดิน... พรมผืนนา!
1 กุมภาพันธ์ 2547 09:41 น.
สาวบ้านนา
ชิงช้าเมฆ
******************
อาทิตย์ลาลับเหลี่ยมทางสันเขา
ฟ้าสีเทาเข้มครามยามเปลี่ยนสี
เหลืองส้มทองส่องรุ้งหวานระวี
จันทร์ราตรีโผล่ทิวไม้ทายทักไพร..
ไล่ยามพลบหลบหายชายคาเมฆ
สวรรค์เสกแสงดาวพราวฟ้าใส
ริมลำธารบ้านกลางป่าก่อกองไฟ
ลอยพลิ้วไหวเหนือไผ่กอรอเก้งมา..
จั๊กจั่นเสียดสีปีกกรีดร่ำร้อง
กบเขียดก้องลองเสียงเถียงซ้ายขวา
เบ่งคอพองร้องประชันกับไก่นา
อาณาเขตข้าขอจับจองร้องระงม..
นกทึดทือเสียงครือครือคนชรา
บ่างราวบ้าร้องโหยหวนชวนขื่นขม
ยามราตรีเงียบสงัดลมพร่างพรม
ทิวไม้ตรมระทมท้อรอพัดไกว
นกเค้าแมวลิงลมตากลมโตเป็นพิเศษ
ไว้เตือนเหตุเภทภัยไวเคลื่อนไหว
สัตว์กลางคืนตื่นทำงานผลัดเปลี่ยนไป
ดอกไม้ไพรไหวก้านกอรอรอรอ
หยาดน้ำค้างพร่างพรมลมลูบไล้
แสงจันทร์ฉายคลายเศร้าคอยเฝ้าขอ
ไกวชิงช้าเมฆเสกรวงดาวพราวสร้อยคอ
คล้องขวัญรอขอเกี่ยวใจไปนิรันดร์...
31 มกราคม 2547 11:17 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=837
(URLนานเกินรอ)
ในลมหอมหลอมดวงใจให้ไหวหวั่น
หวานจากจันทร์วันเดือนแรมแย้มเยือนสรวง
คืนเดือนเสี้ยวเกี่ยวกิ่งฟ้าเพียงครึ่งดวง
ราตรีล่วงรวงดาวพรายร่ายมนต์ใจ...
แลละลิบทิพย์ทิวเมฆเสกมนต์เศร้า
เดือนแรมร้าวร้างลาเลือนเตือนใจไหว
แสงเดือนเศร้าร้าวรอนเว้าวอนใจ
ใครหนอใครเคยโลมไล้ใต้เงาจันทร์
วอนลมหอมหลอมดวงใจรอรับรัก
เพ้อเพียงภักดิ์พ้อเพียงหลงตรงใจขวัญ
เสน่หาอาวรณ์ออดอ้อนจันทร์
ฝากเงาจันทร์ว่าเงาใจใครตรอมตรม..
สิบกว่าปีแล้วหนอรอพบหน้า
ชื่นชีวายอดชีวันฝันขื่นขม
เป็นความรักหนักแน่นหนาวระทม
เป็นความขมจมจับทับทวี
ในความรักหนักแน่นผ่านพิสูจน์
ใช่เพียงพูดผ่านกลอนรอนร้าวนี้
ใช่เพียงฝันคือวันจริงในชีวี
ใช่ใจนี้ที่ไม่ท้อรอรักจริง
หวังไม่นานกาลผ่านไปใจรักจบ
ขอเพียงพบสบตากันนิ่งนิ่ง
โลกตรงหน้าคงหยุดหมุนดูรักจริง
นั่นคือสิ่งรอคอยลบรอยใจ..
เป็นเพียงฝันหรือเปล่าใจเราหนอ?
คนที่รอที่รักรู้บ้างไหม
มีชายหนึ่งซึ้งในรักหนักแน่นใจ
วันสิ้นใจ..ในอ้อมกอด รอยอดรักปิดเปลือกตา.....
เมื่อคืนนอนมองจันทร์ครึ่งดวงดายเดียวดวงเดิม
และฟังเพลง..นานเกินรอ..คลอแกล้มกับจันทร์ดวงเศร้า
กลับมาฝากบทรจนาหวานเศร้านี้กำนัลทุกดวงใจแห่งร่มรักเรือนไทย
ที่ยังมีดวงใจเหว่ว้าอ้างว้างเปลี่ยวร้างใครเคียงในคืนแรมแกมจันทร์เสี้ยว
คนดี...
ความงามแห่งธรรมชาติที่ไม่เคยโหดร้ายมิ
ทำร้ายใครเพียงเปิดใจดวงละมุนรับหยาดหวาน
ผ่านคืนวันที่ช้ำตรม
ให้*ลมหอม*เห่กล่อมให้ฝันดีทุกราตรีใจนะคะ
รักเหลือใจ...
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=837
นานเกินรอ
สวลี ผกาพันธ์ : : Key F
จากกันไปนานหลายปี
ไม่มี ข่าวและวี่แวว
คิดว่า ลืมฉันเสียแล้ว
ยังนึกเสียดายดวงแก้ว
ที่หลุดลอยไป
แต่วันนี้โลกหมุนกลับ
จันทร์ที่ลับ หวนคืนฟ้าใหม่
ไฟรัก จวนเจียนมอดหมดใจ
ก็คุขึ้นมาใหม่
จุดที่ปลาย ใจบางบาง
อยากโผเข้าหาอ้อมกอด
อยากอ้อน ออดถามความเก่า
คิดถึง ฉันบ้างหรือเปล่า
เธอยังเหมือนชายคนเก่า
อยู่หรือเปล่าหนอ
แต่พอนึกขึ้นมาได้
ใจเหี่ยวหาย เหมือนใบไม้ห่อ
สงสาร คนที่บ้านจะรอ
ได้แต่แอบพ้อ
เธอให้รอ นานเกินไป
อยากโผเข้าหาอ้อมกอด
อยากอ้อน ออดถามความเก่า
คิดถึง ฉันบ้างหรือเปล่า
เธอยังเหมือนชายคนเก่า
อยู่หรือเปล่าหนอ
แต่พอนึกขึ้นมาได้
ใจเหี่ยวหาย เหมือนใบไม้ห่อ
สงสาร คนที่บ้านจะรอ
ได้แต่แอบพ้อ
เธอให้รอ นานเกินไป...
31 มกราคม 2547 11:17 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
(ยามรัก)
ร่มไม้ใหญ่ไหวกิ่งฝันวันเคยเศร้า
ลบรานร้าวหนาวใจในวันหมอง
ใต้ร่มไม้ชายคาคอยช่วยกรอง
มลพิษของอากาศปราศลำเอียง...
ได้รื่นรมย์กับลั่นทมเศร้าหลากสี
ไหนจำปีที่เตือนใจริมเฉลียง
หอมพุดซ้อนซ่อนเศร้าในยามเที่ยง
กุหลาบเกี่ยงกันบานหวานจับใจ...
ใต้ชายคาแห่งรักพักใจฉ่ำ
ร่ายลำนำกลอนฝันวันหวามไหว
การะเวกเสกมนต์มาอย่าท้อใจ
ปีบไสวชูช่อรอฝนมา...
กระท่อมต้นไม้สร้างไว้เขียนงานฝัน
เอื้อมมือพลันเด็ดจำปีที่หอมหา
เอนอิงหลังฟังเสียงนกหวานอุรา
วิมานดินตรงหน้าบ้านของเรา ...
***********
วันหยุด
หวังให้ทุกดวงใจหอมงาม
ท่ามกลางร่มไม้รื่นรมย์
รัดร้อยดวงใจให้สดใสงามแสนหวานแสนดีค่ะทุกดวงใจ
สักพักขอลาไปดูหนังโมนาลิซ่า จูเลีย โรเบิร์ตส์
รอบบ่ายก่อนนะคะ
และตั้งใจว่าจะหั่นผมยาวกลางหลังให้สั้นเลยค่ะ
แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังนะคะ
ด้วยรักจังรักจริง..
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=316
ยามรัก
ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ : : Key G
ยาม เช้า พี่ ก็ เฝ้า คิดถึง น้อง
ยาม สาย พี่หมาย จ้อง เที่ยว มอง หา
ยาม บ่าย พี่วุ่นวาย ถึง กาน ดา
ยาม เย็น ไม่เห็น หน้า ผวา ทรวง
ค่ำ นี้ พี่จะมี ใคร เคียง ข้าง
หนาว น้ำค้าง เหน็บ จิต ให้ คิด ห่วง
พี่ก็หนาว น้องก็หนาว นอน ร้าว ทรวง
โอ้ พุ่ม พวง อย่าให้รอ ถึงเช้า เลย
ค่ำ นี้ พี่จะมี ใคร เคียง ข้าง
หนาว น้ำค้าง เหน็บ จิต ให้ คิด ห่วง
พี่ก็หนาว น้องก็หนาว นอน ร้าว ทรวง
โอ้ พุ่ม พวง อย่าให้รอ ถึงเช้า เลย...